ตอนที่แล้วCD บทที่ 275 พ่อค้าตลาดมืด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 277 ยิมอะไร?

CD บทที่ 276 เหล่าเสี้ยนหนาม


ขณะที่เหลียงฮวนกำลังจะรายงานเรื่องที่จ้าวหยู่บอกเขากับเหมี่ยวอิง เขาก็ได้ยินเสียงดังวุ่นวายจากอีกฝั่งของโทรศัพท์ ราวกับว่าเหมี่ยวอิงถูกรบกวนโดยใครบางคน

“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ หัวหน้าทีมเหมี่ยว? ทำไมถึงเสียงดังโวยวายอย่างนี้?” เหลียงฮวนถามด้วยความสงสัย “ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนเหรอครับ?”

เมื่อได้ยินเหลียงฮวนถาม จ้าวหยู่ก็อยากรู้อยากเห็นเช่นกัน เขาชี้ไปที่เหลียงฮวนทันที เหลียงฮวนเข้าใจเจตนาอย่างอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว เขาวางโทรศัพท์ลงและเปลี่ยนเป็นโหมดลำโพง

“เออ… ไม่มีอะไร คุณสบายใจได้” เหมี่ยวอิงตอบอย่างกระวนกระวายใจ จากนั้นก็มีเสียงตะโกนจากปลายสายโทรศัพท์อย่างชัดเจน เสียงของผู้สืบสวนคนอื่น ๆ เช่น จางเหยาฮุ่ยและเผิงซินก็ดังเข้ามาเช่นกัน

“ฉันอยู่ที่สถานีตำรวจ แล้วพวกคุณล่ะ มีความคืบหน้าอะไรบ้างรึเปล่า?” เหมี่ยวอิงถามผ่านเสียงดัง

“เออ หัวหน้าทีมเหมี่ยว คุณสบายดีไหม เกิดอะไรขึ้น?” จ้าวหยู่รีบถาม

“ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร แค่เรื่องเล็ก ๆ ในทีมสอบสสวนเท่านั้น” ดูเหมือนว่าเหมี่ยวอิงจะเจอที่เงียบแล้ว เธอก็ถามขึ้นว่า "จ้าวหยู่ เหลียงฮวนเป็นอย่างไรบ้าง มีข่าวอะไรบ้างไหม?"

เมื่อได้ยินคำถามของเหมี่ยวอิง จ้าวหยู่ก็รายงานสิ่งที่พวกเขาค้นพบให้เธอฟัง เหมี่ยวอิงรับรู้ถึงความสำคัญในทันทีและบอกให้ทั้งสองคนอยู่ที่ธนาคารและค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป แล้วยังบอกว่าพวกเขาต้องตามหาพวกคนที่รับซื้อของที่ถูกขโมย เผื่อพวกเขาจะได้ค้นพบเบาะแสเพิ่มเติม

จ้าวหยู่ต้องการถามเธอมากกว่านี้ แต่น้ำเสียงของเหมี่ยวอิงฟังดูกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัดแล้วเธอวางสายทันทีที่พูดจบ

จ้าวหยู่ขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้นที่สถานีตำรวจ? ทำไมมันถึงเสียงดังอย่างนี้?”

“หัวหน้าทีมเหมี่ยวคงไม่ได้มีเรื่องชกต่อยกับใครใช่ไหม? ฉันคิดว่าฉันได้ยินเสียงของรองหัวหน้าหลันด้วย” เหลียงฮวนกล่าว “จ้าว ในเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ เรามาสืบสวนกันต่อเถอะ ไปเอาภาพจากกล้องวงจรปิดมาดูสิว่าใครเป็นเจ้าของกล่องทั้งสามใบนี้”

"อืม" จ้าวหยู่พยักหน้า แต่เขายังคงกังวลว่าเกิดอะไรขึ้นกับเหมี่ยวอิง

"ใช่แล้ว!" เหลียงฮวนจำบันทึกที่เขาเพิ่งดึงขึ้นมาในโทรศัพท์ได้ เขาเปิดโทรศัพท์อีกครั้งทันทีและชี้ไปที่รูปภาพหนึ่ง “นี่คือข้อมูลของกล่องทั้งสามนี้! มาดูสิ! กล่องทั้งสามนี้ถูกเปิดบ่อยมาก มันถูกเปิดมากกว่าสิบครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา!”

"มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก" จ้าวหยู่กล่าว "มันเป็นธุรกิจใต้ดินขนาดใหญ่และได้กำไรมหาศาล" เขาชี้ไปที่ของมีค่าทั้งหมดบนโต๊ะ "ราคาขายของพวกมันมักจะมากกว่าสิบเท่าของที่พวกเขาซื้อตามปกติ นอกจากนี้ ถ้าพวกเขาทำการประมูลขายใต้ดิน ราคาจะไม่ต่ำกว่าการประมูลอย่างเป็นทางการเลย"

"ว้าว มันน่าทึ่งมาก!" เหลียงฮวนตาโตด้วยความประหลาดใจ “จ้าว ฉันอยู่ในธุรกิจสะสมของโบราณมาหลายปีแล้ว แต่ฉันไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับการประมูลใต้ดินมาก่อน คุณน่าทึ่งมาก คุณรู้ได้อย่างไร?”

‘ก็ไม่ยาก’ จ้าวหยู่คิด ‘เพราะฉันเคยเห็นธุรกิจผิดกฎหมายมาพอสมควร ยกเว้นทุกครั้งที่ฉันเป็นบอดี้การ์ดเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่’

“โอ้ ฉันคิดว่าฉันรู้อะไรบางอย่าง!” เหลียงฮวนกล่าว “พวกโจรปล้นธนาคารน่าจะมีความแค้นกับพวกธุรกิจใต้ดิน พวกเขาปล้นธนาคารเพื่อเปิดเผยองค์กรที่ผิดกฎหมาย เพื่อให้พวกเราเข้าไปจัดการพวกเขา!”

“ฮี่ฮี่…” จ้าวหยู่ส่ายหัวขณะหัวเราะ เขาตบไหล่เหลียงฮวน “เหลียง ในฐานะสมาชิกแผนกสืบสวน คุณช่างไร้เดียงสาอะไรอย่างนี้ ช่างน่ารักจริง ๆ”

“อะไรนะ? คุณหมายความว่ายังไง? ฉันคิดผิดเหรอ?”

"บนถนนนี่เรียกพวกเขาว่าการตอบโต้ของคู่แข่ง!" จ้าวหยู่อธิบาย “คิดดูสิ ถ้าหากองค์กรอีกกลุ่มต้องการแทนที่องค์กรที่มีอยู่เดิม และเข้าครอบครองธุรกิจขนาดยักษ์นี้ด้วยตัวเอง นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมพวกเขาถึงเสี่ยงต่อการปล้นธนาคารเพื่อทำลายองค์กรเดิม จากนั้นพวกเขาก็สามารถสร้างตลาดมืดที่ใหญ่กว่าได้!”

"โว้ว! คนพวกนี้ไร้ความปราณีจริงๆ!" เหลียงฮวนถอนหายใจ “ถ้าเป็นเช่นนั้น… ถ้าเราสามารถหาคู่แข่งขององค์กรตลาดมืดได้ เราจะสามารถไขคดีนี้ได้หรือไม่?”

“พูดตามหลักเหตุผลก็ใช่ แต่คนเหล่านี้ทำงานในธุรกิจนี้มาหลายปีแล้ว การหาตัวพวกเขาจึงไม่ใช่เรื่องง่าย” จ้าวหยู่พูดอย่างระมัดระวัง

"แล้วเราจะรออะไร ไปกันเถอะ!" เหลียงฮวนพูดอย่างตื่นเต้น “ครั้งสุดท้ายที่กล่องถูกเปิดคือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าใครเปิดกล่องจากกล้องรักษาความปลอดภัย!”

จ้าวหยู่พยักหน้าแล้วตามเหลียงฮวนออกจากห้องนิรภัยที่มืดมิด

ขณะที่พวกเขากลับไปที่ล็อบบี้ธนาคาร โทรศัพท์ของจ้าวหยู่ก็ดังขึ้น การโทรมาจากหลี่เบ่ยหนี ทันทีที่จ้าวหยู่รับสาย เสียงกังวลของอีกฝั่งก็ดังมา

"รุ่นพี่คะ! เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ ตอนนี้ทั้งสถานีตกอยู่ในความยุ่งเหยิงอย่างสมบูรณ์แล้วค่ะ!"

"อะไรนะ!?" แม้ว่าจ้าวหยู่จะรู้สึกตะขิดตะขวงใจในตอนที่โทรหาเหมี่ยวอิงก่อนหน้านี้ แต่เขาไม่เคยคิดว่ามันจะร้ายแรงขนาดนี้ เขาถามทันที “มันเกิดอะไรขึ้น? หลี่เบ่ยหนีบอกฉันมา!”

"ตอนนี้สถานีเกิดความวุ่นวายจากหลายเหตุการณ์ รุ่นพี่ต้องตั้งใจฟังฉันให้ดี ๆ นะคะ" หลี่เบ่ยหนีหยุดชั่วครู่ก่อนจะพูดว่า “ก่อนอื่นถังจ้าวหลง หัวหน้าสถานีได้ยื่นจดหมายลาออกอีกครั้ง คราวนี้เขาบอกว่าเขาจะไม่กลับมาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่าอำนาจของเขามีจำกัดและเขารับมือคดียาก ๆ แบบนี้ไม่ไหว เขาอยากจะกลับไปที่ถงหยางให้เร็วที่สุด!

“เห็นได้ชัดว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงไม่ปล่อยให้เขาลาออกแต่ถังจ้าวหลงได้ตัดสินใจไปแล้ว เขาจะไม่รับตำแหน่งต่อไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันได้ยินที่คนอื่น ๆ ลือกันว่าสถานีสาขาหรงหยางจะถูกดูแลโดยรองหัวหน้าหลันค่ะ!”

“นี่มันไม่ใช่ข่าวดีเหรอ?” จ้าวหยู่หัวเราะ “รองหัวหน้าหลันเคยเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวนมาก่อน เธอมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญพอสมควร การที่เธอรับช่วงต่อถือว่าเป็นอะไรที่เหมาะสมแล้ว”

“ในทางเทคนิคก็ใช่ค่ะ แต่ทางสำนักงานใหญ่กลับมองว่า การที่ตำแหน่งหัวหน้าสถานีของเราว่างตลอดเวลา มันดูไม่ดีกับสายตาของประชาชนที่มองมาจากภายนอก เรื่องนี้ทำให้ทุกคนเครียดมากเลยค่ะ” หลี่เบ่ยหนี่ถอนหายใจ “โอ้ จริงสิ เรื่องอื่นนี่นับว่าแย่ไม่ได้ แต่ก็ไม่ดีเหมือนกันค่ะ เจ้าหน้าที่ระดับสูงได้ออกคำสั่งย้ายหลิวชางฮูออกจากสาขาหรงหยางไปแล้วค่ะ!”

“โอ้ หลิวชางฮูไปแล้วเหรอ?” จ้าวหยู่คิดกับตัวเองว่า “เมื่อไอ้หลิวออกไปแล้ว เหมี่ยวอิงก็จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งทันทีไม่ใช่เหรอ บางทีฉันอาจจะจบลงด้วยการเป็นหัวหน้าทีม”

“ไม่ใช่แค่ถูกย้าย แต่เขายังได้รับการเลื่อนขั้นด้วยค่ะ!” หลี่เบ่ยหนีกล่าว "หลิงชางฮูถูกย้ายไปยังกรมสืบสวนคดีเศรษฐกิจในฐานะหัวหน้าทีมค่ะ!"

"โอ้ จริงเหรอเนี่ย!" จ้าวหยู่อุทาน “กรมสอบสวนคดีเศรษฐกิจเป็นแผนกที่ค่อนข้างดี ต่อจากนี้ไป เขาจะมีการสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง! แต่ไม่ว่าตำแหน่งของเขาจะเป็นอย่างไร เขาก็ยังเป็นผู้ตรวจสอบคดีเศรษฐกิจ แต่มันไม่เกี่ยวอะไรกับเราคดีอาชญากรรม!”

“มันก็ใช่ค่ะ แต่เขายังอยู่ในตำแหน่งที่สูง หวังว่าเขาจะไม่ทำอะไรคุณหลังจากนี้…”

“เขาจะไปสนใจฉันทำไม” จ้าวหยู่เตือนความจำเธอว่า "ฉันไม่ได้เป็นคนทุบหัวของเขาซะหน่อย เธอควรบอกหัวหน้าทีมเหมี่ยวให้ระวังจะดีกว่า!"

“จริงด้วย ฉันลืมเรื่องนั้นไปเลย เมื่อพูดถึงหัวหน้าทีมเหมี่ยว มันยังมีปัญหาใหญ่ที่ฉันไม่ได้บอกรุ่นพี่ค่ะ!” หลี่เบ่ยหนีกล่าวทันทีว่า “เช้านี้ มีคนจำนวนมากมาที่สถานี คนเหล่านี้ถูกนำโดยรองหัวหน้าทีมสืบสวนคดีอาชญกรรมของสำนักงานเมือง พวกเขาบอกว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อช่วยเราสอบสวนคดีธุรกรรมอำพรางค่ะ!”

"หื้ม? อะไรนะ?" จ้าวหยู่รู้สึกตื่นตัวในทันใด

“คนเหล่านี้ค่อนข้างหยิ่งผยอง” หลี่เบ่ยหนีกล่าว “เมื่อพวกเขามา พวกเขาขอให้หัวหน้าทีมเหมี่ยวออกจากห้องทำงานทีม B ทันที และแม้กระทั่งแบ่งปันทรัพยากรกรณีทั้งหมด ลองคิดดูสิคะ พวกเราจะยอมได้อย่างไร นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นค่ะ!”

ในที่สุด จ้าวหยู่ก็เข้าใจว่าทำไมมันถึงมีเสียงดังเมื่อตอนที่เขาคุยกับเหมี่ยวอิง

“แต่คนเหล่านี้มาพร้อมกับคำสั่งจากหัวหน้าสำนักงานฮงจากสำนักงานเมือง” หลี่เบ่ยหนีกล่าว “แม้แต่รองหัวหน้าหลันก็ไม่สามารถหยุดพวกเขาได้! เฮ้อ! ใครจะรู้ว่าคนเหล่านี้ถูกส่งตัวมา เพราะทางเจ้าหน้าที่ระดับสูงรู้สึกว่าความคืบหน้าของเราช้าเกินไป นี่คือการกดดันพวกเราทางอ้อมค่ะ!”

“รุ่นพี่ค่ะ หากเราสามารถไขคดีได้มันจะเป็นอะไรที่เยี่ยมมาก!” หลี่เบ่ยหนีกังวลมาก “แต่ถ้าคนพวกนั้นไขคดีนี้ได้แทน แผนกสืบสวนของสถานีหรงหยางคงจะต้องได้รับความอัปยศอย่างใหญ่หลวง!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด