ตอนที่แล้วยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 40 การรวมตัวของอัจฉริยะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 42 ไม่สามารถพูดคุยกันได้

ยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 41 กำราบ


ยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 41 กำราบ

“สำหรับผู้อ่อนแอ พวกเขาล้วนพึ่งพาพลังของอาวุธล้ำค่ามากกว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับยอดฝีมือกระบี่ที่แท้จริง เพียงแค่มีกระบี่เหล็กธรรมดาก็สามารถอยู่ยงคงกระพันในโลกนี้ได้”

“เมื่อตอนที่ข้ายังเด็ก ข้าเคยได้ยินมาว่าซวนเทียนเจินเหรินจากสำนักเยียวยาสวรรค์นั้นกำราบดินแดนรกร้างเพียงลำพังและกวาดล้างไปทั่วหมื่นลี้ด้วยกระบี่เล่มนี้ สะกดกลุ่มทรงอำนาจมากมาย ช่างน่าทึ่งเสียนี่กระไร”

“กระบี่เล่มนี้มีตำนานมากมาย แม้ว่ามันจะเป็นเพียงสมบัติขั้นสูงสุดและไม่สามารถแม้แต่จะถือว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์วิญญาณได้ก็ตาม”

หลังจากได้ยินคำอธิบายของเหออู๋ซวง หลินชิงจู้ก็เข้าใจทันทีว่าเหตุใดเจินเหรินหมิงเยว่ถึงมีสีหน้าเช่นนั้นเมื่อเย่ชิวมอบกระบี่เล่มนี้ให้กับนาง

เป็นเช่นนั้น… มีตำนานเกี่ยวกับกระบี่เล่มนี้เช่นกัน หลินชิงจู้มีความสุขมากกับความคิดนี้  แท้จริงแล้วข้าเป็นคนสำคัญสำหรับท่านอาจารย์มาก เขาเต็มใจที่จะมอบสมบัติเช่นนี้แก่ข้าด้วยซ้ำ

หลินชิงจู้รู้สึกประทับใจอย่างยิ่ง นางสัมผัสได้ถึงความรักที่อาจารย์มีต่อนาง เขาเป็นคนเดียวที่ปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดีหลังจากที่บุพการีของนางเสียชีวิต

“เอาไปสิ” หลินชิงจู้ก็ไม่ตระหนี่เช่นกัน นางเหวี่ยงกระบี่เมฆาม่วงขึ้น

เหออู๋ซวงหยิบกระบี่เมฆาม่วงด้วยรอยยิ้มและมองดูอย่างระมัดระวัง เมื่อเขาสงบลง เขายังคงรับรู้ได้ถึงเจตนาของกระบี่ที่น่าตกตะลึงที่ทิ้งไว้โดยซวนเทียนเจินเหริน เนื่องจากเหออู๋ซวงเป็นอัจฉริยะในเต๋ากระบี่และหลงรักในกระบี่เป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่เขาพบกระบี่ที่ดี เขามักอยากจะชื่นชมมัน

“นายน้อยอู๋ซวงมีเวลาว่างมากจนมาที่เมืองกวงหลิงเพื่อชมกระบี่เช่นนั้นหรือ”

ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเย็นชาดังมา เหออู๋ซวงเหลือบมองตาม

“อืม กู่ไห่ถัง! เจ้ามาที่นี่เพื่อร่วมสนุกหรือไม่” เหออู๋ซวกล่าวอย่างสบาย ๆ ขณะที่เขาเล่นกับกระบี่ในมือ

กู่ไห่ถังไม่สนใจเขา เมื่อเขาเห็นฝูเหยา เขาก็บินไปหาทันทีพร้อมรอยยิ้ม “ฮี่ฮี่ เทพธิดาฝูเหยา ข้าไม่คิดไม่ฝันว่าเราจะได้พบกันที่นี่อีกครั้ง”

ปากของฝูเหยากระตุก นางอยากจะตบสหายคนนี้เหลือเกิน เวรกรรมอันใด เขาไล่ตามนางเป็นเวลาหนึ่งเดือน เขาคิดว่านางไม่รู้ทันหรือ

“นายน้อยกู่ โปรดเคารพตนเองด้วย” ฝูเหยาตอบอย่างเย็นชาและหันหน้าหนี นางไม่ต้องการเห็นสหายที่น่ารำคาญคนนี้อีกต่ไป

ในอีกด้านหนึ่ง เหออู๋ซวงประเมินกระบี่เมฆาม่วงอย่างรอบคอบและมอบคืนให้หลินชิงจู “เป็นกระบี่ที่ดี! ตามที่คาดไว้ของกระบี่ที่ซวนเทียนเจินเหรินใช้ในตอนนั้นยอดเยี่ยมยิ่งนัก แม่นางโปรดปกป้องชื่อเสียงเดิมของกระบี่เล่มนี้ไว้ให้ดี”

หลินชิงจู้ไม่ได้ตอบเพียงแต่พยักหน้าเท่านั้น

หลังจากพูดเช่นนั้น เหออู๋ซวงก็มองไปยังหยางเหออย่างเย็นชา เขาไม่ชอบการใช้ความอาวุโสรังแกคนอื่นเป็นที่สุด

ขณะที่เขากำลังจะโจมตี ผู้อาวุโสในชุดเทาสองสามคนก็ร่อนลงมาจากท้องฟ้าและลงมาข้าง ๆ หยางเสี่ยว

หยางเสี่ยวรู้สึกยินดีที่ได้พบพวกเขาและกล่าวว่า “ทักทายท่านอาจารย์และลุงทั้งสอง”

ในวินาทีนั้นเขาคิดว่าตนต้องตายอย่างแน่นอน เขาไม่ได้คาดหวังว่าหลี่ชางกงและลุงสองคนแห่งภูเขาสวรรค์จะมาถึงช่วงเวลาวิกฤต

หลี่ชางกงมองไปยังลูกศิษย์ล้ำค่าของตนแล้วมองไปยังเหออู๋ซวงที่อยู่เหนือเขา เขากล่าวว่า “นายน้อยอู๋ซวง วันนี้ศิษย์ของข้าไร้สติและทำเจ้าขุ่นเคือง ข้าหวังว่าเจ้าจะยกโทษให้เขาในนามของข้า”

“ฮ่าฮ่า ดูเหมือนท่านจะคิดผิด เขาไม่ได้ยั่วโมโหข้า” เหออู๋ซวงยิ้ม หากหลี่ชางกงไม่ปรากฏตัว เขาก็คงไม่คิดช่วยหลินชิงจู้ระบายความโกรธของนาง อย่างไรก็ตาม เพราะไม่มีความจำเป็นสำหรับเขาที่จะต้องต่อสู้กับพวกเขา เนื่องจากผู้คนจากภูเขาสวรรค์มาอยู่ที่นี่แล้ว

หลี่ชางกงตกตะลึง เขาเพิ่งมาถึงและตระหนักว่าเหออู๋ซวงราวกับกำลังจะโจมตีตระกูลหยาง ดังนั้นเขาแทบรอไม่ไหวที่จะบินลงมาด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น

“ศิษย์ข้า เกิดอะไรขึ้น” สีหน้าของหลี่ชางกงมืดลงในขณะที่เขาถาม

หยางเสี่ยวพูดติดอ่างและทว่ายังคงอธิบายทุกอย่างให้เขาฟัง

หลังจากได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าของหลี่ชางกงก็เปลี่ยนเย็นชา เขามองไปยังหลินชิงจู้ท่ามกลางฝูงชนและหัวใจของเขาก็สั่นไหว

“เจ้าคนทรยศ…” หลี่ชางกงตบหยางเสี่ยวกระแทกกับพื้นทันที

ในทางกลับกัน หยางเหอรู้สึกตกตะลึง เหตุใดหลี่ชางกงถึงกลัวเย่ชิว เป็นไปได้ไหมว่าชายคนนั้นโหดเหี้ยมอย่างที่กล่าว

หยางเหอไม่กล้าส่งเสียงเมื่อเห็นลูกชายถูกทุบตี เพราะอีกฝ่ายก็คือหลี่ชางกง

หลังจากจัดการกับหยางเสี่ยวแล้ว หลี่ชางกงก็รีบเดินขึ้นมาและขอโทษ “สาวน้อย ข้าสั่งสอนพวกเขาไม่ดีพอ ทำให้เจ้าคนทรยศทำให้เจ้าขุ่นเคือง ข้าหวังว่าเจ้าจะยกโทษให้เขาเนื่งอจากความหุนหันพลันแล่นในนามของข้า ข้าจะลงโทษเขาอย่างเคร่งครัดเมื่อเรากลับไป สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน”

หลินชิงจู้ไม่ได้พูดอะไร นางก็ไม่ต้องการทำให้เรื่องนี้แย่ลงเช่นกัน

จ้าวว่านเอ๋อยิ้มอย่างขี้เล่นและกล่าวว่า “ผู้อาวุโสหลี่ ข้าคิดว่าการสะสางปัญหาด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำไม่เหมาะสมนัก ท่านคิดเช่นนั้นหรือไม่”

หัวใจของหลี่ชางกงจมดิ่งลงเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ เขาไม่ต้องการให้เรื่องนี้บานปลายเพราะแรงกดดันที่เย่ชิวมอบให้เขาก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตามชายชราสองผู้ที่อยู่ข้างหลังเขากำลังอารมณ์ไม่ดี

“ฮึ่ม เด็กโง่เขลา ไม่คิดว่าจะว่ายน้ำทวนกระแส”

“เจ้าต้องการอะไรอีก”

“เจ้าคิดว่าภูเขาสวรรคฺของข้ากลัวสำนักเยียวยาสวรรค์ของเจ้าจริง ๆ หรือ”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ถูกกล่าวออกมา บรรยากาศก็เย็นเยียบลงทันที

“น่าสนใจ! เขากำลังประกาศสงครามกับสำนักเยียวยาสวรรค์งั้นหรือ”

ฝูงชนรอบพูดคุยราวกับกำลังจะได้ดูการแสดงดี ๆ

“ถ้าข้าไม่ทำล่ะ” ในขณะนี้แม้แต่จ้าวว่านเอ๋อที่มีอารมณ์มั่นคงก็ไม่สามารถระงับได้อีกต่อไป

แม้ว่านางจะถูกหยางเสี่ยวดูถูก แต่นางก็ไม่ได้พูดอะไร ทว่าตอนนี้อีกฝ่ายบอกว่า สำนักเยียวยาสวรรค์ผิด นั่นไม่ใช่การบอกว่าเย่ชิวผิดหรือ

นั่นคืออาจารย์ของนางที่ดูแลนางเหมือนครอบครัว นางไม่สามารถทนให้ใครว่าร้ายได้

“ฮึ่ม สาวน้อย ช่างเป็นเด็กที่ไม่รู้จักความกลัว!”

“ไม่ต้องพูดถึงเจ้า แม้แต่เจ้าสำนักเยียวยาของเจ้าเมิ่งเทียนเจิ้งก็ต้องสุภาพกับข้า”

สีหน้าของจ้าวว่านเอ๋อเปลี่ยนไปเมื่อนางได้ยินสิ่งนี้ นางหยิบยันต์สื่อสารออกมาอย่างเงียบ ๆ และเตรียมส่งสัญญาณไปยังที่คฤหาสน์นายพลในเมืองกวงหลิง

นางมักจะถือยันต์สื่อสารพิเศษของราชวงศ์ไว้กับตัว ยันต์สื่อสารนี้สามารถส่งสัญญาณถึงผู้นายพลทุกคนในขอบเขตราชวงศ์ลี่หยาง และสามารถขอให้พวกเขามาช่วยเหลือได้

ก่อนหน้านี้นางไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนของนาง แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ เมื่อมองดูสถานการณ์แล้ว นางไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใช้มัน

ขณะที่นางกำลังจะใช้มัน ทันใดนั้นเอง

“ช่างเย่อหยิ่งยิ่งนัก…”

“ใครกัน”

ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก เสียงนั้นดูราวกับดังห่างไกลอยู่หลายลี้

ราวกับเสียงของมหาเต๋าที่ดังก้องอยู่ในหูของทุกคน

ทันทีที่เสียงนี้ดังขึ้น หัวใจของชายชราในชุดเทา หลี่เต้าหยวน ก็สั่นสะท้าน เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายปรมาจารย์ยุทธจากอีกฝ่าย

“เขาเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ยุทธ!”

บนหลังคา ชายชราที่อยู่เบื้องหลังเหออู๋ซวงและชายชราสองผู้ที่อยู่เบื้องหลังฝูเหยาก็แสดงท่าทางประหลาดใจเช่นกัน

“ลุงฮัน ชายผู้นี้แข็งแกร่งมากหรือ” ฝูเหยาถามด้วยความรู้สึกงงงวยเป็นอย่างมาก ในขณะนั้นนางรู้สึกว่าหัวใจของนางสั่นสะท้าย

เพราะเสียงนั้นพุ่งตรงไปยังวิญญาณโดยตรง

หานเซิงอี้กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “แข็งแกร่งมาก! กลิ่นอายของเขาพลุ่งพล่านราวกับกระบี่ที่แหลมคม สามารถเสียดแทงทะลุวิญญาณได้อย่างง่ายดาย”

ทันใดนั้นแสงสีขาวก็ส่องมาจากขอบฟ้า ราวกับกระบี่ที่แหลมคมที่ทะยานผ่านฝูงชน พุ่งเข้าหาหลี่เต้าหยวนทันใด

“ศิษย์พี่ ระวัง!” หลี่ชางกงตกใจรีบช่วยเหลือหลี่ซานซี ทั้งสามคนได้ทำการต้านกระบี่พร้อมด้วยกัน

ปัง…

เสียงดังโครมครามตามมา ปราณกระบี่ได้สร้างความเสียหายต่ออิฐบนพื้นจนปลิวว่อนและทำลายศาลาทันที

ทั้งสามร่วมมือกันเพื่อสกัดกั้นการโจมตีครั้งนี้ สายตาของพวกเขาจับจ้องไปยังบุคคลที่เหยียบกระบี่ท่ามกลางเวหา

“ท่านอาจารย์! ท่านอาจารย์กลับมาแล้ว”

จ้าวว่านเอ๋อและหลินชิงจู้รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเมื่อเห็นร่างที่อยู่บนท้องฟ้า นั่นคือท่านอาจารย์ของพวกนาง

เย่ชิว…

5 2 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด