ตอนที่แล้วตอนที่ 37 มื้ออาหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 39 อัจฉริยะอันดับหนึ่ง

ตอนที่ 38 ทดสอบพรสวรรค์


พอมองซูสือ เซินไป่หู่ก็ไม่อาจปิดบังความกลัวในดวงตาได้

บางคนอาจคิดว่าอารมณ์ของฝ่าบาทไม่แย่

แต่นั่นเพราะทุกคนที่เคยเห็นอารมณ์แย่ๆของนางตายไปแล้ว!

การปกครองหมู่มาร คำพูดของนางคือประกาศิต

ความคิดของอวิ๋นฉีหลัวไม่ใช่อะไรที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้

เซินไป่หู่อยู่กับนางมาหลายปี แต่เขาไม่เคยกล้าทำเกินเลย และไม่เคยเห็นใครกินข้าวกับนาง!

ซูสือ...

มันเพราะความดีความชอบเล็กน้อยของเขาในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้?

เซินไป่หู่ส่ายหัว

เป็นไปไม่ได้

แม้ภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้จะสำคัญ มันก็ไม่ได้มีอันดับสูงท่ามกลางเก้าภูมิภาคของจักรวรรดิหลินหลาง

ยิ่งไปกว่านั้น ในด้านผลงาน สี่นักบุญผ่านศึกมามากและติดตามจักรพรรดินีมารไปพิชิตทั่วเก้าภูมิภาค มันพูดได้ว่าพวกเขาคือมือซ้ายและมือขวาของนาง

แต่พวกเขาไม่เคยได้รับการปฏิบัติเยี่ยงนี้มาก่อน!

เด็กนี่ไม่ธรรมดา!

"เจ้าต้องการอะไรจากข้า?"

อวิ๋นฉีหลัวถาม

เซินไป่หู่รวบรวมความคิดและพูด"ผู้น้อยได้ยินว่าฝ่าบาทอยากถอนประกาศิตสังหารทมิฬ?"

พอได้ยิน การกินของซูสือก็หยุดชะงัก

ประกาศิตสังหารทมิฬถูกถอน?

"ถูกต้อง"

อวิ๋นฉีหลัวพยักหน้า"เหนือสิ่งอื่นใด จ้านชิงเฉิงคือศิษย์เอกของศาลาเทียนจี ถ้านางตาย ซือคงหลานเยวี่ยคงไม่อยู่เฉย และตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาจะมาเริ่มสงครามเต็มรูปแบบกับพวกฝ่ายธรรมะ"

ปัจจุบัน แม้ฝ่ายมารกับฝ่ายธรรมะจะสู้กัน แต่ก็ไม่ใชสงครามใหญ่

อย่างแรก การต่อสู้ระหว่างขุมอำนาจใหญ่ไม่อาจทำได้ง่ายๆ

ไม่มีไข่ใดไม่บุบหรือแตกตอนรังตกจากต้นไม้ ถ้าขุมอำนาจใหญ่ของทุกฝ่ายสู้และฆ่ากัน เกรงว่าโลกคงถูกทำลาย ซึ่งไม่ใช่ผลดีต่อทุกฝ่าย

อีกฝ่ายคือผู้สืบทอดหลัก ซึ่งไม่สามารถเจาะจงได้

นี่เพราะมันแสดงถึงอนาคตของสำนัก

ถ้าฆ่าผู้สืบทอดอีกฝ่าย อีกฝ่ายก็สามารถฆ่าผู้สืบทอดเราได้เช่นกัน ซึ่งจะผลาญทรัพยากรไปเปล่าๆ ผลลัพธ์สุดท้ายมีแต่สองฝ่ายจะเสียหาย

และประกาศิตสังหารทมิฬก่อนหน้าที่จักรพรรดินีมารออกไปก็แตะเส้นแดงทั้งสองเส้นเหล่านี้

นี่คือการประกาศสงครามกับศาลาเทียนจี!

เซินไป่หู่ขมวดคิ้ว"ฝ่าบาท ประกาศิตสังหารทมิฬไม่ใช่การละเล่นของเด็ก ในเมื่อออกไปแล้วก็ไม่มีเหตุผลให้ถอน หากทำเช่นนั้น ข้าเกรงว่าจะมีบางคนกังขาถึงความยิ่งใหญ่ของฝ่าบาท"

เสียงของอวิ๋นฉีหลัวต่ำ"เจ้ากำลังสอนข้า?"

กระดูกสันหลังของเซินไป่หู่เย็นเฉียบและรีบคุกเข่า

"ข้ามิกล้า!"

ใบหน้าของเขาขาวซีด เหงื่อเย็นไหลชุ่มตัว

อวิ๋นฉีหลัวพูด"ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนพูดตรงๆ ครั้งนี้ข้าจะทำเป็นไม่ได้ยิน"

"สำหรับประกาศิตสังหารทมิฬ.."

นางเหลือบมองซูสือที่กำลังกินข้าว"ในเมื่อซูสือไม่ตาย ก็ไม่มีเหตุผลที่ข้าต้องฆ่าจ้านชิงเฉิง"

"พรวดด!"

ซูสือที่กำลังซดซุปสำลัก

เขาเช็ดปากอย่างเงอะงะและตะโกนในใจ

จักรพรรดินีมารเป็นอะไร!

นางออกประกาศิตสังหารทมิฬเพื่อแก้แค้นให้ข้า?

ไม่มีส่วนนั้นในโครงเรื่องเดิม!

หรือโครงเรื่องได้เปลี่ยนไปตอนข้ามอบมะระหวานให้นาง?

ซูสือพลันรู้สึกว่าเรื่องราวกำลังเคลื่อนไหในทางที่ควบคุมไม่ได้..

เซินไป่หู่สับสน..

"ฝ่าบาทหมายความเช่นไร?"

"จ้านชิงเฉิงคือผู้สืบทอดหลักของศาลาเทียนจี ส่วนซูสือแค่หนึ่งในแม่ทัพมาร สถานะของเขาแตกต่าง..นี่ไม่สมเหตุสมผล'

คำพูดของนางไม่ใช่การดูถูก

จ้านชิงเฉิง อัจฉริยะที่มีพรสวรรค์สุดยอดขั้นสมบูรณ์ถือเป็นสมบัติล้ำค่าของศาลาเทียนจี

และซูสือก็แค่แม่ทัพมารตัวน้อย ต่อให้เขาตาย นางก็ยังมีแม่ทัพเหลืออีก 197 คน

ทั้งสองเทียบกันไม่ได้!

เสียงของอวิ๋นฉีหลัวสงบ แต่คำพูดที่ออกมาเย็นชามาก

"ดังนั้น ข้าตั้งใจจะเลือกซูสือให้เป็นผู้สืบทอดหลัก"

"ถ้าศาลาเทียนจีฆ่าศิษย์สืบทอดของข้า ข้าก็จะฆ่าศิษย์สืบทอดของพวกมัน มีปัญหาอะไรไหม?"

ตุบ

ช้อนตกลงพื้น

ซูสือสับสน

"ข้า?"

"ศิษย์สืบทอด?"

"ท่านแน่ใจนะ ฝ่าบาท?"

ตัวเขาเพิ่งคีบปลาให้จักรพรรดินีมารไปสองชิ้น และนางก็จะแต่งตั้งเขาเป็นผู้สืบทอดหลัก?

นี่มันบ้าอะไร!

เซินไป่หู่ไม่เข้าใจเช่นกัน

"ฝ่าบาทโปรดคิดทบทวนใหม่ด้วย!"

"ตำแหน่งผู้สืบทอดสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ควรคิดโดยเร็ว!"

"นอกจากนี้ พรสวรรค์ของเขาก็ไม่ได้ดีมากเช่นกัน!"

ตำแหน่งผู้สืบทอดสำนักว่างมาหลายปีแล้ว

ตอนนี้นางกำลังจะส่งมอบมันให้แม่ทัพมารตัวน้อยที่มีพรสวรรค์ธรรมดา?

บางทีซูสืออาจพบอะไรมาและสามารถเอาชนะเฉินชิงหลวนได้ แต่ในระยะยาว นี่ไม่ใช่อะไรที่ฉลาด!

"ใช่แล้ว ใช่แล้ว ข้าทำไม่ได้หรอก!'

ซูสือพยักหน้า

เขาแค่อยากอยู่เฉยๆแล้วได้โชค แต่ไม่อยากทำอะไรโดดเด่น!

อวิ๋นฉีหลัวจ้องเขา"ถ้าเป็นแต่ก่อน ข้าคงไม่บังคับเจ้า แต่ตอนนี้ เจ้ามีพรสวรรค์อะไร เจ้าไม่รู้ชัดหรือไง?"

ตอนนางพบซูสือครั้งแรก นางบอกได้ว่ามีอะไรผิดปกติ

เดิมที นางยังไม่เชื่อในใจ

แต่ตอนนางตีเขาและรักษาเขา นางก็เข้าใจถึงรากและกระดูกของเขาอย่างสมบูรณ์

พรสวรรค์ของซูสือเหนือกว่าจ้านชิงเฉิงนับไม่ถ้วน!

นี่ไม่ใช่สิ่งที่สามารถบรรลุได้ด้วยโอกาส!

หรือนี่..จะเป็นเจตจำนงของสวรรค์?

อวิ๋นฉีหลัวยิ้ม

"นี่.."

ซูสือแตะจมูก สีหน้าของเขาดูไม่เป็นธรรมชาติ

หรือว่าจักรพรรดินีมารจะมองทะลุผ่านข้าได้?

พอเห็นว่าเขาไม่เต็ฒใจยอมรับมัน อวิ๋นฉีหลัวก็พูด"ถ้าข้าจำไม่ผิด งานทดสอบพรสวรรค์ปีนี้ได้เริ่มแล้วใช่ไหม?"

"พอดีเลย ซูสือ เจ้าไปทดสอบซะ'

เซินไป่หู่ถอนหายใจโล่งอก

ตราบเท่าที่เขาเข้าร่วมงานทดสอบพรสวรรค์ งั้นทุกอย่างจะเป็นหลักฐาน

ตอนความจริงวางออกมาต่อหน้านาง ต่อหน้าคำค้านจากทั้งสำนัก เขาเชื่อว่าฝ่าบาทจะไม่หัวรั้น

ซูสือยิ้มขมขื่น"ข้าไม่ไปได้ไหม?"

อวิ๋นฉีหลัวยื่นคำขาด"ไม่ได้!"

3 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด