Ep.421 - เผ่ามนุษย์ผงาด
2/3
Ep.421 - เผ่ามนุษย์ผงาด
ฮังอวี่ดึงดูดความเกลียดชังด้วยคำพูด เปล่งวาจายุยงไม่หยุด
นับแต่คาลิมัวเข้าครอบครองเมืองธารทะเลทราย มันไม่เคยประสบกับความรู้สึกเสียศักดิ์ศรีเท่านี้อีกเลย เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุและเยาะเย้ย ด้วยความโกรธ มันจึงมุ่งแต่โจมตีใส่ฮังอวี่อย่างบ้าคลั่ง
เมื่อปะทะกันเกินกว่า 20 กระบวนท่า พื้นที่บริเวณรอบๆในรัศมี 200 - 300 ก็ไม่เหลือตำแหน่งที่ยังสมบูรณ์อีกต่อไป
กระบวนการต่อสู้ที่เกิดขึ้น สามารถอธิบายได้เพียงสองประโยคนั่นคือโคตรตื่นเต้นและสะท้านโลกหล้า!
ทหารโล่ยักษ์ที่ออยู่รอบๆได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ เกิดการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก สหายยอดฝีมือมนุษย์หลายคนตกตายลง!
การต่อสู้นี้ช่างดุเดือดอย่างเป็นประวัติการณ์!
อย่างไรก็ตาม ไม่นาน คาลิมัวก็เริ่มใจเย็นลง ฉับพลันมันตระหนักว่าตัวเองถูกหลอก!
ฮังอวี่เห็นได้ชัดว่าจงใจกระตุ้นตน จุดประสงค์ชัดเจนว่าต้องการดึงดูดการโจมตีจากมันเอง เพื่อให้คนอื่นๆที่อยู่รอบนอกปลอดภัย และไม่ให้ตัวมันมีโอกาสล่าถอยกลับไปรวมกับกองทัพเมืองธารทะเลทราย
แม้จะไม่อยากเชื่อ แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่ความจริงนั้นอยู่ตรงหน้า!
เจ้ามนุษย์น่าตายผู้นี้ราวกับเป็นคนละคน!
เมื่อฮังอวี่อยู่ในคุกโบราณ เห็นได้ชัดว่าเขายังเปราะบางมาก คาลิมัวมั่นใจว่าสามารถปลิดชีพเขาในการโจมตีแค่สองสามกระบวนท่า
แต่ตอนนี้เล่า? ทั้งๆที่คาลิมัวเตรียมการมาทุกอย่างก่อนการต่อสู้ ใช้ลูกเล่นมากมายเพื่อเสริมประสิทธิภาพคุณสมบัติทุกอย่าง อีกทั้งระหว่างต่อสู้ยังใช้สกิลของจ้าวสงคราม แม้ตอนนี้เอฟเฟกต์จะลดลงมาก แต่ก็ยังมีผลอยู่นิดหน่อย
ทว่าด้วยสถานะค่าคุณสมบัติถึงขั้นนี้ กลับไม่สามารถสังหารศัตรูได้ในสองสามกระบวนท่าเหมือนคราก่อน!
นี่แสดงว่าฮังอวี่แข็งแกร่งขึ้นอย่างน้อยสองเท่าจากที่เจอกันครั้งก่อน พลังรบของเขาอยู่ในระดับเดียวกับรองขุนนางเมืองธารทะเลทราย หรืออาจจะมากกว่าเล็กน้อยด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ เขายังมีผู้ช่วยที่คอยสนับสนุน ในทางกลับกันคาลิมัวต่อสู้เพียงลำพัง
หลังจากประมือกันกว่า 20 กระบวนท่า มองแวบแรกอาจเห็นว่าคาลิมัวกำลังกดดันฮังอวี่อย่างหนัก แต่ถ้าเพ่งดูดีๆจะพบว่านับแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ฮังอวี่แทบไม่สูญเสียอะไรเลย
ในทางกลับกัน คาลิมัวต้องใช้โพชั่นฟื้นฟูอันแสนล้ำค่าไปหลายขวด รวมถึงคัมภีร์หลายม้วนติดต่อกัน
บัดซบ!
สถานที่นี้มันโคลนตมชัดๆ!
ยิ่งดิ้นรนก็ยิ่งจมลึก สุดท้ายอาจถูกดูดกลืนหายไปตลอดกาล!
ทั้งๆที่ใจจริงอยากแล่เนื้อมนุษย์ผู้นี้เป็นพันๆชิ้นด้วยมือตัวเอง เหยียบย่ำกระดูกให้เป็นเถ้าถ่าน แต่การทำเช่นนั้นไม่ใช่จุดประสงค์ของการต่อสู้ในครั้งนี้ เป้าหมายคือทำลายเมืองหุบเขาเดียวดาย!
คาลิมัวไม่อาจปล่อยให้ความโกรธเข้าครอบงำจนหน้ามืดตามัว!
คาลิมัวเปิดใช้งานคัมภีร์สกิลสีฟ้าอันล้ำค่าเพิ่มอีกหนึ่ง ปลดปล่อยปีกยักษ์พลังงานสีเขียวบนแผ่นหลังตน ยิงใบมีดสายลมออกไปนับสิบสาย โจมตีในตำแหน่งของเจียงหนานและเสี่ยวไป๋
พริบตานั้นทหารโล่ยักษ์หลายตนจบชีวิตลงทันที
“คิดหนี?” ฮังอวี่ระบุคัมภีร์ของศัตรูได้ มันคือ ‘ปีกแห่งสายลม’
นั่นคือคัมภีร์สีฟ้าอันแสนล้ำค่า!
ไม่เพียงช่วยเพิ่มความสามารถเชิงรุกอย่างแรงกล้าเท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มความสามารถในการบินอันทรงพลัง!
มีคนคอยรักษาอยู่รอบด้าน ฮังอวี่เปรียบดั่งเทพคงกระพัน คาลิมัวตระหนักว่าเป็นเรื่องยากเกินไปที่จะฝ่าด่านจากเขา ดังนั้นตัดสินใจเฉียบขาดว่าจะตีฝ่าจากทางอากาศ ทำแบบนี้มนุษย์และทหารบนพื้นดินส่วนใหญ่ก็จะไม่สามารถโจมตีตนได้
แต่ในส่วนของเรื่องนี้ ฮังอวี่เตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว คัมภีร์ที่เตรียมมานานถึงเวลาเปิดใช้เสียที
หลุมดำปรากฏขึ้นในอากาศ และจากภายในหลุมดำนั่น อสูรผู้ยิ่งใหญ่ที่กุมดาบเพลิงคู่และมีสองปีกบนหลังได้ก้าวออกมา!
ม้วนคัมภีร์ที่ฮังอวี่ใช้คือ “อสูรมาเยือน” มันสามารถอัญเชิยอสูรผู้ยิ่งใหญ่ได้
เมื่อเทียบกับมอนสเตอร์ป่าระดับทรราชแล้ว เจ้าตัวนี้ทรงพลังกว่ามาก มูลค่าของคัมภีร์นี้ไม่ด้อยไปกว่าหินสกิลสีฟ้าขั้น 3!
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เจ้าตัวนี้สามารถควบคุมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์!
ซึ่งไม่เหมือนกับอสูรนรกที่ถูกอัญเชิญออกมาจากหนังสือโบราณ
คาลิมัวเพิ่งบินขึ้นไป ก็ถูกฮังอวี่และอสูรผู้ยิ่งใหญ่กำราบกลางอากาศทันที
พลังรบของฮังอวี่ได้มาถึงระดับกึ่งทรราชแล้ว เมื่อร่วมมือกับอสูรผู้ยิ่งใหญ่ในระดับทรราช ต่อให้เป็นคาลิมัวก็ไม่สามารถตีฝ่าออกไปได้
ฮังเสี่ยวไป๋ใช้โอกาสนี้ปลดปล่อยแดนมายาเนรเทศ ทำให้คาลิมัวสูญเสียการควบคุมร่างกายชั่วคราว
ฮังอวี่ไม่พลาดโอกาสนี้สั่งโจมตีค่ายกลกระบี่ โหมกระหน่ำเข้าใส่ศัตรู
ปัจจุบันค่ายกลล่าแสงและเงาถูกอัพเลเวล 2 แล้ว เมื่อเทียบกับตอนแรก พลังของมันเพิ่มขึ้นมาก สร้างความเสียหายได้มากถึงสามสี่ร้อยหน่วย ทำลายปีกพายุของคาลิมัว
อสูรผู้ยิ่งใหญ่โฉบลงมา แทงร่างคาลิมัวด้วยคมดาบทั้งสองเล่ม สร้างดาเมจมหาศาล ขณะเดียวกันกดอีกฝ่ายกลับลงพื้น
พลังชีวิตของคาลิมัวลดลงเหลือไม่ถึงหนึ่งในสี่!
ทุกคนเริ่มสัมผัสได้ถึงโอกาสแห่งชัยชนะ เพิ่มความพยายามไปอีกขั้น
เจ้าหมอนี่ต้องตาย!
คาลิมัวเองก็ตระหนักได้ว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี ตัวมันยิ่งมายิ่งบ้าระห่ำขึ้นเรื่อยๆ
ระเบิดปราณสงครามแผดเผาขับไล่อสูรผู้ยิ่งใหญ่ ปลดปล่อยสกิลขั้นสี่ตีฝ่าเฮอริเคนต่อทันทีโหมกระหน่ำตรงไปยังวงล้อมของเผ่ามนุษย์
“ไม่ได้การ!”
ฮังอวี่อยากจะหยุดแต่ก็สายเกินไป
คาลิมัวตัดสินใจโจมตีเจียงหนานและเสี่ยวไป๋เป็นเป้าหมายแรก
เสี่ยวไป๋ตอบสนองฉับไว เปลี่ยนร่างเป็นแฟรี่ หลบผ่านช่องว่างของการโจมตี
เจียงหนานไม่ได้โชคดีขนาดนั้น เธอติดอยู่ท่ามกลางกระแสใบมีดสายลมอันปั่นป่วน ตายในวินาทีเดียว ตามต่อด้วยลุค เสี่ยวเฉียง และยอดฝีมือเผ่ามนุษย์อีกหลายคน ทั้งหมดถูกกวาดฮือกระเด็นกระดอนโดยฝีมือของคาลิมัว ถูกฆ่าตายอนาถในครั้งเดียว!
ปั๊ก!
คาลิมัวพุ่งเข้าชนกับอสูรผู้ยิ่งใหญ่
-301!
-315!
-332!
พลังชีวิตของอสูรผู้ยิ่งใหญ่ลดลงอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง กระนั้นก็ยังสามารถหยุดคาลิมัวได้
ตามตัวฮังอวี่คุกรุ่นไปด้วยปราณโลหิต เสมือนดั่งลาวาร้อนถูกรวบรวมเข้ามาในร่างกายเขาอย่างรวดเร็ว ไหลไปอัดแน่นบนอาวุธในมือ และเมื่ออัดแน่นถึงขีดสุด เขาพุ่งดิ่งลงจากกลางอากาศดั่งอุกกาบาต
--กลบฝังปีศาจคลั่ง!
ร่างของฮังอวี่ปะทะเข้ากับร่างของคาลิมัว และครั้งนี้เขาทุ่มสุดตัว ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา
พื้นดินโดยรอบปริร้าวและเกิดการระเบิดขึ้นอีกครั้ง เสาไฟปะทุขึ้น
-301!
คาลิมัวถูกกระแทกอย่างแรง พลังชีวิตลดลงไปอยู่ในจุดต่ำสุด มันยกหอกขึ้น ฟาดฟันด้วยความโกรธ
ฮังอวี่สู้ไม่ถอย เปิดใช้งานกายาเกราะ ยกแขนซ้ายขึ้น ต้านรับแรงลม พลังงานอันบ้าคลั่งทะลักสู่ร่างกาย พลังชีวิตลดฮวบๆ
นักบวชไดอาน่าเข้ามารับหน้าที่แทนเจียงหนาน เติมเลือดให้เขาทันที
ด้วยผลกันกระแทกของสนับแขนมังกร และกายาเกราะ ทำให้ฮังอวี่มั่นคงดุจขุนเขา ไม่ถูกปะทะปลิวออกไป ค่าพลังชีวิตยังเหลือหนึ่งในสาม
เมื่อคาลิมัวรวบรวมพลังและกำลังจะโจมตีอีกครั้ง ปราณสงครามคลั่งพลันปะทุออกมา ขจัดพลังที่อัดแน่นอยู่ในอาวุธ ผลักดันคาลิมัวถอยหลังไปสองสามเมตร พลังชีวิตลดน้อยลงหลายสิบหน่วย ตกอยู่ในสภาวะใกล้ตาย
สังหารลมกรด!
ทั้งคนทั้งร่างฮังอวี่หายไปในพริบตา
ม่านตาของคาลิมัวหดลีบลง เพราะมันรู้ตัวว่าสายเกินไปแล้วหากคิดหยุดสกิลนี้!
การโจมตีมากกว่าสิบสายจากทั้งหกร่างถาโถมเข้าสู่ตัวมันอย่างไม่มีลำดับขั้นใดๆ
จนสุดท้าย เกราะแตกสลาย เนื้อหนังถูกเชือดเฉือน พลังชีวิตเหือดแห้งอย่างสิ้นเชิง
ขุนนางใหญ่แห่งเมืองธารทะเลทราย ล้มลงแทบเท้าฮังอวี่ด้วยความเกลียดชัง
“มันตาย!”
“คาลิมัวตายแล้ว!”
“บอสฮังว่าคาลิมัวได้จริงๆ!”
เหล่าคนที่ยังรอดชีวิต เกิดขวัญกำลังใจอันไร้ที่สิ้นสุดขึ้นมาทันที
ขณะเดียวกัน วินาทีที่เหล่าขุนศึกจากเมืองธารทะเลทรายสัมผัสได้ถึงความพ่ายแพ้ของคาลิมัว ใบหน้าของพวกมันซีดเผือด ไม่กล้าทำใจเชื่อ!
ขุนนางใหญ่ผู้คงกระพัน เวลานี้กลับพ่ายแพ้ต่อมนุษย์!
คาลิมัวถูกฆ่าตาย! นี่เท่ากับว่าเผ่ามนุษย์มีชัยไปกว่าครึ่ง!
ฉูเทียนหัวแทบจะไม่สามารถระงับความตื่นเต้นและเบิกบานใจของเขาได้
“รักษาขบวนทัพและทีมเอาไว้”
“ทีมที่ 3 4 และ 5 ให้ยึดแนวป้องกันต่อไป”
“ทีมที่ 1 2 ไปรวมตัวกับบอสฮัง เตรียมเปิดฉากตอบโต้กลับอย่างเต็มรูปแบบ!”
บอสฮังรีบเข้าสู่สนามรบหน้าเมืองพร้อมกับอสูรผู้ยิ่งใหญ่ เขากับคาลิมัวอาจดูเหมือนสู้กันนาน แต่จริงๆแล้วตลอดทั้งกระบวนการ มันเป็นเวลาแค่ 3 4 นาทีเท่านั้น
สงครามเพิ่งจะเริ่มต้น!
เมืองธารทะเลทรายเพิ่งทะลวงแนวป้องกันของเมือง พลรบส่วนใหญ่ยังคงอัดแน่นกันอยู่หน้าประตูและกำแพงเมือง
แม้คาลิมัวจะถูกฆ่าตาย แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะกองทัพของเมืองธารทะเลทรายนั้นแก่กล้ามาก!
...
ภายใต้คำสั่งของฉูเทียนหัว เผ่าพันธุ์มนุษย์เริ่มโจมตีตอบโต้อย่างเป็นระบบ แม้กองทัพของคาลิมัวจะแข็งแกร่งกว่า แต่เมืองมนุษย์ก็ไม่อ่อนแอเช่นกัน
และที่สำคัญที่สุดก็คือในสี่เมืองมนุษย์ มีประชากรมนุษย์สูงถึง 5000 คน
ฉะนั้นไม่ต้องกล่าวถึงปริมาณโพชั่น คัมภีร์ และไอเท็มต่างๆที่พวกเขามี
บวกกับยุทธวิถีสงครามที่ได้รับการวิเคราะห์จากแผนกกลยุทธ์ของหยานจิง ฉูเทียนหัวสามารถควบคุมกองทัพและใช้อาวุธเหนี่ยวนำมนตราให้เกิดประโยชน์สูงสุด
พลังรบของเมืองธารทะเลทรายโดยรวมแล้วถึงจะสูงกว่าสี่เมืองมนุษย์ แต่ด้วยจำนวนขุนพลที่น้อย จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะสั่งการรูปแบบการโจมตีในระดับยิบย่อยเมื่อเทียบกับฉูเทียนหัว
และเนื่องจากการสูญเสียผู้บังคับบัญชาสูงสุดไป
เมื่อต้องทนทุกข์จากการโจมตีอันเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ช้ากองทัพเมืองธารทะเลทรายก็ตกอยู่ในความโกลาหล สมุนทหารเริ่มสู้กันเอง ไม่ต้องกล่าวถึงการร่วมมือกัน
ในทางกลับกัน ฉูเทียนหัวคอยปรับตำแหน่งทีมตลอดเวลา ไล่สั่งการตั้งแต่ระดับกองพัน ไปจนถึงทีมสิบคน เพื่อมอบหน้าที่ที่ก่อประโยชน์สูงสุดแก่พวกเขา
ค่อยๆพลิกฟื้นสถานการณ์จากที่ตกเป็นเสียเปรียบ ในทางกลับกันเริ่มปราบปราเมืองธารทะเลทราย
และสุดท้าย
เมื่อฮังอวี่นำทัพเข้าโจมตีด้วยตัวเอง ในที่สุดกองทัพเมืองธารทะเลทรายก็พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง
การต่อสู้อันดุเดือดกินเวลายาวนานกว่าหนึ่งชั่วโมงเต็ม ทั้งสี่เมืองมนุษย์มีคนล้มตายมากกว่าครึ่ง สมุนทหาร 10,000 นายจากเมืองธารทะเลทราย ทิ้งศพ 7,000 - 8,000 ศพไว้เบื้องหลัง
ขุนพลมากกว่าสิบตนรีบหลบหนีไปพร้อมกันสมุนทหารที่เหลืออยู่
แม้จะจ่ายด้วยราคาที่แพงมหาศาล
แม้จะต้องออกแรงไปมาก แต่สุดท้ายก็ลงเอยด้วยชัยชนะของสี่เมืองมนุษย์!
และการต่อสู้ครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง!
เพราะมันจะนำไปสู่การสับเปลี่ยนขั้วอำนาจทั่วทั้งภูมิภาค!