ตอนที่แล้วตอนที่ 2-4 สถาบันเอินส์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2-6 หนูเงา “บีบี” (2) 

ตอนที่ 2-5 หนูเงา “บีบี” (1)


“สถาบันเอินส์คือสถาบันจอมเวทอันหนึ่งของโลก  ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันเอินส์ทุกคนอย่างน้อยเป็นนักเวทระดับหกและมีหลายคนที่เป็นนักเวทระดับเจ็ด!  ถ้าตระกูลบาลุคของเราสามารถมีจอมเวทระดับเจ็ดได้  อย่างน้อยเราจะมีโอกาสกู้คืนมรดกบรรพบุรุษของเรา”

ขณะที่พูดฮ็อกมองหน้าลินลี่ย์อย่างคาดหวัง

ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ถึงความคาดหวังที่ฮ็อกฝากไว้กับเขา

“มรดกตกทอดของบรรพบุรุษเรา  จะว่าไปมรดกของบรรพบุรุษของเราที่หายไปสำหรับเราแล้วคือความอัปยศที่ต้องชำระให้ได้”  ลินลี่ย์ยังคงรู้สึกว่าหัวใจเขาหนักอึ้ง

ในฐานะที่เป็นลูกหลานตระกูลนักรบเลือดมังกรที่เก่าแก่ เขารู้สึกภูมิใจในวงศ์ตระกูลที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ของเขาแต่ตระกูลนักรบเลือดมังกรที่ยิ่งใหญ่ได้สูญเสียมรดกของบรรพบุรุษไป  ถือว่าเป็นความอัปยศอดสู ฮ็อกและผู้อาวุโสของตระกูลนับไม่ถ้วนที่ล่วงลับไปแล้วรู้สึกละอายใจเมื่อใดก็ตามที่คิดถึงเรื่องนี้

น่าเสียดายตระกูลที่เก็บรักษาดาบเพชฌฆาตพิชิตศึก เป็นตระกูลที่ไม่ธรรมดาและปัจจุบันนี้ตระกูลบาลุคก็อ่อนแอเกินไป

“เอินส์?จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์แห่งวิหารเจิดจรัสในตำนานน่ะหรือ?”  เดลิน โคเวิร์ทที่อยู่ใกล้ๆ เริ่มพูด

“อะไรหรือ ปู่เดลิน?”  ลินลี่ย์ถามด้วยความสงสัย  “ข้ามั่นใจว่าพลเมืองหลายร้อยล้านในหกราชอาณาจักรและสิบห้าแคว้นแห่งสหภาพศักดิ์สิทธิ์ล้วนรู้เรื่องของจักรพรรดิเอินส์แห่งวิหารเจิดจรัสในตำนาน” ลินลี่ย์ยังคงรู้เกี่ยวกับข้อมูลและประวัติศาสตร์ของเอินส์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ในตำนานด้วยเช่นกัน

เขาได้สร้างชื่อเสียงให้กับวิหารเจิดจรัสมากมายและยังสร้างสหภาพศักดิ์สิทธิ์ด้วยน้ำมือตนเองเพียงผู้เดียว

“ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าเด็กน้อยผู้นั้นเอินส์จะมีความสำเร็จถึงขนาดนี้ และเขายังกลายเป็นจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ในตำนานแห่งวิหารเจิดจรัสด้วย”เดลิน โคเวิร์ทถอนหายใจ

“ปู่เดลิน ท่านรู้จักเอินส์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ด้วยหรือ?”  ลินลี่ย์ประหลาดใจ

แต่จากนั้นลินลี่ย์จึงค่อยคิดได้

ใช่แล้วในอดีตที่ผ่านมา เมื่อจักรวรรดิพูเอ็นท์ยังเป็นปึกแผ่น วิหารเจิดจรัส, ลัทธิมืดและแม้แต่พวกเทวาลัยและโบสถ์ทั้งหลายภายในราชอาณาจักร แต่ศาสนจักรเหล่านั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของจักรวรรดิพูเอนท์

“ปกติเอินส์เป็นอัจฉริยะที่เข้าสู่ระดับเซียนเมื่อเขามีอายุเพียงห้าสิบปี หรือราวๆนั้น  แต่ในยุคของข้า เขาถูกมองว่าเป็นเพียงคลื่นลูกหลังที่เพิ่งเลื่อนชั้น”  เดลิน โคเวิร์ทพูดอย่างสงบ

เมื่อเดลินโคเวิร์ทยังมีชีวิต เอินส์ยังคงพัฒนาตัวเอง เมื่อเอินส์เข้าสู่ระดับเซียนในที่สุด เดลิน โคเวิร์ทก็ยืนอยู่ในจุดสุดยอดของทวีปยูลานมานานแล้ว  แม้ในหมู่นักสู้ระดับเซียน  เดลินโคเวิร์ทก็ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด

เดลินโคเวิร์ทมีสถานะที่สูงส่งมากภายในจักรวรรดิพูเอนท์ ซึ่งเอินส์ไม่อาจเทียบเท่าได้เลยในตอนนั้น

ถ้าเอินส์เข้าหาเขา  เอินส์คงต้องคำนับตามมารยาทและแสดงความนับถือเขา

“ข้าคิดไม่ถึงว่าหลังจากที่ข้าตาย  เอินส์จะทำอะไรได้เหลือเชื่อมากขนาดนั้น”  เดลิน โคเวิร์ทหัวเราะเบาๆ

ลินลี่ย์อดไม่ได้ที่จะแสดงความเคารพนับถือถือเดลินโคเวิร์ทอย่างจริงใจ จอมเวทผู้วิเศษระดับเซียนแห่งจักรวรรดิพูเอนท์และหนึ่งในจอมเวทผู้ทรงพลังมากที่สุดในทวีปยูลาน แต่ตอนนี้เดลิน โคเวิร์ทกำลังชี้แนะสั่งสอนเวทให้เขาด้วยตัวท่านเอง  ช่างเป็นโชคดีของลินลี่ย์นัก

ขณะที่อาหารค่ำดำเนินต่อไป การสนทนาภายในคฤหาสน์ตระกูลบาลุคเป็นไปอย่างสนุกสนาน

“ลินลี่ย์ ภายในหนึ่งสัปดาห์พ่อจะให้ลุงฮิลแมนพาเจ้าไปเมืองเฟนไลและเข้าทดสอบและสมัครเป็นจอมเวท”  ฮ็อกยิ้มให้ลินลี่ย์

“ขอรับ, ท่านพ่อ”

ลินลี่ย์พยักหน้า

“คุณชายลินลี่ย์ ข้ามั่นใจว่าท่านจะได้เข้าสถาบันจอมเวทที่ดีที่สุดแน่” ลุงแอชลี่ย์หัวเราะ

“ดีที่สุด อ้า..ดีที่สุด!”  มือของวอร์ตันน้อยมีมันเยิ้มจากการกิน  แต่ก็ยังยิ้มพร้อมกับโบกมือที่เปื้อนมันไปมา

ฮ็อกยิ้มเล็กน้อยขณะพูดว่า “เป็นจอมเวทไม่ใช่เรื่อง่าย บางทีหนึ่งในหมื่นคนถึงจะพบคนมีพรสวรรค์ คุณสมบัติที่ต้องการเพื่อเข้าเรียนในสถาบันเอินส์ยังสูงยิ่งกว่า  มีเพียงคนที่มีความถนัดทางเวทสูงมากเท่านั้นถึงจะได้รับการยอมรับ  ถ้าลินลี่ย์สามารถกลายเป็นจอมเวทได้  พ่อก็พอใจมากแล้ว จะเป็นสถาบันไหนรับก็ได้”

“ข้าจะไม่ให้ท่านพ่อผิดหวัง”  คำพูดของลินลี่ย์เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ

เพราะที่สำคัญก็คือลินลี่ย์เป็นจอมเวทระดับหนึ่งแล้ว

…..

ขณะที่เวลาผ่านไปพริบตาเดียวผ่านไปเจ็ดวันแล้ว

ลินลี่ย์กำลังนอนอยู่บนหญ้าที่ลานหลังคฤหาสน์  ขณะที่หนูเงาน้อยกระโดดขึ้นลงอยู่รอบๆตัวลินลี่ย์  มันร้องจี๊ดๆ ไม่หยุดแต่ลินลี่ย์ไม่มีแก่ใจสนใจมัน

หนูเงาน้อยกลอกนัยน์ตาของมันไปมา  จากนั้นยืนสองขา เท้าหน้าแตะอยู่บนตัวลินลี่ย์

“จี๊ดดดด” หนูเงาร้องออกมาอย่างขัดใจ

ลินลี่ย์ลูบหัวของหนูเงาน้อย“ก็ได้ หยุดบ่นได้แล้ว พรุ่งนี้ข้าจะต้องจากบ้านเดินทางเข้าเมืองหลวง  หลังจากรับสมัครจอมเวทเสร็จแล้ว  ข้าจะต้องไปอยู่ในสถาบันจอมเวท  ข้ากลัวว่าเราจะไม่มีโอกาสมากนักที่จะพบกันอีกหลังจากนั้น”

ไม่มีทางที่เขาจะเอาหนูเงาน้อยเข้าไปในสถาบันจอมเวท

นักเรียนในสถาบันจอมเวทไม่มีคนธรรมดาแม้แต่คนเดียว และยังมีนักเวทที่ทรงพลังอยู่ที่นั่นเช่นกัน  ถ้าพวกเขาพบหนูเงาน้อยอยู่ที่นั่น บางทีพวกเขาอาจกำราบและปราบให้มันเชื่องก็ได้  แม้แต่นักเวทระดับเจ็ดและแปดก็ยังมีอยู่ในสถาบันจอมเวท  การจับหนูเงาน้อยไม่ใช่เรื่องยากเกินไป

ที่สำคัญก็คือเขายังไม่ได้รับการเสนอให้ทำสัญญากับหนูเงาน้อย ดังนั้นใครก็สามารถกำราบและทำให้มันเชื่องได้

“ฟืด ฟืด..” พอได้ยินลินลี่ย์พูด  หนูเงาน้อยเริ่มทำจมูกฟุตฟิตเสียงเบา

“เจ้าไม่รู้สิ่งที่ข้าพูด”  ลินลี่ย์อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว

“ข้าไม่รู้ข้าต้องใช้เวลาในสถาบันเวทอีกนานแค่ไหนหรือจะต้องอยู่ที่นั่นกี่ปี เราอาจไม่ได้พบกันอีก?”  ลินลี่ย์ลูบขนหนูเงาน้อยมีท่าทีไม่เต็มใจจะแยกจากมัน  หลังจากคลุกคลีกับหนูเงาน้อยได้หนึ่งเดือน  เขาห่วงใยหนูเงาน้อยที่น่ารักจริงๆ

หนูเงาน้อยมีความสุขมากม่านตามันขยายขณะที่มันร้องจี๊ดเบาๆ ด้วยความพอใจ

…..

วันต่อมาหลังจากอาหารเช้าแล้ว  ที่ลานหน้าบ้านตระกูลบาลุค

ฮ็อกยืนตัวตรงเหมือนไม้พลอง   จ้องมองลินลี่ย์พลางพูดว่า “ลินลี่ย์!เมืองอู่ซันตั้งอยู่ใกล้เมืองหลวง แค่เพียงราวๆ เก้าสิบกิโลเมตร  เจ้าจะสามารถไปถึงเมืองได้ก่อนค่ำ  จำไว้ เมื่อเจ้าไปถึงเมืองหลวง  อย่าก่อเรื่องยุ่งยาก  มีคนรวยและคนมีอำนาจมากมายอยู่ในเมืองหลวง”

“ขอรับ ท่านพ่อ”  ลินลี่ย์คำนับขณะพูด

“ฮิลแมน, ข้าฝากลินลี่ย์ให้ท่านดูแลด้วย”  ฮ็อกมองดูฮิลแมนที่อยู่ข้างๆ

ฮิลแมนยิ้มพลางพูด“ใต้เท้าฮ็อก โปรดวางใจ”

“เอาล่ะ, ตอนนี้พวกเจ้าไปได้แล้ว” ฮ็อกหัวเราะ

“ลาก่อน, ท่านพ่อ”  ลินลี่ย์พูดด้วยความเคารพ  จากนั้นก็ยิ้มให้วอร์ตันน้อย  “วอร์ตัน พี่จะไปเดี๋ยวนี้แล้วนะ”

วอร์ตันน้อยเหลียวมองลินลี่ย์ทันที  พูดน้ำเสียงเศร้า “พี่, บ๊าย บาย!”

ลินลี่ย์มองไปที่ลานด้านหลังคิดในใจ“ข้าเกรงว่าจะไม่มีใครเอาอาหารมาให้หนูเงาน้อยในช่วงไม่กี่วันนี้แล้ว”  ฮิลแมนที่ยืนอยู่ด้านข้างพูดกับลินลี่ย์ว่า“ลินลี่ย์! ไปกันเถอะ”

“ขอรับ, ลุงฮิลแมน”

ลินลี่ย์ไม่คิดถึงมันอีกต่อไปและเดินตามลุงฮิลแมนไปทันที ขณะที่พวกเขาเดินห่างคฤหาสน์ออกไป

“จี๊ดดด”บนหลังคาเหนือห้องรับแขกของคฤหาสน์ตระกูลบาลุค หนูเงาน้อยมองลินลี่ย์และฮิลแมนเดินจากไป ใจของหนูเงาน้อยเต็มไปด้วยความสงสัย ในสายตาของมัน นี่เป็นเวลาที่ลินลี่ย์น่าจะออกไปล่ากระต่ายป่า  ทำไมเขาจึงแบกถุงสัมภาระไปกับคนอื่น?

หนูเงาน้อยชอบลินลี่ย์จริงๆ

เวลาเกินกว่าหนึ่งเดือนหนูเงาน้อยที่ไร้เพื่อนมองเห็นลินลี่ย์เป็นเหมือนครอบครัว

“จี๊ด!”ตัวของหนูเงาน้อยพร่าเลือนและในพริบตามันหายไปจากชายคาคฤหาสน์ตระกูลบาลุค เคลื่อนไหวเพียงสองสามครา ก็ไปปรากฏอยู่ด้านบนบริเวณใกล้เคียงบ้านชาวนามองดูลินลี่ย์และฮิลแมน  ขณะที่มันตามหลังลินลี่ย์ในไม่ช้าหนูเงาน้อยก็ออกจากเมืองอู่ซัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด