ตอนที่แล้วตอนที่ 9 การ์ดพลังวิญญาณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11 การฝึกหนักและตระกูลโจว

ตอนที่ 10 ย้ายโรงเรียน


แรงลมที่เกิดจากพลังหมัดมีแรงอัดรุนแรง ถังเทียนตั้งใจออกหมัดทั้งสองอย่างต่อเนื่อง ตัวเขาชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อและเหงื่อเม็ดโป้งไหลย้อยลงมาตามหน้าถึงคางและหยดลงบนพื้นคอนกรีตสีดำใต้เท้าเขา

บางคราในระหว่างนั้น หมัดจะหายวับไปทันที

ทุกครั้งที่เหตุนี้เกิดขึ้นตัวเลขที่ประตูจะวิ่งขึ้นทันที ถังเทียนยังคงฝึกวิชาใหม่นี้ออกหมัดสักสิบหมัดจะมีอยู่หมัดเดียวที่เป็นหมัดประกายไฟ

การ์ดวิญญาณชนิดบรอนซ์จะสถิตอยู่ในร่างเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เป็นไปไม่ได้ที่ร่างกายจะเข้าใจท่วงท่าเคลื่อนไหวเหล่านั้นในช่วงเวลาเล็กน้อยเพียงนั้น เพราะเหตุนั้น ราคาของการ์ดวิญญาณชนิดเงินจึงมีราคาแพงกว่าการ์ดวิญญาณชนิดบรอนซ์มาก

อย่างไรก็ตาม ถังเทียนไม่ใส่ใจ ตราบใดที่เขาเป็นเจ้าของการ์ดวิญญาณได้สักใบเขาก็พอใจมากแล้ว

เขายังไม่คุ้นเคยกับความเคลื่อนไหวของหมัด ออกหมัดไปสิบครั้งจะมีความสำเร็จได้สักครั้ง เขาไม่สนใจปัญหาเช่นนี้แม้แต่น้อย นี่ไม่มีทางเทียบได้กับห้าปีที่เขาฝึกฝนวิทยายุทธขั้นพื้นฐานได้

ถ้าเขายังไม่คุ้นเคย อย่างนั้นเขาควรฝึกให้หนักขึ้น การ์ดวิญญาณชนิดบรอนซ์ ไม่ได้ให้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งแต่อย่างใด ดังนั้นเขาจึงค้นพบด้วยตนเอง

เขาเองก็รักการฝึกฝนมากอยู่แล้ว หลังจากใช้เวลาห้าปี ในที่สุดเขาสามารถฝึกวิทยายุทธระดับสองได้ พลังงานที่เขาสะสมอยู่ในใจเพียงพอจะระเบิดโลกได้ทั้งใบ

สำหรับการฝึกซ้ำ 200,000 รอบจำเป็นต้องทำให้ได้เพื่อเชี่ยวชาญในวิธีใช้

เพื่อให้ได้เคล็ดสังหาร

เพื่อเชียนฮุ่ย

เพื่อแม่ของเรา

เพื่อตัวเราเอง

เขารู้สึกว่าเขามีพลังงานในร่างกายไม่หมดสิ้นและว่าสภาพร่างกายในปัจจุบันของเขาไม่เคยดีกว่านี้เลย เขาชอบใช้ชีวิตแนวนี้สามารถกู่ก้องประกาศเป้าหมายในใจและเขาสามารถเอียงกายปาดเหงื่อได้ภายใต้ดวงตะวันนี้

เป้าหมายความทะเยอทะยานเหล่านั้นไม่ยั่งยืนเหมือนดวงดาวในท้องฟ้าจึงไม่สามารถบรรลุได้ มันห่างไกลมาก

ถ้าเขาไม่ยินดีอาบเหงื่อ ฝันของเขาก็คงไม่มีอะไร เป็นได้แต่ความฝันเท่านั้น

เขายังไม่ได้นอนสักครั้งตั้งแต่เขาพบว่าเขาไม่จำเป็นต้องกินขณะที่อยู่ภายในมิติหลังประตูดาวกางเขนใต้ ถ้าไม่นั่งสมาธิ อย่างนั้นเขาจะฝึกวิชาหมัดประกายไฟเขาปล่อยหมัดประกายไฟได้เกินกว่า 768 ครั้ง

เมื่อเทียบกับ 200,000 ครั้ง 768หมัดดูเหมือนเป็นความลำบากเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ถังเทียนยังคงทู่ซี้ฝึกต่อไป เขารู้ว่าการเริ่มต้นมักจะเป็นส่วนที่ยากที่สุด แต่ทันทีที่ผ่านจุดนั้นไปได้ โอกาสที่จะทำได้สำเร็จจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

เป็นเวลาห้าวันติดต่อกัน ถังเทียนยังหมกมุ่นอยู่กับการฝึกฝีมือ

จำนวนตัวเลขที่ปล่อยหมัดประกายไฟได้สำเร็จเริ่มเพิ่มขึ้นรวดเร็วมาก ก่อนหน้านี้ พอออกหมัดสิบหมัดจะทำสำเร็จได้เพียงหนึ่งหมัด แต่เดี๋ยวนี้ เขาทำสำเร็จได้ถึงสามในสิบหมัด

ตัวเลขบนประตูเพิ่มจำนวนมากขึ้น และช่วงที่ตัวเลขเพิ่มขึ้นก็มากขึ้นเช่นกัน

เขาหอบหายใจหนักหน่วงและเหงื่อไหลพร่างพรูความเหนื่อยล้าเริ่มคืบคลานเข้ามา เขาคุกเข่าลงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดงปูดโปน เขาจ้องดูพื้นและดวงตาเขาค่อยๆ เริ่มเห็นแสงสว่าง

เขายิ้ม แม้เขาจะรู้สึกว่าเรี่ยวแรงเหือดแห้งแต่ยังรู้สึกสดใสเหมือนตะวันทอแสง

เขาออกหมัดประกายไฟสำเร็จถึง 8,000 หมัดแล้ว

เขานั่งขัดสมาธิ หลับตา ขณะที่ฝึกเดินปราณลับ ภายในประตูดาวกางเขนใต้ มีพลังงานเหลือเฟือ การฝึกพลังภายในด้วยจะเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนทั่วไป ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ชัดถึงพลังงานทุกส่วนสัด ปราณบ่มเพาะลับที่ไหลเวียน ลอยอยู่รอบๆ ตัวเขาเหมือนแมงเม่าที่ถูกแสงไฟดึงดูดเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว

พลังงานที่ลอยอยู่นี้ทะลุเข้ามาในร่างของถังเทียน ไหลเวียนไปพร้อมกับปราณบ่มเพราะทันทีที่มันมาถึงจุดตันเถียนของเขา (ต่ำกว่าสะดือสองนิ้ว) ก็เป็นพลังรวมสะสมอยู่ตรงแอ่งตันเถียนนั้น

มีแอ่งอยู่สองแห่ง ในจุดตันเถียนของถังเทียน แอ่งหนึ่งอยู่บน อีกแอ่งหนึ่งอยู่ล่าง แอ่งที่อยู่บนคือแอ่งตันเถียนชั้นที่สอง และแอ่งที่ต่ำกว่าเป็นแอ่งตันเถียนชั้นที่หนึ่ง

เมื่อพลังที่แท้จริงเข้าสู่จุดตันเถียน ร่างกายจะสร้างแอ่งตันเถียนใหม่ทุกครั้ง และจะเติมเต็มแอ่งปัจจุบัน แอ่งตันเถียนจะสร้างซ้อนอยู่บนตันเถียนเดิมมองดูเหมือนขั้นบันได

ตามตำนานกล่าวว่า ถ้ายังฝึกไม่ถึงระดับ พลังที่แท้จริงจะซึมเข้าไปในแอ่งตันเถียนและมีอิทธิพลต่อแอ่งตันเถียนเหล่านั้นตามระดับชั้นจนถึงเส้นลมปราณตรงระหว่างคิ้วของคนทำให้เขามีชีวิตนิรันดร์

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงข่าวลือยังห่างไกลมาก ไม่มีใครที่ฝึกฝนได้จนถึงระดับนั้น ก็แค่ยังไม่มีวิธีไปถึงจุดสิ้นสุดวิถีสวรรค์ได้

พลังงานเช่นนั้นในตัว เปลี่ยนเป็นพลังแท้จริงและเข้าไปเก็บกักไว้ในตันเถียน การชำระครั้งแล้วครั้งเล่าก็จะไปสะสมไว้ในแอ่งตันเถียนที่สอง

แอ่งตันเถียนชั้นที่สองจะถูกเติมเต็มทีละนิด

กระบวนการนี้ช้าและน่าเบื่อหน่ายไม่น้อย ต้องอดทนต่อการทดสอบ ขณะที่พลังงานค่อยๆ เปลี่ยนเป็นพลังที่แท้จริงร่างที่ได้รับสารอาหารก็จะฟื้นคืนสภาพ

จอมยุทธผู้ร่ำรวยจะใช้หินดาราเพื่อฝึกฝนพลังที่แท้จริง หินดาราจะมีมวลพลังที่บริสุทธิ์มากหลังจากดูดซับพลังงานที่บริสุทธิ์แล้ว ผู้ฝึกฝนสามารถเปลี่ยนพลังงานให้เป็นพลังภายในที่แท้จริงได้ช่วยลดเวลาฝึกฝนลงได้มาก

อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยราคาของหินดารานั่นเอง จึงไม่ใช่วิธีที่คนธรรมดาจะใช้ได้

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป

แอ่งตันเถียนชั้นที่สองของถังเทียนเต็มไปด้วยพลังภายในที่แท้จริง แต่ถังเทียนสังเกตว่ายังไม่มีสัญญาณของการพองตัว เขารู้สึกมีแรงจูงใจและยังคงฝึกจิตเพื่อดึงพลังงานมาสร้างเป็นพลังแท้จริง โคจรผ่านเส้นลมปราณไหลเข้าตันเถียนจากนั้นจึงเข้าไปสะสมในแอ่งตันเถียนชั้นที่สอง

ทันใดนั้น ร่างของถังเทียนสั่นและเขาดูมีความสุข

เขารู้สึกได้ถึงพลังแท้จริงของตันเถียน เหมือนกับว่าสัมผัสกำแพงที่มองไม่เห็น

สำเร็จแล้ว

แอ่งตันเถียนระดับสองทำได้สำเร็จแล้ว

ชั้นม่านพลังขวางที่มองไม่เห็นรู้จักกันในนามว่ากำแพงสมบูรณ์แบบ เบื้องหลังเป็นกำแพงที่มองไม่เห็นขวางแอ่งตันเถียนระดับที่สาม  เมื่อมีผู้สัมผัสได้ถึงกำแพงที่สมบูรณ์แบบ ก็หมายความว่าการบ่มเพาะพลังที่แท้จริงในแอ่งพลังนั้นทำได้สมบูรณ์แบบ

ขณะนี้ มีความจำเป็นต้องฝึกพลังภายในจนถึงระดับสามหรือสูงกว่าเพื่อทำลายกำแพงที่สมบูรณ์แบบและเปิดแอ่งตันเถียนระดับสาม

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าถังเทียนจะมีความสุข ตามที่เขาคาดการณ์ เขาต้องการเวลาเพื่อฝึกฝนปราณให้สมบูรณ์แบบเขาไม่เคยคาดว่าตัวเขาเองจะเชี่ยวชาญได้ไวนัก

เมื่อเป็นอย่างนี้ เขาสามารถเริ่มฝึกฝนพลังภายในระดับสามได้

พลังที่แท้จริงมาจากแอ่งตันเถียนชั้นที่สามที่บริบูณ์มากกว่าและคุณภาพสูงกว่าแอ่งตันเถียนชั้นที่สอง

ถังเทียนเต็มไปด้วยความดีใจ พลังที่แท้จริง ถูกสร้างรากฐานไว้ทั้งหมด ไม่มีพลังที่แท้จริงวิทยายุทธก็เป็นเพียงท่วงท่าที่น่าทึ่งเท่านั้นวิทยายุทธที่น่าเกรงขามจำเป็นต้องใช้พลังแท้จริงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งศิษย์ของสำนักเรียนใหญ่ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการบ่มเพาะปราณ

ชั้นที่สาม

ขอเพียงบรรลุขั้นที่สามและเหนือกว่าจึงจะสามารถผ่านประตูวิถีดวงดาวเข้าวิถีสวรรค์มุ่งสู่กลุ่มดาวเพอร์ซูสไปพบกับเชียนฮุ่ย

ถังเทียนฉีกยิ้มกว้าง ขณะที่กระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้น เขายกแขนทั้งสอง

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ระดับสาม เราต้องการฝึกฝนเคล็ดพลังภายในระดับสาม”

“เราจะไปสู่วิถีสวรรค์”

“เราอยากจะไปกลุ่มดาวเพอร์ซูส”

เขากระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขอยู่เบื้องหลังประตูดาวกางเขนเหมือนเด็กๆดีใจ

หลังจากนั้นชั่วครู่เขาก็หยุดพัก

หน้าเขาเบิกบานขณะที่นัยน์ตาเบิกกว้าง เขากำหมัดแน่นและชกอากาศอย่างจริงจังและตะโกนว่า “เฮ้, เจ้าหนุ่ม แกจะได้เป็นชาวสวรรค์แน่นนอน”

“ชิ้ง”พริบตาร่างของเขาก็มาปรากฏจุดตรงข้ามที่เขายืนอยู่เดิม และแกล้งทำเป็นพูดว่า “โอวฉันคิดว่านายพูดถูก”

“วืด” เขากลับมายืนตำแหน่งเดิมและทำหน้ายอมรับ“ฉันรู้สึกว่าหมัดประกายไฟก็เป็นเหมือนชาวสวรรค์อย่างที่นายพูด ไม่มีปัญหาอะไร”

“วืดด” กลับมาอยู่ที่ด้านตรงข้ามเขาโบกมือด้วยท่าทางน่าประทับใจ “พ่อหนุ่ม การมีสติปัญญาอย่างนี้ด้วยวัยเพียงเท่านี้ นับว่าดีมาก เธอมีอนาคตที่ดีมากเลยนะ”

หลังจากแสดงท่าทางพูดเองเออเองเสร็จ ถังเทียนก็ฝึกฝนต่อด้วยความมั่นใจ

เสียงจากลมของหมัดทุกหมัดเห็นได้ชัดว่ามีพลังในตนเองมากขึ้น

※※※※※※※※※※※※※※※※

“อาโมรี่! เธอจะย้ายสถาบันหรือ? ทำไมกัน?” ผู้อำนวยการถามอย่างไม่เชื่อ เขาไม่อาจเข้าใจได้ว่าทำไม ไม่ว่าจะพยายามมองมุมไหนก็ไม่มีเหตุผลที่อาโมรี่ต้องการย้ายไปสถาบันอื่น

สถาบันเหมิ่งโซ่วเป็นสถาบันใหญ่เป็นอันดับสามในเมืองซิงฟง  พวกเขามีทรัพยากรมากกว่าสถาบันคาราเมล อาโมรี่ได้รับการยกย่องว่ามีความสามารถอย่างสำคัญ เขาติดอันดับสิบสุดยอดเมื่อเขาเรียนอยู่ปีสอง อัจฉริยะอย่างนี้หาได้ยาก

ผู้อำนวยการพูดอย่างใจเย็นใจ“ฉันมัวแต่วุ่นๆ กับงานของฉันเกินไปจึงทำให้ละเลยเธอ  ถ้าเธอมีเรื่องขัดข้องใจหรือไม่สบายใจ  บอกให้ฉันรู้ได้  เธอพบอุปสรรคขณะฝึกฝนใช่ไหม? เป็นสิ่งที่เกี่ยวกับการ์ดวิญญาณใช่ไหม? เธอสามารถเลือกการ์ดวิญญาณชั้นเงินระดับสามได้ 4 ใบเลย”

“อาโมรี่ส่ายศีรษะ” ไม่มีอะไรต้องทำอย่างนั้นครับ ผมไม่ได้ฝึกผิดแนวทางอะไร แต่ผมต้องการค้นหามรรคาวิชาบู๊ของตัวเองครับ”

“มรรคาวิชาบู๊ของตนเองหรือ?” ผู้อำนวยการหยุดยิ้ม “อาโมรี่, แม้ว่าเธอจะมีพรสวรรค์ แต่เธอก็ยังอายุน้อย สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่ค้นหามรรคาวิชาบู๊ แต่ต้องสร้างพื้นฐานของเธอให้ดี  มรรคาวิชาบู๊ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องมโนเอานะ”

อาโมรี่คำนับผู้อำนวยการและตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า“ขอบคุณที่กังวลห่วงใยผม แต่ผมจะฝึกให้หนัก”

ผู้อำนวยการรู้ว่าอาโมรี่เอาจริง แต่เขาอดรู้สึกผิดหวังไม่ได้แล้วตอบว่า“อาโมรี่! ฉันหวังว่าเธอคงจะไม่เสียใจกับเรื่องที่ตัดสินใจลงไปในวันนี้”

“ผมจะไม่เสียใจ!” อาโมรี่ตอบ

เขาหันหลังเดินออกจากห้องผู้อำนวยการ

ขณะที่เดินไปตามระเบียงทางเดินมีเสียงจริงจังดังขึ้นจากข้างหลังอาโมรี่

“อาโมรี่!  นายกำลังจะย้ายโรงเรียนเหรอ?  จะไปอยู่กับโรงเรียนที่อบรมนักเรียนได้ห่วยแตกน่ะหรือ?”

อีกเสียงที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ยดังขึ้น  “สถาบันเหมิ่งโซ่วที่สง่างามมีอนาคตสดใสรออยู่ แกไม่สนใจกลับวิ่งไปหาสถาบันที่ล้มเหลวที่สุด ห่วยที่สุด น่าอายเหลือเกิน!”

อาโมรี่หมุนตัวกลับมาขมวดคิ้วและจ้องตาเขา “เถียนหลิน ถ้าแกไม่กลัวโดนชกปาก ก็หุบปากเสียดีกว่า”

ต่อหน้าเขาหนึ่งในนักเรียนสองคนนั้นมีใบหน้าที่ดูแคลนและไม่ยอมรับนับถือเล็กน้อย เขาชื่อเถียนหลิน เขาเป็นสิบสุดยอดของนักเรียนสถาบันเหมิ่งโซ่วรั้งอันดับที่เก้า

นัยน์ตาเถียนหลินฉายแววโกรธเล็กน้อย แต่ก็ยอมหยุดพูด เมื่ออาโมรี่โกรธจริง เรื่องจะไม่จบจนกว่าจะมีใครตาย เถียนหลินไม่ต้องการหาเรื่องกับอาโมรี่

เด็กหนุ่มข้างๆเถียนหลินสีหน้าเคร่งขรึมพูดด้วยน้ำเสียงลึกว่า “อาโมรี่! นายตั้งใจจะไปตามเส้นทางนี้จริงๆ เหรอ?”

อาโมรี่ไม่เห็นเถียนหลินอยู่ในสายตา แต่เด็กหนุ่มตัวสูงอีกคนสร้างแรงกดดันให้กับเขามาก

เหลียงชิว,นักเรียนอันดับหนึ่งของสถาบันเหมิ่งโซ่ว!

สิ่งที่ทำให้อาโมรี่รู้สึกกดดันไม่ใช่พลังที่แข็งแกร่งเต็มเปี่ยมของเหลียงชิวเท่านั้น แต่ความจริงก็คือเหลียงชิวมักเอาใจใส่เขาและให้คำชี้แนะเขามากมาย

สิ่งที่พี่เหลียงชิวพูดทำให้เขารู้สึกอึดอัดแต่เขารู้ว่าเวลานี้อธิบายอะไรไปก็ไม่มีความหมาย เนื่องจากคงไม่มีผู้ใดเชื่อ

แน่นอนเขาคิดว่าเขาจะใช้เป้าหมายของเขาอธิบายทุกอย่าง

อาโมรี่กำหมัดแน่นแต่จากนั้นไม่นานก็ผ่อนคลายทันที แล้วเชิดหน้าบอกเหลียงชิวอย่างมาดมั่นว่า“พี่เหลียงชิว รอให้ข้าเอาชนะท่านให้ได้ก่อน”

พูดจบเขาก็ออกไปโดยไม่แสดงอาการใดๆ ว่าไม่เต็มใจ

ตามรายทางมีอยู่หลายคนชี้มาทางเขาซุบซิบกันขณะที่เขาเดินผ่าน อาโมรี่ทำเป็นมองไม่เห็น เขากำหมัดโดยมิได้ตั้งใจเป็นเรื่องที่เขาทำใจไว้อยู่แล้ว

เขา,อาโมรี่จะแสวงหามรรคาวิชาบู๊ของตนเองให้ได้

“แกต้องการจะเอาชนะพี่ใหญ่เหลียงชิว,ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” เถียนหลินหัวเราะกร้าวไล่หลังอยู่แต่ไกลเสียงของเขาสะท้อนก้องไปทั้งทางเดิน

เมื่อได้ยินเช่นนี้ทุกคนที่มองดูอาโมรี่อยู่ ก็หัวเราะตามและนึกสมเพชเขา คิดว่าเขาประเมินตัวเองสูงเกินไปและว่าเขาบ้าไปแล้ว

สถาบันคาราเมล, มันอะไรกัน? ก่อนจะถึงวันนี้ไม่มีใครเคยได้ยินชื่อโรงเรียนอย่างนั้นมาก่อน และเมื่อพวกเขาพบการจัดอันดับโรงเรียนของสถาบันคาราเมล ทุกคนพากันอึ้งไปทั้งหมด

ที่สามจากบ๊วย!

โอว, พระเจ้า! กระจอกอะไรอย่างนี้!

และนักเรียนที่ถูกไล่ออกจากสถาบันแอนดรูว์ สถาบันอบรมที่มีชื่อเสียงสุดยอดของเมืองซิงฟง

ตัวร้าย, เจ้าวายร้าย!

ในสายตาทุกคนอาโมรี่ทำลายอนาคตของเขาเองและพอได้ยินคำประกาศท้าทายของเขา ทุกคนคิดว่าเขาบ้าไปแล้ว

ยกเว้นเหลียงชิวที่มองตามหลังอาโมรี่ดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง

ข่าวที่อาโมรี่ย้ายโรงเรียนไปเข้าสถาบันคาราเมลแพร่กระจายไปทั่วเมืองซิงฟงอย่างรวดเร็ว

เจ้าวัวบ้าอาโมรี่มิใช่ว่าไม่มีอะไร เขาใช้เวลาสองปีก็กรุยทางขึ้นสู่ทำเนียบสิบสุดยอดนักเรียนสถาบันเหมิ่งโซ่วได้เขาถูกมองว่าเป็นตัวแทนของเหลียงชิว

อีกคนที่คล้ายคลึงกันเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นนักเรียนซ้ำชั้นผู้โด่งดังไม่มีใครเกินในเมืองซิงฟง เป็นจอมเกเรอันดับหนึ่งของสถาบันแอนดรูว์เป็นตัวน่ารังเกียจเดียดฉันท์ของใครหลายๆ คน ถังเทียนสุดยอดกากเดน ขยะที่ไม่มีใครเกิน

ทั้งสองคนร่วมกันเข้าเรียนในสถาบันคาราเมล โรงเรียนที่กระจอกที่สุดถูกจัดให้อยู่ในอันดับสามจากตำแหน่งบ๊วยเรื่องแปลกเช่นนี้นับเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในเมืองซิงฟง ก่อให้เกิดความโกลาหลในโรงเรียนต่างๆขนานใหญ่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด