ตอนที่แล้วตอนที่16: เพลย์บอย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่18: วิถีมาร

ตอนที่17: ดาบอาซาอุจิ


[ณ ลานฝึกโรงเรียนชินโอ]

ทันทีที่โกโจก้าวเข้ามาในลานฝึก เขาก็ประหลาดใจกับความกว้างและความเป็นระเบียบของมัน.

ลานฝึกขนาดเท่ากับสนามฟุตบอล2สนามเป๊ะๆ. มีหุ่นไม้, เป้ายิง, เส้นกรีฑา, ที่ให้นั่งพักแล้วก็อื่นๆอีกเยอะแยะ.

เขาจำได้ว่านี่เป็นลานสำหรับฝึก ฮาคุดะ, ซันจัตสึแล้วก็โฮโฮ. เขานึกไม่ออกเลยว่าลานฝึกวิถีมารจะเป็นยังไง.

ใจกลางสนามนั้น พวกนักเรียนกำลังส่งของให้กันเป็นทอดๆอยู่.

“โย่! มาช้าจังเลยนะ? นึกว่าพวกนายหลงทางแล้วซะอีก”

ชายผมสีแดงที่กำลังทำสีหน้าเบื่อหน่ายอยู่ข้างๆผู้หญิงผมสีดำ กล่าวขึ้นเมื่อเห็นโกโจกับโมโมะเข้ามา.

“ฮ่าๆ! โทดที. ผมก็แค่...ยุ่งนิดหน่อยล่ะมั้ง. โมโมะรออยู่นานเลยล่ะ”

โมโมะก้มหน้าลงด้วยความอายเพราะจำได้ว่าทำไมโกโจถึง ‘ยุ่ง’

“โอ๋?” เร็นจิตกใจกับท่าทางของโมโมะเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจนัก.

“ช่างเถอะ. พวกนายรีบไปต่อแถวเอาอาซาอุจิได้แล้ว. คิระจองที่ข้างหลังฮึสึกายะให้แล้วล่ะ”

“เยี่ยมเลย แต่นายจะไม่แนะนำเพื่อนให้รู้จักหน่อยเหรอ?”

โกโจมองไปทางผู้หญิงผมสีดำขณะพูด. เธอสูงไม่เกิน144ซม. ถ้าเทียบกับโกโจที่สูง190หรือเร็นจิที่188แล้ว เธอดูตัวเล็กมากๆเลย.

“หืม? หมายถึงยัยตัวเล็กนี่เหรอ? เธอชื่อว่าลูเคีย เป็นเพื่อนเก่าชั้นเอง”

เร็นจิยักไหล่ขณะแนะนำเธอ. แต่เธอกระทืบเท้าดูท่าไม่พอใจมากๆ.

“ตัวเล็ก?! เจ้าหน้าลิง! ชั้นไม่ได้ตัวเล็ก! เข้าใจมั้ย? พวกนายต่างหากที่สูงเกินไป อีกอย่างชั้นก็กำลังโตด้วย”

เร็นจิประชดกลับ “กำลังโต? ตื่นเถอะหล่อน. เรารู้จักกันมา100ปีแล้ว เธอได้แค่นี้แหละ”

ขณะมองทั้งสองตีกันอยู่นั้น โกโจก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย. เขาเปิดผ้าปิดตาออกเล็กน้อยแล้วยื่นมือออกไปหาลูเคีย.

“รู้สึกเหมือนผมพูดไปหลายครั้งมากๆแล้ว แต่ผมชื่อว่า โกโจ ซาโตรุ. ยินดีที่ได้พบนะลูเคีย. ผมมีคำถามน่ะ”

ลูเคียจับมือกับโกโจแล้วเอียงหัว “ว่ามาสิ”

“พวกนายสองคนจะแต่งกันตอนไหน?”

โกโจไม่เคยคิดเลยว่าหน้าคนเราจะแดงขึ้นเหมือนมะเขือเทศได้เร็วขนาดนี้.

---

ไม่กี่นาทีหลังจากหนีเท้าของลูเคียมาได้ โกโจก็ไปยืนอยู่ข้างหลังโทชิโร่แล้วรอรับดาบ.

จากที่เขารู้มา หลังจากได้อาซาอุจิแล้วจำเป็นจะต้องถ่ายแรงดันวิญญาณลงไปเพื่อเป็นการผสานขั้นต้น.

พอเสร็จแล้วที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับความผูกพันธ์ว่าจะได้ยินชื่อของดาบตอนไหน.

นอกจากพวกสมาชิกในหน่วยแล้ว ยมทูตน้อยคนนักที่ดาบฟันวิญญาณของตัวเองจะตื่นขึ้น.

ในที่สุดก็ถึงตาโทชิโร่ที่ได้ดาบมา.

แต่ทันทีที่เขาถ่ายแรงดันวิญญาณลงไป อากาศรอบๆก็เย็นลงไปแค่เสี้ยวของเสี้ยววินาทีเท่านั้น.

โกโจมั่นใจในประสาทสัมผัสของเขามากๆและพวกมันกำลังบอกเขาว่า.

อากาศที่เย็นลงนั้นไม่ธรรมดาแล้วเขาก็รู้ว่าใครเป็นคนทำ.

คนอื่นอาจจะไม่เห็น แต่ตอนที่โทชิโร่ถ่ายแรงดันวิญญาณลงไปนั้นมันไม่ใช่แค่แรงดันแต่เป็นส่วนหนึ่งของเขาเลย.

‘นี่น่ะเหรอการกำเนิดของดาบฟันวิญญาณ”

เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าดาบฟันวิญญาณกำเนิดจากวิญญาณของผู้ถือหมายความว่าอย่างไร.

‘ชักน่าสนใจซะแล้วสิ. ของพวกนี้มันก็คล้ายๆกับยูจิและสุคุนะสินะ? ไม่สิความสัมพันธ์นี้มันใกล้ชิดกันมากกว่า เหมือนยูตะกับริกะ’

ยูตะเชื่อมโยงกับวิญญาณคำสาปที่แข็งแกร่งจนโกโจต้องตั้งสมญานามให้ว่าเป็นราชินีแห่งคำสาป ซึ่งมันเกิดจากพลังไสย์เวทย์ของยูตะและดวงวิญญาณของเพื่อนสมัยเด็กของเขาที่ตายไป.

‘แหม สำหรับอาจารย์แบบเราแล้ว ศิษย์ทำได้แบบนี้ก็นับว่าเจ๋งไม่ใช่เหรอ?’

โกโจตบไหล่โทชิโร่เบาๆแล้วรับดาบมา.

“ชื่อแล้วก็ห้อง”

“โกโจ ซาโตรุ ห้องหนึ่งครับ”

“รับดาบไปแล้วถ่ายแรงดันวิญญาณแบบคนอื่นทำซะ”

โกโจรับคาตานะที่ดูธรรมดาๆมาแล้วเริ่มถ่ายแรงดันวิญญาณลงไป.

เขารู้สึกแบบเดียวกันเหมือนตอนที่โทชิโร่ทำเลย.

ส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งของเขาหลอมรวมเข้ากับดาบก่อนมันจะเงียบไป.

เขาควงดาบไปมาเล็กน้อยแล้วเก็บมันเข้าฝักกลับไป.

ในประวัติศาสตร์ทั้งหมดของโซลโซไซตี้นั้น เขาคือคนที่ให้ความสนใจกับดาบของเขาน้อยที่สุด.

สำหรับเขาแล้วดาบฟันวิญญาณก็ไม่ต่างอะไรกับอาวุธคำสาปหรือวิชาคำสาปเลย. มีไว้ก็ดี แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการนัก.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด