ตอนที่แล้วตอนที่ 3-16 ความอำมหิต (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3-18 เดชบีบี (2) 

ตอนที่ 3-17 เดชบีบี (1) 


ลินลี่ย์ยืนอยู่หน้าศพของแม็ทและอดถอนหายใจไม่ได้  ขณะเดียวกันเขาลูบแผลเป็นที่หน้าอกอย่างช่วยไม่ได้

แผลเป็นตรงนี้เป็นแผลที่เกือบคร่าชีวิตลินลี่ย์ได้แล้ว

“เทียบกับนีน่าแล้ว เจ้ายังด้อยกว่ามากนัก” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะถอนหายใจ แม็ทผู้นี้ไม่มีความเป็นมิตรกับเขามากนัก และพวกเขาก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าสหายร่วมทางที่บังเอิญพบกันระหว่างทาง  ไม่มีทางที่ลินลี่ย์จะเชื่อใจเขามากเกินไปได้

ยิ่งกว่านั้น...

หลังจากได้รับประสบการณ์เรื่องนีน่า เป็นไปได้ยังไงที่ลินลี่ย์จะหันหลังให้ผู้อื่นตามปกติ?

“”จี๊ด จี๊ด!“ หนูเงาน้อยบีบีลากกระเป๋าหลังของแม็ทกลับมาด้วย มันกระตือรือร้นบอกลินลี่ย์ผ่านการเชื่อมโยงทางจิต”เจ้านาย!  รีบมาดูกันเถอะมีแก่นเวทอยู่ในนี้มากน้อยแค่ไหน  ในเดือนนี้แก่นเวทของนักฆ่าอื่นๆ ทุกคนรวมกันแล้วยังไม่มากเท่าแก่นเวทที่นักฆ่าคนแรกมีเลย”

เดลิน โคเวิร์ทปรากฏตัวอยู่ข้างๆ ลินลี่ย์เช่นกัน

“ลินลี่ย์,ดูเหมือนหนูเงาน้อยตัวนี้ที่เจ้าชื่นชมจะเพลิดเพลินกับการนับแก่นเวทจริงๆเลยนะ”  เดลิน โคเวิร์ทหัวเราะ

“ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น เรื่องเล็กน้อยน่ะ” ลินลี่ย์รับกระเป๋าสะพายหลังมาและเปิดดูขณะที่หยอกล้อบีบี  “บีบี, คราวนี้เมื่อเจ้าฆ่าแม็ท ข้าเชื่อว่าเจ้าใช้กรงเล็บของเจ้าแทนที่จะเป็นเขี้ยว  ทำไมเจ้าถึงไม่ใช้ฟันที่แหลมคมของเจ้าเล่า?”

บีบีนั่งตัวตรง  และร้องจี๊ดจ๊าดด้วยความลำพองจากนั้นพูดทางจิตว่า “เจ้านาย, ข้า บีบีมีฤทธิ์เดชที่เหลือเชื่อ กรงเล็บที่แหลมคมของข้าไม่ได้แตกต่างจากฟันของข้าเลย  และเจ้าแม็ทผู้นั้นต่ำช้าเกินไป  การกัดเขาจะทำให้ฟันข้าสกปรก”  หลังจากพูดคำนี้แล้ว บีบีจงใจถ่มน้ำลายที่เต็มปากของมันทิ้ง

ภาพของหนูเงาน้อยถ่มน้ำลายเต็มปากนั้นดูเหมือนมนุษย์มากเกินไป  พอเห็นเช่นนี้ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะทันที

“แค่นั้นก็พอแล้ว, โอย..บีบี ดูสิ เจ้าแม็ทนั้นมีแก่นเวทอยู่ในกระเป๋ามากมาย มีราวๆ สามสิบลูก ดูเหมือนเขาไม่ได้เสียเวลาเปล่าในช่วงเดือนนี้นะ แต่แก่นเวทที่ดีที่สุดในสามสิบลูกนี้เป็นแก่นเวทระดับห้า

ลินลี่ย์เริ่มตรวจสอบแก่นเวทอย่างระมัดระวัง

ในช่วงสามสิบวันมานี้ เขาฆ่าอสูรเวทไปเป็นจำนวนหนึ่ง รวมทั้งคนบางคนที่ต้องการฆ่าเขา รวมทั้งหมดเขามีแก่นเวทรวมๆ เกือบสามร้อยลูก  มูลค่าโดยรวมบางทีอาจราวๆสี่หมื่นเหรียญทองก็เป็นได้!

“สี่หมื่นเหรียญทอง  ถ้าท่านพ่อทราบ..อย่างนั้น...”  พอคิดว่าพ่อของเขาจะทำท่ายังไงเมื่อเขาให้เหรียญทองทั้งหมดแก่พ่อ  ลินลี่ย์อดปลาบปลื้มใจไม่ได้

“ก็สมควรแก่เหตุแล้วที่เจ้าได้รับมากมายขนาดนั้น”  เดลิน โคเวิร์ทกล่าว“นอกจากอสูรเวทเหล่านั้นที่เจ้าฆ่า แก่นเวททั้งสามร้อยลูกทั้งหมด ความจริงแล้วมาจากกระเป๋าของคนอื่น”

ลินลี่ย์พยักหน้าเห็นด้วย

นักฆ่าคนแรกสุดที่ตายไปมีแก่นเวทมูลค่า 15,000 เหรียญทองแล้ว  คนอื่นๆ รวมกันทั้งหมดก็แค่มากกว่านักฆ่าคนแรกเล็กน้อย

“เทือกเขาอสูรเวทเป็นที่น่ากลัวมาก ฉะนั้นคนเกือบทุกคนที่นี่จึงเข้าพวกกับคนอื่น  แต่พวกนักฆ่ายากที่จะทำร้ายคนเป็นกลุ่ม  เพราะโดยทั่วไปพวกเขามีความสามารถพิเศษในการฆ่าคนได้ทันที  ซึ่งเป็นเหตุผลให้พวกเขาชอบฆ่าคนทีละคน

ทันใดนั้น เดลิน โคเวิร์ทก็เริ่มหัวเราะ เคราขาวของเขาพลิ้วไสว “ลินลี่ย์ ดูตัวเจ้าสิ  เจ้าอาจจะสูงและแข็งแรง  แต่หน้าของเจ้ายังมีวี่แววว่าเป็นเด็ก และหนวดอ่อนที่อยู่เหนือริมฝีปากเจ้าอีกล่ะ?  ทั้งหมดนั้นพิสูจน์ถึงบางอย่างได้...”

“เจ้าเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง!”

เดลิน  โคเวิร์ทหัวเราะร่วน “ลินลี่ย์!ในเทือกเขากว้างใหญ่แห่งนี้ เมื่อนักฆ่าพวกนั้นพบเด็กคนหนึ่งมาฝึกฝนเป็นครั้งแรกที่นี่  ด้วยใบหน้าอ่อนวัยอย่างนั้น  เป็นไปได้ยังไงที่พวกเขาจะไม่เคลื่อนไหวเพื่อจัดการเจ้า?  นั่นคือเหตุผลในช่วงเดือนแรก  ทำให้เจ้าประสบเจอกับนักฆ่ามากมาย”

“แต่พวกที่เดินทางกันเป็นกลุ่มอาจไม่พบเจอการลอบสังหารแม้แต่ครั้งเดียวในรอบหนึ่งเดือน  คนห้าคนที่เราพบเจอวันแรกถือเป็นกรณียกเว้น  ประการแรก พวกเขาอ่อนแอเกินไป  ประการที่สอง คนที่ฆ่าพวกเขาแข็งแกร่งจริงๆ  แต่ในที่สุดนักฆ่านั้นก็ตายภายใต้กรงเล็บของบีบี”

ลินลี่ย์หัวเราะและพยักหน้าเช่นกัน

ที่สำคัญ ปีนี้เขาอายุเพียงสิบห้าปี แม้ว่าเขาจะสูง 1.8เมตร สำหรับคนที่ตาดีสามารถบอกได้ว่าเขายังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง

“นักเวทระดับห้าและหกเกือบทุกคนคงหารายได้จากแก่นเวทได้มูลค่าไม่กี่พันเหรียญทองในเดือนหนึ่ง  และแก่นเวททั้งหมดเหล่านั้นจะได้รับมาต่อเมื่อผ่านการต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย  ที่สำคัญเทือกเขาอสูรเวทเป็นสถานที่อันตรายเหลือเชื่อ” เดลิน  โคเวิร์ทถอนหายใจอย่างมีอารมณ์

ลินลี่ย์พยักหน้าเห็นด้วย  “มันอันตรายข้าเพียงแต่อยู่พื้นที่ชายขอบในช่วงตลอดเวลานี้ และส่วนใหญ่ข้าได้พบกับอสูรเวทระดับหก แต่ข้าก็ได้รับบาดเจ็บมาหลายครั้ง ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะแหวนมังกรขนดถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าข้าเป็นจอมเวทสองสายธาตุระดับห้าและเป็นนักรบระดับสี่ และถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าข้ามีบีบีอยู่ด้วยบางทีข้าคงสิ้นชีวิตไปแล้ว เพราะเที่ยวไปตามลำพังตนเองอย่างนี้”

เขาหันไปมองหนูเงาน้อยบีบี ที่ตอนนี้กำลังเล่นผนึกเวทลูกหนึ่ง

ลินลี่ย์พอสงบจิตใจได้แล้วจึงเก็บแก่นเวทต่างๆ ไว้แล้วจากนั้นพาบีบีมุ่งหน้าเดินทางต่อไป เขายังคงฝึกอยู่ในเทือกเขาอสูรเวท ที่สำคัญตามแผนเดิมของเขา เขาต้องอยู่ที่นี่ต่ออีกสองเดือน

…..

ในแต่ละวัน ลินลี่ย์จะสู้กับอสูรเวทท้องถิ่น และความสามารถในการรวมทักษะจอมเวทเข้ากับทักษะนักรบก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ลินลี่ย์เริ่มได้รับบาดแผลจากการต่อสู้น้อยลงเรื่อยๆ  จึงเป็นธรรมดานั่นเองที่ลินลี่ย์ค่อยๆเข้าใกล้พื้นที่ใจกลาง อสูรเวทระดับหกเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆและลินลี่ย์ก็เริ่มระมัดระวังตัวด้วยเช่นกัน

วันที่ 46 นับตั้งแต่ลินลี่ย์เข้ามาในเทือกเขาอสูรเวท

“วืดดด!”

ระลอกคลื่นปรากฏอยู่บนพื้นผิวทะเลสาบที่เงียบสงบ  ทันใดนั้นร่างมนุษย์คนหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากในทะเลสาบ  ลินลี่ย์นั่นเอง  ลินลี่ย์ใช้เศษผ้าเช็ดชะล้างทำความสะอาดตนเอง

หนูเงาน้อยบีบียืนอยู่ริมฝั่งมองดูลินลี่ย์อาบน้ำด้วยแววตาอิจฉา  หลังจากส่งเสียงร้องอยู่สองสามครา  มันกระโดดขึ้นลงก่อนจะพุ่งหลาวลงในทะเลสาบ  พอเห็นอย่างนี้ ลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้จากนั้นเขาอาบน้ำต่อไป

“ฮ่าฮ่า, พอแล้ว, บีบี, ฮ่าฮ่า พอแล้ว” จู่ๆ ลินลี่ย์ก็หัวเราะอย่างควบคุมตัวไม่ได้

“โอว, เจ้านาย ท่านกลัวจั๊กจี้เหรอ?” หนูเงาน้อยโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำ นัยน์ตาไม่มีมารยาของมันเปล่งประกายซุกซน

ลินลี่ย์หัวเราะพลางเดินขึ้นริมฝั่งทะเลสาบหยิบชุดสะอาดออกจากกระเป๋าสะพายหลังแล้วสวมชุดใหม่  การเปลี่ยนเสื้อหลังจากการอาบน้ำเสร็จแล้วเป็นเรื่องฟุ่มเฟือยมาก  และจากนั้น ลินลี่ย์เริ่มซักทำความสะอาดชุดที่เพิ่งถอดในทะเลสาบ  จากนั้น แขวนไว้บนกิ่งไม้ตากให้แห้ง  ลินลี่ย์โดดไปที่กิ่งไม้อีกแห่งหนึ่งล้มตัวลงนอนและมองดูบีบีที่วุ่นวายกับการเล่นน้ำในทะเลสาบ

เขามองดูขณะที่บีบีกระโจนเล่นในน้ำอย่างสนุกสนาน  บางครั้งบีบีจะดำลงไปที่ก้นทะเลสาบ  ขณะที่บางครั้งมันจะนอนหงายอยู่บนผิวน้ำทะเลสาบ

“ครืน ครืน ครืน ครืน”

ทันใดนั้นพื้นค่อยๆ เริ่มสั่นสะเทือน จากการสั่นสะเทือนที่เป็นจังหวะนี้เอง ลินลี่ย์คาดว่าคงเป็นบางอย่างกำลังเดิน  ลินลี่ย์อดสะดุ้งไม่ได้และมองไปทางทิศใต้ซึ่งเป็นตำแหน่งที่พื้นสั่นสะเทือน เขามองเห็นเงาร่างขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ทางทิศใต้ด้านข้างทะเลสาบ แต่หลังจากนั้นไม่นานลินลี่ย์ก็สามารถเห็นร่างนั้นได้ชัดเจนขึ้น

มันคือสิ่งมีชีวิตที่สูงอย่างน้อยเท่าอาคารสองชั้นมีเกล็ดใหญ่สีแดงเพลิงปกคลุมไปถึงทั้งแขนขาทั้งสี่เสมือนกับเป็นเกราะหางยาวของมันยาวประมาณครึ่งตัวของมัน สะบัดเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วเหมือนแส้  นัยน์ที่เหมือนพลอยทั้งสองดูดุร้ายขนาดเท่าโคมไฟ  จ้องมองที่ผิวทะเลสาบ  ควันสองสายพ่นออกจากจมูกทั้งสองข้างของมัน

ลินลี่ย์อยู่ในอาการตกตะลึงและร่างของเขาชะงักค้าง ขณะที่หัวใจของเขาเต้นรัว

“มังกรลมกรด,  อสูรเวทระดับเจ็ด –มังกรลมกรด!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด