ตอนที่แล้วตอนที่ 42 ข้ายอมแพ้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 44 ต้องรอด

ตอนที่ 43 หอทงเทียนจ๋า, ข้ามาแล้ว


วงแหวนเทเลพอร์ตเพื่อเข้าหอทงเทียนจะไม่เหมือนกับที่อื่น

โดยทั่วไป วงแหวนเทเลพอร์ตขนาดเล็กในที่ทำการของเมืองต่างๆ จะดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ทางการของอาณาจักรใช้พลังงานของแก้วผลึกเพื่อเปิดประตูลัดไปถึงปลายทางที่ระบุไว้ภายใน 30 วินาที

อย่างไรก็ตาม ค่ายช่างอู่แตกต่างออกไป ที่นี่ข้อมูลหอทงเทียนจำเป็นต่อการเข้าถึงประตูลัด นักรบที่ได้รับอนุมัติบัตรผ่านและวางบัตรตรงช่องที่มีแสงกระพริบบนเสาแก้วผลึกเพื่อให้ประตูลัดทำงาน ทันทีที่นักรบเข้าไปในประตูลัดที่ทำงานแล้ว พวกเขาจะถูกเทเลพอร์ตสุ่มส่งไปยังพื้นที่ต่างๆ เมื่อยืนอยู่หน้าเสาแก้วผลึก บุรุษอ้วนชักชวนเย่ว์หยางให้ไป “โลกใต้บาดาล” เพื่อไปพบเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า คนอ้วนทุบหน้าอกตัวเองด้วยความภูมิใจ บอกว่าบิดาของเขาเป็นผู้จัดการของหอการค้าโลกใต้บาดาล และว่าเขาเป็นนักสู้ระดับสูงในหอทงเทียนอีกด้วย

“พี่ชาย, อย่าห่วง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น มาหาข้าได้ คนยิ่งใหญ่อย่างข้านี่แหละจะปกป้องเจ้าได้แน่นอน” คนอ้วนที่ยังไม่แสดงพลังอะไร จู่ๆ ก็ปล่อยรังสีอำมหิต

“…” เย่ว์หยางยินดีที่จุดหมายของเทเลพอร์ตของพวกเขามีตำแหน่งต่างกัน มิฉะนั้นเขาคงทรมานหูอีกต่อไป

พอได้กำหนดเวลาเทเลพอร์ต เขาวางบัตรแก้วที่แม่นางทรงโตให้เขาที่ช่องเรืองแสงของเสาแก้วผลึก

มีแสงพุ่งกระจายตรงเข้ามาหาเย่ว์หยางราวกะว่ามันมีชีวิต

ทันใดนั้น มันก็จางหายไปจนมองไม่เห็น เมื่อเย่ว์หยางสงบใจตนเองมองดู ภาพตัวของเขาเองเริ่มโผล่มาบนบัตรแก้วที่ว่างเปล่า ช่างน่าประหลาด หน้าของเย่ว์หยางปรากฏบนนั้นไม่ค่อยชัด มันเป็นเงาตะคุ่มเห็นได้ไม่ชัด นอกจากคู่นัยตาที่เรืองแสงเหมือนหมาป่า ทุกอย่างถูกปกคลุมอยู่ในความมืด

พร้อมกับการออกแบบนี้ ตัวอักษรต่างๆ ที่แสดงคุณสมบัติของเขาก็ยังถูกจัดไว้ในบัตร บนสุดเป็นชื่อ “ไตตัน” ตามมาด้วยเผ่าพันธุ์ “มนุษย์” เพศ “ชาย” และทักษะความสามารถ “ไม่รู้”

ไม่มีการประเมินผลความแข็งแกร่งของเขา

ที่ด้านหลังบัตร นอกจากจะมีอักษรโบราณที่สวยงามและลึกลับ ยังมีหมายเลขแถวที่ทำความชอบให้ประเทศ บันทึกผลชนะ-พ่ายแพ้ คะแนนภารกิจและอื่นๆ อีก

ทันใดนั้น เสาแก้วผลึกเทเลพอร์ตทุกต้นสว่างจ้าอาบทุกคนจนตกอยู่ในทะเลแสง

ไม่กี่วินาทีต่อมา แสงก็แตกกระจายจากแก้วผลึกพุ่งตรงขึ้นไปในท้องฟ้า

เมื่อแสงหายไป นักรบทุกคนที่ติดต่อกับเสาแก้วผลึกจะถูกเทเลพอร์หายไปไม่เหลือร่องรอย เย่ว์หยางรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยระหว่างเทเลพอร์ต ในที่สุดเมื่อเขารู้สึกตัว ก็พบว่าตนเองอยู่ในห้องโถงธรรมดา มีนักรบไม่กี่คนนั่งอยู่ข้างใน เดิมทีพวกเขาเหลือบมองเย่ว์หยางที่แต่งตัวเหมือนโจรน้อยด้วยความรังเกียจ แต่เมื่อพวกเขาเห็นฮุยไท่หลางที่กระดิกหางอยู่แทบเท้าของเขา พวกเขาจึงเปลี่ยนจากอาการเยาะเย้ยเป็นยับยั้งมากยิ่งขึ้น หมาป่าปีศาจหลังเหล็กชั้นทองแดงไม่ใช่อะไรที่พวกเขาเคยเห็นมาก่อน แต่เพราะเจ้าโจรน้อยสามารถพาสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งตระเวณไปมาได้ ก็หมายความว่า เขามีความแข็งแกร่งเป็นอย่างดี

“โอ้โฮ, เบ้อเริ่มเลย!” เย่ว์หยางอุทานขณะที่เดินตรงไปยังลานของนักรบนอกห้องโถง

แม้ว่าเย่ว์ปิงได้บอกเขาว่าหอทงเทียนเป็นที่เฉพาะตั้งอยู่กลางทะเล และทะเลก็มีเกาะอื่นล้อมรอบ เขาก็ยังคงนึกภาพไม่ออก

ด้านนอกออกไป เป็นมหาสมุทรกว้างใหญ่ไม่มีที่สุด

มีคำกล่าวกันว่าที่นี่มีทะเลพายุที่สร้างพายุเฮอริเคนได้อย่างไม่มีเหตุผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเดินเรือผ่านมันไป ด้วยความแม่นยำเกือบเหมือนนาฬิกา ทันทีที่เรือออกจากท่า เฮอริเคนก็จะเริ่มก่อตัว พายุทอร์นาโดจะทิ้งตัวลงมาจากเมฆ ดูดน้ำทะเลขึ้นมาทำลายเรือ เป็นพันๆ ปีมาแล้ว ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่สามารถแล่นเรือตรงไปที่ทะเลเปิดของหอทงเทียนได้อย่างปลอดภัยเลย นักสำรวจที่พยายามออกจากเรืองจะตกเป็นอาหารของราชาสัตว์อสูรชั้นทองประเภทปลา

ถ้ามีผู้ปรารถนาเข้าไปหรือออกมาจากหอทงทียน พวกเขาต้องใช้วงแหวนเทเลพอร์ทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่มีทางเลือกอื่น

ทะเลภายในซึ่งถูกเกาะล้อมรอบเรียกว่าทะเลต้องห้าม

ทะเลที่นี่ถูกควบคุมโดยกฎโบราณที่ไม่ให้สัตว์อสูรประเภทนกบินผ่านมันได้

แม้แต่ขนนกที่เบาพอวางอยู่บนผิวทะเลฟ้าต้องห้าม จะจมลงทันที

ถ้ามีคนต้องการไปถึงหอทงเทียนบนเกาะน้อย พวกเขาจะต้องผ่านสะพานแขวนชีวิต ที่กล่าวกันว่าถูกสร้างโดยเทพโบราณเพื่อไปให้ถึงฐานหอคอยโดยปลอดภัย

“แน่นอน หอทงเทียนคือสถานที่ดีแน่นอน” มีข่าวลือว่าหอทงเทียนมีหลายชั้นไล่ๆ กันไป มีศัตรูผู้แข็งแกร่งที่จะต้องเผชิญหน้า อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางไม่ได้ใส่ใจกับจำนวนชั้นที่หอทงเทียนมี สำหรับเขา ชอบสนุกมากกว่า จะได้พัฒนาได้อย่างไม่มีขีดจำกัด ไม่มีผู้แข็งแกร่งที่สุด มีแต่แข็งแกร่งกว่า ถ้าเขาสามารถฝึกฝนที่หอทงเทียนอย่างต่อเนื่อง ตัวเขาจะมีฝีมือก้าวหน้าอย่างคงเส้นคงวา นั่นคือความพอใจในชีวิตสำหรับเขาแล้ว

สำหรับสัตว์เวทใต้สมุทรและเทวทูตสวรรค์ ไม่มีความแตกต่างระหว่างพวกเขาจนเย่ว์หยางต้องกังวล ตราบใดที่ไม่มีใครขัดใจกันและกันและอยู่อย่างสงบ ก็ไม่จำเป็นต้องรบกวนกัน ถ้าใครหาเรื่องเขา เขาจะฆ่ามันเสียต่อให้มาจากสวรรค์ก็ตาม

เกาะโซ่ที่เย่ว์หยางอยู่ แบ่งแยกพื้นที่ใหญ่ 4 ส่วนออกจากกัน คือ เหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก

พื้นที่ตะวันออกเป็นพื้นที่ๆ เขาอยู่อาศัยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรต้าเซี่ย

เย่ว์หยางประเมินดูว่า แค่พื้นที่ตะวันออกก็ขนาด 10 เท่าของเมืองไป๋ฉือ อาคารทั้งหลายที่นี่ดูสง่างาม ถนนกว้างขวางและมีศาลาอยู่ในทุกที่ ทุกๆ สถานที่ฟ้องให้รู้ว่าเป็นฝีมือของเจ้าแผ่นดินที่แข็งแกร่ง แม้แต่แปลงที่ดินว่างเปล่าก็ถูกตกแต่งอย่างมีรสนิยม ด้วยศาลาเล็ก, งานศิลป์, สนามหญ้า, หินดำ, ป่าไผ่ สะพานข้ามลำธารและทะเลบัวงดงามเหมือนทัศนียภาพจากบทกวี ถ้าเอาเมืองไป๋ฉือกับที่นี่มาเปรียบเทียบกันแล้ว ก็คงเป็นได้แค่หมู่บ้านคนยากจนซอมซ่อในชนบทเท่านั้น

“เกาะที่เป็นจุดแบ่งล้อมรอบด้วยทะเลภายในที่นี้ ใหญ่พอๆ กับฮ่องกง” เย่ว์หยางเดินไปเป็นเวลาชั่วโมงครึ่งก็มาถึง “สะพานแขวนชีวีต” ที่หน้าหอทงเทียน

พอมองดูใกล้ๆ ก็เห็นสีที่ขาวบริสุทธิ์และอักษรโบราณของหอทงเทียนระยิบระยับยังคงความงดงามไม่มีร่องรอยของการสึกกร่อนไปตามอายุ จนทำให้ดูสง่างามยิ่งขึ้น

พอแหงนหน้ามอง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมองเห็นยอดของหอนี้

จากที่เขาสามารถเห็นได้ เย่ว์หยางประมาณเส้นผ่าศูนย์กลางของมันน่าจะเกินกว่า 3 กิโลเมตร แค่เพียงตัดสินจากส่วนที่ไม่ถูกเมฆบัง หอนี้อย่างน้อยน่าจะสูง 2-3 พันเมตร พระเจ้าคงทรงทราบว่าพลังชนิดไหนถึงสร้างหอสูงนี้ได้ แต่เป็นไปไม่ได้แน่นอนสำหรับมนุษย์ธรรมดา ที่จะสร้างสิ่งก่อสร้างใดๆ ที่ตกแต่งภายในได้ใหญ่พอๆ กับหอทงเทียน เป็นเรื่องราวที่ทุกคนอธิบายไม่ได้จนทุกวันนี้ มันลึกลับเหนือธรรมชาติ นักสู้ผู้มีระดับผู้ใดผู้หนึ่งที่มีคุณสมบัติขึ้นไปชั้นสองหรือชั้นสามก็เดินต่อเข้าไปข้างในได้เลย ผู้มาใหม่อย่างเย่ว์หยางเข้ามาในหอครั้งแรก ไม่จำเป็นต้องเข้าไปไกลเกิน เขาสามารถเข้าไปที่ชั้นที่มีประตูลัดตรงทางเข้าออกได้เลย

“บัตรแก้วหรือ? ผู้ใดแนะนำเจ้ามาที่นี่?” ที่หน้าทางผ่านเข้าประตูลัด นักรบวัยกลางคนตรงเข้ามารับหน้าเด็กใหม่พอเห็นบัตรแก้วก็แปลกใจเล็กน้อย

“เป็นสตรีที่รับหน้าที่ลงทะเบียนในค่ายช่างอู่” เย่ว์หยางรูว่าบัตรแก้วนี้ ใช่ว่าจะได้รับกันง่ายๆ แต่เขาก็พอใจจะแกล้งโง่ต่อไป อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครปฏิเสธของดีๆ แน่

“อะไรนะ? ค่ายช่างอู่ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่สตรีทำหน้าที่ลงทะเบียนแม้แต่คนเดียว คนที่ทำหน้าที่ลงทะเบียนคือผู้เฒ่าลู่ไม่ใช่หรือ? คนที่เจ้าเห็นไม่ใช่ชายชราผมขาว แต่เป็นสตรีงั้นหรือ? แล้วนางดูเหมือนอะไร?” นักรบวัยกลางคนแม้จะสับสนมากหลังจากเย่ว์หยางพูดและรู้สึกเป็นปริศนานิดหน่อย แต่ก็ยังถามเขาต่อ

“นางอวบอั๋น…” เย่ว์หยางอธิบายลักษณะสาวทรงโตให้ดูเล็กน้อย

ใจของเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้ เขาไม่สามารถบอกหน่วยวัดความงามที่ประหลาดของแม่นางทรงโตได้ นางเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งแน่นอน แต่ว่านางเป็นใครกันแน่?

นางไม่ใช่คนธรรมดาที่รับหน้าที่ลงเบียนให้นักรบหรือ?

เป็นไปได้ว่านางคือหลานสาวของผู้เฒ่าลู่คนนั้นหรือเปล่า?

หลังจากได้ยินคำอธิบายของเย่ว์หยาง ใบหน้าของนักรบวัยกลางคนเปลี่ยนเป็นซีดเผือด เขารีบโบกมือแล้วพูดว่า “โปรดอย่าถือสาคำพูดล่วงเกินของข้าเลย ถือเสียว่าข้าไม่เคยถาม เชิญรีบเข้าไปเถิด”

พอเห็นเขากลัวจนลนลาน ตอนนี้เย่ว์หยางยิ่งสับสนกว่าเดิม หรือว่าแม่นางทรงโตจะเป็นแม่เสือกินคน? ต้องกลัวกันขนาดนั้นด้วยหรือ? ด้วยความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น ภาพของหญิงงามอกโตหุ่นยั่วยวนก็ปรากฏเข้ามาในใจเขา สตรีงามทรงโตหุ่นยั่วยวนคงทำให้คนอยากจะเอาชนะใจนางก็ได้ ถ้าหากเขารุกเร้านางได้และได้ยินนางครางด้วยเสียงกระเส่าของนาง คงจะน่าชอบใจมากๆ

ขณะคิดแต่เรื่องลามกอยู่เต็มหัว เย่ว์หยางก็ก้าวเข้าประตูลัดของหอทงเทียนแล้ว

วินาทีต่อมา เขาพบว่าตนเองอยู่ในโลกใหม่ทั้งหมด

“ฮ่าฮ่า หอทงเทียนจ๋า, ข้ามาแล้ว!” เย่ว์หยางตื่นเต้น นี่คือสถานที่ๆ เขาจะได้ใช้พลังอำนาจในอนาคต

ก่อนที่เขาจะปรากฏตัวออกไป เขาได้ยินเสียงเจ็บปวดดังมาจากใต้เท้าเขาว่า “พี่ชาย เจ้าเอาเท้าออกไปจากตัวข้าก่อนได้ไหม?”

******************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด