ตอนที่แล้วตอนที่ 669 : สิ่งต่างๆดูเหมือนจะไม่ง่ายนัก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 671 : รวยจนศัตรูต้องสะเทือน!

ตอนที่ 670 : บางคนรู้จักแต่ตัวเลข!


ตอนที่ 670 : บางคนรู้จักแต่ตัวเลข!

วันรุ่งขึ้นเจียงเฉินไปรับไป่หยู่ฉีและขับรถพาเธอไปสนามบิน

ที่สนามบินเครื่องบินส่วนตัว Gulfstream G550 กำลังรอพวกเขาอยู่

เมื่อไปถึงไป่หยู่ฉีก็ต้องเบิกตากว้าง

เพราะถัดจากเครื่องบิน มีผู้หญิงที่แต่งตัวสดใสหลายคนล้อมรอบผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูหยิ่งผยองและกำลังชี้นิ้วสั่งคนอื่นอยู่

ผู้หญิงที่อยู่ตรงกลางนั้นดูมีอายุไม่มากไปกว่าไป่หยู่ฉีมากนัก แต่เธอดูมีอำนาจไม่น้อยเลย

เจียงเฉินสังเกตเห็นว่าร่างกายของไป่หยู่ฉีสั่นเล็กน้อย

เจียงเฉินพูดออกมา “นี่ใครกัน ทำไมคุณถึงดูกลัวนิดหน่อย?”

ไป่หยู่ฉีพยักหน้า “ใช่ ฉันกลัวนิดหน่อย เพราะคนที่นำคนมาที่นี่คือแม่ของฉัน!”

เจียงเฉิน "???"

เห็นได้ชัดเจนว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้แก่มากเกินไปกว่าไป่หยู่ฉีเลย....

แล้วเธอจะเป็น...แม่ได้ยังไงกัน?

ไป่หยู่ฉียิ้มอย่างขมขื่น "ไม่ใช่แม่แท้ๆของฉัน แต่จริงๆแล้วเธอเป็นป้าของฉันน่ะ แม่ของฉันไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะออกมาข้างนอกได้ด้วยซ้ำแล้วนับประสาอะไรกับการนั่งเครื่องบินส่วนตัวล่ะ"

"ป้า?"

เจียงเฉินตกตะลึงครู่หนึ่ง

“หรือจะให้พูดก็คือเธอคือแม่บุญธรรมของฉัน!”

ไป่หยู่ฉีพูดออกมา “ก็อย่างที่ฉันบอกนายไป ฉันมาจากตระกูลไป่ ตระกูลไป่เป็นตระกูลขนาดใหญ่ที่มีกฎระเบียบของตระกูลและยังเป็นตระกูลที่ยังคงรักษาระบบสังคมศักดินาไว้ จึงทำให้คนในตระกูลสามารถมีภรรยาหลายคนได้”

เจียงเฉิน “…..”

ไป่หยู่ฉีถอนหายใจออกมา “ฉันไม่ใช่ทายาทสายตรงหรือจะให้พูดก็คือเป็นลูกที่เกิดจากภรรยาน้อย ดังนั้นฉันจึงไม่ค่อยมีสถานะที่บ้านมากนักและถ้าหากฉันไม่ได้นายช่วยเอาไว้เกรงว่าการแข่งขันกับไป่ซิงเหวินฉันก็คงไม่มีโอกาสได้ชนะเลยด้วยซ้ำ”

เจียงเฉินพูดออกมา “ดูเหมือนว่าแม่ของเธอจะหยิ่งไม่น้อยเลยนะ”

“ก็เธอมาจากตระกูลที่ไม่ธรรมดา”

ไป่หยู่ฉีพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “เธอมาจากตระกูลฮัวซึ่งเป็นตระกูลชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสิงคโปร์ ดังนั้นฮัวซินซินก็ถือว่าเป็นญาติกับเธอ”

“ป้าของฮัวซินซิน?”

จียงฉันนึกถึงคู่หมั้นของเธอไป่ซิงเหวินซึ่งถูกเขาฆ่าขึ้นมาทันที

แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนั้นก็ไม่ได้สำคัญสักเท่าไร เพราะสิ่งที่เขากำลังสงสัยก็คือตระกูลฮัวนั้นเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในสิงคโปร์ได้อย่างไรกันทางที่ตระกูลไป่นั้นถือว่าเป็นตระกูลที่อยู่สูงที่สุด

“แล้วทำไมตระกูลฮัวถึงรวยที่สุดได้ล่ะ?’

เจียงเฉินถามออกมา

ไป่หยู่ฉีส่ายหัว “ถ้าพูดถึงในต่างประเทศตระกูลไป่ของฉันนับว่ามีสถานะสูงที่สุด แต่ถ้าจะให้พูดถึงความร่ำรวยก็จะต้องเป็นตระกูลฮัว! สมาชิกในตระกูลของพวกเขามีอยู่กระจายไปทั่วทั้งโลก ไม่ว่าจะเป็นในสิงคโปร์ สหรัฐอเมริกาหรือว่าในประเทศจีน พวกเขาทำทางธุรกิจด้านโรงแรม สินค้าหรูหราและอื่นๆอีกมากมาย”

“โอ้ เจ๋งไม่น้อยเลยนะ”

ในขณะที่เจียงเฉินและไป่หยู่ฉีกำลังคุยกันอยู่ ในเวลานี้เองแม่บุญธรรมของไป่หยู่ฉีก็เดินเข้ามา

แม่บุญธรรมของไป่หยู่ฉีมีแววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาและจองหอง เธอมองเจียงเฉินและไป่หยู่ฉีอย่างเย็นชา ราวกับว่าเธอนั้นไม่ได้สนใจทั้งสองเลย

ไป่หยู่ฉีทักทายแม่ของเธอ “คุณแม่”

“อา! สวัสดี!”

น้ำเสียงของแม่บุญธรรมค่อนข้างที่จะเต็มไปด้วยความสุภาพ

ไป่หยู่ฉีที่ได้ยิก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ ในเวลานั้นเองเธอนั้นก็เต็มไปด้วยความยินดีและเธอก็ยื่นมือออกมา

แต่ใครจะรู้~~

แม่บุญธรรมของเธอกลับทำเป็นว่าไป่หยู่ฉีนั้นเป็นเพียงแค่อากาศ เธอยังคงพูดต่อไป

“เป็นเกียรติที่ได้คุยกับคุณค่ะ! ฉันแค่อยากจะบอกคุณว่า [โรงแรมวอนตัน] ที่อยู่ภายใต้ชื่อของคุณ โรงแรมอายุนับร้อยปีบนประเทศเยอรมัน ฉันได้ทำการตัดสินใจซื้อแล้ว! มันไม่สำคัญหรอกว่ามันจะทำเงินได้มากซักเท่าไหร่! แต่ราคา 1 พันล้านนับว่าถูกมากแล้ว”

เธอหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมา

ใบหน้าของไป่หยู่ฉีเต็มไปด้วยความตกตะลึง

ปรากฏว่าเธอไม่ได้พูดกับฉันงั้นหรอ? เธอกำลังคุยโทรศัพท์อยู่?

ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงพูดออกมาอย่างสุภาพ

เจียงเฉินที่อยู่ด้านข้างก็มองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ

ปรากฏว่าแม่บุญธรรมคนนี้จงใจทำให้ตัวเขาและไป่หยู่ฉีต้องอับอาย

แม่บุญธรรมใช้เวลาคุยโทรศัพท์ไปกว่า 30 นาที เพื่อหารือเกี่ยวกับโครงการมูลค่า 1 พันล้าน แล้ววันก็ใช้เวลานานกว่าที่จะสามารถสรุปรายละเอียดได้สำเร็จจนสุดท้ายก็ต้องวางสายอย่างไม่เต็มใจ

ในเวลานี้เองแววตาของเธอก็กลับมาเต็มไปด้วยความดูถูกและเย็นชาอีกครั้ง

เธอหันไปมองที่ไป่หยู่ฉี

ไป่หยู่ฉี “….”

ในเวลานี้เองบรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด

แม่บุญธรรมเยาะเย้ยออกมา “สมกับเป็นผู้หญิงที่ไร้การศึกษาจริงๆ! แม่บุญธรรมของเธอกำลังคุยโทรศัพท์อยู่แต่ก็กล้าเข้ามาขัดจังหวะ! รู้หรือเปล่าว่าคนที่ฉันคุยด้วยคือใคร?! สาวน้อย! เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามารยาทขั้นพื้นฐานที่สุดคืออะไร! ฉันไม่รู้จะพูดอะไรเลยจริงๆ!”

“….”

ไป่หยู่ฉีไม่รู้จะพูดหักล้างยังไงดีเลยจริงๆ~~

แล้วในขณะที่แม่บุญธรรมกำลังจะพูดต่อ~~

กลับมีเสียงที่ไม่คาดคิดดังขึ้นออกมา

“ยัยอ้วนนี่ จะพูดโอ้อวดไปถึงไหนกัน?”

เมื่อได้ยินแบบนั้นแม่บุญธรรมก็โกรธจนหน้าซีดทันที!

เธอตะโกนออกมา “ใคร?! ใครกล้าเรียกฉันอ้วน?! ใครกล้าพูดว่าฉันโอ้อวด?!”

เจียงเฉิน!

เจียงเฉินพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความขี้เกียจ “ผมพูดเองและผมก็หมายถึงคุณนั่นแหละ!”

“เจ้า เจ้า ไอ้เด็กบ้า~~”

แม่บุญธรรมพูดออกมาด้วยความโกรธ “แกเป็นใครกัน?! กล้าดียังไงถึงมาพูดแบบนี้กับฉัน!? ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วใช่ไหม?!”

“นี่คุณเป็นคุณจริงจากตระกูลใหญ่ในสิงคโปร์หรือว่าหัวหน้าแก๊งอันธพาลกันแน่? เปิดปากมาก็เอาแต่ขู่คนอื่นอย่างเดียว?”

เจียงเฉินพูดออกมาอย่างขี้เกียจ

“แก แก~~”

ในเวลานี้เองเธอก็พยายามควบคุมอารมณ์ของเธอ “ฉันกำลังพูดถึงธุรกิจมูลค่า 1 พันล้าน แกกล้าดียังไง….”

“ฮ่าๆๆๆ!”

เจียงเฉินยิ้มออกมาอย่างดูถูก “หนึ่งพันล้านเพื่อซื้อโรงแรม? นับว่าเป็นธุรกิจใหญ่ด้วยหรอ? ตระกูลยาจกของคุณก็ถือว่าเงินหนึ่งพันล้านเป็นเงินก้อนโตแล้วงั้นเหรอ? แถมยังต้องเปลืองน้ำลายเป็นเวลาสามสิบนาทีอีก! ถ้าเป็นผม ผมคงพูดเรื่องนี้ไม่เกินสิบวิเลยด้วยซ้ำ!”

“.….”

แม่บุญธรรมที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับต้องตกตะลึง~~~

เธอตกตะลึงระหว่างที่มองไปที่เจียงเฉิน “นายพูดว่าอะไรนะ? พูดออกมาอีกครั้ง!”

ไป่หยู่ฉีดึงแขนเสื้อของเจียงเฉิน “เจียงเฉิน นี่คือคนจากตระกูลฮัวนะ….”

เจียงเฉินที่ได้ยินนั้นก็พูดออกมา “สิ่งที่ฉันกำลังพูดก็คือธุรกิจมูลค่า 1 พันล้านสมควรนับว่าเป็นธุรกิจขนาดใหญ่แล้วหรอ? มันคุ้มค่าสำหรับการพูดคุยเป็นเวลาสามสิบนาทีไหม? ถ้าหากว่าเป็นฉัน ฉันคงรู้สึกอับอายที่ต้องมาพูดเรื่องนี้ต่อหน้าคนอื่น เพราะว่าสำหรับธุรกิจมูลค่า 1 พันล้านหยวนสำหรับฉัน ฉันพูดเพียงแค่ไม่กี่คำก็วางสายแล้ว”

“แก แก~~”

แม่บุญธรรมชี้ไปที่เจียงเฉินด้วยความโกรธ

“แกเป็นใคร?!”

เจียงเฉินหันไปมองเธอ “ต้องเป็นคุณหญิงแบบไหนกันถึงเอาแต่ชี้หน้าด่าคนอื่น….”

“แกเป็นเพียงแค่คนขับรถกล้าดียังไงถึงมาต่อว่าฉันแบบนี้?!”

แม่บุญธรรมพูดออกมาด้วยความชั่วร้าย “ไป่หยู่ฉี! เธอกำลังดูถูกฉันใช่ไหม?!”

ไป่หยู่ฉี “ไม่ ไม่นะคะ....”

เจียงเฉินพูดออกมา “บนโลกนี้ ใบหน้าเป็นของตัวเองไม่ใช่ของคนอื่น! แก่จนขนาดนี้ยังไม่รู้อีกหรอ?! คุณที่แก่กว่าพวกเราก็ยังไม่เข้าใจความจริงข้อนี้อีกหรือยังไง?!”

“แก....”

แม่บุญธรรมโกรธจัดอีกครั้ง

ที่ด้านข้าง เพื่อนของแม่บุญธรรมก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาว่า “ในเมื่อนายบอกว่าเงิน 1 พันล้านเป็นธุรกิจขนาดเล็ก งั้นนายก็แสดงให้เห็นหน่อยสิว่าขนาดใหญ่มันเป็นยังไง…..”

ก่อนที่เธอจะพูดจบเสียงโทรศัพท์มือถือของเจียงเฉินก็ดังขึ้น

เจียงเฉินรับโทรศัพท์และพูดออกมาว่า “สวัสดี คุณโจว เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?”

อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์เสียงของโจวหมิงก็ดังขึ้น “น้องเฉิน มีคนต้องการซื้ออาคารบนถนนสายการเงินของเราในมูลค่า 2 หมื่นล้านหยวน นายอยากจะขายมันไหม?”

เจียงเฉินพูดออกมาอย่างขี้เกียจ “สองหมื่นล้าน? ผมเคยพูดไปแล้วไม่ใช่หรอพี่โจว อะไรที่มีมูลค่าต่ำกว่าแสนล้านก็ขึ้นอยู่กับพี่ได้เลย ผมจะไม่เข้าไปยุ่ง ถ้าผมต้องมาตัดสินใจธุรกิจที่มีมูลค่าแค่สองหมื่นล้านทุกวัน ผมคงไม่มีเวลาว่างไปทำอย่างอื่นแล้ว”

เมื่อได้ยินแบบนั้นโจวหมิงก็รีบพูดออกมา “ฉันเข้าใจแล้ว เดี๋ยวอีกสักพักเงินจะเข้าบัญชีของนายนะ”

เจียงเฉินวางสายทันที

แม่บุญธรรมพูดออกมาอย่างเย็นชา “แสดงได้ดีนี่ คิดว่าแสดงแค่นี้แล้วฉันจะเชื่อกันหรอ?!”

เจียงเฉินยิ้มออกมา

หลังจากผ่านไปหนึ่งนาที

โทรศัพท์มือถือของเจียงเฉินก็ส่งเสียงดังออกมา

“บัญชี American Express ของคุณที่มีหมายเลขสุดท้าย 6666 ได้รับเงินโอนเข้า 3.2 พันล้านดอลลาร์! หมายเหตุ : เงินจากการซื้ออาคารสำนักงานบนถนนสายการเงิน”

ในเวลานี้เองแม่บุญธรรมก็ต้องตกตะลึง

ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความบิดเบี้ยว…..

บรรดาคุณนายจากสิงคโปร์ที่อยู่หลายรอบต่างก็ต้องตกตะลึง!

3.2 พันล้านดอลลาร์?

ทุกคนเองก็คงเข้าใจคณิตศาสตร์ดี และแน่นอนว่าทุกคนก็ต้องรู้ดีว่าเงิน 3.2 พันล้านดอลลาร์ของเจียงเฉินนั้นมีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านปอนด์อย่างแน่นอน!

“ฉัน ฉันไม่เชื่อ!”

แม่บุญธรรมกรีดร้องออกมา ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความโกรธ

“นาย นายจะต้องแกล้งทำแน่ๆ?!”

แม่บุญธรรมตะโกนออกมา “ฉันไม่มีทางเชื่อหรอก!”

เจียงเฉินที่ได้ยินแบบนั้นก็เปิดแอพบัญชีธนาคารบนโทรศัพท์มือถือของเขาขึ้นมาเเล้วก็โชว์มันให้แม่บุญธรรมของไป่หยู่ฉีได้ดู….

และเมื่อแม่บุญธรรมได้มองดู…..

ในบัญชี….

มีเงินทั้งหมด 145.8 พันล้านดอลลาร์!

แม่บุญธรรมถึงกับขยี้ตาอย่างแรง~~

1458 ตามมาด้วย หนึ่ง สอง สาม~~~~

ใช่แล้ว ตามมาด้วยเลขศูนย์ทึ่ง 8 ตัว!

โอ้พระเจ้า!

สถานะแบบนี้มันคืออะไรกัน?!

แม่บุญธรรมถึงกับล้มลงกับพื้นพร้อมกับมีน้ำลายฟูมปาก!

แต่เจียงเฉินนั้นก็ไม่ได้สนใจเธออีกต่อไป เขาดึงไป่หยู่ฉีเดินผ่านแม่บุญธรรมของเธอที่กำลังมีน้ำลายฟูมปากไปขึ้นเครื่องบินทันที!

“จะตามมาไหม? ถ้าไม่มาจะไปแล้วนะ”

เจียงเฉินพูดออกมาโดยที่ไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย

แต่ด้วยความช่วยเหลือจากบรรดาคุณนายอีกหลายคน แม่บุญธรรมจึงเดินกะเผลกขึ้นมาบนเครื่องบิน

แต่ดวงตาที่มองไปที่เจียงเฉินในตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว!

ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะเข้าใจเพียงแค่ภาษาเดียวเท่านั้น!

ภาษาคณิตศาสตร์!

หรือก็คือยอดเงินในบัญชี!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด