ตอนที่แล้วบทที่ 810 ไร้เทียมทาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 812 - 813 (1 แถม 1)

บทที่ 811 ฮีโร่ในเว็บบอร์ด(ตอนฟรี)


บทที่ 811 ฮีโร่ในเว็บบอร์ด

“พลังปราณเหรอ?”

จี้เฟิงตกใจ แต่ใบหน้าของเขาไม่ได้แสดงอาการอะไรนอกจากยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “พลังปราณที่เธอพูดนี่มันเป็นยังไง? เธอกำลังชวนฉันคุยเรื่องนวนิยายหรือพวกหนังจีนโบราณที่ใช้กำลังภายในสู้กันอะไรแบบนั้นหรือเปล่า?”

“ไม่ใช่ ฉันกำลังพูดถึงการต่อสู้ของคุณเมื่อกี้นี้ หมัดสุดท้ายที่คุณใช้กับคาวากิ ไยโกะ มันทรงพลังเกินไป มันไม่ใช่พลังที่ร่างกายอย่างคนทั่วๆไปจะส่งออกมาได้เลย” เฉินจิ้งยี่พูดเสียงเบา “นอกจากพลังปราณก่อกำเนิดแล้ว ฉันก็ไม่รู้แล้วว่าจะมีพลังชนิดไหนที่สามารถปล่อยพลังมหาศาลแบบนี้ได้!”

จี้เฟิงมองไปที่เฉินจิ้งยี่ด้วยความประหลาดใจและถามด้วยความแปลกใจว่า “อย่าบอกนะว่าเธอคิดว่าฉันมีกำลังภายในอะไรพวกนั้นน่ะ?”

“ไม่ใช่เหรอ?” เมื่อเห็นสีหน้าที่งงงันและประหลาดใจของจี้เฟิง เฉินจิ้งยี่ก็เริ่มลังเลและอดสงสัยไม่ได้ว่าการคาดเดาของเธออาจจะผิดพลาดไป

“ฮ่าๆๆ!” จี้เฟิงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที เขาส่ายหัวและพูดด้วยรอยยิ้ม “อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะ เพื่อนร่วมชั้นเฉิน เธอเป็นคนที่มีจินตนาการสูงมาก เอาจริงๆ ฉันว่าเธอกับจางเล่ยเป็นคู่ที่ธรรมชาติสร้างจริงๆ... ส่วนผู้หญิงคนนั้น คาวากิ ไยโกะอะไรนั่น ฉันคิดว่าเธอเก่งแค่การแสดงโชว์เท่านั้นแหละ แต่ที่กล้าขึ้นเวทีประลองมาสู้เพราะสมองหล่อนมันไม่ปกติ แล้วคิดดู ผู้หญิงตัวเล็กๆแบบนั้น ด้วยพละกำลังอย่างฉัน ถ้าไม่สามารถทำให้เธอกระเด็นไปแบบนั้นได้ มันก็น่าอายอยู่เหมือนกันนะ ส่วนเรื่องกำลังภายใน ใครบ้างไม่อยากมี? เพียงแต่ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันมีของแบบนั้นอยู่จริงๆบนโลกนี้หรือเปล่า!”

“คุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร!” เฉินจิ้งยี่อายเล็กน้อยเมื่อได้ยินที่จี้เฟิงพูดว่าจางเล่ยเป็นคู่ที่เหมาะสมกับเธอ “ฉันกับจางเล่ยเป็นแค่เพื่อนกัน คู่ธรรมชาติสร้างอะไร...”

จี้เฟิงหัวเราะและกล่าวว่า “การจะมองว่าพวกเธอเป็นคู่ที่ธรรมชาติสร้างให้มาคู่กันหรือเปล่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเธอซักหน่อย มันขึ้นอยู่กับคนนอกอย่างเราต่างหากที่จะมอง... อย่างไรก็ตาม ที่เธอถามฉันเกี่ยวกับพลังปราณกำลังภายในพวกนั้น เป็นไปได้มั้ยที่เธอจะมีความสามารถอะไรแบบนั้นจริงๆ?”

“แปะ!”

จี้เฟิงตบหน้าผากของตัวเองทันที “ต้องใช่แน่ๆ! เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ความเร็วของเธอในตอนนั้นมันไม่ธรรมดาเลย มันคล่องแคล่วและปราดเปรียวมาก ไม่น่าแปลกใจเลยถ้าเธอจะมีวิชากำลังภายใน!”

เฉินจิ้งยี่โบกมือของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วพูดด้วยเสียงต่ำว่า “นายลดเสียงลงหน่อยสิ! แต่อย่างฉันนี่ไม่เรียกว่าเป็นกำลังภายในหรอก ฉันเพิ่งจะฝึกถึงเทคนิคการกำหนดลมหายใจเท่านั้นเอง มันเรียกว่า*ชี่กง ฉันยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่เลยด้วย แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ทำให้ร่างกายของฉันคล่องแคล่วขึ้นพอสมควรเลย!”

“ว้าว มันน่าอัศจรรย์มากเลย!” ดวงตาของจี้เฟิงเบิกกว้างทันที “ถ้าอย่างนั้น เธอก็ต้องเป็นลูกศิษย์ของสำนักศิลปะการต่อสู้จีนโบราณ หรือเป็นผู้ที่สืบทอดวิชาต่อสู้กำลังภายในจากเหล่าปรมาจารย์อะไรแบบนั้นใช่มั้ย?”

เฉินจิ้งยี่ส่ายหัวเล็กน้อยและกล่าวว่า “ไม่ใช่แบบนั้น คุณกำลังนึกภาพตามในละครและภาพยนตร์อยู่ใช่มั้ยเนี่ย? มันไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอก เพียงแค่บรรพบุรุษของฉันบางคนเป็นนักศิลปะการต่อสู้ วิชากังฟูเหล่านั้นเลยได้รับการถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น และจริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนอย่างที่คุณคิด”

“อ้อ… อย่างนั้นหรอกเหรอ!” จี้เฟิงพยักหน้าด้วยความเข้าใจในทันที แต่หัวใจของเขาอดกระตุกเล็กน้อยไม่ได้ ดูเหมือนว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขายังไม่รู้และไม่เข้าใจในดินแดนจีนแห่งนี้

“บอกฉันมานะ พวกเธอสองคนกำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่?!” จางเล่ยที่เดินอยู่ข้างหน้า จู่ๆก็หยุดชะงักและหันหน้ากลับมาพูดเสียงดัง “ไอ้เจ้าบ้า นายจะมาตีท้ายครัวฉันไม่ได้นะ! ไม่อย่างนั้นฉันจะทุบตีนายให้หนักกว่าที่ซาซากิโดนซะอีก!”

“.... นายมันคนโหดร้าย!” จี้เฟิงหัวเราะ

อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของเฉินจิ้งยี่เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำทันที เธอพยายามทำหน้าขรึมและจ้องเขม็งไปที่จางเล่ย ผู้ชายคนนี้ปากร้ายเกินไป แค่คำพูดของเขาก็ทำให้ผู้คนหัวเราะหรือร้องไห้ได้เลย!

“เจ้าบ้า ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันอยากจะฝึกศิลปะการต่อสู้ด้วย!” จู่ๆจางเล่ยก็พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา

จี้เฟิงตะลึง “เพราะ?”

“ถ้าวันนี้นายมาไม่ทันเวลา พวกคนเจี๋ยเผิงคงไล่เตะคนทั้งมหาลัยไปแล้ว!” จางเล่ยกัดฟันและพูดต่อไปว่า “ฉันอยากจะขึ้นไปสู้ใจจะขาด แต่ฉันรู้ตัวเองดีว่าฉันไม่มีความสามารถมากพอที่จะเอาชนะคนอื่นได้ ความรู้สึกที่ต้องกัดฟันทนและทำได้แต่มองดูอย่างเดียวมันทำให้ฉันแทบบ้า!”

จี้เฟิงหัวเราะออกมาทันที “ไม่มีปัญหา งั้นเราก็มาฝึกยิมนาสติกกันก่อนเลย!”

“ถ้าทำแบบนั้นแล้วจะเก่งแบบนายได้หรือเปล่า?” จางเล่ยสงสัยเล็กน้อย “เขาเองก็ฝึกยิมนาสติกมาระยะหนึ่งแล้ว แต่นอกจากร่างกายคล่องแคล่วยืดหยุ่นขึ้นเล็กน้อย ก็ไม่มีผลลัพธ์อย่างอื่นที่น่าตื่นเต้นเลย

จี้เฟิงยิ้ม “ยิมนาสติกนี้เป็นรากฐาน และถ้ารากฐานไม่แข็งแรง ต่อให้หลังจากนี้นายฝึกฝนร้อยแปดเทคนิค มันก็ไร้ประโยชน์ อาจจะใช้ได้ในการแสดงโชว์ แต่ถ้าเพื่อความแข็งแกร่ง มันแทบไม่ได้ช่วยเลย!”

“จริงเหรอ?” จางเล่ยมองไปที่จี้เฟิงอย่างสงสัย

“จริงแท้แน่นอน!” จี้เฟิงพยักหน้า

จางเล่ยกัดฟันและพูดว่า “โอเค! ถ้าอย่างนั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะฝึกเป็นเวลาสองชั่วโมงทุกวัน ตราบใดที่ฉันยังฝึกให้โปรไม่ได้ ฉันก็จะไม่ยอมเรียนจบ!”

จี้เฟิงแตะหลังเขาและกระซิบ “ฉันจะบอกอะไรให้ เผื่อว่านายฝึกฝนยิมนาสติกจนเชี่ยวชาญได้แล้ว นายสามารถถามแฟนของนายเกี่ยวกับทักษะการต่อสู้ได้ ฉันเชื่อว่าเธอจะต้องมีคำแนะนำที่ดีให้กับนายอย่างแน่นอน!”

จางเล่ยพยักหน้าอย่างครุ่นคิด จากนั้นก็กล่าวว่า “ตอนนี้เธอยังไม่ใช่แฟนของฉัน เรายังอยู่ในระดับของความชอบ ยังต้องการดูนิสัยใจคอกันอยู่! เขาเรียกอะไรนะ ที่มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟนน่ะ อ๋อ... เฟื่อน!”

จี้เฟิง “.....”

....................

เพียงไม่กี่ชั่วโมงผ่านไป ตั้งแต่การแลกเปลี่ยนศิลปะการต่อสู้ระหว่างสหพันธ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเกียวโตประเทศเจี๋ยเผิง ก็ปรากฏโพสต์เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆในเว็บบอร์ดของสหพันธ์มหาวิทยาลัย

ในโพสต์เหล่านั้น นอกเหนือจากคำอธิบายโดยละเอียดตั้งแต่ก่อนไปจนถึงหลังการแข่งขันของกิจกรรมการแลกเปลี่ยนการต่อสู้แล้ว ยังมีวิดีโอประกอบที่ถูกตัดต่อเฉพาะช่วงการต่อสู้ของจี้เฟิงกับซาซากิและคาวากิ ไยโกะไว้ด้วย โดยเฉพาะตอนที่คาวากิ ไยโกะบินลอยออกมานอกเวทีประลองด้วยหมัดสุดท้าย มันเป็นอะไรที่ชัดเจนมาก

และทันทีที่โพสต์นี้ออกมา ภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง ก็มีข้อความตอบกลับนับพันข้อความ มันจึงกลายเป็นโพสต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเว็บบอร์ดอย่างรวดเร็ว

ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ หรือผู้ที่ไม่ได้ไปดูแข่งที่สนามฝึกของสมาคมคาราเต้ด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ พวกเขาต่างก็คอมเมนต์เกี่ยวกับการกระทำของจี้เฟิงและยกย่องความแข็งแกร่งที่ทรงพลังของเขา

นักศึกษาเหล่านี้อยู่ในวัยที่ฮอร์โมนกำลังพลุกพล่าน เลือดในกายสูบฉีดได้ง่าย พวกเขาทั้งหมดตื่นเต้นและประหลาดใจกับความแข็งแกร่งและโหดเหี้ยมของจี้เฟิง ทั้งกระทู้สนทนาเต็มไปด้วยความครึกครื้น

คนๆเดียวต่อสู้กับยอดฝีมือจากประเทศอื่น แต่กลับสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้อย่างไม่เห็นฝุ่น สิ่งที่จี้เฟิงทำ ได้ไปกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในกายเหล่านักศึกษาอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งทำให้พวกเขาชื่นชมและพูดคุยกันอย่างเมามันในเว็บบอร์ดของสหพันธ์มหาวิทยาลัย

แม้แต่นักศึกษาบางคนก็เริ่มพูดคุยว่าศิลปะการต่อสู้แขนงไหนที่ยอดฝีมือสองคนจากเจี๋ยเผิงนำออกมาใช้ในการแข่งขัน และมันดีพอที่จะเป็นตัวแทนศิลปะการต่อสู้ของประเทศเจี๋ยเผิงได้หรือไม่ และถ้าหากเป็นแบบนั้น การที่จี้เฟิงสามารถเอาชนะได้ด้วยหมัดเพียงหมัดเดียว มันจึงไม่ใช่แค่การเอาชนะตัวแทนกลุ่มแลกเปลี่ยนเจี๋ยเผิงสองคน แต่เป็นการเอาชนะศิลปะการต่อสู้ของประเทศเจี๋ยเผิง!

หลังจากที่ได้ดูวิดีโอนี้ นักศึกษาบางคนก็ไล่หาโพสต์เก่าๆก่อนหน้านี้ที่เกี่ยวกับจี้เฟิง และพบรูปถ่ายสองสามรูปที่จี้เฟิงเคยตบหยุนปิง

ในเวลานี้หลายๆคนก็ต้องตกใจ เพราะพวกเขาเพิ่งจะตระหนักได้ว่าจี้เฟิงที่เอาชนะเจี๋ยเผิงเป็นคนๆเดียวกับผู้ชายโหดร้ายคนนั้น

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะกล้าตบลูกคุณหนูอย่างหยุนปิง ปรากฏว่าเขาคือคนที่มีทักษะการต่อสู้ที่ทรงพลังมากนี่เอง เขาจึงไม่จำเป็นกลัวใครเลย!

ถ้าหากว่าการตบหยุนปิงเพื่อที่จะปกป้องแฟนของเขา มันเป็นเพียงการแสดงออกถึงพลังและบุคลิกภาพ ถ้าอย่างนั้นพฤติกรรมของเขาในการเอาชนะตัวแทนจากกลุ่มแลกเปลี่ยนเจี๋ยเผิงอย่างขาดลอยสามารถเรียกได้ว่าเป็นฮีโร่ของสหพันธ์มหาวิทยาลัย!

ในช่วงเวลาหนึ่ง กระดานสนทนาของสหพันธ์มหาวิทยาลัยคึกคักมาก และชื่อของจี้เฟิงก็กลายเป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้

“คิกๆ~!”

เมื่อดูโพสต์ในเว็บบอร์ดของสหพันธ์มหาวิทยาลัยบนคอมพิวเตอร์ เซียวหยูซวนก็หัวเราะคิกคักและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “จี้เฟิง มาดูนี่สิ นายกลายเป็นฮีโร่ของมหาวิทยาลัยไปแล้ว!”

ถงเล่ยเม้มริมฝีปากแล้วหัวเราะ “นี่ๆ ดูข้อความตรงด้านล่างนี่สิ ดูเหมือนว่าจะมีผู้หญิงหลายคนเลยที่ต้องการเบอร์โทรของจี้เฟิง!”

“ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยพละกำลัง บ้านรวยแถมยังต่อสู้เก่ง หน้าตาก็ไม่ได้แย่ ด้วยจุดเด่นทั้งหมดนี้ ไม่แปลกเลยที่จะดึงดูดความสนใจของสาวๆ ... เล่ยเล่ย ดูเหมือนว่าเราอาจจะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นอีกเป็นสิบๆคนเลยล่ะ!” เซียวหยูซวนพูดหยอกล้อด้วยรอยยิ้ม

เมื่อตอนเที่ยง จี้เฟิงดื่มกินนิดหน่อยกับจางเล่ยและคนอื่นๆ ดังนั้นเขาจึงมีอาการมึนเมาเล็กน้อย เขามองไปที่เซียวหยูซวนและถงเล่ยที่กำลังหัวเราะคิกคักและส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “พอเลยๆ เลิกอ่านโพสต์พวกนี้ได้แล้ว เดี๋ยวอีกสักพักคนก็ลืม!”

วันหยุดฤดูหนาวกำลังจะมาถึงเร็วๆนี้ จี้เฟิงเชื่อว่าหลังจากที่หยุดไปหนึ่งเดือน นักศึกษาเหล่านี้จะค่อยๆลืมเรื่องพวกนี้ไปเอง อย่างมากที่สุด พวกเขาก็อาจจะหยิบยกไปพูดถึงบ้างบางครั้งในเวลาอาหารเย็น แต่ความตื่นเต้นของพวกเขาจะอยู่ไม่นานเกินไปอย่างแน่นอน

เป็นปกติที่คนจีนจะลืมวีรบุรุษและจดจำคนร้ายได้อย่างแม่นยำ

ยิ่งไปกว่านั้น จี้เฟิงไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นฮีโร่หรือวีรบุรุษและเขาก็ไม่ชอบให้ใครมาคอยจับตามองเขาตลอดเวลา

“ปิดคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ฉันมีอะไรจะบอกพวกเธอ” จี้เฟิงลูบขมับและเอนหลังพิงเก้าอี้ “เร็วๆนี้ฉันจะไปหางโจวที่มณฑลเจียงซูและเจ้อเจียง แต่ก่อนที่ฉันจะไป ฉันต้องจัดการเรื่องของพวกเธอให้เรียบร้อยก่อน”

“ฉันกลับไปอยู่ที่บ้านได้ นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก!” เซียวหยูซวนพูดขึ้นทันที เธอรู้ว่าจี้เฟิงเป็นห่วงเธอกับเล่ยเล่ย

“ไม่ดี ถ้าฉันไม่ได้อยู่ด้วย เธอจะต้องระมัดระวังให้มากขึ้น!” จี้เฟิงส่ายหัวและกล่าวว่า “เอาแบบนี้ ให้เสียวอิงไปกับหยูซวน ส่วนเล่ยเล่ย เธอกับจางเล่ยบินกลับไปที่หยานจิง ฉันจะจัดคนไปรับเธอที่สนามบินและให้พวกเขาไปส่งเธอถึงที่บ้าน!”

“ฉันยังไงก็ได้” ถงเล่ยพูดเบาๆ

จี้เฟิงยิ้มและกล่าวว่า “ปลอดภัยไว้ก่อน ช่วงนี้อย่าประมาทจะดีที่สุด”

“อื้ม!” ถงเล่ยพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าวด้วยความเป็นห่วง “จี้เฟิง นายเองก็ต้องระวังตัวด้วยนะ ถ้าอยู่คนเดียวก็ยิ่งต้องระวังตัวให้มากๆ”

จี้เฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม “เธอไม่ต้องกังวล ฉันเป็นฮีโร่เลยนะ เป็นบุคคลที่ถูกยกให้เป็นวีรบุรุษแห่งสหพันธ์มหาวิทยาลัย และการที่จะเป็นอะไรแบบนั้นได้ มันก็ต้องมีฝีมือพอตัว!”

“ขี้โม้!” ถงเล่ยอดหัวเราะไม่ได้

เซียวหยูซวนก็หัวเราะและพูดว่า “พอๆ เลิกคุยโม้ได้แล้ว ถ้าเมาแล้วก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ!”

“เธอสองคนอยากไปอาบด้วยกันมั้ยล่ะ?” จี้เฟิงมองเซียวหยูซวนและถงเล่ยด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย “เราไม่ได้อาบน้ำด้วยกันนานแล้วน๊า~ ไม่อยากรื้อฟื้นบรรยากาศเก่าๆหน่อยเหรอ?”

“ตาบ้านี่!”

ใบหน้าของเซียวหยูซวนแดงขึ้นทันที เมื่อได้ยินจี้เฟิงพูดแบบนี้ เธอก็รู้ได้ทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร “ใครจะไปกับนาย! รีบๆไปอาบน้ำได้แล้ว! ชิ่วๆ!”

จี้เฟิงไม่สนใจคำปฏิเสธของเธอ เขายิ้มและก้าวไปข้างหน้า จากนั้นก็กอดเซียวหยูซวนและถงเล่ยไว้ด้วยมือคนละข้าง “กล้าขัดคำสั่งสามีเหรอ? ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะบังคับก็แล้วกันนะ! ฮ่าๆๆ...”

พร้อมกับเสียงกรี๊ดกร๊าดและเสียงหัวเราะของทั้งสองสาว จี้เฟิงอุ้มพวกเธอพาดบ่าและพาไปที่ห้องน้ำบนชั้นสองทันที

ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีเสียงครวญครางแผ่วเบาดังออกมาจากประตูห้องน้ำที่ปิดอยู่ เป็นเสียงที่มีความสุขแต่เจือปนไปด้วยความเจ็บปวด เป็นเสียงที่ฟังแล้วทำให้หัวใจต้องสั่นระรัว....

………………..

เวลาเดียวกัน ณ ห้องพยาบาลของสหพันธ์มหาวิทยาลัย ซาซากิกำลังมองดูทีวีตรงหน้าด้วยใบหน้าที่ขาวซีดพร้อมกับเฝือกที่คอ

ภาพในทีวีกำลังฉายฉากที่เขากับคาวากิ ไยโกะ ต่อสู้กับจี้เฟิง

“เปรี้ยง—!”

ซาซากิสะบัดข้อมือ และรีโมตคอนโทรลในมือของเขาก็ปลิวออกไปกระแทกทีวีอย่างแรง

“ฮึ่ม!” ซาซากิหรี่ตาลงด้วยความเจ็บปวดและโกรธ ร่างกายของเขาแทบจะระเบิดด้วยความเคียดแค้น!

…จบบทที่ 811~❤️

ชี่กง เป็นวิธีการดูแลสุขภาพที่มีตั้งแต่จีนโบราณ และเป็นการออกกำลังกายที่ใช้การปรับการหายใจ การปรับกิจกรรมทางกายภาพ และการปรับจิตสำนึก (การปรับการหายใจ การปรับรูปร่าง และการปรับหัวใจ) เพื่อให้เกิดสมรรถภาพทางกาย จิตใจและร่างกายที่แข็งแรง การต้านทานโรคและการลดอายุ และการพัฒนา ศักยภาพฯลฯ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด