ปัจจุบันการดำเนินชีวิตในโลกวิญญาณเริ่มเป็นในโลกจริงขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่นเหล่าระดับสูงของเมืองธารทะเลทรายในปัจจุบัน เวลานี้ได้จัดเกมการแข่งขันให้ทุกคนได้รับชม

ฉูเทียนหัว จ้าวหมิง จางเสี่ยวเฉียง เจียงหนาน และฉินมู่ ยอดฝีมือห้าอันดับแรกของเมืองธารทะเลทรายจะท้าทายบอสฮังบนสังเวียนในวันนี้ ผู้ชมตื่นเต้นมาก สนทนากันอย่างสนุกสนาน

“นายเดิมพันว่าใครจะชนะ?”

“แน่นอนว่าต้องเป็นบอสฮัง!”

“บอสฮังคือเทพสงคราม แล้วเขาจะแพ้ได้ยังไง!”

“ถูกต้อง อย่าแม้แต่จะคิดว่าเขาแพ้ ฉันขอเดิมพันด้วย 50 หินคริสตัลขาว!”

อย่างไรก็ตาม มีหลายคนที่มองมุมต่าง “เฮ้ ก่อนนายจะวางเดินพัน ช่วยเข้าใจสถานการณ์ก่อนดีไหม?”

“บอสฉูกับบอสจ้าวในตอนนี้ รวมไปถึงคนงามเจียง ก่อนย้ายเข้าเมืองธารทะเลทรายพวกเขาอาจยังไม่แกร่งนัก”

“แต่ฉันจะบอกอะไรให้นะ ตอนนี้บอสจ้าว บอสฉูอัพเลเวล 13 แล้ว คนอื่นๆก็อัพเลเวล 12 แล้วเหมือนกัน ขณะที่บอสฮังเพิ่งเลเวล 14”

“นอกจากนี้ บอสจ้าวกับบอสฉูยังได้สืบทอดมรดกขั้น 3 อาชีพที่สองแล้ว คนงามเจียง สหายมู่ น้องชายเสี่ยวเฉียง แย่กว่าแค่เล็กน้อย ทุกคนสืบทอดมรดกขั้น 3 ได้คนละ 1 อาชีพ”

“นอกจากฝีมือพัฒนาขึ้นแล้ว อุปกรณ์ยังได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น ดูอย่างเสี่ยวเฉียง ตอนนี้เสื้อคลุมกับคทาของเขาเป็นสีฟ้า คนอื่นๆก็เหมือนกัน แต่ที่เด่นที่สุดคือสองบอสจ้าวกับฉู!”

“อืม ฉันมีข้อมูลภายในที่เชื่อถือได้ สองบอสเพิ่งเปลี่ยนไปใส่ชุดเซ็ทโบราณสงครามศักดิ์สิทธิ์แบบเดียวกับฮังอวี่ และขวานรบด้ามยาวของบอสฉูกับโล่ยักษ์ของบอสจ้าวทั้งคู่ยังเป็นสีฟ้าคุณภาพดีเยี่ยม!”

“....”

มีหลายคนที่อ้างว่ารู้ข้อมูลออกมาวิเคราะห์ คนอื่นๆต่างตกตะลึง ไม่คิดว่าในเวลาเพียงครึ่งเดือน เหล่ายอดฝีมือจะพัฒนามากถึงขนาดนี้!

“ร้ายกาจขนาดนั้นเชียว?”

“แล้วแบบนี้บอสฮังจะไม่เป็นอันตรายหรอ?”

“บอสฮังยังคงมีข้อได้เปรียบมากในแง่ของโบนัสคุณสมบัติกับมรดกสืบทอด อุปกรณ์ของเขาก็ดีกว่าคนอื่นๆ แต่ช่องว่างตรงส่วนนี้สามารถชดเชยได้ด้วยข้อมูล”

“ในกรณี 1 ต่อ 3 บอสฮังอาจสู้ได้อย่างไม่มีปัญหา”

“แต่ถ้าเป็น 1 ต่อ 5 ฮี่ ฮี่ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบบอสฮัง ถึงฉันจะชอบเขามาก แต่ก็ต้องเป็นกลาง เข้าใจใช่ไหม?”

“ฉันขอเดิมพันว่าทีม 5 คนจะชนะ!”

“ไร้สาระ! บอสฮังต้องชนะ!”

“ทีม 5 คนต้องชนะ เจียงคนงามต้องชนะ!”

“...”

ทุกคนเถียงกันไม่จบสิ้น

สาเหตุของการประลองครั้งนี้ ก็เนื่องมาจากมีหลายคนได้สืบทอดมรดกใหม่ อุปกรณ์และโบนัสคุณสมบัติเพิ่มขึ้น พลังรบแก่กล้ากว่าเดิม ดังนั้นเลยอยากประลองกับฮังอวี่ เพื่อทดสอบว่าระหว่างตนเองกับยอดฝีมืออันดับหนึ่งของมังกรครามห่างชั้นกันขนาดไหน

หลังจากฮังอวี่เข้ายึดเมืองธารทะเลราย แม้จะมีอุปกรณ์เสริมบางอย่างเพิ่ม และได้เรียนรู้สกิลอีกนิดๆหน่อยๆ แม้จะนำหน้าคนอื่นอยู่มาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสบดขยี้เขาได้ซะทีเดียว

เดิมฉูเทียนหัวเป็นคนเดียวที่ขอท้าประลอง เพราะอยากจะรู้ว่าช่องว่างความห่างชั้น ยังไงซะการตายในสังเวียนก็ไม่ก่อปัญหา สามารถฟื้นคืนชีพได้ทันที ไม่ดรอปไอเท็ม ไม่เสียแต้มวิญญาณ เป็นเพียงการประลองกระชับมิตร

แต่ใครจะคาด

ฮังอวี่ยอมตอบตกลงรับคำท้าอย่างง่ายดาย ทั้งยังดึงจ้าวหมิง เจียงหนาน ฉินมู่ และเสี่ยวเฉียงมาเข้าร่วมด้วย!

ถูกต้อง

เขาต้องการสู้แบบหนึ่งต่อห้า!

ต้องแบบนี้สิถึงจะน่าสนใจ!

ทั้งห้าคนตอนรู้เรื่องครั้งแรกพูดไม่ออกไปพักหนึ่ง

โดยเฉพาะฉูเทียนหัวเขาอยากจะสบถออกมาสักประโยค : ถ้าจะดูถูกฉันก็แค่พูดออกมา!

ไม่ใช่แค่เขา

คนอื่นๆพอได้ยินว่าจะสู้แบบนี้ ต่างคิดในใจว่าฮังอวี่เหิมเกริมเกินไป!

ทุกคนล้วนมีประสบกาณณ์และฉลาดหลักแหลม แล้วแบบนี้พวกเขาจะพ่ายแพ้ง่ายๆได้อย่างไร?

ฉูเทียนหัวคือกระบี่แห่งมังกรคราม

จ้าวหมิงคือโล่แห่งมังกรคราม

หนึ่งโจมตีหนึ่งป้องกัน หากพวกเขาร่วมมือกัน ก็มากพอแล้วที่จะข่มยอดฝีมืออย่างฮังอวี่

ไหนจะเจียงหนานสายสนับสนุน จอมเวทย์ระยะไกลอย่างเสี่ยวเฉียง และผู้ควบคุมอย่างฉินมู่อีก

พูดตามตรง

ภายใต้สถานการณ์นี้ บอสฮังคงต้านไม่ไหวจริงๆ

แต่เพราะอย่างนั้นน่ะสิถึงยิ่งน่าลุ้นระทึก กระตุ้นความสนใจของผู้คนได้มากมาย ดึงดูดความสนใจอย่างยิ่ง

ณ ขณะนี้

จ้าวหมิงเค้นสมอง เขารู้สึกว่านี่คือโอกาส!

เนื่องจากมันได้รับความสนใจอย่างมาก เช่นนั้นทำไมไม่ทำให้น่าสนใจยิ่งขึ้นเล่า?

จ้าวหมิงเดิมทีตั้งใจจะสร้างธุรกิจบางอย่างเกี่ยวกับสังเวียน เขาวางแผนจะใช้เมืองธารทะเลทรายจัดงานประลองทุกวัน ให้ชนชั้นยอดของมังกรครามต่อสู้กัน และถ่ายทอดสดผ่านทุกเครือข่ายให้ทุกคนเข้าชมได้

แบบนี้ไม่เพียงเป็นการส่งเสริมสมาชิกของมังกรคราม แต่ยังทำธุรกิจเดิมพันได้

ไหนจะช่วยในการฝึกฝนประสบการณ์ต่อสู้ของสมาชิกได้มากขึ้นอีก

ทั้งหมดนี้มีแต่ข้อดี และบางทีอาจสร้างผลประโยชน์มหาศาล อย่างค่าเข้าชม ค่าโฆษณา สิทธิ์ในการถ่ายทอดสด ค่าตัวของนักสู้ ...

รายได้อุตสาหกรรมเทียบกับกับเกมกีฬาระดับโลก

และการประลองในครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีในการประชาสัมพันธ์

เป็นการวางรากฐานที่ดีสำหรับสังเวียนมังกรครามในอนาคต

การต่อสู้กำลังจะเริ่มต้นขึ้น

จ้าว ฉู เจียง จาง ฉิน ทั้งห้ามีสีหน้าจริงจัง พวกเขาประชุมเตรียมแผนรับมือก่อนลงสังเวียน

ฉูเทียนหัวกล่าวว่า “ขุนนางใหญ่ของพวกเราแข็งแกร่งเกินไป ต่อให้สู้แบบหนึ่งต่อห้า ก็ต้องระมัดระวังเข้าไว้ ถ้าพลาดคงแพ้แบบไม่ต้องสงสัย”

จ้าวหมิงพยักหน้า “เรามาพิจารณาจากสถานการณ์กันก่อน ระบุแผนการรบ อย่างแรกดาเมจจากมรดกขุนนางคลั่งรุนแรงมาก ทั้งยังมีรัศมีกว้าง ไหนจะสกิลระเบิดจากกลบฝังปีศาจคลั่งอีก พวกเราต้องไม่อยู่ชิดกันเกินไป ให้กระจายตำแหน่ง รักษาระยะทางในการต่อสู้”

“เห็นด้วย” ฉูเทียนหัวกล่าวเสริม “ถึงขุนนางใหญ่ของพวกเรามีสกิลบลิงค์กับโยกย้าย ถ้าเดาทางดีๆ จุดแรกที่เขาจะบลิงค์ไปน่าจะเป็นข้างหลัง เพื่อโจมตีเสี่ยวเฉียงไม่ก็ฉินมู่”

จางเสี่ยวเฉียง ฉินมู่พยักหน้า ทั้งสองเป็นอาชีพแนวหลัง เลือดไม่เยอะ เปราะบางมาก!

ด้วยพลังโจมตีอันรุนแรงของฮังอวี่ หากทะลวงเข้ามาได้ ต่อให้มีเจียงหนานคอยเติมเลือดก็สายเกินไป ถูกสังหารในวินาทีเดียว

พอได้ลองคิดแผนการรบกับฮังอวี่ ถึงค่อยรู้สึกตัวว่าฮังอวี่แข็งแกร่งจริงๆ!

เขามีมรดกขั้น 3 ถึงสี่มรดก และมีชิ้นส่วนมรดกขั้น 4 อีกหลายสกิล ประจวบกับฐานค่าคุณสมบัติที่มี ทำให้ปรับตัวรับมือได้ทุกสถานการณ์รบ

แต่ฉูเทียนหัวและคนอื่นๆก็เชื่อนเช่นกัน ว่าหากรวมพลังของพวกเขาทั้งห้า ก็ไม่น่าจะมีเผ่าพันธุ์มนุษย์คนใดสามารถต่อกรได้โดยลำพัง

เพราะถึงอย่างไรพวกเขาทั้งห้าคนก็เป็นยอดฝีมือระดับแนวหน้าของเผ่ามนุษย์ และตั้งแต่ออกจากป่าแห่งการเริ่มต้น ทุกคนร่วมมือกันเป็นอย่างดี

ตราบใดที่กลยุทธ์ไม่ผิดพลาด ต่อให้เป็นตัวตนที่แข็งแกร่งระดับฮังอวี่ ก็ยังสามารถสู้ได้!

ทุกคนคุยกันกว่าครึ่งชั่วโมง การต่อสู้กำลังเริ่มต้นขึ้น

“พี่ชายสู้ๆ พยายามเข้า!”

“ฮ่ง เจ้านาย เอาชนะพวกเขาให้ได้!”

กองเชียร์เสี่ยวไป๋กับหวังเอ๋อส่งเสียงให้กำลังใจฮังอวี่

ฮังอวี่เดินเข้ามาบนสังเวียนพร้อมกับอีกห้าคน

ผู้ชมจากทุกด้านโห่ร้องทันที

สำหรับทุกคน

นี่คืองานประลองที่ควรค่าแก่การรอคอย เพิ่มสีสันให้ชีวิตในยุคโลกวิญญาณ!