ตอนที่แล้วยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 19 ตระกูลเซียวแห่งลี่หยาง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 21 หมิงเยว่โกรธเกรี้ยว

ยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 20 เย่ชิวผู้เจ้าเล่ห์


ยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 20 เย่ชิวผู้เจ้าเล่ห์

“หยิ่งผยองเกินไป!” ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังเซียวอี้โมโหเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินเช่นนี้ พวกเขาชักกระบี่ออกมาทันทีและกำลังจะโจมตี

เซียวอี้หยุดพวกเขาอีกครั้ง เขามองดูเย่ชิวอย่างระมัดระวังอีกครั้ง อยากรู้ว่าเย่ชิวเป็นใครมาจากไหนกันแน่

ในดินแดนรกร้างทางทิศตะวันออก มีตระกูลและกลุ่มทรงอำนาจมากมาย แม้ว่าเขาจะเป็นนายน้อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาโง่ หลังจากมองให้ละเอียด เขาก็มั่นใจว่าเขาไม่เคยเห็นเย่ชิวมาก่อน

“ขอทราบได้หรือไม่ว่าเจ้ามาจากตระกูลใด”

เย่ชิวยิ้มอย่างแผ่วเบาและกล่าวว่า “ข้ามีภูมิหลังที่ยากจน ข้าจะเปรียบเทียบกับนายน้อยเซียวได้อย่างไรกัน”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา เซียวอี้ก็ได้ตัดสินใจอยู่ภายในใจแล้ว ทันใดนั้นการแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไป

“ดีมาก เจ้าสารเลว เตรียมรับความโกรธของข้า พวกเจ้าไป สอนบทเรียนให้มัน…” เซียวอี้โบกมือและยอดฝีมือสองสามคนที่อยู่ข้างหลังเขาก็กระโจนออกไปทันที กลิ่นอายของเหล่าลูกน้องถูกเปิดเผยออกมาและยอดฝีมือขอบเขตสวรรค์สองคนที่อยู่ข้างหลังได้พุ่งออกมาก่อน

เซียวอี้มั่นใจอย่างมากเกี่ยวกับองครักษ์ทั้งสองของเขา ท้ายที่สุด พวกเขาเป็นผู้พิทักษ์ส่วนตัวของท่านพ่อของตน ตลอดหลายปีที่ผ่านมาองครักษ์ได้ช่วยเขากระทำเรื่องชั่วร้ายมากมาย

“ขอบเขตสวรรค์” เย่ชิวเหงื่อออก เย่ชิวคิดว่าพวกเขาเป็นยอดฝีมืออยู่แล้ว ทว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเช่นกัน เพียงแค่ยืนเย้ยหยันอย่างสบาย ๆ

หลินชิงจู้ยืนอยู่ข้างหลังเย่ชิวอย่างไร้ความรู้สึก นางสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของอีกฝ่ายได้เช่นกัน องครักษ์สองคนนี้คงไม่รู้ว่าตนเองจะพ่ายแพ้เลยใช่หรือไม่

ทันใดนั้น องครักษ์ทั้งสองก็เข้าประชิดตัวเย่เชิว แต่พวกเขาก็ต้องหยุดกะทันหันเมื่อกระบี่ทั้งสองเล่มอยู่ห่างจากเย่ชิวเพียงห้าเซนติเมตร

“พวกเจ้ากำลังทำอะไร ลงมือบัดนี้!” เซียวอี้หงุดหงิดเป็นมาก เขาคิดว่าองครักษ์ทั้งสองกำลังรู้สึกสงสารเย่ชิว

ในขณะนี้ พลังที่น่าตกใจได้ปะทุออกมาจากร่างกายของเย่ชิว ฉับพลัน องครักษ์ทั้งสองก็กระเด็นออกไป ทั้งคู่ถูกห้อมล้อมด้วยปราณกระบี่ ไม่นานทั้งคู่ก็ถูกปกคลุมไปด้วยรูมากมาย

เงียบงัน…

บรรยากาศเปลี่ยนเป็นเงียบสงัดอย่างน่าหวาดกลัว เซียวอี้มองดูองครักษ์ที่ตกตายอยู่บนพื้นอย่างไม่เชื่อสายตา แล้วมองไปยังเย่ชิวที่ยังคงนิ่งอยู่

“ขอบเขตชีวาเร้นลับ!” ชายชราชุดดำกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว เขาสัมผัสได้ถึงพลังที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของเย่ชิวได้อย่างชัดเจน นั่นคือพลังของขอบเขตชีวาเร้นลับ!

“ผู้อาวุโสซู ท่านกำลังกล่าวอะไร ขอบเขตชีวาเร้นลับอย่างงั้นหรือ” สีหน้าของเซียวอี้เต็มไปด้วยความไม่ยากเชื่อ เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเย่ชิวจะเป็นยอดฝีมือในขอบเขตชีวาเร้นลับ แม้แต่ตระกูลเซียวของพวกเขาซึ่งเป็นตระกูลใหญ่เช่นนี้ก็มีเพียงยอดฝีมือขอบเขตชีวาเร้นลับเพียงสองคนเท่านั้น ทว่าเย่ชิวยังดูเด็กมากและยังได้กล่าวอีกว่าตนมาจากครอบครัวที่ยากจน แล้วเย่ชิวกลายเป็นยอดฝีมือขอบเขตชีวาเร้นลับได้อย่างไร

“นายน้อย ข้าเกรงว่าคราวนี้เราจะเจอตอเข้าแล้ว” ผู้อาวุโสซูกล่าวด้วยใบหน้าซีดเซียว แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของเขาจะอยู่ในขอบเขตอนันตะมรรคาและมีสถานะที่สูงมากในตระกูลเซียวก็ตาม

อย่างไรก็ตาม การเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวที่อยู่ในขอบเขตชีวาเร้นลับ ไม่ต้องพูดถึงเขา แม้แต่หัวหน้าตระกูลเซียว ก็ไม่กล้าที่จะยั่วยุบุคคลเช่นนี้ง่าย ๆ เขานึกไม่ออกว่าเหตุใดถึงมียอดฝีมือชีวาเร้นลับปรากฏอยู่ในเมืองที่รกร้างว่างเปล่าแห่งนี้

ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่หัวหน้ากลุ่มก็ยังพบว่าเป็นการยากที่จะต้านทานเจตนากระบี่จากอีกฝ่าย เย่ชิวนั้นแข็งแกร่งเกินไป

ใบหน้าของเซียวอี้ซีดเป็นไก่ต้มทันทีหลังจากได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสซู แม้ว่าเขาจะกระทำการชั่วร้ายอย่างระมัดระวัง แต่ก็ไม่ได้คาดหวังเลยว่าตนเองจะไปยั่วยุบุคคลอันตรายเข้า

“นายน้อยเซียว เป็นอะไรไปหรือ” ในขณะนี้เย่ชิวได้เปิดเผยรอยยิ้มเย้ยหยันออกมา “เมื่อครู่เจ้ากล่าวว่าอะไรหรือ ข้าฟังไม่ชัด กล่าวอีกครั้งได้หรือไม่”

เซียวอี้ได้สาปแช่งเย่ชิวอยู่ภายในใจ ‘กล่าวตูดข้าสิ ตนเองแกล้งทำเป็นหมูกินเสือ เจ้าจงใจทำสิ่งนี้ใช่หรือไม่ การที่เจ้าต้องการให้ข้าพูดอีกครั้ง เจ้าคิดว่าข้าเป็นบุคคลโง่เขลาเช่นนั้นหรือ บัดซบ พวกยอดฝีมือสมัยนี้ชอบละเล่นเช่นนี้หรือ’

เซียวอี้รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง ก่อนที่เขาจะเดินทาง พ่อของเขาได้สั่งสอนแล้วว่าคราวนี้สำนักเซียนและดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ จะส่งยอดฝีมือออกมาด้วยกันมากมาย พ่อของเขาบอกให้เขายับยั้งตนเองไว้เช่นกัน เพราะเกรงว่าเซียวอี้อาจทำให้ยอดฝีมือเหล่านั้นขุ่นเคือง และตระกูลของเขาก็อาจไม่สามารถแบกรับความรับผิดชอบดังกล่าวได้

ในตอนแรกเซียวอี้ไม่ได้สนใจเรื่องนี้นัก เขาคิดว่าบิดากำลังปั้นน้ำเป็นตัวและจงใจทำให้เขาต้องระวังตัว

จนกระทั่งเขามาถึงเมืองโบราณแห่งนี้ในถิ่นทุรกันดาร

ในที่สุดเซียวอี้ก็ตระหนักว่าพ่อของเขาพูดถูก

เซียวอี้รู้สึกสิ้นหวังอย่างยิ่งหลังจากที่เขามองไปยังเย่ชิวที่กำลังมองตนอย่างสนุกสนาน

ตอนแรกเขาคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงตัวตลกที่อยู่ในกำมือของตน ในที่สุดเขาก็รู้ว่าที่จริงแล้วตัวเขาเองนั้นคือตัวตลก เมื่อคิดได้เช่นนี้ เซียวอี้ก็อยากจะตบหน้าตนเองทันที

เมื่อไหร่กันที่เขาจะสามารถเปลี่ยนนิสัยเช่นนี้ของตนได้ คนธรรมดาจะสามารถครอบครองสตรีที่งดงามเช่นนี้ได้อย่างไร เขาสาปแช่งตนเองอยู่ภายในใจ เซียวอี้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือและคุกเข่าลงทันทีหลังจากที่เขาเห็นว่าเย่ชิวกำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ

“ผู้อาวุโส เป็นข้าเองที่ตาบอดและโกรธเคืองท่าน ข้าหวังว่าท่านจะสามารถไว้ชีวิตข้าได้ ข้ายังต้องดูแลบิดามารดาที่แก่ชรา”

“อึก…” เหตุการณ์ที่เกิดการพลิกผันอย่างไม่คาดฝันนี้ทำให้หลินชิงจู้หัวเราะออกมา

‘นี่เป็นแรงกดดันจากยอดฝีมืองั้นหรือ ท่านอาจารย์อำมหิตยิ่งนัก แต่ข้าชอบยิ่งนัก ฮิฮิ ข้ารู้สึกปลอดภัยเหลือเกิน’

มุมปากของเย่ชิวกระตุกและเขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อมองไปยังเซียวอี้ที่คุกเข่าอยู่บนพื้น เดิมทีเขาคิดว่าเด็กคนนี้อาจจะดื้อรั้นเล็กน้อยและยังคงวางท่าทีโอ้อวดต่อ ทว่าตอนนี้กลับอ้างว่าตนมีบุพการีที่ต้องดูแล

ในที่สุด ความแตกต่างก็มากเกินไป ไม่สิ ลูกชายที่อวดดีกลุ่มนี้เลวเกินไปแล้ว!

“ดูเหมือนว่านายน้อยเซียวจะค่อนข้างกตัญญู ไม่เลว! ข้าชื่นชมคนอย่างเจ้าที่กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ดี! ครั้งนี้ข้าจะไม่เอาเรื่องกับเจ้า”

เซียวอี้รู้สึกตื่นเต้นในทันทีและถอนหายใจหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเย่ชิว ในที่สุดเขาก็ก้าวขาออกมาจากนรกได้

ไม่ทันรอให้เซียวอี้ได้ดีใจต่อ เย่ชิวก็กล่าวโดยไม่คาดคิดว่า “เมื่อข้ามีเวลา ข้าจะเดินทางไปยังตระกูลเซียวแห่งลี่หยางเป็นการส่วนตัวและดูว่านายน้อยเซียวจะเป็นแสดงความกตัญญูต่อบิดาของตนอย่างไร”

“นี่!” เซียวอี้ทรุดตัวลงกับพื้นพร้อมเสียงดังตุ้บ นี่ นี่ นี่ นี่…

“นายน้อยเซียว เจ้าอย่าโกหกข้าจะดีกว่า หากข้าไปยังตระกูลเซียวและตระหนักว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าพูด ก็แสดงว่าเจ้ากำลังโกหกข้า ข้าเกลียดยิ่งนักเวลาที่มีคนเล่นลิ้น ปกติข้าจะใช้วิธีการพิเศษเพื่อทรมานคนเช่นนี้จนตายไป…”

หัวใจของเซียวอี้เย็นเยียบในทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา ‘ข้าจบสิ้นแล้ว’

“คิก…” ในขณะนี้ หลินชิงจู้ไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะของนางได้อีกต่อไป นี่เป็นครั้งแรกที่นางตระหนักได้ว่าท่านอาจารย์ของนางช่างฉลาดแกมโกงยิ่งนัก

คำพูดไม่กี่คำนี้อาจเป็นบาดแผลของเซียวอี้ไปตลอดชีวิต เพราะเขาไม่รู้ว่าเย่ชิวจะไปเยือนตระกูลเซียวเมื่อใด แม้ว่าเซียวอี้อยากจะหลุดพ้น เขาก็ทำไม่ได้ ทำได้เพียงทำตัวเหมือนลูกกตัญญูต่อไป

“เอาล่ะ นายน้อยเซียว! หากไม่มีอะไรแล้วก็จงรีบกลับไปแสดงความกตัญญูต่อบิดามารดาของเจ้า” เย่ชิวยิ้มอย่างสนุกสนาน

สีหน้าของเซียวอี้ย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ ขณะที่เขาหนีไป เขาฟื้นความรู้สึกของตนเองได้หลังจากหลบหนีไปได้ระยะไกลแล้ว “บัดซบ! ครั้งนี้ข้าเกือบตายไปแล้วจริง ๆ…”

ด้านข้าง ผู้อาวุโสซูมองไปยังสีหน้าที่เศร้าสลดของเซียวอี้และกล่าวว่า “นายน้อย ข้าคิดว่าท่านควรทำตามที่เขาพูด ข้าสัมผัสได้ชัดเจนว่ากลิ่นอายของเขาน่ากลัวยิ่งกว่าท่านหัวหน้าตระกูลของเราเสียอีก นอกจากนี้… เจตนาของกระบี่ที่น่าอัศจรรย์เช่นนั้น ข้าเกรงว่าแม้แต่ผู้ฝึกตนในขอบเขตปรมาจารย์ยุทธก็ไม่ใช่คู่มือของเขา

“คราวนี้ ท่านได้ทำให้บุคคลที่ไม่ควรยั่วยุขุ่นเคืองแล้วจริง ๆ ท่านไม่สามารถทำให้ขุ่นเคืองได้อีก”

หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้เซียวอี้ก็รู้สึกสิ้นหวังมากขึ้น โดยปกติผู้อาวุโสซูไม่เคยโกหก หากเขากล่าวเช่นนี้เขาก็ไม่มีทางเลือก

5 2 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด