Ep.420 - การต่อสู้ที่ดุดันที่สุด
1/3
Ep.420 - การต่อสู้ที่ดุดันที่สุด
ณ จัตุรัสเมืองหุบเขาเดียวดาย
เจียงหนาน เสี่ยวไป๋ เสี่ยวเฉียง ลุค คริส ไดอาน่ามารวมกันอยู่ที่นี่
พร้อมกับยอดฝีมือชั้นนำของเผ่ามนุษย์มากกว่าสิบคนยืนเคียงข้าง โดยคนในกลุ่มนี้ มีสองสามคนคอยควบคุมสมุนทหารโล่ยักษ์ของก็อบลินหมีหลายสิบตัว และที่เหลือควบคุมทหารรักษากับทหารจอมเวทย์หลายสิบนาย
พวกเขาคือกองกำลังพิเศษที่ถูกจัดไว้ที่นี่โดยเฉพาะ
“มาแล้ว!”
กระแสวังวนปรากฏขึ้นกลางจัตุรัส
วินาทีถัดมา เซนทอร์ตัวสูงที่ดูแข็งแกร่งกำยำ บนตัวปกคลุมไปด้วยแสงสีฟ้าก็ถูกปล่อยออกมา
เจ้าหมอนี่จะเป็นใครอื่นไปได้อีกหากไม่ใช่ คาลิมัวขุนนางใหญ่แห่งเมืองธารทะเลทราย?
คาลิมัวออกจากวังวน ถูกส่งมายังจัตุรัส ลึกเข้ามาในเมืองหุบเขาเดียวดาย มันถูกโยกย้ายมาไกลกว่าหลายหมื่นเมตร ตกสู่หลุมพรางที่เตรียมเอาไว้ รอบด้านเต็มไปด้วยพลรบซุ่มโจมตีจากทุกทิศทาง
ฮังเสี่ยวไป๋มีเลเวล 13 เหมือนฮังอวี่ ปฏิกิริยาของเธอเร็วที่สุด เปิดใช้สกิลขั้น 3 ‘แดนมายาเนรเทศ’ ใส่คาลิมัวทันที
ต่อให้เป็นคาลิมัวที่มีเลเวลและค่าคุณสมบัติสูง ก็ยังถูกสกิลสายควบคุมหน่วงเหนี่ยวอันแก่กล้านี้คุมขังไว้ชั่วคราว เปิดโอกาสให้คนอื่นโจมตี
เจียงหนานตะโกน “รีบจัดการมัน!”
ลุคร่ายรำกระบี่ยักษ์ สะบั้นกระบี่สองสาย ฟันใส่คาลิมัว
เสี่ยวเฉียงและคริสร่ายคาถาอันทรงพลังตามมาติดๆ คนอื่นๆก็เริ่มลงมือเช่นกัน
ในชั่วพริบตา คาลิมัวถูกโจมตีนับสิบๆครั้ง
ดาเมจโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5 - 9 ต่อครั้ง แต่เมื่อรวมๆกันแล้วยอดสะสมยังไม่ถึงร้อย แม้จะไม่กล้าบอกว่าไม่คุกคามเลย แต่ด้วยพลังโจมตีระดับนี้ หากคิดสังหารคาลิมัวในช่วงเวลาสั้นๆ มันแทบเป็นไปไม่ได้
เจตจำนงและค่าความต้านทานของคาลิมัวสูงเกินไป ใช้เวลาเพียงสองวินาทีก็สามารถหลุดพ้นจากสกิลของเสี่ยวไป๋ เร่งเร้าพละกำลังระเบิดมันออกมา กวาดออกเป็นคลื่นลม แผ่ขยายไปหลายสิบเมตร
ทหารโล่ยักษ์ก็อบลินหมีที่อยู่เบื้องหน้าถูกปะทะ เกิดอาการมึนงงขึ้นทันใด พลังชีวิตลดลงเกือบครึ่ง
ทุกคนได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย ... พวกเขาไม่เคยเห็นสกิลสายระเบิดพลังที่มีอำนาจทำลายล้างสูงขนาดนี้มาก่อน!
เจียงหนานเร่งร่ายสกิลรักษาหมู่ ฟื้นฟูเหล่าทหารโล่ยักษ์และสมาชิกที่ได้รับบาดเจ็บ ด้วยพลังในการฟื้นฟูของเธอ ทำให้ค่าพลังชีวิตของเป้าหมายนับสิบเพิ่มขึ้นอย่าง
ทุกคนปรับตัวได้ เริ่มลงมืออีกครั้ง
การโจมตีมากมายประทังเข้าใส่คาลิมัวอย่างต่อเนื่อง
คาลิมัวมีประสบการณ์ต่อสู้มากมาย มันสามารถตัดสินสภาพแวดล้อมที่ตนประสบได้ในทันที
อันดับแรกเปิดใช้งานสกิลเสริมการป้องกันที่มาพร้อมชุดเกราะบนตัว สกัดการโจมตีทางกายภาพและคาถาโดยรอบ ไม่มียอดฝีมือคนไหนในที่นี้สามารถเป็นภัยคุกคามแก่มันได้เลย
คาลิมัวสามารถระบุได้ทันที ว่าผู้ที่อันตรายที่สุดในบรรดาคนที่ดักซุ่มที่นี่ หนึ่งคือฮังเสี่ยวไป๋ อีกหนึ่งคือเจียงหนาน ฝ่ายแรกเป็นผู้ใช้วิญญาณที่มีค่าคุณสมบัติสูงและสกิลควคุมอันแก่กล้า ฝ่ายหลังเป็นนักบวชศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังในการสนับสนุนที่ดีมาก
คาลิมัวกำหมัดแน่น รังสีสายฟ้าลั่นในฝ่ามือมัน
หอกยาวที่ขว้างสังหารฉินมู่ในวินาทีเดียวกลับคืนสู่มือ
เมื่อยกหอกขึ้นอีกครั้ง ก็ทิ่มแทงไปยังตำแหน่งของเจียงหนานและฮังเสี่ยวไป๋
หอกจำแลงสีทองอร่ามยาว 50 เมตรปรากฏขึ้น ทะลุทะลวงออกไปดั่งเครื่องบดหิน
นี่คือสกิลขั้น 3 - หอกทำลายกองทัพ!
ทหารโล่ยักษ์ 8 9 นายที่มีพลังป้องกันอันแก่กล้าถูกบดขยี้ไม่เหลือชิ้นดี
ใบหน้าของเจียงหนานแปรเปลี่ยนไปอย่างมาก จิตสำนึกสั่งให้ยกโล่ขึ้นต่อต้านโดยไม่รู้ตัว แต่ผลลัพธ์คือเมื่อหอกสัมผัสโดนแม้เพียงผิวเผิน โล่ในมือเธอก็ถูกทำลายเป็นชิ้นๆ ทะลวงเข้าสู่เนื้อหนังเธอ
“ผนึกดอกไม้ภูติ!” เสี่ยวไป๋เอื้อมมือออกไป ทันทีที่สัมผัสกับตัวหอก แขนข้างหนึ่งของเธอถูกทำลาย อย่างไรก็ตาม ขณะเดียวกันหอกยักษ์สีทองก็ถูกกลีบดอกไม้จำนวนมากกดทับ และสุดท้ายก็สลายหายไปในอากาศ
คาลิมัวขมวดคิ้ว
หยุดการโจมตีได้ด้วยสกิลผนึก?
เมื่อมันก้มลงมองตัวเอง พบว่าแสงสว่างรอบกายค่อยๆอ่อนจางลง
เนื่องจากอยู่ห่างกองทัพมากเกินไป สกิลของจ้าวสงครามจึงอ่อนแอลงอย่างมาก ข้อได้เปรียบถูกสะกดข่มอย่างรุนแรง หากคิดฟื้นคืนพลัง จำเป็นต้องกลับไปยังสนามรบ
มันพยายามหลบเลี่ยงการโจมตีอีกหลายครั้ง ดื่มโพชั่นที่มีศักยภาพอีกหลายขวด
คาลิมัวกำลังจะโจมตีต่อเพื่อสังหารเสี่ยวไป๋และเจียงหนานที่บาดเจ็บสาหัส เจียงฮ่าว
แต่เมื่อตีฝ่าวงล้อมเล็กๆมาได้ ร่างๆหนึ่งพลันปรากฏขึ้นอย่างไร้ที่มา
ขวานในมือผู้มาเยือนสับลงเหนือศีรษะคาลิมัว
เคร้ง!
บังเกิดประกายไฟวาบ!
รอยบิ่นตื้นๆปรากฏขึ้นบนหมวกเกราะ
เอฟเฟกต์สาดพิษของขวานปีศาจแมงป่องถูกเปิดใช้งาน
ร่างของคาลิมัวถูกห่อหุ้มไปด้วยสาพิษ ค่าคุณสมบัติลดลงระดับหนึ่ง
ศัตรูคู่อาฆาตปรากฏกายแล้ว!
หลังจากฮังอวี่หยุดยั้งการโจมตีของคาลิมัวได้ เขาเปิดใช้งานสกิลขั้น 3 สังหารลมกรดทันที 6 7 ร่างเงาพุ่งเข้าโจมตีจากทุกทิศทุกทาง โหมกระหน่ำใส่คาลิมัวพร้อมกัน
“ไปให้พ้น!” คาลิมัวแผดเสียง ปลดปล่อยปราณสงครามแผดเผา กลิ่นอายอันเร่าร้อนผลิบาน บดขยี้พื้นดินเป็นชิ้นๆ ในเวลาเดียวกันสร้างหลุมขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่าสิบเมตร
การโจมตีที่ประทังเข้ามาในระยะปราณสงคราม ทั้งหมดถูกปัดเป่าโดยอำนาจแห่งปราณสงคราม การโจมตีของฮังอวี่ไม่สามารถเข้าประชิดศัตรูได้เลย และกำลังจะถูกเอฟเฟกต์ของปราณสงครามแผดเผาเข้าทำร้าย
ไม่มีทางซะล่ะ!
ปราณสงครามคลั่ง!
ฮังอวี่ปลดปล่อยปราณสงครามของเขาเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ปราณสงครามของฮังอวี่อ่อนแอเกินไปเมื่ออยู่ต่อหน้าคาลิมัว เมื่อสองอำนาจประสานงา บังเกิดพลังงานจลน์มหาศาล ฮังอวี่ถูกไฟไหม้ทั้งตัว ปลิวละลิ่วราวกับว่าวสายป่านขาด
“จงตาย!”
“กวาดล้างคลั่งแผดเผา!”
คาลิมัวใช้ประโยชน์จากสถานะที่ยังไม่มั่นคงของฮังอวี่ ระเบิดการโจมตีอันทรงพลังขึ้นไปในอากาศ
ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ ฮังอวี่หมุนตัวลงกับพื้น เปิดใช้งานกายาเกราะของปรมาจารย์เลือดเหล็ก ขาทั้งสองราวกับหยั่งรากลึก ติดอยู่กับดิน ไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว
ขณะเดียวกันเขาเปิดใช้งานเนตรแห่งเงา ทุกสิ่งอย่างในโลกหล้าเคลื่อนไหวเชื่องช้าลงอย่างไม่น่าเชื่อ
ยังไงก็ตาม มีเพียงร่างของคาลิมัวเท่านั้นที่ยังคงเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ แม้ไม่ได้รับพรจากสกิลพุ่งเข้าชาร์จ แต่ฝีเท้าตามปกติของคาลิมัวนั้นใกล้เคียงกับความเร็วเสียง!
และยิ่งเป็นความเร็วในตอนที่มันเหวี่ยงหอกในมือ ไวยิ่งกว่าความเร็วเสียง เกิดแรงเสียดสีในอากาศ บริเวณรอบตัวหอกลุกไหม้ด้วยเพลิงพิโรธ ตรงเข้ามาอย่างไม่อาจหลบเลี่ยง
ฮังอวี่สั่งการผ่านความคิด ทั้งคนทั้งร่างเขาห่อหุ้มไปด้วยรังสีแสงสีแดง กระแสลมปราณและพลังในเลือดระอุขึ้นมา เสมือนดั่งลาวาปะทุออกจากร่างกายอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายหลอมรวมกันบนอาวุธในมือทั้งสองข้าง
สกิลขั้น 4 - กลบฝังปีศาจคลั่ง!
กระบี่และขวานเล็กปะทะกับหอกยาว แรงกดดันทำให้พื้นดินแตกร้าว ลุกลามออกไปเป็นสิบเมตร เสาพลังงานเพลิงโหมกระหน่ำโดยมีจุดหยั่งเท้าของเขาเป็นศูนย์กลาง
ทหารโล่ยักษ์หลายสิบตัวล่าถอยไม่ทัน ถูกคลื่นพลังงานสังหารในวินาทีเดียว
ฮังอวี่ได้รับความเสียหาย 208 หน่วย
คาลิมัวได้รับความเสียหาย 136 หน่วย!
ทั้งคู่กระเด็นแยกจากกัน ไถครูดไปตามพื้น
ฮังอวี่สู้กับสกิลขั้น 3 ของคาลิมัวด้วยสกิลขั้น 4 ที่พึ่งเรียนรู้มา
แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือทัดเทียมกัน นั่นหมายความว่าพลังของการโจมตีทั้งสองนี้เท่าๆกัน
อย่างไรก็ตาม พลังป้องกันของคาลิมัวสูงกว่า ความเสียหายที่ได้รับจึงน้อยกว่ามากขณะที่ฮังอวี่สูญเสียพลังชีวิตไปมากกว่าครึ่งในคราวเดียว
ภาพนี้
ทำให้หลายคนที่อยู่ด้วยตะลึงงัน
ลุคกลืนน้ำลายอย่างแรง “แล้วแบบนี้พวกเราจะเข้าไปแทรกได้ยังไง!”
ไดอาน่า คริส จางเสี่ยวเฉียง และคนอื่นๆ เหม่อมองไปยังสนามรบที่ไหม้เกรียมและกลายเป็นซากปรักหักพัง ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้จะเอ่ยคำใดดี
การปะทะกันระหว่างนักรบทั้งสอง แรงกดดันและเอฟเฟกต์ที่สร้างขึ้นในตอนท้ายเทียบได้เลยกับการโจมตีด้วยคาถาขั้นสูง!
คาลิมัวแข็งแกร่งจริงๆ!
แต่ก็เป็นที่เข้าใจได้ อย่างไรเสียคาลิมัวคือขุนนางใหญ่ หากไม่แกร่งพอ แล้วจะครอบครองอาณาเขตใหญ่มานานกว่า 10 ปีได้อย่างไร?
ฮังอวี่ก็แข็งแกร่งเหมือนกัน แค่ผู้อื่นแกร่งยิ่งกว่าเขาก็เท่านั้นเอง ฮ๊าาาา!
มนุษยชาติทุกคนยังถือว่าเป็นผู้เล่นที่อยู่บนเส้นสตาร์ท คนอื่นๆที่เผชิญหน้ากับคาลิมัวถูกฆ่าตายในการโจมตีเดียว แต่ฮังอวี่สามารถเผชิญหน้ากับคาลิมัวได้ตรงๆ นับเป็นสัตว์ประหลาดในหมู่มวลมนุษย์
เจียงหนานไม่สนใจเติมเลือดให้ตัวเองที่บาดเจ็บสาหัส เปิดร่ายสกิลรักษาทรงประสิทธิภาพ บวกกับสกิลฟื้นฟูค่าพลังชีวิตหลายครั้งลงบนตัวฮังอวี่ ส่งผลให้พลังชีวิตที่ลดน้อยลงเหลือหนึ่งในสามเพิ่มขึ้นกว่า 200 หน่วย!
สมแล้วที่เป็นนักเติมเลือดอันดับหนึ่งของมังกรคราม!
เมื่อฮังอวี่ยืนขึ้น อาการบาดเจ็บตามตัวเขาส่วนใหญ่หายเป็นปกติแล้ว ในขณะที่คาลิมัวดูย่ำแย่มาก มันถูกห้อมล้อมไปด้วยยอดฝีมือมนุษย์มากกว่าสิบคน + ยอดฝีมือขั้นสูงหนึ่งคน
ภายใต้สถานการณ์นี้
มันไม่สามารถได้รับความช่วยเหลือจากภายนอกได้!
ฮังอวี่สั่งการในความคิด ค่าพลังจิตถูกกลืนกินอย่างบ้าคลั่ง กระบี่บินคล้ายดั่งมัจฉาแหวกว่ายเริ่มก่อตัวขึ้นรอบกาย เขาจับจ้องไปยังขุนนางใหญ่เบื้องหน้าแล้วเอ่ยว่า “ยอมจำนนซะคาลิมัว ถ้ามอบตัวแกก็ไม่ต้องตาย!”
แต่คาลิมัวจะยอมแพ้ได้อย่างไร?
เมืองธารทะเลทรายกับเมืองหุบเขาเดียวดายคือเสือที่ไม่อาจอยู่ร่วมถ้ำเดียวกันได้!
คาลิมัวจะทำทุกวิถีทางเพื่อทำลายเมืองหุบเขาเดียวดาย!
และแก๊งมนุษย์ก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อยึดเมืองธารทะเลทรายเช่นกัน!
ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่ายไม่สามารถแก้ไข!
ดังนั้นคงเป็นเรื่องโง่มากหาก คาลิมัวยอมแพ้
ฮังอวี่แค่พยายามยั่วให้คาลิมัวโกรธ
และมองจากท่าทีที่แสดงออกของคาลิมัวแล้ว เขาบรรลุเป้าหมายนี้อย่างชัดเจน
ฮังอวี่กระซิบกับคนรอบตัวว่า “ทุกคนระวังไว้ ผมไม่มีเวลาดูแลคนอื่น พวกคุณต้องปกป้องตัวเอง!”