ตอนที่แล้วตอนที่ 51 เพลิงเตาหลอม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 53 คำเตือนของข่งเซียนเซิง

ตอนที่ 52 การทดสอบที่น่าห่วง


“โอว, ทุกคนมาพร้อมกันแล้ว” เจ้าเมืองพยักหน้า, เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้อาวุโสอู่ทำให้เขาถึงกับสะดุ้งแม้ในเรื่องเล็กน้อยทุกเรื่อง จนกระทั่งคนของสมาพันธ์เกียรติยศชาวยุทธมาถึง  เท่านั้นเองเขาจึงนอนตาหลับได้

เขามีใบหน้ายิ้มแย้ม “ผมได้เชิญข่งเซียนเซิง (ท่านข่ง) มาทำการทดสอบพรสวรรค์ของพวกเขา”

บุรุษวัยกลางคนสวมชุดนักสู้ชุดยาวยิ้มแล้วพยักหน้า  ชุดนักสู้ชุดยาวของเขามีความสวยงามประณีตปักด้ายสีทองเป็นลายดอกไม้ละเอียดอ่อน  เขาสั่งด้วยท่าทีที่สง่างาม “อย่างนั้นเรามาเริ่มกัน”

“ได้เลย”  ผู้อาวุโสคนหนึ่งตอบทันที  เขายืนอยู่ต่อหน้าพวกนักเรียน  ในมือของเปล่งม่านพลังแสงสว่างทันที  ด้วยการสลัดนิ้วของเขารัศมีแสงกระจายออกเป็นหลายรัศมี เหมือนกับรัศมีของเทวดา พุ่งตรงเข้าหานักเรียน

พอเห็นนักเรียนบางคนเตรียมตั้งท่าหลบ ผู้อาวุโสตะโกนด้วยเสียงทุ้ม “อย่าเคลื่อนไหว!”

ระดับเสียงของเขาไม่ดัง แต่เป็นเหมือนฟ้าร้องกรอกหูทุกคน นักเรียนทุกคนจึงไม่กล้าขยับ

รัศมีทั้งหลายลอยขึ้นไปในท้องฟ้า และขยายจนมีขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว  หลังจากนั้นก็ร่วงลงมา  รัศมีทุกลูกที่ร่วงลงมาจะตรึงเท้านักเรียนไว้ภายใน

หลังจากนั้นชั่วครู่ สีของรัศมีก็เริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นสีต่างๆ

ถังเทียนจ้องดูรัศมีที่เท้าของเขาด้วยความสงสัย  รัศมีทรงกลมส่องประกายแป็นแสงสีดำ

พอได้ยินผู้อาวุโสตะโกน “นักสู้ทั้งหมดที่มีรัศมีสีทอง ก้าวออกมาสิบก้าว”

มีเพียงห้าคนคือ ซือหม่าเซียงซาน, เหลียงชิว, หานปิงหนิง, อาโมรี่ขณะที่นักเรียนอีกคนหนึ่งไม่เป็นที่รู้จักและหน้าของเขาดูสับสน  ถ้าโจวเผิงยังมีชีวิตอยู่เขาคงจำคนผู้นี้ได้แน่นอน เนื่องจากเขาเป็นคนที่โจวเผิงชอบรังแกอยู่เสมอกู่เซี่ยวหวี่

เมื่ออาจารย์ใหญ่ของสถาบันแอนดรูว์เห็นกู่เซี่ยวหวี่ได้รับเลือก  หน้าของเขาแสดงออกถึงความปีติยินดี

“รัศมีเงิน ก้าวออกมาเจ็ดก้าว”

ตอนนี้จำนวนนักเรียนที่เดินออกมามีมากกว่า หวังเจิ้นเป็นหนึ่งของกลุ่มนักเรียนที่มีชื่อเสียงจากคนจำนวนมาก  คนที่เหลือมีเพียงเจ็ดคนเท่านั้น

“รัศมีทองแดง  ก้าวออกมาสามก้าว”

นักเรียนหกคนเดินออกมา เหลือเพียงถังเทียนที่ยังอยู่ในตำแหน่งเดิม

ถังเทียนมองไปรอบๆจึงรู้ได้ทันทีว่าดูเหมือนเขาจะเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รัศมีสีดำ

ผู้อาวุโสหันมารายงานบุรุษวัยกลางคนด้วยเสียงเบา “ท่านขอรับ, มีอยู่ห้าคนที่มีคุณสมบัติโดดเด่น  สี่สิบสองคนมีคุณสมบัติดีเยี่ยมและหกคนถือว่าผ่านเกณฑ์  มีตกอยู่คนเดียว”

สีหน้าทุกคนดูแปลกประหลาด คนที่ผู้อาวุโสบอกว่าตกมีแต่เพียงถังเทียน  เพราะถังเทียนยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งคนเดียว

ทุกคนรู้สึกมีความสุขที่มิอาจบรรยายได้ในใจของเขา

พรสวรรค์ของถังเทียนย่ำแย่นักหรือ?

นี่มันเรื่องตลกร้ายหรือเปล่า?  หรือว่าหรือว่า นี่เป็นแค่การล้อเล่น?

ถังเทียนไม่ได้สนใจนัก และยังคงมองดูรอบๆ ด้วยความสงสัย  เจ้ารัศมีนี่น่าเล่นนัก มีสีทุกประเภทเลย  สำหรับสมาพันธ์เกียรติยศชาวยุทธถังเทียนไม่ใส่ใจอยู่แล้ว ถ้าเขาไม่ได้ยินว่าสวรรค์วิถีเป็นที่อันตราย เขาได้วางแผนฝึกวิทยายุทธอื่นของเขาให้สมบูรณ์  ตอนนี้เขาสามารถตามหาเชียนฮุ่ยที่หมู่ดาวเพอร์ซูสได้

อาโมรี่เห็นกับตาตัวเองและตะโกน “นี่ต้องผิดปกติแน่นอน!  ถังพื้นฐานสอบตกได้ยังไง?  เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้!”

หน้าของผู้อาวุโสคล้ำ “ฉันวิเคราะห์คุณสมบัติคนมาเป็นเวลาเกินกว่ายี่สิบปีแล้วและฉันไม่เคยวิเคราะห์ผิด”

เสียงเย็นชาของหานปิงหนิงดังขึ้น  “ท่านผู้อาวุโสทดสอบอีกครั้งได้ไหม?”

อาการบาดเจ็บที่ไหล่ของเหลียงชิวดีขึ้นแล้วเขายิ้มและพูดด้วยเสียงสงบเหมือนไอน้ำลอยเอื่อย “ผู้อาวุโสกำลังใช้สมบัติอยู่ใช่ไหม?สมบัติก็คลาดเคลื่อนได้ง่ายนะ”

ซือหม่าเซียนซานกำลังแย้มยิ้ม แต่เสียงของเขาเหมือนลอยละล่องมาจากที่มืดมน “ถ้าพรสวรรค์ของพ่อหนุ่มถังถูกมองว่าย่ำแย่  อย่างนั้นเราผู้นี้จะทนได้ยังไง”

ผู้อาวุโสมีสีหน้าหวานอมขมกลืน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้  และอยู่ต่อหน้าข่งเซียนเซิงอีกด้วยเขารู้สึกอาย   ถ้าเป็นนักเรียนของเขา  เขาก็คงเสียอารมณ์ แต่คนเหล่านี้พวกเขามีพรสวรรค์กันทุกคน และพวกเขาอาจมีโอกาสเข้าสมาพันธ์เกียรติยศชาวยุทธได้

ถังเทียนได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด เขาจึงเดินออกมา  และแสดงสีหน้าสงสัย “ผู้อาวุโสทำนายไม่ผิดหรอกพรสวรรค์ฉันห่วยจริงๆ”

ถังเทียนรู้ชัดว่าพรสวรรค์ของเขานั้นไม่ดี  เขามีความสมดุลในทุกด้าน และไม่มีด้านใดที่โดดเด่น สำหรับร่างกายของเขา เขาได้รับประโยชน์จากการฝึกฝนวิชาต่อสู้ขั้นพื้นฐานมาห้าปี แต่ถ้าเทียบกับร่างกายที่อดทนของอาโมรี่แล้ว  เขายังเทียบไม่ติด

หลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูด ทุกคนอายหน้าแดงจนแทบกระอักเลือด

ได้โปรด  เราคงปล่อยวางได้ถ้านายทำตัวเหมือนเกกมะเหรกเกเร  แต่ถ้านายต้องการจะหลอกพรสวรรค์ของนายด้วย  นายจะพลอยทำให้พวกเรากลายเป็นไอ้งั่งไปด้วย..รู้ไหม?

อาโมรี่ถลึงตามอง “ถังพื้นฐาน, นายคือหนุ่มน้อยชาวฟ้า  พรสวรรค์ของนายจะกระจอกได้ยังไง?”

“พรสวรรค์มันเกี่ยวอะไรด้วยกับการเป็นหนุ่มน้อยชาวฟ้า?”  ถังเทียนไม่เห็นด้วย

ทุกคนสับสนเอียงศีรษะมองต่อกันไปเป็นทอดๆ พวกเขาไม่กล้ามองตรงๆ นี่นี่นี่เป็นเรื่องท้าทายสติปัญญาของทุกคนอย่างเปิดเผย

นายคิดว่าเราจะเชื่อเรื่องอย่างนั้นหรือ ถ้าเราเชื่อเรื่องอย่างนั้นเราก็เป็นไอ้งั่งน่ะสิ

ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นพูดอย่างนั้น ทุกคนคงวิ่งไปกระทืบเขาจนตายแน่ แต่ว่านี่คือถังเทียน  คนที่เพิ่งมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นคนพูด  คนอื่นๆ ก็แค่พอทนได้  แต่ความรู้สึกนี้ ไม่น่าพอใจเสียเลย

ผู้อาวุโสมองดูปฏิกิริยาพวกเขาและดูเหมือนจะลังเลเล็กน้อย  อาจเป็นไปได้ว่าคงมีปัญหาสักอย่างกระมัง?

เขาไม่พูดสักคำ และกระดิกนิ้วของเขา  รัศมีพร่างพรายก็โผล่ออกมาและห้อมล้อมถังเทียนไว้

สายตาทุกคู่จับจ้องดูรัศมีนั้น

มันฉายแสงสีดำ

และดำยิ่งกว่าครั้งก่อน

ผู้อาวุโสมั่นใจ เขากล้ารับรองได้ว่าคราวนี้ไม่มีปัญหาแน่ รัศมีดำอย่างนั้น  เขาเพิ่งเห็นเป็นครั้งแรก นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่าเด็กหนุ่มผู้ยืนอยู่ต่อหน้าเขานี้ พรสวรค์ของเขานั้นไม่ใช่แค่ห่วยธรรมดา ต้องบอกว่าโคตรห่วยถึงจะถูก

ใบหน้าของทุกคนมีสีหน้าแปลกประหลาด พวกเขามองดูผู้อาวุโสด้วยความสงสัย

ในทางตรงกันข้าม ถังเทียนพูดด้วยความเย่อหยิ่งว่า “ก็ฉันบอกไปก่อนแล้วว่าพรสวรรค์ของฉันแย่มาก”

สีหน้าแปลกประหลาดของทุกคน ชะงักค้างอยู่บนใบหน้า

เจ้าเด็กอันธพาลนี่ จริงๆ เลย ยังมัวภูมิใจกับเรื่องนั้นอยู่อีก

เขาต้องเล่นตลกกับผู้คนเป็นแน่

ช่างเป็นอันธพาลที่น่ากลัวจริง  เขาคงหยอกล้อผู้คนเล่นแน่  นิสัยของเขาน่ากลัวมาก  ดังนั้น ถ้าความสามารถของเขาดีจริง  ก็คงไม่เป็นไรที่เขาหยอกล้อผู้คนเพราะเขามีความสามารถที่ดีจริงๆ...

หัวใจของทุกคนแทบฉีกขาด พวกเขามั่นใจเต็มร้อยว่าถังเทียนทำเช่นนี้เพราะมีวัตถุประสงค์

ต้องมีวัตถุประสงค์อย่างแน่นอน

แน่นอนพวกเขาลืมอัจฉริยะรายอื่น อาโมรี่ตกตะลึงมองดูแล้วตะโกน “ถังพื้นฐาน,นายสมควรถูกเรียกว่าหนุ่มชาวฟ้าแน่นอน!  ด้วยพรสวรรค์น่ากลัวอย่างนั้นนายยังสามารถฝึกฝนจนยิ่งใหญ่ขนาดนั้นได้  นั่นเป็นแรงบันดาลใจอย่างมาก”

เผียะ

อาโมรี่ถูกตบจากด้านหลัง เขาทำตาโตแล้วหันไปถลึงตามองเหลียวชิว ความโกรธเขาลดลง และมีสีหน้าสับสน “พี่เหลียงชิวตีฉันทำไม?”

เหลียงชิวตอบอย่างสงบเสงี่ยม “โอ้ว... มือมันลื่น”

หานปิงหนิงขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ถังเทียน เลิกเล่นได้แล้ว”

“อ้า..คุณหนูนั่นเอง”  ถังเทียนมึนงง “เล่นอะไรกัน?”

ทุกคนยังคงคงเงียบต่อไป ถ้าหานปิงหนิงไม่สามารถโน้มน้าวถังเทียนได้  อย่างนั้นพวกเขาคงมิกล้าเสนอหน้าแต่อย่างใด

ทุกอย่างที่ถังเทียนพูดมักถูกกันท่าเป็นส่วนใหญ่  พวกเขาทุกคนรู้สึกว่า  พวกเขาทุกคนรู้สึกว่าเขากวนโมโหเขาต้องการถ่วงสติปัญญาของพวกเขาให้ไปอยู่ในระดับเดียวกับตนเอง แล้วจากนั้นก็ใช้ประสบการณ์มากมายของเขาเอาชนะพวกเขาทุกคน  ใช่แล้ว ต้องเป็นแบบนั้นแน่นอน

อย่างนั้น สมาพันธ์เกียรติยศชาวยุทธจะแข็งแกร่งเหมือนดังตำนานเล่าขานจริงๆ หรือ?  แม้ว่าที่นี่จะมีผู้มีพรสวรรค์แย่ อย่างนั้นศักยภาพในอนาคตของผู้คนช่างน่าเป็นห่วงนัก

ถังเทียนเป็นคนที่แปลกเกินไปจริงๆ ถึงขนาดที่ว่าแม้แต่ผู้อาวุโสยังหวั่นไหวและคิดว่าถังเทียนใช้สมบัติดวงดาวบางอย่างปกปิดสร้างความสับสนให้กับสมบัติของเขาหรือเปล่า?  เขาควรจะลองดูอีกครั้งหรือไม่?

ผู้อาวุโสชักจะไม่แน่ใจ

นัยน์ตาของข่งเซียนเซิงทอประกายเล็กน้อย เขายิ้มให้เจ้าเมือง “ผมเคยไปเมืองมาหลายเมืองคล้ายๆ เมืองซิงฟงนี่แหละ แต่การได้พบเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์และโดดเด่นขนาดนี้  นับเป็นครั้งของผมจริงๆ  คุณได้พูดไว้ก่อนนี้แล้วว่าท่านเจ้าเมืองเอาใจใส่ในการสอนและแนะนำดีมาก  พอเห็นวันนี้แล้ว น่าชื่นชมจริงๆ”

เจ้าเมืองมีความสุข  “ข่งเซียนเซิงชมเกินไปแล้ว  ผมไม่แน่ใจว่าในจำนวนนักเรียนทั้งหมดเหล่านี้  คุณให้ความสนใจกี่คน?”

“ห้าคนเหล่านี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดเลย พรสวรรค์ทั้งหมดของพวกเขาไม่แย่เกินไป และพวกเขายังอายุเยาว์ พวกเขามีอนาคตที่สดใส” ข่งเซียนเซิงยังคงมองถังเทียน “สหายน้อยผู้นี้ดึงดูดความสนใจผมได้มากทีเดียว เพียงแต่เขาอายุมากไปหน่อย ก็คงสามารถเข้าร่วมกองทหารรอบนอกของผมได้”

“เจ้าเมืองพลอยมีความสุขไปด้วย ที่มีหกคนได้รับเลือกในช่วงเวลาสั้นๆสำหรับเมืองซิงฟงนับเป็นผลลัพธ์ที่ดีมาก  เมื่อก่อนวันนี้เมืองซิงฟงปรารถนาจะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่มีพลังแท้จริงอย่างสมาพันธ์เกียรติยศชาวยุทธ  และได้รับการคุ้มครองจากพวกเขา

“ฉันต้องการไปหมู่ดาวเพอร์ซูส” ถังเทียนยกมือ  เขาตัดสินใจแล้วว่าถ้าเขาไม่มีโอกาสได้ไปหมู่ดาวเพอร์ซูส อย่างนั้นเขาจะไม่ร่วมสมาพันธ์เกียรติยศชาวยุทธ

“หมู่ดาวเพอร์ซูส?” ข่งเซียนเซิงยิ้มกว้าง  “นั่นสบายมาก  เรามีสาขาใหญ่อยู่ในหมู่ดาวเพอร์ซูส  เธอจะไปอยู่ที่ค่ายนั่น”

“เยี่ยมเลย”  ถังเทียนกระโดดดีใจและชูมือกล่าวอย่างร่าเริง “อย่างนั้นฉันก็ประหยัดในการเดินทางแล้ว”

อีกด้านหนึ่งซือหม่าเซียงซานและคนอื่นพากันเหลือกตา ได้โปรดเถอะนายก็เป็นยอดฝีมือเหมือนกัน วางมาดสงบๆ เท่ห์ๆ หน่อยได้ไหม..

“ฉันกำลังจะไปหมู่ดาวเพอร์ซูสแล้ว! ว้าว! ฉันจะได้เห็นคุณเชียนฮุ่ยด้วย”อาโมรี่ร่าเริงพร้อมกับชูมือสูงด้วยเช่นกัน

คุณเชียนฮุ่ย!

หานปิงหนิงพูดอย่างไม่ลังเลใจเช่นกัน  “ฉันก็ต้องการไปหมู่ดาวเพอร์ซูสด้วย”  เธอคือแฟนคลับตัวยงของเชียนฮุ่ย  ถ้าเธอสามารถพบเชียนฮุ่ยด้วยตัวเองไม่ว่าไกลแค่ไหนเธอก็จะไปแน่นอน

ซือหม่าเซียงซานหน้าเคร่งและขบฟัน “เชียนฮุ่ย... ดีแล้ว.. หมู่ดาวเพอร์ซูส!  ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะมีโอกาสได้แก้แค้นสำหรับความคับข้องใจครั้งก่อน”

“ความคับข้องใจครั้งก่อนหรือ?”  ถังเทียนถลึงตามอง “อ่าฮะ,นายหมายถึงความคับข้องใจเก่าหลายๆ ครั้งน่ะเหรอ?”

ซือหม่าเซียนซานรู้สึกเหมือนโดนธนูพันดอกยิงใส่หัวใจ  ในที่สุดเขาก็รู้สาเหตุที่เชียนฮุ่ยหลงรักถังเทียน

เพราะถังเทียนมันแสบสันต์มากกว่าเธอนั่นเอง

“ใช่แล้ว! ความคับข้องใจเก่าก่อนตั้งหลายครั้ง” นัยน์ตาของซือหม่าเซียงซานลุกโพลงไปด้วยรังสีฆ่าฟันและเสียงของเขาเยียบเย็น

เหลียงชิวพูดเบาๆ  “น่าเสียดาย ถ้าฉันได้ประลองฝีมือกับเชียนฮุ่ยสักครั้งในชีวิตก็คงจะดี”

กู่เซี่ยวหวี่พูดอย่างขลาดๆ “ฉัน..ฉันขอตามทุกคนก็แล้วกัน”

ผู้อาวุโสถึงกับตกใจ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่สมาพันธ์เกียรติยศชาวยุทธยอมให้ผู้คนตั้งกลุ่มกันเอง?

ข่งเซียนเซิงประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขายิ้มแล้วกล่าวว่า “พวกเธอเหล่าผู้เยาว์ทุกคนช่างผูกพันกันดี  น่าอิจฉาเหลือเกิน กลุ่มที่จะเดินทางไปที่หมู่ดาวเพอร์ซูสต้องแข็งแกร่ง  ยังไม่ต้องพูดถึงความแข็งแกร่งของพวกเธอ  เนื่องจากพวกเธอทุกคนต้องการความก้าวหน้า จะต้องไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน”

ผู้อาวุโสตะลึง พวกเขามาด้วยภารกิจในใจอย่างหนึ่ง ถ้าพวกเขาไม่นำคนๆ หนึ่งกลับไป...

เขาเตรียมจะทักท้วง แต่เขาก็คิดได้ทันทีว่าผู้ที่รับผิดชอบที่สาขาดาวเพอร์ซูสก็คือน้องสาวของข่งเซียนเซิง  ผู้อาวุโสนั้นจึงต้องหุบปาก

สตรีคนนั้น...น่ากลัว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด