ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2 : ตัวซวยในบ้าน

บทที่ 1 : นางถูกขายตั้งแต่มาถึง


บทที่ 1 : นางถูกขายตั้งแต่มาถึง

ในหมู่บ้านช่างซี

สือชิงลั่วค่อยๆเปิดเปลือกตาและพบกับโรงนาขนาดย่อมหลังหนึ่ง

นางมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงและความทรงจำที่ไม่ใช่ของนางก็หลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด

ก่อนที่นางจะทันได้ตั้งสติให้ดี ก็มีมือหนึ่งคว้าแขนของนางเอาไว้

“นังเด็กสารเลว เจ้ายังคิดที่จะแกล้งตายต่อหน้าข้าอยู่อีกหรือ? นังตัวซวย ถึงวันนี้เจ้าจะตาย เหล่าเหนียงก็จะส่งศพของเจ้าไปที่นั่นอยู่ดี”

หลังจากสตรีนางนั้นพูดจาถากถางจนพอใจแล้ว นางก็ง้างมือขึ้นมาด้วยความโกรธเพื่อที่จะตบหน้าสือชิงลั่ว

สือชิงลั่วยกมือขึ้นจับมือที่ต้องการตบหน้านางเอาไว้โดยสัญชาตญาณ

เพราะความทรงจำที่เพิ่มเข้ามา ทำให้นางเข้าใจเรื่องทั้งหมดได้ในทันที

นางมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชาและพูดว่า “ข้าไม่ไป การแต่งงานนั่นเป็นเจ้าที่ตัดสินใจเอง ถ้าเจ้าอยากไป เจ้าก็ไปเองเสียสิ”

มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่สตรีนางนี้เป็นมารดาผู้ให้กำเนิดของเจ้าของร่างเดิม หนิวซื่อ

ในปีที่ให้กำเนิดเจ้าของร่างเดิมนั้นนางคลอดยากอย่างมาก นางจึงโทษว่าเจ้าของร่างเดิมเป็นตัวซวย นางจึงมักทำร้ายและดุด่าบุตรสาวคนนี้อยู่เสมอ

เมื่อเจ้าของร่างเดิมอายุได้ห้าขวบปี นักพรตเต๋ารูปหนึ่งได้มาที่หมู่บ้านและสร้างวัดเต๋าขึ้นที่กึ่งกลางระหว่างทางขึ้นเขา เขาต้องการเด็กอายุ 5-12 ขวบเพื่อเป็นเต๋าถง(นักบวชน้อย)

ในทุกๆเดือน ครอบครัวของเด็กเหล่านี้จะได้รับเงินหนึ่งร้อยเหวินจากวัดแห่งนี้

เจ้าของร่างเดิมถูกบิดามารดาส่งไปอยู่ที่นั่นจนกระทั่งสองเดือนที่แล้ว วัดเต๋าเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้น และได้คร่าชีวิตนักพรตกับเด็กอีกสามคน

เจ้าของร่างเดิมรอดพ้นจากเคราะห์กรรมครั้งนั้นมาได้ เพราะนางได้ลงจากเขาเพื่อไปตักน้ำ

หลังจากที่นางกลับมาอยู่บ้าน บิดามารดาของนางก็ได้เตรียมงานแต่งงานเอาไว้ให้นางแล้ว เจ้าบ่าวของนางก็คือคุณชายจากตระกูลหวูที่ร่ำรวยในตัวเมือง

เจ้าของร่างเดิมเป็นคนซื่อสัตย์และจิตใจดี นางเชื่อที่หนิวซื่อพูดว่า นางเป็นหนี้บุญคุณมารดาและมารดาได้เลือกคู่แต่งงานที่ดีที่สุดไว้ให้กับนางแล้ว

แต่คืนก่อน นางบังเอิญได้ยินบิดามารดาของนางกำลังคุยกันในตอนที่นางอยู่ในห้องส้วม

เรื่องกลับกลายเป็นว่า คุณชายตระกูลหวูอยู่ๆก็ป่วยหนักจนไม่สามารถลุกออกจากเตียงได้ เวลาของเขาเหลืออยู่ไม่มากแล้ว

คุณชายหวูเป็นที่รักของคนในตระกูลและตระกูลหวูก็ทนปล่อยให้เขาจากไปโดยไร้ภรรยาข้างกายไม่ได้

พวกเขาจึงต้องการให้เขาได้แต่งงานก่อนที่จะเสียชีวิต และให้ภรรยาตายตามเขาไป เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องโดดเดี่ยวอยู่ในปรโลก

ตระกูลหวูรู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น พวกเขาจึงปล่อยข่าวออกไปว่า พวกเขายินดีจ่ายเงินหนึ่งร้อยเหลียงเป็นค่าสินสอด

พวกเขาจะจัดงานแต่งงานตามธรรมเนียมทุกอย่างและฝังร่างภรรยาไปพร้อมกับเขา ตราบใดที่ครอบครัวเจ้าสาวเห็นด้วย เจ้าหน้าที่ของทางการก็ไม่สามารถสอดมือเข้ามายุ่งได้

หากคุณชายตระกูลหวูยังแข็งแรงดี คงมีหลายครอบครัวที่ต้องการส่งมอบบุตรสาวของพวกเขาให้

แต่เจ้าสาวกลับต้องสละชีวิตตามเขาไปในฐานะภรรยา ดังนั้น จึงไม่มีครอบครัวใดที่บ้าพอจะส่งบุตรสาวของพวกเขามาแต่งงานด้วย

แต่บังเอิญที่ว่า บิดามารดาของเชิงหยวนนั้นบ้ามากพอ

เพื่อเงินหนึ่งร้อยเหลียง พวกเขาไม่สนใจกับการที่ต้องส่งนางไปตาย ครอบครัวเช่นนี้มีอยู่เพียงหนึ่งเดียวในหมู่บ้านแห่งนี้

วันนี้ ตระกูลหวูได้ส่งคนมาที่บ้านตระกูลสือ พวกเขามาพาตัวเจ้าสาวเข้าเมืองเพื่อเตรียมตัวแต่งงานในวันพรุ่งนี้

เมื่อเจ้าของร่างเดิมรู้ความจริง นางจึงไม่ยินดีไป

มารดาของเจ้าของร่างเดิมจึงใช้กำลังกระชากลากถู นางถูกตบและทุบตีอยู่ที่พื้น

ในตอนที่นางพยายามหลบ ศีรษะของนางได้กระแทกเข้ากับหินก้อนหนึ่งเข้า ทำให้วิญญาณของสือชิงลั่วเข้ามาอยู่ในร่างที่บอบช้ำของเจ้าของร่างเดิม

หนิวซื่อไม่คิดว่า บุตรสาวที่แสนซื่อและอ่อนแอจะกล้าจับมือและต่อต้านนาง

นางโมโหจนหน้าดำทะมึน “นังเด็กน่าตาย เรื่องนี้เจ้าไม่มีสิทธิตัดสินใจเอง”

นางยื่นมืออีกข้างออกไปกระชากบุตรสาวเพื่อที่จะลากนางออกไปที่ประตูหลักของบ้าน

รถม้าของตระกูลหวูกำลังรออยู่ที่นั่น

สือชิงลั่วหลบมือของนางและสลัดมือของนางออก

ในตอนที่หนิวซื่อไม่ทันได้ตั้งตัว นางจึงรีบวิ่งไปที่โรงเก็บฟืน

นางเข้าไปหยิบลูกบอลสีดำที่กองอยู่ในมุมหนึ่งของโรงเก็บฟืน และเดินกลับไปที่ลานบ้าน

ที่ลานบ้านไม่ได้มีแค่หนิวซื่อเท่านั้น แต่ยังมีปู่ย่าของเจ้าของร่างเดิม, ครอบครัวลุงใหญ่, ครอบครัวลุงรอง, และอาสี่ ทุกคนต่างอยู่กันอย่างพร้อมหน้า

ทุกคนมีท่าทีเมินเฉยกับเรื่องนี้ อาสี่ของนางสอบผ่านถงเซิงแล้ว และเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการแต่งงานในครั้งนี้

ถ้าไม่อย่างนั้น บิดามารดาของเจ้าของร่างเดิมที่อยู่แต่ในหมู่บ้านจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร

คืนก่อน เจ้าของร่างเดิมได้ยินหนิวซื่อกับบิดาของนางพูดถึงเรื่องที่จะได้รับเงินหนึ่งร้อยเหลียง พวกเขาจะแบ่งห้าสิบเหลียงให้กับอาสี่เพื่อเป็นค่าเล่าเรียน และอีกสามสิบเหลียงให้เป็นค่าใช้จ่ายของคนในบ้าน

ดังนั้น จึงไม่มีใครในครอบครัวที่ไม่รู้เรื่องการขายเจ้าของร่างเดิม

ในเวลานี้ หนิวซื่อพุ่งเข้ามาหานางพร้อมกับไม้เท้าในมือ

“นังเด็กหน้าตาย เจ้าควรรู้สึกโชคดีที่เจ้าได้แต่งงานเข้าตระกูลหวูถึงจะถูก อย่ามาทำตัวให้คนอื่นต้องโชคร้ายไปกับเจ้าด้วย”

ตั้งแต่ที่นางให้กำเนิดเจ้าของร่างเดิม หลังจากนั้นมา นางก็ให้กำเนิดบุตรสาวอีกสามคน ทำให้บ้านสามของนางยังไม่มีบุตรชายไว้สืบสกุลและถูกเยาะเย้ยถากถางตลอดมา

นางจึงคิดเสมอว่า เป็นเพราะบุตรสาวคนนี้ที่ทำให้นางต้องโชคร้าย

นางคิดว่า บุตรสาวที่เป็นตัวซวยคนนี้โชคดีมากแล้ว ที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในพิธีศพของคุณชายตระกูลหวู

สือชิงลั่วกลอกตา “ในเมื่อการแต่งงานกับตระกูลหวูเป็นเรื่องดีงาม ทำไมเจ้าไม่แต่งเสียเองเล่า? ข้าขอยกเรื่องดีงามนี้ให้เจ้าก็แล้วกัน”

นังเด็กน่าตายนี่กลับยืนพูดได้อย่างสบายอารมณ์

คนที่อยู่ภายในลานบ้านต่างคิดไม่ถึงว่าสือชิงลั่วจะกล้าพูดแบบนี้ออกมา ช่างอกตัญญูจริงๆ

หนิวซื่อสะอึก คำพูดของนังเด็กน่าตายร้ายกาจเกินไปแล้ว ถ้าคนอื่นมาได้ยินเข้า นางจะเชิดหน้าชูตาอยู่ได้ยังไง?

นางโมโหจึงหยิบไม้เท้าขึ้นมาเพื่อตีสือชิงลั่ว “นังตัวซวย เจ้ากล้าพูดไร้สาระออกมาแบบนี้ได้ยังไง? ข้าจะตีเจ้าให้ตาย”

สือชิงลั่วไม่ใช่เจ้าของร่างเดิมที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความกตัญญูต่อบิดามารดา ยอมทนทำงานหนักไม่มีบ่นและไม่ปัดป้องเมื่อถูกทุบตี

สือชิงลั่วกระโดดหลบไม้เท้าในมือหนิวซื่อ ทั้งสองวิ่งไล่กันไปมาอยู่ภายในลานบ้าน

ในเวลานี้เอง หญิงชราที่ตระกูลหวูส่งมาเป็นการพิเศษก็ต้องขมวดคิ้วมุ่น

“ถ้าหากชักช้าไปกว่านี้ จะทำให้เรากลับเข้าเมืองล่าช้าได้”

ยายเฒ่าสือยิ้มอย่างขออภัยทันทีที่ได้ยินคำพูดของนาง

นางหันไปตำหนิหนิวซื่อด้วยใบหน้าบึ้งตึง “รถม้าของตระกูลหวูกำลังรออยู่ด้านนอก เลิกวุ่นวายและทำให้ผู้อื่นต้องรำคาญใจได้แล้ว”

หนิวซื่อจึงหยุดมือ นางหันไปทางสามี “ยังไม่รีบมาช่วยข้าอีก”

บุตรชายคนที่สามของตระกูลสือที่เดิมนั่งอยู่ก็ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าดุดัน

เขาหันไปมองสือชิงลั่วอย่างร้อนใจ “นังเด็กน่าตาย เจ้าจะมาดีดี หรือจะให้ข้าไปจับเจ้า?”

สือชิงลั่วรู้ดีว่า ครอบครัวของเจ้าของร่างเดิมไม่มีทางยอมทิ้งเงินหนึ่งร้อยเหลียงเพื่อนางอย่างแน่นอน

ในสมัยโบราณ การกตัญญูนั้นยิ่งใหญ่กว่าท้องฟ้า บุตรไม่สามารถปฏิเสธการแต่งงานที่บิดามารดาจัดหามาได้

แม้บิดามารดาต้องการขายบุตรสาวก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด และไม่ผิดกฎหมาย อย่างมากที่สุด คนนอกเพียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่กี่ประโยคก็เท่านั้น

ความจริง เจ้าของร่างเดิมได้แอบออกไปขอร้องหัวหน้าหมู่บ้านและผู้อาวุโสของตระกูลในตอนเช้าแล้ว

แต่พวกเขากลับบอกนางว่า นี่เป็นเรื่องในครอบครัวและไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้ ทั้งยังเป็นคนพานางกลับไปส่งที่บ้านตระกูลสือด้วยตัวเอง

พวกเขาพยายามพูดกับครอบครัวของนางเพื่อให้พวกเขาคิดดูอีกครั้ง แต่กลับถูกหนิวซื่อคัดค้าน อีกทั้งอาสี่ของเจ้าของร่างเดิมยังเป็นถงเซิง พวกเขาจึงไม่พูดอะไรให้มากความและจากไป

หลังจากกลับมาที่บ้าน พ่อแม่ที่แสนดีของเจ้าของร่างเดิมก็โกรธเกรี้ยว พวกเขาทุบตีและขังนางเอาไว้

พวกเขายอมปล่อยนางออกมาเมื่อคนของตระกูลหวูมาถึง

สือชิงลั่วเชื่อมาโดยตลอดว่า นางควรพึ่งพาตัวเองแทนที่จะพึ่งพาคนอื่นและจัดการเรื่องทุกอย่างด้วยตัวเอง

ดังนั้น นางจึงคิดแผนการขึ้นมาเพื่อเอาตัวรอด

หมายเหตุ :

ถงเซิง – ตำแหน่งที่ได้รับหลังจากบัณฑิตสอบผ่านในระดับแรก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด