ตอนที่แล้วตอนที่ 13 สังเกตการณ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15 จดหมายของเชียนฮุ่ย

ตอนที่ 14 ยอดฝีมือสู้ระยะประชิด


อาโมรี่ถึงกับตั้งใจฟังเต็มที่

“สวรรค์วิถี เอ่อ..” หน้าของผู้เฒ่าเว่ยดูเหมือนกำลังรำลึกถึงอดีตที่ผ่านมาอย่างเคลิบเคลิ้มแต่ก็ยังอดพูดแต่งเติมระบายสีอย่างกระหยิ่มมิได้“นั่นเป็นสถานที่เต็มไปด้วยโอกาสและอันตรายมาก”

เขาเหลือบมองถังเทียนและอาโมรี่แล้วเปลี่ยนคำพูดว่า “เอาละพวกแกทั้งสองคนยังห่างจากการเรียนรู้เรื่องสวรรค์วิถี ตอนนี้เรามาคุยถึงปัญหาที่แท้จริงให้มากเข้าไว้ดีกว่า”

“ปัญหาที่แท้จริงหรือ?” ถังเทียนเบะปากด้วยความไม่พอใจ “นี่ปู่, คงไม่ได้ตั้งใจหลอกให้เราทำเรื่องไม่ดีอีกใช่ไหม?”

อาโมรี่ทำสีหน้าทึ่ง “ถังพื้นฐาน นายก็มองเห็นแผนการของเขาด้วยใช่ไหม?”

“นั่นปะไร” ถังเทียนตะโกนด้วยสีหน้าภูมิใจ“อยู่ต่อหน้าชาวสวรรค์ ไม่ว่าจะเป็นภูตผีปีศาจก็ต้องแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา ด้วยฐานะหยาบกร้านอย่างนั้นเขาจะยอมเลี้ยงเนื้อย่างเราฟรีๆ เสียเมื่อไหร่? คนที่แสดงความสนใจโดยไม่อาจอธิบายได้มักจะซ่อนเจตนาร้ายไว้เสมอ”

“ใช่แล้ว! เขาต้องมีเจตนาแอบแฝงที่ร้ายกาจแน่นอน” อาโมรี่กล่าวย้ำเสียงสูง

ผู้เฒ่าเว่ย “....”

“อย่าปฏิเสธนะตาเฒ่า!  เห็นว่าท่านเป็นผู้อำนวยการของเราโอว.. แล้วเราจะพูดอะไรได้” ถังเทียนทิ้งท้ายไว้ให้มีความรู้สึกว่า “ฉันรู้”

“ใช่แล้วสวรรค์จะเป็นฝ่ายเสนอราคา และพวกที่อยู่ต่ำกว่าจะต้องชดใช้มูลค่า” อาโมรี่เสริม

“ผู้เฒ่าเว่ยยังคงเงียบจากนั้นตบต้นขาตนเองอย่างแรง”ตามคาดเลยแกทั้งสองคนสมแล้วที่เป็นอัจฉริยะ! ไม่มีอะไรที่สามารถตบตาพวกแกได้ ดีแล้วอย่างนั้นฉันจะบอกพวกแก”

ทั้งสองคนยังคงมองดูผู้เฒ่าเว่ย

ผู้เฒ่าเว่ยรู้สึกกดดันจึงกระแอมเบาๆ “เกี่ยวกับเรื่องนั้น เมื่อสองวันที่แล้วฉันเพิ่งไปตรวจดูคะแนนสะสมของสถาบันเรา และพบว่าเรามีคะแนนสะสมไม่พอ พวกแกก็รู้ ถ้าสถาบันไม่สะสมคะแนนไว้ให้เพียงพอ สถาบันจะถูกยุบ โอว, และนี่เกือบจะได้เวลาชุมนุมวิทยายุทธเมืองซิงฟงแล้ว ถ้าพวกแกทั้งสองเข้าร่วมงานนี้และสร้างผลงานได้โดดเด่น อย่างนั้นคะแนนของสถาบันก็จะมีพอ ในฐานะผู้มีพรสวรรค์ของสถาบัน พวกแกทั้งคู่คงจะไม่ยอมมองดูสถาบันล่มสลายหรอกนะ?”

“ทนดูไหวไหม?” จู่ๆ ถังเทียนหันไปถามอาโมรี่

อาโมรี่งุนงง “ทำไมจะไม่ได้เล่า?”

ถังเทียนหันกลับไป ตอบอย่างจริงจัง “ผมก็ทนดูได้เหมือนกัน”

ผู้เฒ่าเว่ยชะงักจากนั้นก็เต้นผางอย่างโมโห“ในฐานะที่เป็นนักเรียนสถาบันเรา พวกแกจะยืนดูอยู่เฉยๆได้ยังไง? พวกแกเลือดเย็นกันหมดทุกคนเหรอ? ยังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า? แก..”

ทั้งสองคนนั่งราบกับพื้น เบิ่งตากว้างมองดูผู้เฒ่าเว่ยอย่างใสซื่อ

วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผล ผู้เฒ่าเว่ยกัดฟัน“พูดมา พวกแกต้องการเงื่อนไขอะไร?”

“เจ้าวัวบ้าน! มาตรงนี้!”  ถังเทียนกวักมือเรียกทำตัวเหมือนเป็นลูกพี่

นัยน์ตาของอาโมรี่สีทองแดงเป็นประกาย เขาชี้นิ้วที่หยาบหนาเหมือนฝักแคร็อทกล่าว“มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำคะแนนกันตอนนี้ นักเรียนทุกคนในเมืองซิงฟงมีสิทธิ์เข้าร่วมงานชุมนุมครั้งนี้ โอว ..พอนึกถึงขั้นตอนที่โหดเอาเรื่องทำให้ขนหัวลุกได้เชียวเราจะต้องสู้กับคนอีกกี่คน...”

เขาพล่ามไม่หยุดจนน้ำลายแตกฟอง

บลา บลา บลา, อาโมรี่พูดไม่หยุดเป็นเวลาสามนาทีก่อนจะหยุดพูด

ผู้เฒ่าเว่ยยิ้มกว้างแล้วถาม “จบแล้วใช่ไหม?”

อาโมรี่กับถังเทียนมองหน้ากันเองรู้สึกมีลางสังหรณ์ในใจ

ผู้เฒ่าเว่ยยกมือข้างหนึ่งและโพล่งออกมา “ฉันลืมบอกไป ฉันส่งชื่อพวกแกให้เข้าร่วมงานนี้ไปแล้ว”

ถังเทียน “....”

อาโมรี่ “.....”

คงเป็นความจริงที่ว่าคนมีชนักไม่มีทางเอาชนะคนโกงได้

พอไม่สามารถเรียกร้องผลประโยชน์ได้ ถังเทียนและอาโมรี่รู้สึกผิดหวัง

“ฝึกฝนวิชาพลังภายในระดับสาม เจ้าเด็กโง่ พวกแกคิดว่าไงบ้าง?” ผู้เฒ่าเว่ยมองดูถังเทียนแล้วเสริมว่า“พลังที่แท้จริงของแกอยู่ในระดับสองแล้ว และว่ากันตามเหตุผลก็สมควรฝึกระดับสามให้เร็วที่สุด”

“วิชาพลังภายในระดับสามเหรอ? ปู่พูดอะไร?” ถังเทียนถาม

“แกถามถูกคนแล้ว” ผู้เฒ่าเว่ยมองดูราวกับว่ามีเรื่องจะสอนมากมาย “เมื่อสู่ระดับสาม นอกจากฝึกพลังภายในแล้ว แกจำเป็นต้องมีแนวทางพัฒนาฝึกฝนที่ชัดเจน ความโลภมีแต่จะทำให้พลังงานของแกกระจัดกระจายไปทำให้แกเหมือนไม่ได้ทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน”

ถังเทียนสะดุ้ง กล่าวว่า “นั่นฟังแล้วมีเหตุผลทีเดียว”

“พูดตรงๆ นะ แกใช้เวลามากเกินไปในการฝึกทักษะต่อสู้ขั้นพื้นฐานแกพลาดช่วงเวลาทองไปแล้ว” ผู้เฒ่าเว่ยมองดูจริงจัง “คนๆ หนึ่งช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดก็คือห้าปีแรกอายุสิบสองถึงสิบเจ็ดปี และภายในห้าปีนี้แกมัวแต่ใช้เวลาไปกับการฝึกพื้นฐาน หลายๆ คนคิดว่าแกกำลังเสียเวลา แต่ฉันคิดว่ามันทำให้แกได้เปรียบ”

“โอว, ถูกใจ... พูดมาอีก เร็วเข้า” ถังเทียนรู้สึกใจฟู หลังจากผ่านมาหลายปี เมื่อทุกคนพูดเรื่องเขา พวกเขารู้สึกเสียใจกับถังเทียนและไม่เข้าใจชะตากรรมของเขา เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินคนบอกว่าเป็นข้อได้เปรียบของเขา

“แกใช้เวลาห้าปีกับการฝึกฝนการต่อสู้ระดับพื้นฐาน พื้นฐานของแกจึงแข็งแกร่งและสมบูรณ์มาก นี่จะช่วยเรื่องอนาคตในการฝึกฝนเคล็ดวิชาต่อสู้ของแก  เมื่อแกฝึกฝนวิชาต่อสู้แขนงอื่น ก็จะเชี่ยวชาญวิชานั้นๆ ได้ง่าย ตราบใดที่แกยังสามารถอดกลั้นได้  เวลาที่แกสูญเสียไปจะกลับคืนมาเสมอ  เด็กน้อย!  ฉันเห็นศักยภาพของแก”

ถังเทียนพยักหน้าโดยไม่มีการถ่อมตัวแม้แต่น้อย “ฮ่าฮ่าฮ่า, ปู่, ปู่พูดถูกใจยิ่งนัก”

“ฮ่าฮ่า!” ผู้เฒ่าเว่ยหัวเราะ “เส้นทางชีวิตของแกถูกลิขิตว่าต้องยากลำบาก  แกต้องเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้”

ถังเทียนส่ายหน้าโดยไม่จริงจังนัก “เส้นทางที่ยากลำบากไม่มีอะไรเลยสำหรับชาวสวรรค์อย่างฉัน”

“แกต้องมีความทะเยอทะยาน! ฉันชอบเด็กหนุ่มที่มีความทะเยอทะยาน!”  ผู้เฒ่าเว่ยกล่าว“พูดถึงเรื่องแนวทางฝึกฝนพัฒนาของแก สภาพร่างกายของแกนับว่าโดดเด่น พื้นฐานของแกก็แข็งแกร่ง มีปฏิกิริยาที่ว่องไว และแกมีพลังแล้วก็ห้าวด้วย  ทั้งหมดนี้คือข้อได้เปรียบของแก  รู้ไหมว่าทั้งหมดนี้เหมาะกับอะไร?”

ถังเทียนยื่นหน้า และรีบถามทันที “เหมาะกับอะไร?”

“ต่อสู้ระยะประชิด!” ผู้เฒ่าเว่ยกล่าวคำเหล่านี้ต่อ “สู้ระยะประชิดจำเป็นต้องมีคุณสมบัติทางร่างกายที่ดี มีปฏิกิริยาที่ไวมากมีพลังห้าวหาญ จิตใจไร้ความกลัว และสุดท้าย ไม่ต้องคาดหวังมากและมีพื้นฐานการต่อสู้ที่เชื่อถือได้  เป็นไง? เด็กน้อย สนใจไหม?เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิดฟังดูเป็นลูกผู้ชายดี”

ตาของถังเทียนเป็นประกายและพยักหน้า “ผมชอบ ผมชอบสู้มากที่สุด! ปู่! ผมบอกไม่ได้ แต่ปู่จัดเจนเรื่องนี้”

“เฮ้, เฮ้, รอให้แกโตก่อน, โอ โอแฟนของแกคงชอบชื่อนี้แน่” ผู้เฒ่าเว่ยพูดดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา

“เชียนฮุ่ยก็ชอบเหมือนกันเหรอ?” ตาของถังเทียนเป็นประกาย

“โอว, แน่นอน” ผู้เฒ่าเว่ยเกือบสำลักน้ำลาย เขาไอแล้วกล่าวต่อ “อย่างไรก็ตาม ระยะห่างของแกกับการเป็นยอดฝีมือสู้ระยะประชิดยังอยู่ไกลมาก  เพื่อจะกลายเป็นยอดฝีมือสู้ระยะประชิด นอกจากเตรียมการที่มีลักษณะเฉพาะแล้วแกจำเป็นต้องได้คู่ต่อสู้ระยะประชิดที่ไวพอ ถ้าวิชาตัวเบาของแกไม่ดีพอ แกจะตายได้”

“ถูกแล้ว” ถังเทียนกระแทกตัวลงพื้นดังปัง “จำเป็นต้องฝึกวิชาตัวเบาด้วย”

“แกจำเป็นต้องเตรียมตัวใช้ทักษะมือเปล่าทั้งหมด จำไว้ว่าแกคือยอดฝีมือสู้ระยะประชิดไม่ใช่ปรมาจารย์หมัดมวย หมัด, ฝ่ามือ,ดรรชนีและข้อต่อทั้งหมดจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝน แกต้องมั่นใจว่าเมื่อแกดึงคู่ต่อสู้มาอยู่ในระยะใกล้พอ แกต้องมีวิธีฆ่าคู่ต่อสู้อย่างว่องไว”

“ค่อยสมเหตุผล! ผมต้องการเรียนทุกอย่าง”

“แกต้องพัฒนาความเร็วปฏิกิริยาโต้ตอบ ต้องใช้เวลาตอบสนองน้อยแต่ต้องแม่นยำมากขึ้นเมื่อแกจู่โจม

“ถูกต้องที่สุด!นั่นต้องปรับปรุงให้ดี”

ผู้เฒ่าเว่ยยังคงพูดต่อไป “ถ้าแกสามารถทำทั้งหมดนี้ได้ อย่างนั้นแกก็มีคุณสมบัติ พอจะเป็นยอดฝีมือสู้ระยะประชิด

อาโมรี่ยกมือทั้งสอง “ฉันต้องการเป็นยอดฝีมือสู้ระยะประชิดด้วยเหมือนกัน”

ผู้เฒ่าเว่ยไม่สนใจเขา

ถังเทียนไม่ส่งเสียง แต่มองดูผู้เฒ่าเว่ยด้วยท่าทีแปลกๆ

ผู้เฒ่าเว่ยรู้สึกอึดอัดที่ถูกถังเทียนจ้องหน้า.. จนรู้สึกสงสัยว่า“หน้าฉันมีอะไร?”

“มีคุณสมบัติเหรอ? โดดเด่นเหรอ? ฉันต้องการเป็นเหมือนชาวสวรรค์ยอดฝีมือต่อสู้ระยะประชิด” ถังเทียนพูดเหมือนกับเป็นเรื่องที่แน่นอน  แต่ไม่นานก็รู้สึกไม่สบายใจ “ปู่, จริงแล้วปู่ดูถูกฉัน! ฮึ ฮึ่ม ฉันมันน่าเชื่อถือน้อยนี่นา”

ผู้เฒ่าเว่ยตอบพลางหัวเราะ “ฉันเห็นความทะเยอทะยานของแก แต่จะมีคุณสมบัติเป็นยอดฝีมือสู้ระยะประชิดได้  แกต้องอดทนทรมานมากสักหน่อย”

“ฉันไม่กลัวลำบากทรมาน” ถังเทียนสั่นศีรษะและพูดจริงจัง

“โอว” ประกายในดวงตาของผู้เฒ่าเว่ยจางหาย “หึหึกลับไปฝึกวิชาพลังภายในให้ได้เสียก่อน เนื่องจากแกเลือกจะเป็นยอดฝีมือต่อสู้ระยะประชิด  ฉันมีการ์ดวิญญาณวิชาบ่มเพาะพลังภายในที่น่าทึ่ง  แต่วิชาบ่มเพาะพลังภายในนี้ไม่ง่ายจะฝึกฝนเลย”

“น่ากลัวเหรอ?” ถังเทียนถามด้วยความสงสัย

“มากเชียวล่ะ” ผู้เฒ่าเว่ยพยักหน้า

“งั้นก็น่าจะทำได้!” ถังเทียนนัยตาเป็นประกาย

“เป็นวิชาที่ยากมาก” ผู้เฒ่าเว่ยเตือน

“อย่าดูถูกฉันนะ!” ถังเทียนเบิกตากว้าง

“หึ หึ, มีความทะเยอทะยานดีนี่เจ้าหนู!” ผู้เฒ่าเว่ยหัวเราะและล้วงการ์ดวิญญาณออกมา“ฉันหวังว่าแกจะไม่ลังเลกับการ์ดวิญญาณนี้”

ถังเทียนจ้องดูการ์ดวิญญาณถึงกับยืนตะลึง “การ์ดวิญญาณชั้นเงิน?”

การ์ดวิญญาณชั้นเงินส่องประกาย บนการ์ดมีเงาร่างขาวอยู่ในท่านั่ง การ์ดให้ความรู้สึกเย็นและหนักมือ ถังเทียนไม่เคยคิดว่าผู้เฒ่าเว่ยจะมอบการ์ดวิญญาณชั้นเงินให้เขา

ราคาของการ์ดวิญญาณชั้นเงินสำหรับฝึกวิชาพลังภายในระดับสามเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยนึกฝันมาก่อน

“โห! ปู่, ปู่ไม่เคยบอกเลยว่ามีการ์ดวิญญาณชั้นเงินอยู่ใบหนึ่งเลยนี่?” อาโมรี่อึ้งเหมือนกับว่าเขาพบเส้นทางใหม่“ปู่เจ้าเล่ห์จริงๆ เลยนะ! แต่ว่าไหนๆ ก็ให้ถังเทียนไปแล้ว ฉันจะได้ไม่ต้องต่อฝีมือให้นายอีก, ถังพื้นฐาน! มันยอดเยี่ยมเลยนะ รีบๆ เริ่มฝึกกันได้แล้ว”

แต่ผู้เฒ่าเว่ยและอาโมรี่กลับคาดไม่ถึงเมื่อถังเทียนส่ายหน้าและคืนการ์ดวิญญาณให้ผู้เฒ่าเว่ย “ฉันไม่ต้องการ...”

“แกไม่ต้องการเหรอ?” ผู้เฒ่าเว่ยงุนงง“ทำไมล่ะ?”

“มันแพงเกินไป” ถังเทียนเงยหน้ามองและกล่าว“การ์ดนี่แพงเกินไป ฉันรับไว้ไม่ได้”

ผู้เฒ่าเว่ยรู้สึกทึ่งมองดูถังเทียนแล้วหัวเราะ“ฉันไม่ได้ให้การ์ดวิญญาณชั้นเงินแกฟรีๆ หรอกนะ ฉันมีเรื่องขอร้องแกด้วย ถ้าแกไม่สามารถเป็นยอดฝีมือต่อสู้ระยะประชิดได้ อย่างนั้นงานของฉันก็ไม่มีความหวังอะไร โอว, แกไม่กล้ารับไว้ เพราะแกไม่มีความมั่นใจในตัวเองใช่หรือเปล่า?”

ถังเทียนจ้องผู้เฒ่าเว่ยอย่างขุ่นเคือง “ปู่ว่าใครไม่กล้ารับ? ใครไม่มีความมั่นใจ?”

ถังเทียนตบพื้นแล้วฉกการ์ดวิญญาณมาจากเขากล่าวจริงจังว่า“ฉันรู้ว่าปู่ทำอย่างนี้เพื่อฉัน, ท่านผู้เฒ่า ฉันจะเป็นยอดฝีมือด้านสู้ประชิดตัวให้ได้ ไม่ว่าจะต้องทำยังไงก็ตาม  ฉันจะทุ่มเทสุดกำลัง  ปู่มีอะไรจะขออีกไหม?”

ผู้เฒ่าเว่ยหัวเราะ “บอกแกไปตอนนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ รอจนกว่าแกจะเป็นยอดฝีมือด้านสู้ประชิดตัวเสียก่อน ตอนนั้นค่อยบอกแกก็ได้”

“ดี!” ถังเทียนพยักหน้าและแบมือ

“จะทำอะไร?” ผู้เฒ่าเว่ยสับสน

“เราจะตบมือทำข้อปฏิญาณไงเล่า! ว้า!ปู่นี่ ทำตัวเป็นพวกหัวโบราณไปได้!”ถังเทียนบ่นอย่างไม่เกรงใจ

“เด็กน้อยเสียคนอย่างแกไม่เรียนรู้เรื่องนี้ไว้จากผู้ใหญ่บ้าง  แกจะรู้อะไรเรื่องตบมือทำข้อปฏิญาณ?” ผู้เฒ่าเว่ยเถียงดูถูกไม่เลิกรา

“เหลวไหล!”  ถังเทียนดูอารมณ์เสีย“ปู่ดูถูกฉันอยู่นะ ฉันยังตบมือทำสัญญากับเชียนฮุ่ยอย่างนี้เลย”

แปะ!

หนึ่งชราหนึ่งเยาว์วัยสัมผัสมือกันอย่างหนักหน่วง

“ดี!”  ถังเทียนมั่นใจ

“เจ้าเด็กใจแตกนี้มั่นใจลูกไม้ของตัวเองเสียเหลือเกินนะ” ผู้เฒ่าเว่ยพึมพำ

“ฉันเอาด้วย! ฉันเอาด้วย!” อาโมรี่เบียดตัวและยื่นมือออกมาแต่ไม่มีใครสนใจเขา

“โอว,ตอนนี้เรามาพูดเรื่องการ์ดวิญญาณนี้กัน” จู่ๆ ผู้เฒ่าเว่ยก็พูดเสียเข้มขึ้นมา“ฉันได้รับการ์ดนี้มานานแล้ว แต่ฉันผ่านวิทยายุทธระดับสามมานานแล้ว ดังนั้นจึงเก็บการ์ดนี้ไว้กับตัวเสมอ การ์ดวิญญาณนี้รู้จักกันในนามว่า คัมภีร์ลมปราณกระเรียนและนี่คือการ์ดวิญญาณสำหรับฝึกฝนพลังภายในโบราณ

“การ์ดวิญญาณโบราณ?”

ถังเทียนและอาโมรี่มีสีหน้าตื่นเต้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด