ตอนที่แล้วบทที่ 21 พบอวี้ถิงอีกครั้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 23 อาจารย์หลินโหรวซี

บทที่ 22 แสดงความรู้สึก


โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน การอ่านตอนนี้อย่างจริงจังอาจทำให้สมองของคุณไหลออกมาได้ เฉกเช่นเดียวกันกับผู้แปล

**********

เย่เฉินและจ้าวเหยียนเหยียนไปที่ประตูโรงเรียน

"จ้าวเหยียนเหยียน ทำไมคุณถึงช่วยฉันก่อนหน้านี้ล่ะ?" เย่เฉินถาม

“ฉันแค่ไม่ชอบที่คุณได้รับการปฏิบัติแบบนั้น” จ้าวเหยียนเหยียนกล่าว

“ฮ่าๆๆ” เย่เฉินหัวเราะ

“ทำไมคุณถึงหัวเราะล่ะ?” จ้าวเหยียนเหยียนถามอย่างสับสน

"ฉันไม่คิดว่าผู้หญิงอย่างเธอจะสนใจฉันด้วย"

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เฉิน ใบหน้าของจ้าวเหยียนเหยียนก็เปลี่ยนเป็นสีแดง

“นั่นเป็นเพราะว่าคุณช่วยชีวิตฉันไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้นฉันเลยอยากจะตอบแทนคุณเท่านั้นเอง” จ้าวเหยียนเหยียนพูดพร้อมกับหน้าแดงเล็กน้อย

"โอ้ ฉันลืมไปว่าฉันสั่งอาหารกับจางเหลียวไว้ก่อนหน้านี้"

“ช่างมันเถอะ ไปร้านอาหารทะเลกับฉันดีกว่า ถือว่านี่เป็นรางวัลที่ช่วยฉันก็แล้วกัน” จ้าวเหยียนเหยียนดึงเย่เฉินไปที่ร้านอาหารทะเลแถวนั้น ใช้เวลาเดินประมาณ 3 นาที ก่อนที่ทั้งสองจะมาถึงร้านที่ค่อนข้างมีระดับ

"ถึงแล้ว" จ้าวเหยียนเหยียนพูดขึ้น

เมื่อทั้งสองเข้าไปในร้าน พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับจากพนักงาน

“นายน้อย คุณผู้หญิง พวกคุณต้องการโต๊ะธรรมดาหรือว่าห้องส่วนตัวคะ?” พนักงานถาม

"เป็นห้องส่วนตัวก็แล้วกัน" จ้าวเหยียนเหยียนมอบบัตรสมาชิกให้กับพนักงาน

หลังได้รับบัตรจากจ้าวเหยียนเหยียน พนักงานก็พาเย่เฉินและจ้าวเหยียนเหยียนไปที่ห้องส่วนตัว

เย่เฉินเห็นว่าห้องส่วนตัวได้รับการออกแบบมาอย่างดีและสะดวกสบายที่สุดสำหรับลูกค้า จากนั้นพนักงานก็ยื่นเมนูให้เย่เฉินกับจ้าวเหยียนเหยียน

เมื่อเย่เฉินเปิดดูเมนูอาหารเขาก็ตกตะลึง อาหารในนี้ราคาอย่างต่ำก็เกือบพันหยวนแล้ว ส่วนราคาที่แพงที่สุดนั้นสูงกว่าหมื่นหยวนเสียอีก

ทำไมจ้าวเหยียนเหยียนถึงพาเขามาร้านที่แพงขนาดนี้?

‘ดูเหมือนว่าภูมิหลังของเธอค่อนข้างดี’ เย่เฉินคิดในใจ

เย่เฉินไม่รู้ว่าราคาอาหารจะแพงขนาดนี้ เย่เฉินมักจะกินอาหารราคาไม่กี่สิบหยวนหรืออย่างมากก็ร้อยหยวน แม้แต่สตาร์บัคที่เย่เฉินคิดว่าแพงแล้วก็ไม่สามารถเทียบได้กับร้านนี้

แม้ว่าเย่เฉินจะค่อนข้างพอใจกับเงินหลายแสนหยวนที่เขาได้รับจากการขายกำไลจื่อเหลา แต่หลังจากเห็นราคาอาหารของคนรวยแล้ว เขาก็รู้ว่าเงินแสนนั้นไม่ได้ถือว่ามากมายอะไร

เย่เฉินได้ตัดสินใจที่จะหาเงินเพิ่มในทันที ไม่เช่นนั้นเขาจะเอาชนะแฟนของอวี้ถิงได้อย่างไร?

"ทำไมคุณถึงไม่สั่งอาหารล่ะ?" จ้าวเหยียนเหยียนถามขึ้นเพราะเห็นว่าหลินหยวนไม่ได้พูดอะไรเลย

“ฉันไม่ค่อยคุ้นเคยกับอาหารแบบนี้เท่าไหร่ คุณเลือกให้ฉันเลยก็ได้” เย่เฉินตอบ

"โอเค" จ้าวเหยียนเหยียนพยักหน้า

จากนั้นเธอก็เลือกสองสามเมนูแล้วหันไปบอกพนักงาน

"กรุณารอสักครู่นะคะ อาหารจะถูกนำมาเสิร์ฟโดยเร็วที่สุด" พนักงานเสิร์ฟพูดเสร็จก็ออกจากห้อง

ในห้องส่วนตัวเหลือเพียงจ้าวเหยียนเหยียนกับเย่เฉิน

“เย่เฉิน ฉันอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงช่วยฉันก่อนหน้านี้ คุณอาจจะบาดเจ็บหรือตายจากเปียโนตัวนั้นก็ได้” จ้าวเหยียนเหยียนถามด้วยความสงสัย

“ทำไมล่ะ? ไม่ใช่ว่าฮีโร่ต้องช่วยเหลือสาวงามอยู่แล้วหรอกหรอ?” เย่เฉินหยอกล้อจ้าวเหยียนเหยียน

“จริงจังหน่อยสิ” จ้าวเหยียนเหยียนดูโกรธเล็กน้อย แต่ในใจของเธอกลับค่อนข้างดีใจที่ได้ยินคำชมของเย่เฉิน

"คุณนี่แปลกคนจริงๆ ทำไมฉันถึงช่วยคุณงั้นหรอ? ฉันคิดว่าถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะทำแบบเดียวกันกับฉันอย่างแน่นอน ใครจะปล่อยให้หญิงสาวที่สวยราวกับเทพธิดาอย่างเหยียนเหยียนได้รับบาดเจ็บล่ะ จริงไหม?"

“ปากหวานจริงๆนะ คุณคงจะหลอกสาวๆมาแล้วหลายคนด้วยคำพูดหวานๆของคุณล่ะสิ”

จ้าวเหยียนเหยียนค่อนข้างมีความสุขเมื่อเย่เฉินเรียกเธอว่าเหยียนเหยียน

“บอกตามตรง ฉันเคยมีแฟนเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ แต่น่าเสียดายที่เธอทิ้งฉันไป สุดท้ายแล้วความรักก็สู้เงินทองไม่ได้” เย่เฉินกล่าวอย่างเศร้าสร้อย

“ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่เป็นแบบนั้นหรอก ในโลกนี้มีผู้หญิงมากมายที่กำลังมองหารักแท้ของพวกเธอ” จ้าวเหยียนเหยียนกล่าวกับเย่เฉิน

เย่เฉินเห็นได้ว่าจ้าวเหยียนเหยียนทั้งสวยและมีจิตใจที่ดีมาก เขาคิดว่าถ้าได้คนอย่างเธอเป็นแฟนนั้นจะโชคดีขนาดไหนกัน?

‘งั้นเราควรจะลองดูซักหน่อยดีไหมนะ? จริงๆเราก็ค่อนข้างชอบเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว’ เย่เฉินคิดในใจ

“เหยียนเหยียน ฉันมีอะไรจะบอก” เย่เฉินพูดอย่างจริงจัง

“มีอะไรหรอ?” จ้าวเหยียนเหยียนถาม

เย่เฉินจับมือของจ้าวเหยียนเหยียนและพูดขึ้น "เหยียนเหยียน เป็นแฟนกันไหม?"

เมื่อเห็นเย่เฉินแสดงความรู้สึกของเขาออกมา จ้าวเหยียนเหยียนก็หน้าแดง จ้าวเหยียนเหยียนเองก็ชอบเย่เฉินตั้งแต่ที่เขาช่วยเธอไว้ แต่ในฐานะผู้หญิง จ้าวเหยียนเหยียนจะแสดงความรู้สึกก่อนได้อย่างไร?

“อื้อ ได้สิ” จ้าวเหยียนเหยียนตอบอย่างมีความสุข

“จริงเหรอ?” เย่เฉินถามอย่างไม่เชื่อ

"ใช่ ฉันก็ชอบนายเหมือนกัน ฉันดีใจมากเลยที่ได้รู้ว่านายก็ชอบฉันด้วย"

“เยสส” เย่เฉินกระโดดด้วยความดีใจ

มองไปที่เย่เฉินซึ่งตอนนี้ดูเหมือนเด็กน้อย จ้าวเหยียนเหยียนก็หัวเราะ

เย่เฉินกอดจ้าวเหยียนเหยียน และดวงตาทั้งสองข้างของพวกเขาก็เผชิญหน้ากัน

“เหยียนเหยียน”

“หือ?” จ้าวเหยียนเหยียนมองเข้าไปในดวงตาของเย่เฉิน

ทันใดนั้นเย่เฉินก็ถามอย่างกล้าหาญ "ฉันขอจูบเธอได้ไหม?"

จ้าวเหยียนเหยียนไม่ได้พูด เธอเพียงแค่พยักหน้าและหลับตาลง จริงๆแล้วจ้าวเหยียนเหยียนเองก็ไม่เคยทำสิ่งเหล่านี้มาก่อน เธอเพียงเคยอ่านจากหนังสือและรู้ว่าการจูบนั้นรู้สึกดีมาก จ้าวเหยียนเหยียนเองก็อยากลองทำกับคนที่เธอชอบมาโดยตลอด

ตอนนี้จ้าวเหยียนเหยียนมีคนที่เธอชอบแล้ว เธอย่อมไม่ปฏิเสธคำขอของเขาโดยธรรมชาติ

เย่เฉินต้องการจูบจ้าวเหยียนเหยียนทันที แต่เขานึกได้ว่าตอนนี้เขายังคงสวมหน้ากากหนังมนุษย์อยู่ เย่เฉินจึงถอดมันออกก่อน

ใบหน้าหล่อเหลาของเย่เฉินปรากฎขึ้น ถ้าจ้าวเหยียนเหยียนเห็นเย่เฉินตอนนี้ จ้าวเหยียนเหยียนคงจะประหลาดใจมาก

จ้าวเหยียนเหยียนรอการจูบจากเย่เฉินอยู่ครู่หนึ่ง แต่ผ่านไปนานแล้วเย่เฉินก็ยังไม่เคลื่อนไหว จ้าวเหยียนเหยียนจึงลืมตาขึ้นและเห็นชายหนุ่มรูปงามอยู่ตรงหน้าเธอ

จ้าวเหยียนเหยียนตกตะลึงทันที "คุณเป็นใคร?"

เย่เฉินสับสนกับปฏิกิริยาปัจจุบันของจ้าวเหยียนเหยียน "เหยียนเหยียน ฉันเย่เฉินเอง"

“เอ๊ะ? คุณคือเย่เฉินจริงๆเหรอ?” จ้าวเหยียนเหยียนถามด้วยความไม่เชื่อ

“ใช่ เหยียนเหยียน นี่คือใบหน้าที่แท้จริงของฉัน จริงๆแล้วฉันสวมหน้ากากหนังมนุษย์ไว้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ” เย่เฉินชี้ไปที่หน้ากากหนังมนุษย์บนโต๊ะ

จากนั้นเย่เฉินก็จูบเธอทันที ซึ่งทำให้จ้าวเหยียนเหยียนต่อต้านเล็กน้อย แต่เพราะการจูบนั้นน่ายินดีและพิเศษมาก ในที่สุดจ้าวเหยียนเหยียนก็หลับตาลงและเริ่มเพลิดเพลินกับมัน

เย่เฉินกล้าหาญมากขึ้นเรื่อยๆ เย่เฉินสอดลิ้นของเขาเข้าไปในปากของจ้าวเหยียนเหยียน ลิ้นของทั้งสองพัวพันกันโดยไม่ได้ตั้งใจ จ้าวเหยียนเหยียนที่เฉยเมยตอนนี้กลับมีความกระตือรือร้นอย่างมาก

การจูบของเย่เฉินและจ้าวเหยียนเหยียนดำเนินไปเป็นเวลาหลายนาทีก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มขาดอากาศและแยกออกจากกัน

จากนั้นจ้าวเหยียนเหยียนก็มองดูหน้ากากที่เย่เฉินถอดมันออกมาด้วยความสงสัย

"เย่เฉิน ทำไมนายถึงสวมหน้ากากล่ะ? ฉันคิดว่าใบหน้าจริงของนายดูดีสุดๆเลย" จ้าวเหยียนเหยียนกล่าว

“ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะใช้มันหรอก แต่ปฏิกิริยาของผู้หญิงที่เห็นฉันมันทำให้ฉันลำบากนิดหน่อย” เย่เฉินกล่าวอย่างช่วยไม่ได้

“นายหมายความว่ายังไง?” จ้าวเหยียนเหยียนถาม

ขณะที่เย่เฉินกำลังจะอธิบายเพิ่มเติม ประตูก็เปิดออกเสียก่อน และพนักงานหญิงก็เข้ามาพร้อมกับจานอาหารในมือ

เมื่อพนักงานหญิงเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของเย่เฉิน เธอก็กลายเป็นตื่นเต้นอย่างมาก

พนักงานหญิงเข้ามาแล้วเสิร์ฟอาหารลงบนโต๊ะ แต่สายตาของเธอไม่เคยละออกไปจากเย่เฉิน และบางครั้งเธอก็หยอกล้อเย่เฉินด้วยการส่ายก้นของเธอต่อหน้าเขา

ท่าทางของพนักงานหญิงล้วนอยู่ในสายตาของจ้าวเหยียนเหยียน หลังจากที่พนักงานหญิงเสิร์ฟอาหารบนโต๊ะเสร็จแล้ว จ้าวเหยียนเหยียนก็ไล่เธอออกไปทันที

เมื่อเห็นจ้าวเหยียนเหยียนโกรธ เย่เฉินก็หัวเราะและพูดว่า “เหยียนเหยียน เธอโกรธกับเรื่องไร้สาระแบบนี้ด้วยหรอ?”

“ฉันแค่ไม่ชอบวิธีที่พนักงานหญิงหยอกล้อนาย” จ้าวเหยียนเหยียนกล่าว

“มากินกันก่อนเถอะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นเสียก่อน” เย่เฉินเปลี่ยนเรื่องและเริ่มกินทันที

ตอนที่กำลังกิน จ้าวเหยียนเหยียนมักจะมองไปที่เย่เฉิน จ้าวเหยียนเหยียนมีความสุขมากที่มีแฟนหนุ่มที่หล่อเหลาและสามารถปกป้องเธอได้ จ้าวเหยียนเหยียนรู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก

**********

*พึ่งเจอกันวันแรก - จับมือ>ขอเป็นแฟน>กอด>จูบ ปกติแหละ? ปกติใช่มั้ยนะ?

*พอสนิทกันก็เปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียก ‘คุณ’ เป็น ‘นาย/เธอ’