บทที่ 28 รูมเมทของหลินโหรวซี
เย่เฉินถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังในห้องนั่งเล่น และดูเหมือนว่าหลินโหรวซีจะยังไม่อยากออกจากห้องของเธอ
หลินโหรวซีไม่มีหน้าจะออกมาพบเย่เฉิน ดังนั้นหลินโหรวซีจึงขังตัวเองไว้ในห้อง
สิบนาทีผ่านไป เย่เฉินเริ่มเหนื่อยกับการรอ จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีวี่แววว่าหลินโหรวซีจะออกมา
เย่เฉินตัดสินใจลองคาะประตู
"อาจารย์หลิน คุณเป็นยังไงบ้าง?"
ไม่มีคำตอบออกมาจากข้างในนั้น เย่เฉินจึงใช้พลังจิตของเขาเพื่อตรวจสอบหลินโหรวซีทันทีและเห็นว่าเธอสบายดี
เย่เฉินรู้สึกว่าหลินโหรวซีไม่ต้องการพบเขา ดังนั้นเย่เฉินจึงตัดสินใจออกจากห้องพัก
เย่เฉินเดินไปที่ทางออกและเตรียมจะเปิดประตู
แต่โดยไม่คาดคิด กลับกลายเป็นว่ามีใครบางคนกำลังเปิดประตูจากภายนอก
คนที่เปิดประตูจากภายนอกกลับเป็นจ้าวเหยียนเหยียนที่กำลังถือถุงช้อปปิ้ง
เย่เฉินและจ้าวเหยียนเหยียนต่างก็ประหลาดใจ
“เหยียนเหยียน ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่?” เย่เฉินถามจ้าวเหยียนเหยียน
“ฉันสิควรจะเป็นคนถามแบบนั้น นี่คือห้องของฉัน เย่เฉิน นายมาทำอะไรที่นี่?” จ้าวเหยียนเหยียนเริ่มสอบปากคำเย่เฉิน
เย่เฉินไม่รู้ว่าจ้าวเหยียนเหยียนก็อาศัยอยู่ที่นี่เช่นกัน นอกจากนี้รูมเมทของเธอคืออาจารย์หลิน
‘เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อตอนบ่ายเหยียนเหยียนดูเหมือนจะเรียกอาจารย์หลินว่าพี่สาว’ เย่เฉินเริ่มจำบางอย่างได้
“ฉันมาที่นี่เพราะได้รับคำเชิญจากอาจารย์หลิน แต่ตอนนี้อาจารย์หลินอยู่ในห้อง เธอไม่ต้องการออกมา”
จ้าวเหยียนเหยียนที่ได้ยินเรื่องนี้ก็วางถุงช้อปปิ้งลงทันที เธอเดินไปหน้าห้องของหลินโหรวซีทันที
“พี่สาวโหรวซี พี่สบายดีไหม?” จ้าวเหยียนเหยียนกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสถานการณ์ของหลินโหรวซี
จ้าวเหยียนเหยียนที่อาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับหลินโหรวซีรู้ถึงความเจ็บป่วยที่หลินโหรวซีกำลังทุกข์ทรมาน
จ้าวเหยียนเหยียนที่ไม่ได้รับคำตอบจากข้างในก็ยิ่งกังวลมากขึ้นไปอีก
“เย่เฉิน พังประตูเข้าไปเร็ว บางทีพี่สาวโหรวซีอาจมีปัญหาอยู่ข้างในนั้น” จ้าวเหยียนเหยียนขอให้เย่เฉินพังประตู
เย่เฉินได้ใช้พลังจิตเพื่อดูอาการของหลินโหรวซีแล้ว และผลที่ได้คือหลินโหรวซีไม่ได้มีปัญหา
แต่เพราะแฟนสาวของเขาเป็นคนขอร้อง โดยธรรมชาติแล้วเขายินดีที่จะทำเช่นนั้น
“เหยียนเหยียน ฉันสบายดี เธอไม่จำเป็นต้องกังวล วันนี้ฉันแค่เหนื่อยนิดหน่อยเลยอยากจะนอนพัก” ในที่สุดหลินโหรวซีก็พูดจากในห้อง
อันที่จริงหลินโหรวซีไม่ต้องการตอบจ้าวเหยียนเหยียน แต่เมื่อได้ยินจ้าวเหยียนเหยียนบอกเย่เฉินให้พังประตูเข้ามา เธอก็ตื่นตระหนกทันทีและต้องการหยุดจ้าวเหยียนเหยียน
จ้าวเหยียนเหยียนรู้สึกโล่งใจหลังจากได้ยินคำพูดของหลินโหรวซี
“ดูเหมือนอาจารย์หลินจะเหนื่อยมากแล้ว ปล่อยให้อาจารย์หลินพักผ่อนเถอะ”
“นายพูดถูก ดูเหมือนว่าพี่สาวโหรวซีจะเหนื่อยมาก โอ้ เย่เฉิน นายยังไม่ได้อธิบายเลยว่านายมาทำอะไรในห้องพักของฉัน?” จ้าวเหยียนเหยียนถามอีกครั้ง
เย่เฉินอธิบายตั้งแต่ต้น และปกปิดเรื่องน่าอายบางอย่างที่เย่เฉินบอกจ้าวเหยียนเหยียนไม่ได้
ตอนนี้จ้าวเหยียนเหยียนเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
“โอ้ นายมาที่นี่เพื่อรักษาความเจ็บป่วยของพี่สาวโหรวซี แต่นายเคยเรียนเกี่ยวกับการแพทย์มาก่อนด้วยหรอ?” จ้าวเหยียนเหยียนไม่รู้ว่าเย่เฉินมีทักษะในการรักษาได้อย่างไร
"ฉันรู้เกี่ยวกับมันเล็กน้อย" จริงๆแล้วเย่เฉินค่อนข้างเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ แต่เขาไม่ต้องการที่จะโอ้อวดเกินไป นอกจากนี้ยังมีแพทย์อีกมากมายนอกโลกที่มีเก่งกว่าเย่เฉิน
“งั้นพี่สาวโหรวซีก็คงหายดีแล้วใช่ไหม?” จ้าวเหยียนเหยียนถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของหลินโหรวซี
“อันที่จริงฉันยังต้องรักษาอีกหนึ่งครั้งเพื่อให้มันหายขาด แต่ฉันลืมบอกอาจารย์หลินก่อนหน้านี้” เย่เฉินตอบสถานการณ์ปัจจุบันของหลินโหรวซีอย่างตรงไปตรงมา
"เหยียนเหยียน เธอช่วยบอกอาจารย์หลินด้วยว่าฉันต้องมารักษาอีกครั้ง"
"ได้เลย"
“งั้นฉันกลับก่อนนะ” เย่เฉินพูดเสร็จก็กอดร่างของจ้าวเหยียนเหยียน
จ้าวเหยียนเหยียนรู้สึกอบอุ่นอย่างมากในขณะที่ถูกเย่เฉินกอด
หลังจากกอดจ้าวเหยียนเหยียนจนพอใจแล้ว เย่เฉินก็เตรียมที่จะจากไป
“เย่เฉิน เดี๋ยวก่อน ทำไมนายถึงรีบไปล่ะ? นายไม่อยากอยู่กับฉันเหรอ?” จ้าวเหยียนเหยียนยังไม่อยากแยกจากเย่เฉิน
“ไม่ใช่แบบนั้น เหยียนเหยียนที่รัก แต่มันดึกแล้ว เธอจะไม่โดนผู้ดูแลหอพักดุหรอ ถ้าถูกจับได้ว่าพาผู้ชายเข้ามาในห้อง?”
“มันพึ่งจะทุ่มเดียวเอง เวลามาเยี่ยมจำกัดสูงสุดคือสามทุ่ม นายอยากอยู่ต่อกับฉันไหม?” จ้าวเหยียนเหยียนพูดอย่างเขินอาย
ผู้ดูแลหอพักที่นี่จัดการได้ง่ายมาก ตราบใดที่คุณให้เงินเธอ คุณก็สามารถพาผู้ชายเข้ามาได้แม้จะเลยเวลาแล้วก็ตาม
"เหยียนเหยียนที่รักถามฉันแบบนี้แล้วฉันจะปฏิเสธได้ยังไง?"
จ้าวเหยียนเหยียนยิ้มอย่างงดงามแล้วพูดว่า "ดีมาก เอาถุงวัตถุดิบไปที่ห้องครัวกันเถอะ ฉันจะทำอาหารอร่อยๆให้นายกินเอง"
จากนั้นจ้าวเหยียนเหยียนก็ไปที่ห้องครัวพร้อมกับเย่เฉิน เมื่อเขาไปถึงห้องครัว เขาก็เห็นชุดอุปกรณ์ทำอาหารครบชุด
ดูเหมือนว่าห้องที่จ้าวเหยียนเหยียนอยู่นี้จะเป็นห้องวีไอพีที่แพงที่สุด เย่เฉินต้องยอมรับว่าสิ่งอำนวยความสะดวกที่นี่ครบครันจริงๆ
มีห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องส่วนตัว และอื่นๆอีกมากมาย เย่เฉินถอดหน้ากากหนังมุนษย์ที่เขาสวมอยู่ทันที เพราะมีเพียงจ้าวเหยียนเหยียนอยู่ที่นี่
จ้าวเหยียนเหยียนเริ่มชินกับสิ่งที่เย่เฉินทำ จ้าวเหยียนเหยียนอยากให้เย่เฉินถอดหน้ากากตลอดไปเพราะมันหล่อกว่าและน่ามองกว่ามาก
ในฐานะแฟนสาวของเย่เฉิน จ้าวเหยียนเหยียนเองก็รู้ว่าปัญหาใดที่เกิดจากใบหน้าที่หล่อเหลาเช่นนี้ ผู้หญิงหลายอาจจะต้องการขโมยเย่เฉินไปจากเธอ
จ้าวเหยียนเหยียนมัดผมของเธอให้เป็นหางม้าเพื่อไม่ให้รบกวนการทำอาหาร
ไม่ว่าจ้าวเหยียนเหยียนจะทำทรงผมอย่างไรเธอก็ยังคงสวยมาก
เย่เฉินไม่ต้องการที่จะยืนนิ่ง เขาช่วยจ้าวเหยียนเหยียนล้างผักและเนื้อสัตว์
หลังจากล้างผักและเนื้อสัตว์แล้ว จ้าวเหยียนเหยียนก็หั่นมันเป็นชิ้นเล็กๆ วิธีการหั่นของเธอนั้นสามารถพูดได้ว่าเป็นมืออาชีพ
เย่เฉินซึ่งอยู่ข้างหลังจ้าวเหยียนเหยียนเห็นว่าจ้าวเหยียนเหยียนมีเสน่ห์เพียงใดเมื่อเธอทำอาหาร เย่เฉินจึงกอดจ้าวเหยียนเหยียนจากด้านหลังทันที
จ้าวเหยียนเหยียนรู้สึกประหลาดใจเมื่อเย่เฉินกอดเธอจากด้านหลัง และมือของเย่เฉินเริ่มจับหน้าอกที่อ่อนนุ่มทั้งสองข้างของเธออย่างซุกซน
“เย่เฉิน อย่าซนสิ ฉันกำลังทำอาหารอยู่” จ้าวเหยียนเหยียนไม่โกรธในสิ่งที่เย่เฉินทำ
“ไม่เป็นไร เธอสามารถทำอาหารต่อไปได้” เย่เฉินพูดและบีบหน้าอกที่กำลังพัฒนาทั้งสองของจ้าว เหยียนเหยียน
เย่เฉินใช้เทคนิคหัวใจแห่งราชันย์และซึมซับปราณหยินของจ้าวเหยียนเหยียน
เมื่อเย่เฉินกระตุ้นเทคนิคหัวใจแห่งราชันย์ จ้าวเหยียนเหยียนก็ครวญครางด้วยความปิติยินดี เธอรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วร่างกายของเธอ
“เย่เฉิน ได้โปรด อย่าทำแบบนี้ ฉันจะยืนไม่ไหวแล้ว” ลมหายใจของจ้าวเหยียนเหยียนกลายเป็นถี่ขึ้นทันที
ได้ยินดังนั้นเย่เฉินก็พยายามที่จะไม่ใช้เทคนิคหัวใจแห่งราชันย์ เมื่อเย่เฉินไม่ได้ใช้เทคนิคหัวใจแห่งราชันย์ จ้าวเหยียนเหยียนก็กลับเป็นปกติ แต่จ้าวเหยียนเหยียนก็ยังคงรู้สึกถึงความสุขในเวลานี้
เย่เฉินที่เห็นสิ่งนี้สรุปได้ทันทีว่าเทคนิคหัวใจแห่งราชันย์สามารถทำให้ผู้หญิงรู้สึกมีความสุขเป็นพิเศษได้ แม้ว่าจะเป็นการสัมผัสเพียงเล็กน้อยก็ตาม
เป้าหมายของเย่เฉินคือการควบคุมร่างหยางโบราณ สำหรับเรื่องการบ่มเพาะ เย่เฉินอาจปล่อยมันไว้ก่อนได้ แต่หากเย่เฉินไม่ได้ทำการฝึกคู่กับผู้หญิงในเร็วๆนี้ เย่เฉินอาจจะกลายเป็นสัตว์ร้ายที่ถูกควบคุมโดยตัณหา และในกรณีที่เลวร้ายที่สุดเย่เฉินอาจจะตัวระเบิดและตายได้
อันที่จริงเย่เฉินต้องการฝึกคู่กับจ้าวเหยียนเหยียน แต่เวลานี้ยังไม่เหมาะสมเท่าไหร่ เย่เฉินจึงต้องอดทนไปอีกสักพัก
จ้าวเหยียนเหยียนฟื้นคืนจากความสุขและรู้สึกสับสน ทำไมเธอถึงรู้สึกดีมากเมื่อเย่เฉินสัมผัสร่างกายของเธอ?
เย่เฉินสัมผัสเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่อตอนบ่าย แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกแบบนี้ “เย่เฉิน นายพึ่งทำอะไรลงไป?” จ้าวเหยียนเหยียนถามเย่เฉิน
“แน่นอนว่าเป็นการจับหน้าอกเหยียนเหยียนที่รัก” เย่เฉินพูดอย่างตรงไปตรงมา
"ทำไมเมื่อนายสัมผัสร่างกายของฉันมันถึงรู้สึกดีมาก? ตอนที่ฉันสัมผัสตัวเองมันไม่ได้รู้สึกดีขนาดนี้"
“มันเป็นเพราะว่าฉันคือผู้ชายที่เธอชอบ แน่นอนว่ามันแตกต่างออกไป แต่เหยียนเหยียน ฉันไม่คิดว่าเธอจะสัมผัสกระต่ายนุ่มสองตัวของเธอบ่อยๆ” เย่เฉินหยอกล้อจ้าวเหยียนเหยียน
จ้าวเหยียนเหยียนหน้าแดงเหมือนแอปเปิ้ลทันที เธอเปิดเผยความลับที่น่าอับอายของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจให้
"ไปตายซะ! เย่เฉิน ฉันไม่สนใจนายแล้ว!" จ้าวเหยียนเหยียนกลับไปทำอาหารและเพิกเฉยต่อเย่เฉิน
เย่เฉินเพียงแค่หัวเราะเมื่อเห็นจ้าวเหยียนเหยียนหน้าแดง เย่เฉินไม่สามารถบอกจ้าวเหยียนเหยียนเกี่ยวกับเทคนิคหัวใจแห่งราชันย์ได้ในตอนนี้
ถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นทหารที่ผ่านศึกบนเตียงมาแล้ว พวกเขาคงจะไม่เชื่อในสิ่งที่เย่เฉินพูดในตอนนี้อย่างแน่นอน
แต่โชคดีที่จ้าวเหยียนเหยียนเป็นผู้หญิงที่ยังไม่เคยถูกผู้ชายแตะต้อง ดังนั้นจ้าวเหยียนเหยียน จึงเชื่อเย่เฉินอย่างง่ายดาย
เย่เฉินไม่หยอกล้อจ้าวเหยียนเหยียนอีกต่อไป เขายืนอย่างเชื่อฟังและรอให้อาหารพร้อม
ครู่ต่อมา จ้าวเหยียนเหยียนก็ทำอาหารให้เย่เฉินเสร็จ จ้าวเหยียนเหยียนนำจานทั้งหมดมาวางบนโต๊ะอาหาร
“เย่เฉิน ลองกินอาหารที่ฉันทำดูสิ” จ้าวเหยียนเหยียนบอกเย่เฉินให้ลองชิมอาหารของเธอ
เย่เฉินมองไปที่จานบนโต๊ะ อาหารของจ้าวเหยียนเหยียนดูน่าอร่อยมาก เย่เฉินจึงเริ่มด้วยเนื้อผัด
เนื้อผัดมีรสเค็มและหวานกำลังพอดี
“เป็นยังไงบ้าง?” จ้าวเหยียนเหยียนถาม
“แน่นอนว่ามันอร่อยมาก” เย่เฉินคีบเนื้อผัดอีกครั้งและใส่มันเข้าไปในปากของเขา
“ขอบคุณพระเจ้าที่นายชอบอาหารที่ฉันทำ” จ้าวเหยียนเหยียนพูดด้วยความสุข
“ฉันไม่เคยคิดเลยว่านอกจากความงามแล้ว เหยียนเหยียนของฉันจะทำอาหารเก่งด้วย” เย่เฉินยกย่องจ้าวเหยียนเหยียน
จ้าวเหยียนเหยียนรู้สึกดีมากที่เย่เฉินชมเธอ ผู้หญิงทุกคนล้วนมีความสุขหากได้รับคำชมจากผู้ชายที่พวกเธอชอบ และนั่นรวมถึงจ้าวเหยียนเหยียนด้วย
"ฉันเพิ่งเรียนทำอาหารได้ไม่นาน มันเทียบไม่ได้เลยกับอาหารของพี่สาวโหรวซี"
จ้าวเหยียนเหยียนเรียนทำอาหารจากหลินโหรวซี
"จริงหรอ? แค่อาหารที่เหยียนเหยียนของฉันทำก็อร่อยมากแล้ว"
จ้าวเหยียนเหยียนได้ยินแบบนั้นก็ยิ้ม
และหลังจากนั้นเย่เฉินกับจ้าวเหยียนเหยียนก็กลับไปกินอาหาร
หลังจากกินเสร็จ เย่เฉินก็ช่วยจ้าวเหยียนเหยียนล้างจาน
เสร็จแล้วเย่เฉินก็ไปนั่งเรียนกับจ้าวเหยียนเหยียน
เมื่อเห็นว่ามันเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เย่เฉินก็ตั้งใจที่จะจากไป ตราบใดที่เย่เฉินยังอยู่ที่นี่ หลินโหรวซีคงไม่ออกมาจากห้องของเธอ
“เหยียนเหยียน ฉันไปก่อนนะ” เย่เฉินลุกขึ้นจากโซฟาและเตรียมจะจากไป
“เย่เฉิน เดี๋ยวก่อน” จ้าวเหยียนเหยียนรีบวิ่งไปหาเย่เฉินและจูบริมฝีปากของเขา
เย่เฉินตอบสนองอย่างรวดเร็วและเริ่มไหลไปตามจ้าวเหยียนเหยียน ทั้งคู่จูบกันเป็นเวลานาน
หลังจากพอใจแล้ว จ้าวเหยียนเหยียนก็แยกตัวจากเย่เฉิน
“เย่เฉิน แล้วเจอกันนะ”
“แล้วเจอกัน เหยียนเหยียน”
หลังการจากไปของเย่เฉิน จ้าวเหยียนเหยียนก็นั่งยองๆบนพื้นทันทีและปิดหน้าของเธอ จ้าวเหยียนเหยียนไม่รู้ว่าทำไมอยู่ดีๆเธอถึงต้องการจูบเย่เฉิน
ประตูห้องด้านหลังจ้าวเหยียนเหยียนเปิดออก และในที่สุดหลินโหรวซีก็ออกมาจากห้องของเธอ หลินโหรวซีรอจนเย่เฉินกลับไปก่อน เธอรู้สึกอายเกินไปที่จะเจอหน้าเย่เฉินหลังจากเหตุการณ์นั้น
“เย่เฉินไปแล้วหรอ?” หลินโหรวซีถาม
"เย่เฉินเพิ่งออกไปเมื่อกี้นี้เอง พี่สาวโหรวซี ขาของพี่ดีขึ้นหรือยัง?"
"ดีขึ้นแล้ว"
“พี่สาวโหรวซี เย่เฉินฝากข้อความไว้ก่อนหน้านี้ เขาบอกว่าเขาต้องมารักษาพี่อีกครั้งพี่ถึงจะหายดี” จ้าวเหยียนเหยียนถ่ายทอดสิ่งที่เย่เฉินกล่าว
เมื่อได้ยินว่ายังมีการรักษาอีกครั้ง หลินโหรวซีก็จำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนในทันที ใบหน้าของหลินโหรวซีเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับแอปเปิ้ล
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว” หลังจากพูดจบ หลินโหรวซีก็กลับไปที่ห้องของเธอ
จ้าวเหยียนเหยียนที่ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังรู้สึกว่าคืนนี้หลินโหรวซีทำตัวแปลกมาก
จ้าวเหยียนเหยียนละทิ้งความคิดแปลกๆของเธอทันทีและต้องการไปอาบน้ำก่อนเข้านอน เพื่อที่พรุ่งนี้เธอจะได้พบกับเย่เฉินอีกครั้ง
**********