ตอนที่แล้วยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 34 ลูกของเราโตขึ้นแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 36 ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง

ยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 35 นั่นไม่ใช่นายน้อยเซียวหรอกหรือ


ยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 35 นั่นไม่ใช่นายน้อยเซียวหรอกหรือ

“ข้าทราบแล้วหัวหน้าตระกูล ข้าจะจัดการให้ทันที” หวังไห่พยักหน้าและออกจากห้องโถง

เขาไม่คัดค้านการตัดสินใจของเซียวจ้าน เพราะเขามีประสบการณ์ตรงว่าเย่ชิวนั้นน่าสะพรึงกลัวเพียงใด มันไม่มีประโยชน์ที่พวกเขาจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับเย่ชิวหลังจากที่รู้ว่าชายคนนี้น่าเกรงขามเพียงใด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องแสดงความปรารถนาดี

หลังจากเตรียมการเหล่านี้แล้วเซียวจ้านและอู๋โหยวก็ออกจากห้องโถงด้วยความพึงพอใจและเดินไปยังห้องของเซียวอี้

เมื่อมองผ่านหน้าต่าง พวกเขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขากำลังฝึกฝนอย่างจริงจังอยู่ภายในห้อง ซึ่งแตกต่างจากคนเกียจคร้านก่อนหน้านี้ อาจเป็นเพราะหลังจากออกไปเที่ยวเล่นในครั้งนี้ เขาได้เห็นคนรุ่นราวคราวเดียวกันหลายคนที่แข็งแกร่งกว่าเขา นอกจากนี้ เย่ชิวทำให้เขาเกิดแผลในใจอีกด้วย ทำให้เขามุ่งมั่นที่จะแข็งแกร่งขึ้น ดังนั้นเขาจึงเริ่มฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งหลังจากกลับบ้าน

“ฮ่าฮ่า นายหญิง เจ้าเห็นมันไหม ลูกชายของข้าเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ”

อู๋โหยวพยักหน้าในขณะที่นางรู้สึกพึงพอใจ นางก็กังวลว่าเซียวอี้อาจจะมีปัญหาทางจิตใจหากเขาไม่พักผ่อนหลังจากฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน ดังนั้นนางจึงแนะนำว่า “ที่รัก ตั้งแต่อี้เอ๋อกลับมา เขาก็หมกตัวอยู่ในห้องเพื่อฝึกฝนแทบทุกวัน เขาอาจจะบาดเจ็บได้”

เซียวจ้านคิดอยู่ครู่หนึ่งและรู้สึกปวดใจ เขากล่าวว่า “ลืมมันไปเถอะ การบ่มเพาะไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้ในหนึ่งวัน การออกไปเดินเล่นพักผ่อนบ้างก็เป็นประโยชน์เช่นกัน ทำให้จิตใจปรอดโปร่งขึ้น”

ณ จุดนี้ เซียวจ้านผลักประตูเปิดออกมา เมื่อได้ยินเสียงดัง เซียวอี้จึงลืมตาขึ้นทันที

“ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านมาที่นี่ด้วยเหตุใด” เซียวอี้ยืนขึ้นต้อนรับพ่อแม่ของเขาทันที

จริง ๆ แล้วหลังจากที่เขากลับมา เขาได้ครุ่นคิดอยู่หลายเรื่อง มันไม่ใช่เพราะเย่ชิวไปทั้งหมด เมื่อนึกถึงว่าบิดาของเขาทำเพื่อตนเองมากเพียงใดตลอดหลายปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับความรักที่มารดามีให้กับเขา เขารู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นการกตัญญูของเขาจึงไม่ใช่แค่การแสดงเท่านั้น เขากำลังแสดงความรู้สึกที่แท้จริงของเขา

“อี้เอ๋อ การบ่มเพาะก็ต้องมีสมดุลระหว่างการฝึกฝนและการพักผ่อน เจ้าไม่สามารถสุโต่งได้ แม้ว่าเจ้าจะฝึกฝนอย่างหนักที่บ้าน เจ้าควรออกไปข้างนอกเป็นครั้งคราวเพื่อพักผ่อนและชมความรุ่งโรจน์ของอัจฉริยะในโลกนี้เพื่อชดเชยข้อบกพร่องของเจ้าเอง”

หัวใจของเซียวอี้สั่นสะท้าน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินบิดาบอกให้ตนเองออกไปเดินเล่น เมื่อก่อนเขาพยายามอย่างมากที่จะออกไป ทว่าบิดาของเขาปฏิเสธทุกหน ไม่คาดคิดว่าบิดาจะโน้มน้าวให้เขาข้างนอกเอง ดูเหมือนว่าการเปลี่ยนแปลงของเขาจะทำให้บิดาของเขารู้สึกโล่งใจและมีความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเขามากขึ้น

เซียวอี้ยิ้มด้วยความอบอุ่น “ขอรับท่านพ่อ ข้าเข้าใจแล้ว”

“เอาล่ะไปเถอะ ข้าจะให้ผู้อาวุโสซูออกไปกับเจ้า”

เซียวอี้ไม่ได้ปฏิเสธ นับตั้งแต่เขากลับมา เขาก็ไม่กล้าที่จะออกไปไหนเพราะความรู้สึกหวาดกลัวที่มีต่อเย่ชิว ตอนนี้เขาได้รับกำลังใจจากบิดดาแล้ว สิ่งนี้ทำให้เซียวอี้กล้าที่จะออกไปเผชิญโลกอีกครั้ง

ไม่กี่อึดใจต่อมา เซียวอี้ก็เดินออกจากบ้านด้วยเสื้อคลุมผ้าไหมสีแดงพร้อมกับโบกพัดในมือ

ผู้อาวุโสซูเป็นคนเดียวที่อยู่ข้างหลังเขา ขณะที่เดินไปตามถนนของเมืองกวงหลิงเขาก็ไม่ได้ทำตัวหยิ่งยโสเหมือนปกติ แต่กลับเงียบขรึมกว่าเดิมมาก

“ศาลาซุนหยาง” เซียวอี้หยุดอยู่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง

นี่เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองกวงหลิง เจ้าของร้านนี้เป็นยอดฝีมือขอบเขตชีวาเร้นลับขั้นที่ 5 ดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่ที่เหล่าตระกูลใหญ่มาเยี่ยมชม เซียวอี้ก็เคยชอบมาที่นี่เช่นกัน

สุราดอกแพรของศาลาซุนหยางนั้นเลิศรสเป็นอย่างมาก ผู้ที่มาที่นี่ก็มาที่นี่เพื่อร่ำสุราชนิดนี้

“นายน้อย ท่านอยากไปข้างในหรือไม่” ผู้อาวุโสซูอดไม่ได้ที่จะถามเมื่อเห็นว่าเซียวอี้ยืนนิ่งอยู่ที่จุดเดิม

เขาอยู่เคียงข้างเซียวอี้มาหลายปีและรู้สิ่งที่ชื่นชอบของเขาเป็นอย่างดี ไม่มีอะไรมากไปกว่าสตรีรูปงามและสุราชั้นเลิศ ทว่าตอนนี้เซียวอี้ไม่กล้าคิดถึงสตรีอีกต่อไป เหลือเพียงแต่สุราชั้นเลิศเท่านั้น

“อืม… ไปข้างในกันเถอะ” เซียวอี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง อย่างไรก็ตาม เขาไม่เชื่อว่าตนเองจะโชคร้ายถึงขั้นพบกับเย่ชิวในงานร้านอาหาร

ทันทีที่เขาเข้ามาเสี่ยวก็ออกมาต้อนรับเขา

“เสี่ยวเอ้อ จัดที่นั่งชั้นสองให้ข้า”

“เอาล่ะ นายน้อยเซี่ยว โปรดขึ้นไปข้างบน”

ด้วยการนำทางจากเสี่ยวเอ้อ เซียวอี้เดินขึ้นชั้นบนอย่างมั่นใจ

“นายน้อยเซียว ท่านไม่ได้มาที่นี่นานแล้ว ที่นั่งส่วนตัวของท่านได้ถูกจองไปแล้ว” เสี่ยวเอ้ออธิบาย

เซียวอี้กล่าวอย่างบูดบึ้ง “ใครกันที่กล้าขโมยที่นั่งของข้าไป”

เซียวอี้เดินขึ้นไปชั้นบนอย่างมั่นใจและเดินไปยังที่นั่งส่วนตัวของเขา เขาเปิดผ้าม่านออกและมองเข้าไปข้างใน เมื่อเขาเห็นสตรีสวยสามคนกำลังหยอกล้อเล่นกันอยู่ในนั้น มุมปากของเขาก็กระตุกและรีบหันกลับมาทันที

เสี่ยวเอ้อกำลังจะอธิบายให้เขาฟังทว่าเซียวอี้รีบลงมาชั้นล่างโดยไม่คาดคิด

ผู้อาวุโสซูงงงวย “นายน้อย เกิดอะไรขึ้น”

“ไปกันเถอะ เจ้าบัดซบนั่นก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน” เซียวอี้รู้สึกหวาดกลัวและรีบกล่าวออกมา เมื่อผู้อาวุโสซูได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของเขาก็ซีดลงในทันที

แน่นอนว่าเขารู้ว่าผู้ที่เซียวอี้พูดถึงคือใคร ทั้งสองจึงรีบจากไปโดยไม่รีรอ

ฉับพลัน เสียงอันเย็นชาก็ดังมาจากหน้าต่างบนชั้นสอง “นั่นไม่ใช่นายน้อยเซียวหรอกหรือ เหตุใดเจ้าถึงวิ่งหนีทันทีที่เจ้าเห็นข้าหรือ”

เซียวอี้ตัวแข็งทันทีหลังจากได้ยินเสียงนี้

นั่นคือนาง บัดซบ

ใครกันที่บอกให้ข้าออกไปเที่ยวเล่นในวันนี้ เหตุใดถึงต้องเป็นเวลานี้ เหตุใดข้าถึงโชคร้ายยิ่งนัก

ข้าเก็บตัวอยู่บ้านนานหลายวัน วันนี้ข้ายังได้พบกับเจ้าอีกหรือ

เซียวอี้รู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมา เสียงอันเย็นชานั้นไม่ได้เป็นของใครอื่นนอกจากหลินชิงจู้

เซียวอี้ไม่สามารถหนีไปได้เมื่อเขาได้ยินเสียงเรียกของหลินชิงจู้ เขาทำได้เพียงฝืนยิ้มและเงยหน้าขึ้นมอง “ฮ่าฮ่า เทพธิดา ไม่เจอกันนานเลย ไม่คาดคิดว่าท่านจะอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน”

หลินชิงจู้ยิ้มอย่างขี้เล่นและกล่าวว่า “เหตุใดนายน้อยเซียวถึงรีบร้อน เจ้ากำลังจะไปที่ใดหรือ เจ้าคงไม่ได้หลบหน้าพวกเราใช่หรือไม่”

“อย่าพูดเช่นนั้นเลยเทพธิดา ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้านึกขึ้นได้ว่ายังมีเรื่องต้องจัดการอยู่ที่บ้านและต้องกลับไปสะสางให้เสร็จ เหตุใดข้าต้องหลับหน้าท่าน ท่านเข้าใจผิดแล้ว” เซียวอี้กล่าวอย่างรู้สึกผิดในขณะที่เหงื่อเย็นไหลลงมา

เขาไม่รู้ว่าเย่ชิอยู่ที่ไหน แต่เขารู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก หากชายคนนั้นอยู่ที่นี่ ข้าควรทำอย่างไรดี ข้ากำลังจะตายจริง ๆ หรือ ไม่ได้การ ข้ายังหนุ่มแน่น ข้ายังไม่อยากตาย

ในหน้าต่างเผยให้เห็นสาวงามในชุดแดงอีกคน

“ศิษย์พี่หญิง นี่คือใครหรือ” จ้าวว่านเอ๋อถามด้วยความสงสัย ไม่กี่อึดใจก่อนชายคนนี้ได้พุ่งเข้ามาในที่นั่งส่วนตัวของพวกเขา ในตอนแรกนางคิดว่าหยางเสี่ยวได้ไปเรียกคนมาแก้แค้นพวกเขาแล้ว

หลินชิงจู้อยากจะหัวเราะออกมาเมื่อพูดถึงเซียวอี้และอธิบายให้จ้าวว่านเอ๋อฟังว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้

หลังจากรู้เรื่องนี้ จ้าวว่านเอ๋อก็ยิ้มออกมาเช่นกัน นางไม่คาดคิดมาก่อนว่าอาจารย์ของนางจะมีด้านที่เจ้าเล่ห์เช่นนี้ นายน้อยเซียวผู้น่าสงสารรู้สึกบอบช้ำและพยายามวิ่งหนีทันทีที่เห็นพวกเขา

หลินชิงจู้มองไปยังเซียวอี้ที่อยู่ด้านล่างและรู้สึกตลกไม่น้อย ด้วยเหตุนี้นางจึงอยากแกล้งเขา “นายน้อยเซียว ในเมื่อเจ้าไม่ได้หลบหน้าเรา เหตุใดเจ้าไม่ขึ้นมานั่งเสียที”

“เอ่อ… มันคงไม่เหมาะสมนัก” เซียวอี้มองไปรอบ ๆ เขาต้องการยืนยันว่าเย่ชิวอยู่ที่นี่หรือไม่ เขาไม่กล้าที่จะล่วงเกินหลินชิงจู้ แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีความกล้าหาญถึงสิบเท่าก็ตาม

ในขณะนี้ ผู้อาวุโสซูแนะนำ “นายน้อย ข้าคิดว่าเราสามารถขึ้นไปนั่งได้ สตรีคนนี้เป็นศิษย์ของเย่เจินเหริน หากเราเป็นสหายกับนางได้ เราอาจจะคลายความสัมพันธ์ลงได้”

“อืม” ทันทีที่เขาพูดเช่นนั้น นายน้อยเซียวก็รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลแล้ว เหตุใดข้าไม่คิดเรื่องนั้น

“อะแฮ่ม… ในเมื่อท่านไม่ว่าอะไร ข้าก็จะไม่คิดมาก” เซียวอี้เผยรอยยิ้มอย่างมั่นใจและเดินขึ้นชั้นบนอีกครั้ง

สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คืออีกด้านหนึ่งของร้านอาหาร มีชายชุดดำหลายคนกำลังเฝ้าดูสถานที่แห่งนี้อยู่

ชายร่างกำยำคนหนึ่งพูดว่า “รีบรายงานนายน้อยเร็วเข้า สตรีทั้งสามคนนี้เกี่ยวข้องกับเซียวอี้”

5 3 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด