ตอนที่แล้ว2036 - ทำลายล้างศัตรูเก่า 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป2040 - ทุ่มหมดหน้าตัก 

2037 - 2039


2037 - เจ้าโล้นสอง

ย้อนกลับไปในตอนนั้นทารกแห่งความมืดของมหาอำนาจนี้ถูกสังหารในการต่อสู้ของสามพันแคว้นโดยสือฮ่าว ดังนั้นพวกเขาจึงผูกอาฆาตกลายเป็นศัตรูกันนับตั้งแต่นั้น

กลุ่มนี้ได้กระทำการต่อต้านสือฮ่าวครั้งแล้วครั้งเล่า โดยหวังจะบีบคอเขาไม่อนุญาตให้เขาสามารถเติบโตขึ้นเป็นภัยคุกคามได้

ทันใดนั้นข้างหน้านกสีแดงตัวใหญ่ก็ส่งเสียงร้องยาวและกรีดร้องอย่างน่าสังเวช มันอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างยับเยินทำให้หลายคนตกตะลึง พวกเขาพุ่งขึ้นไปในอากาศโดยต้องการให้ความช่วยเหลือ

“อา เจ้าโล้นสอง เจ้าเด็กเวรเจ้าไม่ให้ความเคารพเมื่อเห็นพี่ใหญ่ของเจ้า เจ้ากล้าแม้แต่จะลอบโจมตีข้าเหรอ!” เจ้าแดงใหญ่ร้องออกมาอย่างน่าสังเวช

เกิดอะไรขึ้น? หลายคนตกใจ คนที่โจมตีนกสีแดงตัวใหญ่คือคนรู้จักเก่าเหรอ?

เป้ง!

ขนนกปลิวว่อนไปทั่วทุกหนทุกแห่ง เจ้าแดงใหญ่กรีดร้องอย่างน่าสังเวชยิ่งขึ้น มันถูกทุบตีอย่างสาหัส มีนกอีกตัวหนึ่งกำลังบินตามหลังมันมา

“เจ้าโล้นสอง เราไม่ได้พบกันเป็นเวลาสองร้อยปี แต่เจ้าโจมตีข้าจากด้านหลังจริงๆ!” เจ้าแดงใหญ่โกรธมาก

“อา…” ขนนกสีแดงปลิวว่อนไปทั่ว

ทุกคนมองหน้ากันอย่างตกตะลึง โดยไม่รู้ว่าควรดำเนินการอย่างไร

ฝ่ายตรงข้ามคือนกยูง ร่างกายของมันเปล่งแสงห้าสี แข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ

“พวกเจ้ากำลังดูอะไร? มีมือสังหาร! รีบมาช่วยข้าเร็ว!” เจ้าแดงใหญ่ร้องเสียงแหบ อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดนกยูงห้าสีก็บินกลับมาอีกครั้ง

คนอื่นๆตกใจอดไม่ได้ที่จะเดินหน้าอีกครั้ง

“พวกเจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้” ในที่สุดสือฮ่าวก็พูดขึ้น

เขารู้โดยธรรมชาติว่านี่คือเพื่อนเก่าเจ้าโล้นสองซึ่งก่อนหน้านี้เป็นสมาชิกของหมู่บ้านหินผา ก่อนหน้านี้มันถูกรังแกโดยเจ้าแดงใหญ่อยู่ตลอดเวลา

โจ้โล้นสองเกิดในอาณาจักรล่าง แต่เดิมค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ภายหลังพบปัญหาบางอย่างระดับบ่มเพาะของมันหายไป มันซ่อนตัวอยู่ในภูเขร้อยยอด แต่ต่อมาถูกสือฮ่าวจับตัวไว้

ในช่วงเวลานั้นเจ้าโล้นสองถูกรังแกโดยนกสีแดงตัวใหญ่อย่างทรมาน เห็นได้ชัดว่ามันเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งแต่เมื่อมันพิการกลับถูกรังแกโดยเด็กรุ่นหลังมันถูกเจ้าแดงใหญ่บังคับให้เรียกว่าพี่ใหญ่

“เมื่อเจ้าเห็นพี่ใหญ่คนนี้เจ้าไม่เพียงไม่แสดงความนอบน้อมแต่ยังกล้าลงมือทำร้ายข้า? เราสองคนไม่สามารถจบเรื่องนี้ได้แน่!” เจ้าแดงใหญ่กรีดร้องอย่างน่าสังเวช

“สือฮ่าว!”

หลังจากที่พวกเขาแยกจากกันในอาณาจักรเบื้องล่าง พวกเขาก็ได้พบกันครั้งหนึ่งในอาณาจักรที่สูงกว่า มันอยู่ในตระกูลเทพสวรรค์

เจ้าโล้นสองได้ติดตามผู้เชี่ยวชาญของตระกูลเทพนกยูงมาช่วยเหลือเขาที่ตระกูลเทพสวรรค์

“ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัว” สือฮ่าวกล่าว

“ข้าถูกโยนเข้าไปในดินแดนบรรพบุรุษของเผ่านกยูง และถูกขังอยู่ที่นั่น ไม่ได้รับอนุญาตให้กลับมาจนกว่าการฝึกฝนของข้าจะดีพอ เพียงพริบตาก็ผ่านไปถึงสองร้อยปีในทันที!” เจ้าโล้นสองรู้สึกอายเล็กน้อย

มันพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าเจ้าตัวเล็กในอดีตจะเติบโตมาถึงสถานะนี้จริงๆ ความแข็งแกร่งของเขาสามารถบังคับให้แม้แต่ผู้อมตะที่พังทะลายต้องหลบซ่อนด้วยความหวาดกลัว

“เราค่อยรำลึกความหลังกัน แต่ก่อนอื่นให้ข้าตีเจ้านี่ให้ตายก่อน!” เจ้าโล้นสองยกเจ้าแดงใหญ่ขึ้น และจากนั้นก็เริ่มทุบตีมันอีกครั้ง

“น้องสองเจ้าทำแบบนี้ไม่ได้ ข้าเป็นพี่ใหญ่ของเจ้า!”

“ตูดของข้านี่! ชายชราคนนี้เกิดก่อนปู่ของเจ้าอีก!” เจ้าโล้นสองกรีดร้อง

ทุกคนพูดไม่ออกจริงๆ เมื่อสองคนนี้อยู่ด้วยกันพวกเขาเป็นเหมือนคู่หูตัวตลกคล้ายกับเป็นพี่น้องที่คลานตามกันมา

“เจ้าโล้นสอง เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าตอนที่เจ้าเปลือยก้นไม่มีขนสักเส้น? ชายชราคนนี้เป็นคนแบกเอาไว้บนหลัง” เจ้าแดงใหญ่กรีดร้อง

นกศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองต่อสู้กันไปมา หลังจากนั้นไม่นานพวกมันก็โอบไหล่ของกันและกันและหัวเราะเสียงดัง

พวกเขามาถึงโลกใต้พิภพซึ่งเป็นดินแดนแห่งความตาย แม้แต่ใบไม้ใบหญ้าที่เกิดที่นี่ก็ยังเปลี่ยนเป็นสีดำจนหมดสิ้น

ดินแดนนี้ใหญ่โตมโหฬาร ว่ากันว่านี่เป็นหนึ่งในดินแดนของพื้นที่ฝังศพโบราณ มีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากถูกฝังอยู่ภายใน และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเต็มไปด้วยพลังหยิน

"ฆ่า!"

ไม่มีอะไรจะพูดมากสือฮ่าวขยับมือ สิงโตทอง มู่ชิง มังกรแดง สือจง และคนอื่นๆพุ่งเข้าใส่ นำสาวกแปดร้อยคนเข้าสู่โลกใต้พิภพ

เปลวไฟของวิญญาณปกคลุมภูเขาและที่ราบ หมอกหยินพลุ่งพล่าน สิ่งมีชีวิตจากโลกใต้พิภพจำนวนมากปรากฏขึ้น เผชิญหน้ากับทุกคน

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตจากโลกใต้พิภพจะมีสักกี่คน พวกเขาก็ไม่สามารถหยุดการบุกรุกนี้ได้

จูหลินแผดเสียง ร่างกายของนางพลุ่งพล่านด้วยเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำ นางแสดงญาณวิเศษของหงส์เพลิงที่แท้จริงเผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่าง

นี่คือความหายนะของสิ่งมีชีวิตในโลกใต้พิภพ พวกเขาไม่สามารถต่อสู้กับไฟศักดิ์สิทธิ์ได้ เปลวเพลิงเหล่านี้เผาผลาญสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง

คชา!

สายฟ้าแลบแปลบปลาบ มู่ชิงใช้ญาณวิเศษของจักรพรรดิสายฟ้า สายฟ้าฟาดออกไปทุกทิศทางระเบิดสิ่งมีชีวิตจากโลกใต้พิภพให้แหลกเป็นผุยผง

สายฟ้าเหล่านี้เป็นความสามารถอันศักดิ์สิทธิ์ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดสำหรับจัดการกับวิญญาณหยิน

“พวกมันกำลังหนี?” สือฮ่าวขมวดคิ้ว

“ราชันย์โลกใต้พิภพผู้รุ่งโรจน์ไม่ต้องการที่จะต่อสู้ เขานำบุคคลสำคัญของดินแดนเข้าสู่สวรรค์ทั้งเก้าหนีหายไปก่อนหน้านี้แล้ว” มู่ชิงมารายงาน

“หลังจากที่เรากวาดล้างมรดกโบราณมากมาย เราจะมุ่งหน้าไปยังเก้าสวรรค์เพื่อจัดการกับตระกูลอมตะเหล่านั้น!” สือฮ่าวกล่าว

ห้าวันต่อมาชื่อของสือฮ่าวสั่นสะเทือนไปทั่วโลก การกระทำของเขาน่าตกใจเกินไป กวาดล้างสามพันแคว้นโดยตรง นิกายที่มีชื่อเสียงซึ่งเคยเป็นศัตรูของเขาถูกทำลายจนหมดสิ้น

หงหลง!

เสียงคำรามเขย่าสวรรค์สือฮ่าวนั่งบนหลังอาชาสวรรค์ นำศิษย์แปดร้อยคนเข้าสู่เก้าสวรรค์เบื้องบน!

ยังมีตระกูลอมตะมากมายที่ไม่สามารถเข้าสู่อาณาจักรเซียนได้ เฉกเช่นกับมหาอำนาจหลายแห่งที่แม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งแต่ก็ไม่มีผลประโยชน์เพียงพอที่จะแลกกับการเข้าสู่อาณาจักรเซียน

บางคนที่เคยรู้จักสือฮ่าวมีความรู้สึกที่ซับซ้อน พวกเขาไม่คิดว่าเขาจะกลายเป็นผู้ปกครองโลกได้จริงๆ รัศมีพลังของเขากลืนกินทั้งสวรรค์และปฐพีตระกูลอมตะมากมายเริ่มติดต่อกันเพื่อต้านทานการโจมตีของเขาแล้ว

สิ่งที่เรียกว่าการขึ้นสู่สวรรค์ทั้งเก้านั้นเป็นเพียงการใช้คำพูดเปรียบเปรยเท่านั้น

เป็นเพราะว่าขณะนี้เก้าสวรรค์สิบพิภพเชื่อมต่อกันโดยสมบูรณ์แล้ว ระหว่างทางทุกเผ่าพันธุ์ต่างตกตะลึงโลกทั้งใบสั่นสะเทือน พลังของฮวงนั้นยิ่งใหญ่เกินไป กวาดล้างทุกสิ่งที่อยู่ข้างหน้า

ทุกเผ่าตกอยู่ในความหวาดกลัว ระหว่างทางฮวงได้ล้มล้างตำหนักเซียนกวาดไปทั่วดินแดนโลกใต้พิภพ ทำลายนิกายประตูปีศาจ หุบเขากระบี่ ถ้ำเมฆไฟ อาณาจักรสวรรค์ ทุกที่ที่เขาทำลายมีที่ใดบ้างที่ไม่ใช่มหาอํานาจของโลก?

ว่ากันว่ามหาอำนาจเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีสิ่งมีชีวิตอมตะคอยหนุนหลังอยู่ แต่ถึงกระนั้นสิ่งมีชีวิตอมตะพวกนั้นยังต้องหลบหนีจากการตามล่าของฮวง

ระหว่างทาง ผู้คนมากมายมองไปรอบๆ ตระกูลใหญ่ต่างหวาดกลัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตระกูลที่มีความใกล้ชิดกับตำหนักเซียน ตระกูลหวัง ตระกูลจิน และตระกูลเฟิง

ในสายตาของพวกเขาฮวงในปัจจุบันเป็นราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครเทียบได้ ในโลกนี้ไม่มีผู้ใดสามารถต้านทานเขา? แม้แต่ผู้อมตะที่แท้จริงเหล่านั้นยังต้องหลบซ่อนตัว?

สาวกแปดร้อยคนของเขามีความสง่างาม พวกเขาเข่นฆ่าเข้าสู่เก้าสวรรค์ ธงใหญ่โบกไปมาตลอดทาง

ไม่มีกลุ่มใดที่ไม่ถอยหนี ผู้เชี่ยวชาญต่างหลบซ่อน แม้ว่าการปรากฏตัวของฮวงจะน่ากลัว แต่การที่ผู้ติดตามของเขาเป็นถึงผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองแปดร้อยคนยิ่งน่าเหลือเชื่อมากกว่า!

ไกลออกไป หมอกสีดำพลุ่งพล่านเต็มไปด้วยพลังงานชั่วร้ายเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ดินแดนที่เป็นมงคล

อย่างไรก็ตาม มู่ชิง มังกรแดงและคนอื่นๆไม่ได้ถอยกลับพวกเขาบุกสู่ที่นั่นโดยตรง พาหนะของพวกเขาพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

ทุกคนสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บ นี่เป็นดินแดนแห่งความมืดแต่พวกเขาไม่ได้สนใจเลย พวกเขากล้าบุกเข้าไปที่นั่งตรงๆโดยไม่หวั่นเกรง!

2038 - เริ่มจากตระกูลจิน

ถึงแม้ว่าดินแดนแห่งนั้นจะถูกเรียกว่าดินแดนแห่งความมืดแต่แท้จริงแล้วสสารความมืดได้ถอนตัวออกไปแล้ว เหลือเพียงความมืดมิดในอดีตทำให้ดูไม่เป็นมงคลอยู่บ้าง

สถานที่ประเภทนี้สามารถพบได้ทั่วเก้าสวรรค์สิบพิภพเมื่อรวมกันแล้วพวกมันก็ครอบครองครึ่งหนึ่งของอาณาเขตซึ่งกว้างใหญ่ไพศาล

เป็นเพราะในตอนนั้นสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดมีพลังเพียงพอที่จะครอบครองดินแดนครึ่งหนึ่งของโลก ถ้าไม่ใช่เพราะการมาถึงของยุคไร้การฝึกฝน พวกเขาก็คงจะขยายตัวต่อไปเรื่อยๆ

“ใครกล้าบุกเข้ามาในดินแดนของเรา!”

ศีรษะขนาดยักษ์ยื่นออกมาจากดินแดนนี้ที่พลุ่งพล่านไปด้วยเมฆสีดำ มันมาจากขุมนรกมังกรวารีที่มีรูปร่างขนาดมหึมายาวกว่าแสนจ้างปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า

นี่เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ที่หายากมาก!

เวง!

มันเอื้อมกรงเล็บขนาดใหญ่ออกมา หมอกดำทะมึนรุนแรงอย่างถึงที่สุด

มันแข็งแกร่งมาก แทบจะเทียบได้กับผู้สูงสุด มันเป็นชนชั้นสูงที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังหลังนี่คือหนึ่งในตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรแห่งความมืดนี้

ฮู้!

สิงโตทองโจมตี ร่างกายของมันก็พลุ่งพล่านไปด้วยแสงสีทอง นอกจากนี้ ร่างกายของมันมีขนาดใหญ่ขึ้น ปล่อยเสียงคำรามดังกึกก้องทำให้อาณาจักรแห่งความมืดนี้สั่นสะเทือนเล็กน้อย

จากนั้นสิงโตทองก็ขยายร่างจนยาวกว่าหมื่นจ้างก่อนจะพุ่งเข้าหามังกรวารีฉีกกระชากว่างเปล่าจนแตกสลาย

มังกรวารีตื่นตระหนก มันบินออกไปต่อสู้กับสิงโตทองด้วยความดุเดือด

เห็นได้ชัดว่าแม้ว่าวิวัฒนาการในอดีตของสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดจะดุร้าย แต่ในท้ายที่สุดพวกมันก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับผู้เชี่ยวชาญที่มีอำนาจอย่างสิงโตทองซึ่งมีรากฐานที่มั่นคง

หลังจากการต่อสู้อันดุเดือด ด้วยเสียงปู ร่างของมังกรวารีถูกฉีกออกเป็นสองส่วนและจบชีวิตลงตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

“เดินหน้าต่อ!”

มู่ชิงโบกมือให้สาวกแปดร้อยคนก้าวไปข้างหน้า

สิงโตทองนั้นสง่างามและน่าเกรงขาม มันยืนอยู่บนสวรรค์ โลหิตสีดำสาดกระจายออกไปรอบตัวของมัน รัศมีสีทองปะทุขึ้นดวงตาของมันจ้องมองออกไปยังดินแดนอันกว้างใหญ่ที่ไกลโพ้น

“สมกับเป็นฮวงแม้แต่สิ่งมีชีวิตแห่งความมืดก็ไม่อาจเทียบเขาได้แม้แต่น้อย!”

“ข้ารู้สึกว่าบางทีการกลับมาของเขาอาจจะเพื่อกวาดล้างสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดทั้งหมดก็เป็นได้”

พวกเขากำลังพูดเบาๆรู้สึกตกใจ แต่ก็ตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความคาดหวัง

ทุกคนต่างโหยหาอนาคต พลังของฮวงไม่ใช่ความหายนะแต่อาจเป็นลางบอกเหตุว่าความรุ่งเรืองกำลังจะมาถึง แม้ว่าจะเป็นยุคไร้การฝึกฝนมันก็ย่อมมีวันสิ้นสุดเช่นกัน

หากแม้แต่สิ่งมีชีวิตแห่งความมืดยังถูกกำจัดโลกนี้ก็จะสงบขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน

ระหว่างทางไม่ทราบว่ามีสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดจำนวนเท่าใดที่ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ในท้ายที่สุดพวกมันทั้งหมดถูกฆ่าโดยไม่มีข้อยกเว้น

สิงโตทองสมกับเป็นราชสีห์ผู้กล้า ความองอาจกล้าหาญของมันไม่มีใครเทียบได้

“สมกับเป็นราชสีห์ผู้ยิ่งใหญ่!” แม้แต่เด็กหนุ่มของหมู่บ้านหินผาบางคนก็อดพูดอย่างเงียบๆไม่ได้

“เมื่อเราไปถึงเก้าสวรรค์ เจ้าคิดว่าตระกูลอมตะเหล่านั้นจะหนีไปหรือเปล่า?” จูหลินเป็นกังวล

“พวกเขาจะหนีไปไหนได้? ประตูของอาณาจักรเซียนถูกปิด ไม่เปิดสู่โลกภายนอกอีกต่อไป พวกเขาจะหนีออกจากโลกใบนี้ได้อย่างไร?” การแสดงออกของมู่ชิงนั้นเย็นชา

ในเก้าสวรรค์ หน้าประตูตระกูลจิน มีคนมากมายที่กำลังรอชมการเผชิญหน้าครั้งใหญ่

เป็นเพราะพวกเขาได้รับข่าวที่สามารถยืนยันได้แล้วว่าฮวงและกองทัพจะเดินทางมาที่นี่อย่างแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลจินยังมีการเชิญผู้คนมากมายมาร่วมมือกับพวกเขาในครั้งนี้

ในวันนั้นเก้าสวรรค์อาจกล่าวได้ว่าเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า ตระกูลอมตะมากมายที่เป็นศัตรูกับสือฮ่าวล้วนส่งคนมาประจำการที่ตระกูลจินเพื่อการต่อสู้แตกหักในครั้งเดียว

หลังจากหลายปีผ่านไปมีบางตระกูลที่เข้าสู่อาณาจักรเซียนแล้ว แต่มีบางตระกูลที่ถูกบังคับให้อยู่ที่นี่ เช่น ตระกูลจิน ตระกูลเฟิงและอื่นๆ

ย้อนกลับไปตอนนั้น พวกเขาสมรู้ร่วมคิดกับสิ่งมีชีวิตแห่งความมืด หลังจากสิ่งนี้ถูกเปิดเผยพวกเขาก็จ่ายด้วยราคามหาศาลสำหรับการกระทำของพวกเขา

ตระกูลหวังมีความเด็ดขาดอย่างยิ่งเซียนอมตะหวังลงมือด้วยตัวเองทำการสังหารบุตรชายของเขาถึงห้าคน

หลังจากนั้นพวกเขาก็สามารถไถ่โทษและกลับสู่ดินแดนอมตะปล่อยให้ตระกูลจินและตระกูลเฟิงต้องทนทุกข์ทรมานด้วยความอิจฉาริษยา

หงหลง!

ในขอบฟ้ากองทัพเหล็กเคลื่อนที่ผ่านมหาอำนาจมากมาย ผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองทั้งแปดร้อยคนนี้สามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้าได้โดยไร้การต้านทาน

นี่ไม่ใช่คนแปดร้อยคน แต่พวกเขาคือกองทัพของผู้ยิ่งใหญ่ที่มีแสนยานุภาพไร้เทียมทาน

“มันกำลังมา พวกมันจะเริ่มจากเราก่อน!”

สีหน้าของคนในตระกูลจินเปลี่ยนไป ทุกคนตกใจและหวาดกลัว เต็มไปด้วยความโกรธ ฮวงมาถึงแล้วและเขาเลือกตระกูลจินเป็นอันดับแรก

มีประตูใหญ่ที่สูงเท่ากับยอดเขาที่มีสัญลักษณ์เต๋าอมตะมากมาย ด้านหน้าพวกมันถูกโอบล้อมไปด้วยพลังแห่งความโกลาหลนี่คือรากฐานของตระกูลจิน

บริเวณใกล้เคียงมียอดเขาที่สวยงามมากมาย เกาะลอยอยู่บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยพระราชวังขนาดยักษ์ หมอกขาวผุดขึ้นเป็นวงก้นหอยราวกับเป็นอาณาจักรเซียน

ตอนนี้ อาคารทั้งหมดและภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดลอยอยู่ค่ายกลต่างๆที่จัดวางอยู่ที่นั่นเปิดใช้งาน ขัดขวางการรุกของกองทัพแปดร้อยคน

“ฮวงเจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่? โลกนี้สงบสุข แต่เจ้ากล้ายั่วยุให้เกิดความขัดแย้ง?” ผู้เชี่ยวชาญบางคนตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

แม้ว่าท่าทีของเขาเหมือนจะกล้าหาญแต่แผ่นหลังของเขามีเหงื่อเย็นไหลออกมาแล้ว

สือฮ่าวยืนอยู่บนท้องฟ้า สายตาของเขาสำรวจดินแดนบรรพบุรุษตระกูลอมตะแห่งนี้ ในตอนที่เขาลงมือครั้งนั้นเขารีบร้อนเกินไป ดังนั้นในวันนี้เขาจึงต้องทำการกวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่าง

ตอนนี้เขามาอีกแล้ว เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับคนของตระกูลจินและไม่ได้ตอบคำถามออกไป

“ถ้าโลกนี้สงบสุข ทำไมถึงมีสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดขวางทางเราอยู่” มู่ชิงตอบอย่างเย็นชา

“ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าก็ควรจะกำจัดสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดทำไมเจ้าถึงมาล้อมตระกูลจินของข้า?” ผู้เฒ่าคนหนึ่งตะโกน

ใบหน้าของคนจำนวนมากจากตระกูลจินกลายเป็นซีดขาวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ร้อยกว่าปีที่แล้วฮวงเคยลงมือกับตระกูลจินในครั้งนั้นตระกูลแทบจะล่มสลาย

เมื่อเขากลับมาอีกครั้งความแข็งแกร่งของเขาย่อมต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากมายมหาศาล?

“ระหว่างทางมาที่นี่ พวกเราสังหารสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดไปมากมาย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปพวกเราจะทำการกวาดล้างมันครั้งใหญ่ แต่พวกเจ้าที่ร่วมมือกับสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดต้องให้คำอธิบายกับพวกเรา” มู่ชิงกล่าวอย่างเย็นชา

เมื่อตระกูลจินได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของพวกเขาก็ยิ่งน่าเกลียดมากขึ้นไปอีกผู้คนมากมายอดไม่ได้ที่จะสะท้านหวั่นไหว

ตระกูลจินเคยรุ่งโรจน์ยิ่งใหญ่มาเป็นระยะเวลานาน แต่การร่วมมือกับสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดเปรียบเสมือนบาดแผลในใจของพวกเขา

พวกเขาตกต่ำลงเช่นนี้สูญเสียแม้แต่สิทธิ์ในการเข้าสู่อาณาจักรเซียน

ยิ่งกว่านั้นจินไท่จุนยังถูกบังคับให้ฆ่าคนจำนวนมากในตระกูลของตัวเอง ไม่เช่นนั้นตระกูลจริงจะไม่สามารถดำรงอยู่ต่อไปได้

เหตุการณ์ในอดีตถูกกล่าวถึงอีกครั้งเหมือนกับการใช้มีดกรีดบาดแผลเก่าของพวกเขา

ในระยะไกลผู้เชี่ยวชาญมากมายต่างมารวมกันที่นี่พวกเขาส่งข่าวออกไปต้องการที่จะเห็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์

บางคนเป็นผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลใหญ่ บางคนเป็นผู้ฝึกฝนอิสระ แม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดก็ยังแฝงตัวเข้ามา พวกเขาต้องการเห็นว่าฮวงในเวลานี้แข็งแกร่งแค่ไหนแล้ว

“นั่นคือฮวง? เขายังเด็กอยู่มากสมควรที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งแห่งยุคอันยิ่งใหญ่นี้ เขาบรรลุถึงระดับสูงสุดเมื่ออายุไม่กี่สิบปี และตอนนี้เขากำลังจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะแล้ว”

“ฮวง นั่นคือฮวง! นั่นคือต้นแบบของเจ้า! เมื่อโตขึ้นเจ้าจงพยายามให้เป็นแบบเขาให้ได้!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งชี้ให้หลานชายของเขาดู

2039 - สหายเก่าที่ไม่ได้จากไป

หลายคนที่มา ทุกคนต่างเฝ้ามองจากระยะไกลมีทั้งพวกที่เป็นผู้อาวุโสแต่ก็มีชายหนุ่มและหญิงสาว คนของหลายตระกูลที่นี่

“ฮวง เป็นเขาจริงๆ! ย้อนกลับไปตอนนั้นข้าเรียนที่สำนักเทพสวรรค์เดียวกันกับเขา!” ใครบางคนกล่าวเบาๆ

สิ่งนี้ดึงดูดสายตาทันที อัจฉริยะที่มาจากรุ่นเดียวกับฮวงควรค่าแก่การเอาใจใส่

“สือฮ่าว!” ไกลออกไปก็มีเสียงตะโกนเด็กหนุ่มผมทองคนหนึ่งวิ่งเข้ามา ทำให้ท้องฟ้าสั่นสะเทือนภายใต้เท้าของเขาเกิดรอยแตกนับไม่ถ้วน มันยากที่จะจินตนาการถึงความแข็งแกร่งของเขา

ในขณะนี้สือฮ่าวรู้สึกประหลาดใจอย่างแท้จริง

“เจ้าไม่ได้ไปหรือ”

แท้จริงแล้วมันคือมดเขาสวรรค์!

เขาจำได้อย่างชัดเจนว่ามดเขาสวรรค์จากไปในตอนนั้นแล้ว มุ่งหน้าไปยังดินแดนอมตะ สือฮ่าวเฝ้าดูเขาจากไปแต่ในที่สุดชายหนุ่มคนนี้ก็กลับมา

“ข้าเลือกจะอยู่ที่นี่พ่อของข้าเสียชีวิตที่นี่โดยที่อาณาจักรเซียนไม่ได้ให้ความช่วยเหลือทันท่วงที ข้าจึงเลือกที่จะอยู่ที่นี่ต่อ!” มดเขาสวรรค์วิ่งมากอดสือฮ่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง

“แล้วทำไมก่อนหน้านี้เจ้าไม่เคยปรากฏตัว”

ในช่วงยุคไร้การฝึกฝนนี้ เพื่อนเก่าของสือฮ่าวเข้าสู่อาณาจักรเซียนแทบทั้งหมด การได้เจอเพื่อนเก่าอีกครั้งทำให้เขามีความสุขอย่างมาก

“ข้าฝึกฝนอย่างสันโดษมาโดยตลอด ข้าไม่คิดว่าจะออกมาจนกว่าจะกลายเป็นผู้สูงสุดไม่เช่นนั้นจะเผชิญหน้ากับผู้อื่นได้อย่างไร แต่ดูเหมือนว่าข้าจะไม่สามารถทำลายขีดจำกัดห้าร้อยปีได้” มดเขาสวรรค์มีสีหน้างุนงง

“ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้แล้ว มีเจ้าคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้”

เขารู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่เขาเพียงแค่คนเดียวที่ทำไม่ได้ต่อให้ผู้ที่อยู่ในอาณาจักรเซียนเหล่านั้นก็ไม่มีปัญญาเช่นกัน

“เจ้าจะทำหน้าละอายไปทำไม? ต่อให้ข้าแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้ร้อยเท่าพันเท่าพวกเราก็ยังเป็นพี่น้องกันเช่นเดิม?” สือฮ่าวต่อยหน้าอกของเขาเบาๆ

“แน่นอนว่าไม่ใช่เช่นนั้น!”

มดเขาสวรรค์ยอมรับสิ่งต่างๆอย่างที่มันเป็นและเดินหน้าต่อไป แม้ว่าเขาจะฝ่าทะลุ แต่เมื่อเขาได้รับข่าวการปรากฏตัวอีกครั้งของสือฮ่าวเขาก็รีบมาที่นี่ทันที

“เจ้าจะมาที่นี่เพื่อสังหารนางเฒ่าจินไท่จุนหรือ? เรื่องนี้จะขาดข้าไปได้อย่างไร!” มดเขาสวรรค์ทุบหน้าอกของตัวเอง

คนอื่นๆก็ตื่นเต้นเหมือนกัน เหล่าสาวกของหมู่บ้านหินผาต่างเดินเข้ามาเพื่อแสดงความเคารพ เพราะนี่คือน้องชายที่มีความผูกพันกับสือฮ่าว

หลังจากผ่านไปหลายปีพวกเขาไม่ค่อยเห็นสือฮ่าวมีความสุขเช่นนี้ มันเป็นเรื่องยากจริงๆที่จะมีใครบางคนที่สามารถทำให้เต๋าของเขาเกิดการสั่นสะเทือน

ทันใดนั้นการแสดงออกของสือฮ่าวก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

“ที่นี่ค่อนข้างแปลกพวกเจ้าถอยออกไปก่อน เดี๋ยวข้าจะไปดูเอง!”

“มีอะไรผิดปกติ?” มดเขาสวรรค์ถาม เขาต้องการช่วยสือฮ่าว

"ไม่เป็นไรวันนี้ที่นี่จะต้องถูกทำลายจนหมดสิ้น ต่อให้ผู้อมตะเหล่านั้นช่วยเหลือพวกมันก็จะตายไปด้วย!” ซือห่าวกล่าว

ฮ่อง!

ทันทีที่พูดจบสือฮ่าวก็กระแทกกำปั้นออกไปอย่างรุนแรง แม้ว่าจะมีค่ายกลขนาดใหญ่ปกป้องคฤหาสน์ตระกูลจินไว้ แต่พวกมันก็ถูกทำลายลงจากการโจมตีเพียงครั้งเดียวของเขา

สือฮ่าวยังคงระงับรัศมีพลังของเขาไว้ไม่ปล่อยให้คนอื่นได้รับผลกระทบ

มิฉะนั้นเพียงรัศมีพลังของเขาอย่างเดียวก็เพียงพอจะทำให้ทุกสิ่งมีชีวิตที่นี่ร่างกายแหลกสลายแม้แต่วิญญาณดังเดิมก็ต้องดับสูญ

นี่ไม่เพียงแต่เฉพาะทหารของเขาที่มาจากหมู่บ้านหินผาเท่านั้นแม้แต่ผู้ชมก็ยังจะได้รับความหายนะไปด้วย

“พี่ใหญ่ เจ้าบอกแล้วว่าจะทิ้งสิ่งนี้ไว้ให้เรา!”

“เราจำเป็นต้องฝึกฝนตนเองในตอนนี้ ทิ้งตระกูลจินไว้ให้พวกเรา!”

สือจง จูหลิน และคนอื่นๆ ต่างร้องออกมา กลัวว่าถ้าสือฮ่าวลงมือหนักเกินไปเขาจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของตระกูลจิน

ในเวลานี้ยังคงมีคฤหาสน์เหลืออยู่ครึ่งหลัง ตระกูลอมตะนี้แทบจะถูกทำลายไปแล้ว แม้แต่ค่ายกลปกป้องตระกูลก็ยังสูญสลายไปหมดสิ้น

เป็นไปได้อย่างไร? ในส่วนลึกของตระกูลจิน หลายคนตกตะลึง นั่นเป็นถึงค่ายกลระดับเซียน! แต่ก็ไม่สามารถหยุดหมัดของฮวงได้แม้แต่ครั้งเดียว

ร่างที่แก่ชราปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเหนือตระกูลจิน จินไท่จุนนั่นเอง!

ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่นไปหมดแล้ว หลายปีผ่านมาแม้ว่านางจะยังมีชีวิตอยู่ แต่เชื่อว่าเพียงอีกไม่กี่ร้อยปีนางก็ต้องดับสูญไปในโลกที่ไร้การฝึกฝนนี้!

แต่ถึงกระนั้นก็ยังสามารถมองเห็นได้ว่ารากฐานของตระกูลอมตะนั้นยิ่งใหญ่จริงๆ พวกเขามีวัตถุชั้นเซียน รวมถึงยาศักดิ์สิทธิ์หลายประเภททำให้ชะลอการเสียชีวิตของนางไปได้

แต่อย่างไรก็ตามกาลเวลานั้นโหดร้ายอย่างแท้จริง

แม้จะมีวัตถุชั้นเซียนมากมายแต่ร่างกายของนางก็อ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่แข็งแกร่งเหมือนเมื่อครั้งอยู่ในเมืองจักรพรรดิอีกแล้ว

จินไท่จุนกำลังพิงไม้เท้าหัวมังกร ดวงตาของนางเย็นชาและเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

การโจมตีของเด็กคนนี้ทำให้ตระกูลจินต้องประสบภัยอย่างคาดไม่ถึงทำให้ทุกคนที่นี่ไม่สามารถเข้าสู่อาณาจักรเซียน

หากพวกเขายังคงอยู่ในโลกนี้ พวกเขาก็จะต้องเสื่อมโทรมและสลายไป

อย่างน้อยที่สุดในเวลานี้นางก็แทบจะยืนหยัดไม่ไหวแล้ว ในฐานะที่เป็นผู้สูงสุดในยุคที่ยิ่งใหญ่นี้นางยอมรับจุดจบอันขมขื่นของตัวเองแบบนี้ไม่ได้!

นางต้องการหลีกเลี่ยงความตายในวัยชรา? นางต้องการเข้าสู่ดินแดนอมตะ!

อย่างไรก็ตาม มารตัวน้อยนี้กลับปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง วันนี้นางเชื่อว่านางจะไม่มีสิทธิ์ตายด้วยวัยชราอีกแล้ว

“ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว!” จินไท่จุนกัดฟันแน่น นางหวังอย่างยิ่งว่าจะสามารถสังหารเขาด้วยสายตา แต่น่าเสียดายเรื่องนี้ไม่มีทางเกิดขึ้น

“ข้าจะรู้สึกไม่สงบหากไม่สามารถสังหารเจ้าด้วยตัวเอง วีรบุรุษมากมายที่ตายในชายแดนรกร้างก็จะไม่สามารถสงบได้หากเจ้ายังมีชีวิตอยู่!” สือฮ่าวกล่าวอย่างเย็นชา

“ในตอนนั้นเจ้ายังเด็กมากนางเฒ่าคนนี้พลาดโอกาสสังหารเจ้าไป เป็นเพราะว่าข้าใจดีเกินไปจึงได้ปล่อยให้เจ้าเติบโตขึ้น!” จินไท่จุนเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

นางรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถฆ่าสือฮ่าวได้ตั้งแต่ตอนที่เขายังเด็ก หายนะของตระกูลจินในวันนี้ล้วนมาจากเขาทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม ใครจะคาดการณ์ได้ว่าสือฮ่าวะเติบโตมาสู่สถานะนี้? อย่างน้อยที่สุดนางก็ไม่เคยคิดว่าฮวงจะกลายเป็นผู้สูงสุดในเวลาไม่กี่สิบปี

ทั้งยังกลายเป็นครึ่งก้าวสิ่งมีชีวิตอมตะภายในเวลาไม่ถึงสองร้อยปีด้วยซ้ำ มันทำให้แผนเตรียมการรับมือกับเขาของพวกนางต้องสูญสลายไป

“ถ้าเจ้าคิดว่าตัวเองมีพลังขนาดนั้นเหตุไฉนจึงไม่ต่อสู้ที่ชายแดนรกร้าง?” สือฮ่าวเยาะเย้ย เริ่มหวนนึกถึงอดีต เขาพูดพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ

“เท่าที่ข้าจำได้ในการต่อสู้ที่ชายแดนรกร้างครั้งนั้นเจ้าไม่ได้สังหารศัตรูไปแม้แต่คนเดียว”

“เจ้า…” ใบหน้าของจินไท่จุนแดงก่ำเต็มไปด้วยความอัปยศอดสู

เมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วสิ่งที่นางทำเพียงอย่างเดียวก็คือการมอบสือฮ่าวออกไปให้ศัตรูต่างมิติ

“นางเฒ่าจงคุกเข่าลงยอมรับความผิด ข้าอยากจะถลกหนังเจ้ามานานแล้ว!” มดเขาสวรรค์ตะโกน

ในระยะไกล ผู้ฝึกตนจากเผ่าต่างๆ ต่างก็ตื่นตระหนก คนในรุ่นของฮวงนั้นกล้าได้กล้าเสียจริงๆ ตอนนี้มีใครบางคนกล้าล้อเลียนจินไท่จุนโดยไม่หวาดกลัว

พวกเขาเคยได้ยินเรื่องความกล้าหาญของพวกเขามาบ้างแต่ไม่คิดว่าจะได้พบเห็นด้วยตาของตัวเองในวันนี้

แต่เมื่อนึกย้อนกลับไปนั่นคือยุคทองของพวกเขา หากไม่ใช่ว่ายุคไร้การฝึกฝนปรากฏขึ้นจะมีวีรบุรุษวีรสตรีมากมายอยู่ที่นี่!

น่าเสียดายที่พวกเขาทั้งหมดมุ่งหน้าสู่ดินแดนอมตะไปแล้ว

“พวกเจ้าจะตายทั้งหมด!” จินไท่จุนคำราม

นางเอื้อมมือใหญ่ออกไปทันที แม้ว่าร่างกายของนางจะขาดพลังโลหิต แต่การเคลื่อนไหวนี้ก็เพียงพอที่จะฉีกจักรวาลออกเป็นสองส่วน

นักรบโบราณห้าคนปรากฏขึ้นรอบๆมดเขาสวรรค์อย่างเงียบๆ เพื่อปกป้องเขาจะการต่อสู้ครั้งนี้

“ไม่ต้องห่วงข้า พวกเจ้าปกป้องเด็กๆคนอื่น! อย่าปล่อยให้นางเฒ่านั่นลอบโจมตีพวกเขาได้!” มดเขาสวรรค์สั่งการให้นักรบโบราณทั้งห้าปกป้องทุกคน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด