ตอนที่แล้วตอนที่24: แดนปิดกั้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่26: ร่องรอยสู่ไร้ขอบเขต

ตอนที่25: ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่


[ณ โลกมนุษย์, ญี่ปุ่น, เมืองนารุกิ.]

ทางผ่านเซ็นไคมงนั้นค่อนข้างสั้นมากๆ. คนที่เข้ามาก็แค่เปิดประตู, เดินเข้าไปในห้องแล้วก็เปิดอีกประตู.

ทันทีที่นักเรียนทุกคนก้าวออกมาจากประตูและเหยียบลงบนดาดฟ้าของตึกตึกหนึ่ง ชูเฮย์ก็กล่าว.

“ที่นี่คือเมืองนารุกิ. เมืองนี้อยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยที่10. ตอนนี้พวกฮอเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา ไม่ต้องกังวลนะครับ”

พวกนักเรียนพากันพยักหน้าแล้วมองดูเมือง.

พวกเขาจากโซลโซไซตี้มาในตอนเช้า, ในโลกมนุษย์ตอนนี้กลับมีพระจันทร์ลอยอยู่บนฟ้า.

นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นชัดว่าเวลาทั้งสองโลกต่างกัน.

ขณะที่ชูเฮย์กำลังอธิบายงานให้พวกนักเรียนฟังอยู่นั้น โกโจที่แยกตัวออกมาจากคนอื่นๆก็ถอดผ้าปิดตาออกแล้วออกไปสำรวจเมือง.

‘เป็นคนละโลกและเวลาจริงๆ’

ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นญี่ปุ่น แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงพลังคำสาปเลย.

พลังคำสาปเกิดจากพลังงานด้านลบของมนุษย์. ตอนนี้สงครามโลกครั้งที่สองเพิ่งจบไป ช่วงนี้พวกคำสาปน่าจะออกมามากกว่าปกติ.

แต่กลับไม่มีพลังคำสาปเลยนี่สิ.

“น่าสงสารจัง”

โมโมะพึมพำหลังจากเข้ามาใกล้ๆเขา.

“ใช่”

วิญญาณหลายดวงเดินร่อนเร่ไปทั่วทุกหนแห่ง.

เหล่าวิญญาณและผีต่างที่ยังติดค้างอยู่ในโลกแห่งนี้ จะกลายร่างไปเป็นฮอลโล่วในที่สุดเมื่อโซ่ตรวนแห่งชะตากรรมของพวกเขาสลายไปหรือถูกจับกิน.

โชคยังดีที่การกลายสภาพเป็นฮอลโล่วนั้นใช้เวลาหลายเดือน.

โกโจพอจะเข้าใจได้ว่าทำไมถึงมีวิญญาณอยู่มากมาย เพราะสงครามเพิ่งจะจบไปได้ไม่นานนี้เอง.

‘ถึงว่าทำไมถึงส่งนักเรียนลงมา. มีตัวช่วยเยอะก็ดีกว่าสินะ’

โกโจคิดในใจ ส่วนโมโมะก็กำลังสลดอยู่ “ทำไมคนเราถึงต้องสู้กันด้วย?”

เธอไม่เข้าใจเรื่องนี้เลย. ทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างสันติไม่ได้หรอ.

โกโจแสยะให้กับความคิดไร้เดียงสานั้น “ศาสนา, ความเชื่อ, ทรัพยากร, พื้นที่, ความรักหรือไม่ก็แค่.... ไม่ว่าเหตุผลมันจะน่าทุเรศแค่ไหน มันก็เพียงพอจะก่อให้เกิดสงคราม. นี่แหละคือธรรมชาติของมนุษย์ล่ะ”

พอกล่าวเสร็จเขาก็สวมผ้าปิดตากลับแล้วเดินจากไป “แทนที่เธอจะมาคิดเรื่องไร้สาระแบบโลกที่ไม่มีสงคราม เธอควรจะคิดว่าทำยังไงถึงจะแกร่งขึ้นดีกว่านะ”

โมโมะก้มหน้าลงเพราะคำพูดของเขา. เร็นจิที่อยู่ข้างๆกำลังจะเอ่ยปากออกมา แต่ก็ถูกฮึสึกายะรั้งไว้พร้อมกับส่ายหัว.

“โกโจ ซาโตรุ! นายจะไปไหน?!”

“ฮ่าๆ~! ไม่รู้สิ. แค่เจออะไรที่มันน่าสนใจน่ะ~! พวกนายเล่นอยู่แถวนี้ไปเถอะ.”

ชูเฮย์ไม่พอใจอย่างมาก นี่คืองานสำคัญแต่ชายคนนี้กลับเดินเล่นงั้นเหรอ.

แม้ว่าเขาจะถูกเบื้องบนสั่งมาให้ทำงานคนเดียว แต่อย่างน้อยก็ควรจะอยู่ภายใต้การดูแลของรุ่นพี่ซักคน.

“โกโจ ซาโตรุ ชั้นต้องการให้นายหยุดเดี๋ยวนี้”

“เห~! ฮ่าๆ จับให้ได้สิ. ไปล่ะ!”

พอกล่าวเสร็จเขาก็หายไปจากสายตาของทุกคนทันที.

ชูเฮย์ตาเบิกกว้างออกมาทันใด. ความเร็วแบบนั้นมันเร็วกว่าก้าวพริบตาทั่วๆไปแล้ว.

เขาได้ยินมาว่าโกโจสู้กับอาจารย์สอนวิชาก้าวพริบตาและนึกว่าอาจารย์อ่อนข้อให้เขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิดแล้ว.

ท้ายที่สุดเขาก็กัดฟันแล้วรีบตามโกโจไปด้วยหน้าที่บังคับ.

แต่ขณะที่เขากำลังจะตามไปนั้น เขาก็ตกใจว่ามีบางอย่างหายไป.

“ไม่รู้สึกถึงแรงดันวิญญาณของหมอนั่นเลย. ทำได้ยังไงกัน?”

“ชูเฮย์ พวกเราทำไงดี?”

โฮทารุถามออกมาขณะมองไปทางที่โกโจไปด้วยความกังวล.

ชูเฮย์ลังเลอยู่เล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ส่ายหัว “พวกเราไม่รู้ว่าเขามุ่งหน้าไปทางไหน ถ้าจะตามไปแบบไม่รู้ทางก็คงจะเสียเวลาแย่. ทำตามที่คุยกันไว้แล้วกัน ถ้าเขาไม่กลับมาก่อนอาทิตย์ขึ้นพวกเราจะขอให้โซลโซไซตี้ช่วยระบุตำแหน่งผ่านผีเสื้อนรกของเขา.”

“แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขาล่ะ?”

“ไม่ต้องห่วง อย่างที่ชั้นพูดไป. ฮอลโล่วถูกกวาดเรียบไปหมดแล้ว ไม่น่ามีปัญหาอะไรหรอก”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด