ตอนที่แล้วตอนที่ 2-9 การทดสอบความถนัดทางเวท (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2-11 คัมภีร์ลับเลือดมังกร (2)

ตอนที่ 2-10 คัมภีร์ลับเลือดมังกร (1)


เมืองอู่ซัน คฤหาสน์ตระกูลบาลุค

ฮ็อกเพิ่งทานอาหารเช้าเสร็จได้ไม่นานนัก และกำลังนั่งพักผ่อนอยู่บนโซฟาอ่านหนังสืออย่างสบายใจ

จู่ๆ ปรากฏเงาเลือนลางเข้ามาในคฤหาสน์ เป็นลินลี่ย์กับฮิลแมนนั่นเอง  ทั้งสองคนรีบรุดเร่งตลอดทางกลับมาจากเมืองเฟนไล ในขณะนั้นทั้งสองคนมีใบหน้าตื่นเต้นจนไม่อาจควบคุมได้ลินลี่ย์เริ่มตะโกนมาแต่ไกล  “ท่านพ่อ!ข้ากลับมาแล้ว”

“ท่านลอร์ดฮ็อก” ฮิลแมนก็ตื่นเต้นเช่นกัน

ฮ็อกเงยหน้าขึ้น พอเห็นสีหน้าที่ตื่นเต้นของลินลี่ย์และฮิลแมน  เขามีลางสังหรณ์ดีๆ  เขาลุกขึ้นยืนทันทีจ้องดูลินลี่ย์และฮิลแมนและเสียงสั่นขณะพูด “การสอบคัดจอมเวทเป็นยังไงบ้าง?”

ตระกูลบาลุคล้มลุกคลุกคลานมานานมาก ตระกูลเก่าแก่นี้ต้องการคนที่ยิ่งใหญ่กลับมาฟื้นฟูให้รุ่งเรืองเหมือนในอดีต

“ท่านลอร์ดฮ็อก สถาบันเอินส์! เป็นสถาบันเอินส์!  ลินลี่ย์ได้รับการยอมรับจากสถาบันเอินส์!” ฮิลแมนพูดอย่างตื่นเต้น

ดูเหมือนฮ็อกแทบกลายเป็นรูปปั้นไปแล้ว ชั่วขณะนั้น ฮ็อกรู้สึกเหมือนว่าสมองของเขาขาดอ็อกซิเจนกะทันหัน  เหมือนกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างโล่งว่างไปชั่วขณะ

“เอินส์ขอรับ..ท่านลอร์ด? ท่านลอร์ด?” ฮิลแมนต้องเรียกถึงสองครั้ง

ฮ็อกค่อยๆ รู้สึกตัว ทันใดนันเขารีบเดินตรงไปหาลินลี่ย์และฮิลแมน  พูดด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกเหลือเชื่อว่า“เอินส์, เจ้าเพิ่งบอกว่า สถาบันเอินส์ใช่ไหม?” ตอนนี้นัยน์ตาฮ็อกเบิกกว้าง

“ท่านพ่อ, นี่ไง จดหมายยอมรับตัวจากสถาบันเอินส์” ลินลี่ย์ยื่นจดหมายรับตัวให้บิดาของเขาตรงๆ  ฮ็อกตะลึงไปชั่วขณะจากนั้นรับจดหมายสีแดงและแกะจดหมายข้างใน เขาอ่านจดหมายอย่างระมัดระวัง

ชื่อหลายคำสีแดงสดปรากฏเด่นชัด “สถาบันเอินส์ ลินลี่ย์”

“ฮ่าฮ่า  ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!บรรพบุรุษของตระกูลบาลุค พวกเรามีความหวังอีกครั้งแล้ว” ทันใดนั้นฮ็อกเงยหน้ามองฟ้าและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง  หัวเราะมากจนเขาสั่นไปทั้งตัว จนกระทั่งน้ำตาเริ่มไหล“ตระกูลบาลุคของเรามีความหวังขึ้นมาอีกครั้งแล้ว”

การหัวเราะอย่างบ้าคลั่งจนน้ำตาไหลทำให้ลินลี่ย์ตกตะลึงไปหมด

“ท่านพ่อ...” ลินลี่ย์พูดเสียงอ่อย เกรงว่าจะเป็นการรบกวนบิดาเขา

ลินลี่ย์ไม่เคยเห็นบิดาของเขาแสดงอาการอย่างนั้นมาก่อน และน้ำตาของบิดาที่หลั่งไหลทำให้หัวใจของลินลี่ย์สั่นเช่นกัน

พ่อบ้านแอชลี่ย์ออกมาดูเช่นกัน เขาเองก็ตะลึงกับกิริยาของฮ็อก แอชลี่ย์ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ฮ็อกสูดหายใจลึก  จากนั้นมองดูลินลี่ย์ตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้นไม่อาจประมาณได้ “ดี, ทำได้ดี”

“ฮิลแมน, ลุงแอชลี่ย์!”ฮ็อกมองพวกเขาทั้งสอง  “คืนนี้ข้าจะเป็นเจ้าภาพจัดงานฉลอง  เร็วเข้า เตรียมงานเลี้ยงในคืนนี้,  ข้ามีความสุขมาก สุขมากจริงๆ  มีบุตรอย่างนี้ ต่อให้ข้าต้องตายไปข้าก็สามารถสู้หน้าบรรพบุรุษตระกูลบาลุคด้วยความภูมิใจได้”

“ขอรับ, ท่านลอร์ดฮ็อก”  ฮิลแมนและแอชลี่ย์รับคำ

“จี๊ดดด จี๊ดดด!”  ทันใดนั้นหนูเงาน้อยบีบีพุ่งออกมาจากในเสื้อลินลี่ย์  มันกระโดดขึ้นไปบนไหล่ของลินลี่ย์จ้องมองฮ็อก  ดวงตาน้อยๆ ของมันเต็มไปด้วยความโกรธ

ด้วยการรับรู้อารมณ์ของหนูเงาน้อยผ่านจิตใจ ทำให้ลินลี่ย์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้

กลับกลายเป็นว่าหนูเงาน้อยหลับอยู่อ้อมอกลินลี่ย์ แต่เสียงหัวเราะลั่นของฮ็อกทำให้มันสะดุ้งตื่น  ลูกหนูเงาจะใช้เวลาส่วนใหญ่งีบหลับ  ตอนนี้จึงโกรธมากเป็นธรรมดา

“หนูเงา อสูรเวท, หนูเงาใช่ไหม?” พอเห็นหนูเงาน้อยกับลินลี่ย์ สีหน้าของฮ็อกเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

“ท่านพ่อ” ลินลี่ย์กลัวว่าบิดาของเขาจะตีมัน ดังนั้นเขารีบพูด “หนูเงาน้อยและข้ามีสัญญาผูกวิญญาณกันแล้ว”

ดูเหมือนฮ็อกสะดุ้งเหมือนถูกฟ้าผ่า เขาเจ้องดูตะลึงอยู่นาน  “เจ้าเจ้ากำราบ ฝึกหนูเงา อสูรเวทให้เชื่องได้หรือนี่?”

มีสองวิธีฝึกอสูรเวทให้เชื่องได้ก็คือ หนึ่งใช้กำลังกำราบมัน และสอง ใช้เวทสัญญามัดวิญญาณ

ปกติฮ็อกจะรู้เป็นอย่างดีว่ากำลังกายของลินลี่ย์ยังอ่อนอยู่มากและแม้แต่หนูเงาที่อ่อนแอที่สุดก็ยังมีพลังระดับสาม และนอกจากนี้  ไม่มีทางที่ลินลี่ย์จะมีเวทผูกวิญญาณ  เรื่องนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นแน่

“ขอรับ ท่านพ่อ ข้าฝึกมันให้เชื่องแล้ว” ลินลี่ย์พูดจริงจัง

ฮ็อกแค่รู้สึกว่าบุตรของเขาดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดเปลี่ยนแปลงสิ้นเชิง

“ท่านลอร์ดฮ็อก ลินลี่ย์ฝึกหนูเงานี้ให้เชื่องได้จริงๆ ข้าเป็นพยานได้ หนูเงาน้อยนี้ยังเป็นต้นเหตุที่ในวันก่อนๆ นั้นลินลี่ย์ถึงได้จับสัตว์ป่าไปเป็นอาหารสัตว์ที่น่ารักอยู่บ่อยๆ  มันอยู่ที่ลานด้านหลังของคฤหาสน์”  ฮิลแมนอธิบาย

“เขาเอาอาหารไปเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนี่หรือ?” ฮ็อกคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจ้องดูลินลี่ย์อย่างเหลือเชื่อ “อสูรเวท หนูเงาตัวนี้คือสัตว์เลี้ยงน่ารักที่ลูกบอกพ่อว่าเอาอาหารไปเลี้ยงมันที่ด้านหลังคฤหาสน์หรือ?”

ลินลี่ย์พยักหน้าตามตรง

ฮ็อกไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องให้ สัตว์เลี้ยงน่ารักคืออสูรเวทตัวหนึ่งหรอกหรือนี่?

แม้ว่าเขาจะมีคำถามมากมายเรื่องที่ลินลี่ย์ทำสัญญากับหนูเงาได้อย่างไร  แต่ฮ็อกไม่กังวลเรื่องนี้มากนัก  ตอนนี้ เขามีอารมณ์ดีเยี่ยม

“ดีล่ะ  เรื่องนี้เอาไว้ก่อน  ลุงแอชลี่ย์ ฮิลแมน ไปพาทหารยามมาเตรียมงานเลี้ยงเดี๋ยวนี้  คืนนี้ ข้าจะจัดงานเลี้ยงฉลอง”  ฮ็อกหัวเราะลั่น  ตอนนี้ เขาหัวเราะเต็มที่ไม่มียั้ง

ลินลี่ย์จ้องดูบิดาเขา  ย้อนไปตั้งแต่เขาจำได้  เขาไม่เคยเห็นบิดาของเขามีความสุขมากนัก

……….

ในคืนนั้น

เสียงอึกทึกดังอยู่ภายในคฤหาสน์ตระกุลบาลุค แม้แต่ทหารยามเกินกว่าสิบคนและครอบครัวของพวกเขาก็ยังได้รับเชิญทั้งหมด มีโต๊ะใหญ่ห้าตัวตั้งอยู่ในลานใหญ่ของคฤหาสน์ และทั่วทั้งคฤหาสน์ตระกูลบาลุคเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสนุกสนาน

“อร่อย อร่อยจัง” วอร์ตันน้อยหยิบนี่บ้าง หยิบโน่นกินบ้างด้วยความตื่นเต้น

“คุณชายลินลี่ย์ ขอแสดงความยินดีที่ท่านได้รับการยอมรับจากสถาบันเอินส์ ในอนาคตคุณชายลินลี่ย์จะต้องเป็นจอมเวทผู้มีพลังมากอย่างมิต้องสงสัย”  ทหารยามของตระกูลคนหนึ่งหัวเราะ ขณะที่เขาดื่มอวยพรให้ลินลี่ย์อย่างสุภาพ

ในงานเลี้ยงฉลองนี้ ลินลี่ย์ตกเป็นจุดสนใจหลัก

พอได้ทราบว่าลินลี่ย์ได้รับการยอมรับเข้าศึกษาในสถาบันเอินส์  ทุกคนพากันตื่นเต้น ใครๆ ก็เข้าใจกันทั้งนั้นว่าการเข้าสถาบันเอินส์ได้หมายความว่าจะมีชะตาที่แน่นอน  ในอนาคตลินลี่ย์คงไม่อยู่แต่ในเมืองเล็กๆ อย่างอู่ซัน

“พี่ลินลี่ย์ ทุกคนดื่มอวยพรพี่  ข้าต้องการทำบ้าง..”  วอร์ตันน้อยถือแก้วน้ำผลไม้

พอเห็นมือเป็นมันของวอร์ตัน ลินลี่ย์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แต่เขาก็ยังยกแก้วน้ำผลไม้ตนเองชนแก้วกับวอร์ตันน้อย

“มาเถอะ, เราพี่น้องกันนี่” ลินลี่ย์ยิ้มขณะชูแก้ว

….

ยามดึก ที่หอบรรพบุรุษตระกูลบาลุค มีแต่เพียงลินลี่ย์และบิดาของเขา

ประตูหอบรรพบุรุษปิด และแถวเทียนทั่วทั้งหอบรรพบุรุษก็ถูกจุดทำให้ค่อนข้างอุ่น  ยามนี้ฮ็อกจ้องมองป้ายวิญญาณที่อยู่กลางห้อง เสียงของเขาทุ้มขณะพูดว่า “ลินลี่ย์ หลังจากนักรบเลือดมังกรคนที่ห้าเกิดขึ้นแล้ว  ตระกูลบาลุคเราก็เริ่มอ่อนแอ  รุ่นแล้วรุ่นเล่ายังไปไม่ถึงจุดที่บรรพบุรุษของเราทำได้เลย มรดกของบรรพบุรุษก็สูญหาย ทุกครั้งที่พ่อคิดถึงเรื่องนี้ พ่ออดที่จะละอายไม่ได้  เราเป็นตระกูลเลือดมังกรชั้นสูง”

ลินลี่ย์ยืนอยู่ข้างหลังบิดาเขา ไม่ส่งเสียงแต่อย่างใด

เขาก็รู้สึกละอายเช่นกัน

ตระกูลที่เก่าแก่คงอยู่มานานถึงห้าพันปี ตระกูลนักรบเลือดมังกร ลินลี่ย์รู้สึกภูมิใจในใจ แต่มรดกเก่าแก่กลับหายไป

“ลินลี่ย์” ทันใดนันฮ็อกหันมามองลินลี่ย์เขม็ง “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปพ่อจะไม่ทำกับลูกเหมือนว่าเป็นเด็กอีกแล้ว พ่อจะมองลูกในฐานะเสาหลักในอนาคตของตระกูลบาลุคของเรา  ความหวังของตระกูลเราในอนาคตจะต้องอาศัยลูกทั้งหมด”

“ขอรับ, ท่านพ่อ” ลินลี่ย์พยักหน้าจริงจัง

“รอเดี๋ยว  พ่อไปหยิบของมาก่อน”ทันใดนั้นฮ็อกหมุนตัวและเข้าไปในห้องลับข้างหอบรรพบุรุษ  จากนั้นไม่นานเขากลับมาพร้อมหนังสือเล่มหนาในมือ “ลินลี่ย์, รับนี่ไปและอ่านให้ดี จดจำทุกอย่างไว้”

“นี่คือ?...”

ลินลี่ย์มองดูหนังสือเล่มหนาที่เขาเพิ่งได้รับด้วยความสงสัย  ไม่มีตัวหนังสือใดๆ บนหน้าปก  แต่เมื่อเขาเปิดดู  มีตัวหนังสือเขียนไว้ในหน้าแรกว่า“คัมภีร์ลับเลือดมังกร”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด