ตอนที่แล้วตอนที่ 36 เผชิญหน้ากับจักรพรรดินี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 38 ทดสอบพรสวรรค์

ตอนที่ 37 มื้ออาหาร


ในห้องอาหาร

สาวใช้หลายคนนำกองอาหารมาเสิร์ฟบนโต๊ะเงียบๆ

ถาดหยกเต็มไปด้วยอาหารอันโอชะที่ส่งกลิ่นหอมจนพลังปราณพลุ่งพล่าน

ซูสือนั่งข้าวงอวิ๋นฉีหลัว

เรียกได้ว่าใกล้ชิดมาก

เขาดูสงบ แต่ในใจเต้นกระหน่ำ

เขาคิดว่าจักรพรรดินีมารเรียกเขามาเพื่อคุยเรื่องภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ แต่กลายเป็นว่านางไม่พูดอะไร

ในความเป็นจริง นางสนใจ'มะระหวาน'ในอดีตมาก

พอคิดย้อนกลับไปคืนที่หิมะตกหนักกว่าสิบปีก่อน...

ตอนเขาอายุเจ็ดขวบ ซูสือเพิ่งข้ามโลกมาเอง

และตามโครงเรื่อง เขาต้องเข้าร่วมสำนักยักษ์มารขุมนรก

แต่ทว่า ต่อให้เขาไม่ทำอะไร เขาก็จะถูกพาตัวเข้าสำนักเนื่องจากฐานะ'บุตรชายคนแรกของตระกูลซู'

แต่ทว่า ซูสือทึ่งกับความงามของอวิ๋นฉีหลัวจนมอบมะระหวานให้นาง..

เขาคิดว่ามันแค่ฉากดาษดื่น ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยังจดจำถึงวันนี้

นี่สำคัญต่อนางขนาดนั้นเชียว?

ซูสือขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตอนอยู่ในโถงหลัก อวิ๋นฉีหลัวทำตัวแปลกๆ

นางดูเหมือนจะพยายามพิสูจน์ว่าเขายังเป็นเด็กชายที่เคยบอกว่าเขาจะ'ปกป้องนาง'

ซูสือไม่เข้าใจว่านางคิดอะไร

เขาได้แค่พยายามสงบสติและควบคุมตัวเอง ไม่กระตุ้นความโกรธของนาง

แต่ผลลัพธ์คือ เขาเกือบตาย

โชคดี หลังป้อนคำหวาน เขาก็รอดพ้นความตายมาได้

ต่อหน้านาง ผู้ปฏิบัติต่อมนุษย์เหมือนสิ่งสกปรก ความผิดพลาดเล็กน้อยอาจนำไปสู่ความตาย

มีใครต้องการเหตุผลเพื่อเหยียบมด?

ซูสือเข้าใจเหตุผล

แต่นี่ได้กระตุ้นความโกรธของเขา!

เป็นจักรพรรดินีมารแล้วไง?

เกิดเป็นลูกผู้ชายต้องหาญกล้า!

ในเมื่อข้าตัดสินใจจะท้าทายลิขิตสวรรค์แล้ว ข้าก็ต้องใช้ชีวิตอย่างหาญกล้า ข้าจะไปถึงจุดสูงสุดได้ไงถ้าข้ากลัว?

ด้วยความคิดนี้ในหัว จิตใจของซูสือจึงใสขึ้น

เขาหยิบตะเกียบเงินและคีบเนื้อเข้าปาก

เนื้อนุ่มและละลายในปากเขา

มันเปลี่ยนเป็นกระแสพลังปราณที่ไหลเข้าตันเถียนของเขา

ดวงตาของซูสือสว่างวาบ

"อร่อยมาก!"

ไม่เพียงจะอร่อย แต่ยังเพิ่มพลัง!

วัตถุดิบเหล่านี้ล้วนเป็นของหายากในโลก และมีแค่จักรพรรดินีมารถึงนำมาทำเป็นอาหารกินเล่น

แม้สำหรับอวิ๋นฉีหลัว พลังปราณส่วนนี้จะไม่มีค่า

แต่สำหรับเขา มันคือของชั้นดี!

"มากินกัน!"

ซูสือสะบัดตะเกียบและปาดเนื้อเข้ามา

คนใช้ทั้งหลายอึ้ง

ไม่มีใครเคยได้กินข้าวร่วมกับจักรพรรดินีมาก่อน

"แม่ทัพซูผู้นี้ควรเกรงกลัวฝ่าบาทสิ แต่เขากลับกินหน้าตาเฉย?"

"มันราวกับเขามาที่นี่เพื่อกินจริงๆ!"

อวิ๋นฉีหลัวตกตะลึง

มันรู้สึกเหมือนซูสือกลายเป็นคนผ่อนคลาย

พอเห็นว่าเขากินยังไง นางก็อดถามไม่ได้"อร่อยไหม?"

"อร่อย ฝ่าบาทควรลองดูนะ"

ซูสือคีบปลาวางใส่ลงในชามของอวิ๋นฉีหลัว

"เฮือก!"

"ข้ากล้าคีบปลาให้ฝ่าบาท?!"

"และยังใช้ตะเกียบตัวเอง?"!

พวกข้ารับใช้กลัว

แต่ทว่า ฉากต่อมาก็แทบทำให้ขากรรไกรพวกเขาตกถึงพื้น

พวกเขาเห็นอวิ๋นฉีหลัวคีบปลาขึ้นมาก ปากของนางเปิดออกเล็กน้อยและนางก็กัดมัน

"อืม ไม่เลวจริงๆ"

"ถ้าเจ้าชอบมัน ข้าสามารถให้คนทำมันให้เจ้าได้ทุกวัน"

"ขอบคุณ ฝ่าบาท แต่ไม่จำเป็น"

ซูสือส่ายหัว"ความประทับใจตอนชิมอาหารครั้งแรกน่าทึ่งสุด ถ้ากินทุกวัน ต่อให้รสชาติจะดีแค่ไหน มันก็จำเจ"

อวิ๋นฉีหลัวครุ่นคิด"จริง ไม่น่าแปลกที่ข้าให้คนค้นหาทั่วเมืองหนานลี่ แต่ก็ไม่เจอมะระหวานที่อร่อยขนาดนั้น"

".."

ซูสือเกาหัว

ไม่แน่ใจว่าต้องพูดอะไร

อวิ๋นฉีหลัวยิ้ม"แต่อาหารวันนี้ดูเหมือนจะมีรสชาติกว่ากติ ดูเหมือนว่าใครที่เรากินด้วยจะเป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน"

พอเห็นรอยยิ้มของนาง ซูสือก็สับสน

มุมปากนางยกยิ้มเล็กน้อย เหมือนกล้วยไม้เบ่งบาน ดวงตานางชุ่มชื้น ราวกับไข่มุกล้ำค่า

ความงามของนางสดใสจนทำให้ภูเขา แม่น้ำ ดวงอาทิตย์และดาวจันทร์ดูซีดไป

รอยยิ้มของนางมีเสน่ห์ครอบงำเมือง

"ถ้าความงามของผู้หญิงวัดด้วยแสง งั้นความงามของฝ่าบาทก็เหมือนแสงอาทิตย์ และถ้าแสงกินได้ งั้นด้วยฝ่าบาทข้างข้า จะยังต้องการของกินไปทำไม?"

ซูสือเสียใจทันทีที่พูดจบ

ข้าบ้าไปแล้วจริงๆ ข้าพูดจาจีบจักรพรรดินีมาร?

แม้ข้าจะมอบความประทับใจที่ดีให้นาง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าข้าควรรนหาที่ตาย

รอยยิ้มของอวิ๋นฉีหลัวยิ่งกว้าง"ระวังสิ่งที่เจ้าพูดในที่สาธารณะ"

ซูสือรีบพูด"ผู้น้อยปากไว หวังว่าฝ่าบาทจะให้อภัย"

"กินซะ"

"ขอรับ"

"ข้าอยากกินปลานั่นด้วย"

"ขอรับ'

ซูสือคีบปลาอีกชิ้นวางในชามนาง

ครั้งนี้ คนหนึ่งเดินเข้ามาและคุกเข่า"เรียนฝ่าบาท นักบุญตะวันตกมาขอเข้าพบขอรับ"

อวิ๋นฉีหลัวกินปลาราวกับนางไม่ได้ยินอะไร

อีกฝ่ายก้มหัว ไม่กล้าเงยขึ้น

หลังกินปลาเสร็จ นางก็หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาและเช็ดมุมปาก

'ให้เขาเข้ามา"

"ขอรับ'

เขารีบถอยไป

วินาทีต่อมา ชายร่างกำยำก็ก้าวเข้ามา

"ข้า นักบุญตะวันตกเซินไป่หู่น้อมพบฝ่าบาท!"

"หวังว่าฝ่าบาทจะไม่ถือสาที่ข้ามาขัดจังหวะมื้อาหารของท่าน..หือ แม่ทัพซูก็อยู่นี่ด้วย?"

เซินไป่หู่ตัวแข็ง

"น้อมพบท่านนักบุญตะวันตก"

ซูสือเงยหน้า

ชายร่างกำยำด้านหน้าเขาสูงเกือบสองเมตร ด้วยร่างกายแข็งแกร่ง ผมเงินของเขาดูส่องประกาย

เขาเหมือนเสือร้ายบนภูเขา!

อวิ๋นฉีหลัวมองเขา"ไม่ต้องสนใจเขา กินอาหารของเจ้าต่อไป"

"ขอรับ"

ซูสือฝังหัวกับอาหารต่อ

ลำคอของเซินไป่หู่แห้ง รูม่านตาของเขาหดลง

ตัวตนจริงของแม่ทัพซูคืออะไรกัน?

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด