ตอนที่แล้วตอนที่ 29 การตัดสินใจของไป่ชิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 31 จ้านชิงเฉิงออกมา

ตอนที่ 30 เข้าใจผิด


"สินสงคราม?"

ซูสือมองถาดหยกด้านหน้า

พวกขุมอำนาจใหญ่ที่มีล้อมสำนักมารครั้งนี้คือผู้บ่มเพาะอาณาจักรแก่นทองคำกันหมด และของที่พวกเขาได้จากพวกนั้นก็มีค่ามาก

และตอนนี้ทั้งหมดมอบให้เขา?

ซูสือไม่เอื้อมมือไปรับ แต่ถาม"แล้วท่านเซินซิวว่าอย่างไร?"

ด้วยการดำรงอยู่ของนักษัตร มันเป็นไปไม่ได้ที่ของเหล่านี้จะถึงมือเหล่าแม่ทัพก่อน

ฉิวอาวอธิบาย"นี่เป็นเจตนาของท่านเชินซิวเอง"

"ท่านเชินซิวบอกเราให้หารือกันเพื่อแจกจ่าย และหลังคุยกันแล้ว เราเห็นชอบว่าแม่ทัพซูสมควรได้รับ"

ซูสือเข้าใจ

เขารู้ในใจว่าต่อให้เขาทำผลงานน้อย มันก็ไม่เกี่ยว..

คนเหล่านี้จงใจแสดงเจตนาดีเฉยๆ

ไม่ว่าจะเป็นทัศนคติของเชินซิว ศัพยภาพของเขา หรือพลังปัจจุบันของเมืองเฟิงซา มันล้วนทำให้แม่ทัพคนอื่นเห็นความจริงที่ว่าในไม่ช้า ซูสือจะเป็นใหญ่!

อย่างไรก็ตาม มันยังต้องรักษาหน้า

"แม่ทัพฉิวก็ชมข้าเกินไป ชัยชนะนี้เป็นของทุกคน ข้าจะรับไว้ทั้งหมดคนเดียวได้ไง?"

ซูสือยิ้ม

ฉิวอาวส่ายหัว"แม่ทัพซู โปรดอย่าทำให้ข้าลำบากเลย ถ้าเจ้าไม่รับ ข้าคงไม่สามารถอธิบายแก่แม่ทัพคนอื่นได้"

"..ข้าขออภัย"

ซูสือพูด"ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าก็ขอโทษ ข้าจะรับมันไว้เอง'

"ดี ดี"

ฉิวอาวฉีกยิ้ม

ซูสือเพิ่งรับถาดหยก เขาก็เห็นฉิวอาวนำแหวนอีกวงออกมา

"แล้วนี่?"

"นี่เป็นสิ่งที่เฉาเจีย แม่ทัพเมืองเฉียนหยางเตรียมไว้เอง เขาขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นและขอให้ข้าส่งมันให้เจ้า"

"เฉาเจีย?"

โดยไม่พูด ซูสือเกือบลืมคนคนนี้ไปแล้ว

ฉิวอาวยื่นแหวนไป"เมืองเฉียนหยางรวยมาก แม่ทัพซูไม่ต้องสุภาพหรอก'

ซูสือส่ายหัว

มันเป็นความจริงที่พลังเป็นตัวกำหนดฐานะ

พอคิดย้อนไปถึงท่าทีของคนเหล่านี้ มันก็ทำให้เขาถอนหายใจ

"แม่ทัพซู.."

ตอนนี้ ฉิวอาวอยากพูดบางสิ่งแต่ก็โดนหยุด

ซูสือพูด"อย่าลังเลถ้าท่านอยากพูดอะไร แม่ทัพฉิว"

ฉิวอาวลังเล ยืดหลังตรงและพูดเสียงต่ำ"แม่ทัพซูยังหนุ่มและมีความลุ่มหลงอยู่เยอะ ซึ่งเข้าใจได้ แต่เฉินชิงหลวนผู้นั้นไม่ใช่คนธรรมดา!"

"ในฐานะผู้ตรวจการหลวงที่อายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ของหน่วยปราบมาร นางมีภูมิหลังที่ลึกล้ำมาก และว่ากันว่ามีความสัมพันธ์กับราชวงศ์...ถ้าแม่ทัพซูสนุกพอแล้ว โปรดอย่าทิ้งเบาะแส"

"เฉินชิงหลวน?สนุกพอ/?'

ซูสือตัวแข็ง จากนั้นก็ตอบสนอง

"แม่ทัพฉิวเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่สนใจนางบ้านั่นสักนิด.."

ก่อนเขาจะพูดจบ เขาก็ได้ยินเฉินชิงหลวนตะโกนจากประตูข้างๆ

"ซูสือ!เชือกเจ้ารัดแน่นเกินไป ข้าหายใจไม่ออก มาช่วยข้าคลายมันเร็ว!"

".."

บรรยากาศกลายเป็นเงียบสงัด

ฉิวอาวกลืนน้ำลายและยกนิ้วโป้ง"แม้แต่เฉินชิงหลวนก็ยังโดนกำราบ แม่ทัพซูน่าทึ่งจริงๆ!แต่งานอดิเรกนี้...อืม แค่ก แค่ก มันพิเศษจริงๆ ฮ่าๆๆ"

มุมปากซูสือกระตุก"แม่ทัพฉิวเข้าใจผิดแล้วจริงๆ!'

"ข้าเข้าใจ ตอนนี้ข้าไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น"

ฉิวอาวประสานมือ"งั้นข้าไม่ขอรบกวนแม่ทัพซูแล้ว ขอตัว"

หลังพูด เขาก็เดินไปโดยไม่เหลียวหลัง รีบนำกลุ่มคนออกไป

ซูสือส่ายหัวและยิ้มแห้ง

"ข้าคงล้างชื่อให้ตัวเองได้ยากเสียแล้ว"

"เฉินชิงหลวน เจ้าไม่อาจตำหนิข้าได้ ใครใช้ให้เจ้าตะโกนเสียงดังเอง.."

..

การต่อสู้ในเมืองอวี่หลินกลายเป็นโด่งดังไปทั่วโลก

ฝ่ายธรรมะวางแผนโอบล้อมอย่างลับๆ แต่ก็ยังพ่าย

หลินเฉวียน แขกจากสำนักเทียนอี้ตาย เย่เซียว ว่าที่ผู้นำศิษย์บาดเจ็บสาหัส และเฉินชิงหลวน ผู้ตรวจการหลวงของหน่วยปราบมารหายตัวไป..

ใครก็ตามคนใดคนหนึ่งถือเป็นคนสำคัญของฝ่ายธรรมะ!

นี่ถือเป็นหนึ่งในความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับไม่กี่ครั้งของฝ่ายธรรมะตั้งแต่มีมา

มันยังหมายความว่า นอกจากเมืองหนานลี่ ภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ตกอยู่ในกำมือของฝ่ายมารไว้หมดแล้ว!

เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนและผู้คนก็วิตก

ข่าวลือเรื่องการตายของผู้บ่มเพาะจากฝ่ายธรรมะไปถึงหูทุกคน

แต่ทว่า ท่ามกลางความโกลาหลนี้ ชื่อดังเด้งเข้าหูสำนักใหญ่ต่างๆ

ซูสือ

แม่ทัพตัวน้อยในเมืองเฟิงซา

เดิมเขาเป็นคนไร้ชื่อ แต่ต่อมาเขาเอาชนะเฉินชิงหลวนในการต่อสู้ ทำให้ว่าที่ผู้นำศิษย์เย่เซียวบาดเจ็บสาหัส และกำหนดทิศทางการต่อสู้ด้วยพลังของเขาเอง!

ประเด็นสำคัญคือเขาอายุแค่ 20!

ผู้บ่มเพาะอาณาจักรแก่นทองคำอายุ 20 ปี!

ด้วยพรสวรรค์เช่นนี้ เขาสามารถสู้กับอัจฉริยะอันดับหนึ่ง จ้านชิงเฉิงได้!

สำนักต่างๆของฝ่ายธรรมะยิ่งสับสน

อัจฉริยะเช่นนี้ แทนที่จะชุบเลี้ยงในสำนัก แต่กลับโดนส่งไปเฝ้าเมืองเฟิงซา?

จักรพรรดินีมารโง่มาก!

...

หุบเขาโหยวโจว

สำนักยักษ์มารขุมนรก

ในห้องนอน ด้านหลังม่าน

อวิ๋นฉีหลัวเอนตัวอย่างเกียจคร้าน ชุดผ้าไหมนุ่มตัวยาวขับเน้นหุ่นสวย นิ้วเรียวยาวของนางม้วนผมตัวเองเล่นอย่างไม่รู้ตัว แสดงความตกใจเหมือนสาวแรกแย้ม

ใครจะไปคิดว่านี่คือจักรพรรดินีมารแห่งขุมนรก ผู้ปกครองหมู่มาร?

"เรียนท่านประมุข นักษัตรของภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้มาขอเข้าพบขอรับ"

"ให้เข้ามา"

"ขอรับ"

วินาทีต่อมา เชินซิวก็เดินก้าวเข้ามาและคุกเข่าข้างหนึ่ง"นักษัตรเชินซิว คาวระท่านประมุข"

"ข้าได้ยินถึงชัยชนะครั้งใหญ่ของเจ้าแล้ว ดี ดีมาก"

อวิ๋นฉีหลัวพูดอย่างไม่แยแส"เจ้าอยากได้รางวัลอะไร?"

เชินซิวมีความสุขมาก แต่ก็ยังสำรวม"ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณแผนของท่านประมุข ผู้น้อยไม่กล้ารับผลงาน"

"นอกจากนี้ นี่ไม่ใช่ฝีมือของผู้น้อยคนเดียว มันเกิดจากการร่วมแรงของแม่ทัพทั้งหมดในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ เช่นแม่ทัพซู ผู้.."

ปัง!

เชินซิวถูกบดขยี้ลงกับพื้น!

อากาศกลายเป็นหนักอึ้ง แรงกดดันน่ากลัวดูเหมือนจะบดขยี้เขาทั้งเป็น!

ใบหน้าของเขาแดง เส้นเลือดปูด แม้แต่การหายใจก็ยังลำบาก

"ท่านประมุข ฝ่าบาท?"

หัวใจกับความกล้าของเชินซิวสั่นคลอน ขณะที่สงสัยว่าเขาพูดอะไรผิด

เกิดความเงียบด้านหลังม่าน

หลังผ่านไปนาน เสียงของอวิ๋นฉีหลัวก็ดังขึ้นอีก ครั้งนี้มีร่องรอยของอารมณ์

"แม่ทัพซูที่เจ้าพูดถึง ใช่ซูสือหรือไม่?"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด