บทที่ 22 แสดงความรู้สึก
โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน การอ่านตอนนี้อย่างจริงจังอาจทำให้สมองของคุณไหลออกมาได้ เฉกเช่นเดียวกันกับผู้แปล
**********
เย่เฉินและจ้าวเหยียนเหยียนไปที่ประตูโรงเรียน
"จ้าวเหยียนเหยียน ทำไมคุณถึงช่วยฉันก่อนหน้านี้ล่ะ?" เย่เฉินถาม
“ฉันแค่ไม่ชอบที่คุณได้รับการปฏิบัติแบบนั้น” จ้าวเหยียนเหยียนกล่าว
“ฮ่าๆๆ” เย่เฉินหัวเราะ
“ทำไมคุณถึงหัวเราะล่ะ?” จ้าวเหยียนเหยียนถามอย่างสับสน
"ฉันไม่คิดว่าผู้หญิงอย่างเธอจะสนใจฉันด้วย"
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เฉิน ใบหน้าของจ้าวเหยียนเหยียนก็เปลี่ยนเป็นสีแดง
“นั่นเป็นเพราะว่าคุณช่วยชีวิตฉันไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้นฉันเลยอยากจะตอบแทนคุณเท่านั้นเอง” จ้าวเหยียนเหยียนพูดพร้อมกับหน้าแดงเล็กน้อย
"โอ้ ฉันลืมไปว่าฉันสั่งอาหารกับจางเหลียวไว้ก่อนหน้านี้"
“ช่างมันเถอะ ไปร้านอาหารทะเลกับฉันดีกว่า ถือว่านี่เป็นรางวัลที่ช่วยฉันก็แล้วกัน” จ้าวเหยียนเหยียนดึงเย่เฉินไปที่ร้านอาหารทะเลแถวนั้น ใช้เวลาเดินประมาณ 3 นาที ก่อนที่ทั้งสองจะมาถึงร้านที่ค่อนข้างมีระดับ
"ถึงแล้ว" จ้าวเหยียนเหยียนพูดขึ้น
เมื่อทั้งสองเข้าไปในร้าน พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับจากพนักงาน
“นายน้อย คุณผู้หญิง พวกคุณต้องการโต๊ะธรรมดาหรือว่าห้องส่วนตัวคะ?” พนักงานถาม
"เป็นห้องส่วนตัวก็แล้วกัน" จ้าวเหยียนเหยียนมอบบัตรสมาชิกให้กับพนักงาน
หลังได้รับบัตรจากจ้าวเหยียนเหยียน พนักงานก็พาเย่เฉินและจ้าวเหยียนเหยียนไปที่ห้องส่วนตัว
เย่เฉินเห็นว่าห้องส่วนตัวได้รับการออกแบบมาอย่างดีและสะดวกสบายที่สุดสำหรับลูกค้า จากนั้นพนักงานก็ยื่นเมนูให้เย่เฉินกับจ้าวเหยียนเหยียน
เมื่อเย่เฉินเปิดดูเมนูอาหารเขาก็ตกตะลึง อาหารในนี้ราคาอย่างต่ำก็เกือบพันหยวนแล้ว ส่วนราคาที่แพงที่สุดนั้นสูงกว่าหมื่นหยวนเสียอีก
ทำไมจ้าวเหยียนเหยียนถึงพาเขามาร้านที่แพงขนาดนี้?
‘ดูเหมือนว่าภูมิหลังของเธอค่อนข้างดี’ เย่เฉินคิดในใจ
เย่เฉินไม่รู้ว่าราคาอาหารจะแพงขนาดนี้ เย่เฉินมักจะกินอาหารราคาไม่กี่สิบหยวนหรืออย่างมากก็ร้อยหยวน แม้แต่สตาร์บัคที่เย่เฉินคิดว่าแพงแล้วก็ไม่สามารถเทียบได้กับร้านนี้
แม้ว่าเย่เฉินจะค่อนข้างพอใจกับเงินหลายแสนหยวนที่เขาได้รับจากการขายกำไลจื่อเหลา แต่หลังจากเห็นราคาอาหารของคนรวยแล้ว เขาก็รู้ว่าเงินแสนนั้นไม่ได้ถือว่ามากมายอะไร
เย่เฉินได้ตัดสินใจที่จะหาเงินเพิ่มในทันที ไม่เช่นนั้นเขาจะเอาชนะแฟนของอวี้ถิงได้อย่างไร?
"ทำไมคุณถึงไม่สั่งอาหารล่ะ?" จ้าวเหยียนเหยียนถามขึ้นเพราะเห็นว่าหลินหยวนไม่ได้พูดอะไรเลย
“ฉันไม่ค่อยคุ้นเคยกับอาหารแบบนี้เท่าไหร่ คุณเลือกให้ฉันเลยก็ได้” เย่เฉินตอบ
"โอเค" จ้าวเหยียนเหยียนพยักหน้า
จากนั้นเธอก็เลือกสองสามเมนูแล้วหันไปบอกพนักงาน
"กรุณารอสักครู่นะคะ อาหารจะถูกนำมาเสิร์ฟโดยเร็วที่สุด" พนักงานเสิร์ฟพูดเสร็จก็ออกจากห้อง
ในห้องส่วนตัวเหลือเพียงจ้าวเหยียนเหยียนกับเย่เฉิน
“เย่เฉิน ฉันอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงช่วยฉันก่อนหน้านี้ คุณอาจจะบาดเจ็บหรือตายจากเปียโนตัวนั้นก็ได้” จ้าวเหยียนเหยียนถามด้วยความสงสัย
“ทำไมล่ะ? ไม่ใช่ว่าฮีโร่ต้องช่วยเหลือสาวงามอยู่แล้วหรอกหรอ?” เย่เฉินหยอกล้อจ้าวเหยียนเหยียน
“จริงจังหน่อยสิ” จ้าวเหยียนเหยียนดูโกรธเล็กน้อย แต่ในใจของเธอกลับค่อนข้างดีใจที่ได้ยินคำชมของเย่เฉิน
"คุณนี่แปลกคนจริงๆ ทำไมฉันถึงช่วยคุณงั้นหรอ? ฉันคิดว่าถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะทำแบบเดียวกันกับฉันอย่างแน่นอน ใครจะปล่อยให้หญิงสาวที่สวยราวกับเทพธิดาอย่างเหยียนเหยียนได้รับบาดเจ็บล่ะ จริงไหม?"
“ปากหวานจริงๆนะ คุณคงจะหลอกสาวๆมาแล้วหลายคนด้วยคำพูดหวานๆของคุณล่ะสิ”
จ้าวเหยียนเหยียนค่อนข้างมีความสุขเมื่อเย่เฉินเรียกเธอว่าเหยียนเหยียน
“บอกตามตรง ฉันเคยมีแฟนเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ แต่น่าเสียดายที่เธอทิ้งฉันไป สุดท้ายแล้วความรักก็สู้เงินทองไม่ได้” เย่เฉินกล่าวอย่างเศร้าสร้อย
“ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่เป็นแบบนั้นหรอก ในโลกนี้มีผู้หญิงมากมายที่กำลังมองหารักแท้ของพวกเธอ” จ้าวเหยียนเหยียนกล่าวกับเย่เฉิน
เย่เฉินเห็นได้ว่าจ้าวเหยียนเหยียนทั้งสวยและมีจิตใจที่ดีมาก เขาคิดว่าถ้าได้คนอย่างเธอเป็นแฟนนั้นจะโชคดีขนาดไหนกัน?
‘งั้นเราควรจะลองดูซักหน่อยดีไหมนะ? จริงๆเราก็ค่อนข้างชอบเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว’ เย่เฉินคิดในใจ
“เหยียนเหยียน ฉันมีอะไรจะบอก” เย่เฉินพูดอย่างจริงจัง
“มีอะไรหรอ?” จ้าวเหยียนเหยียนถาม
เย่เฉินจับมือของจ้าวเหยียนเหยียนและพูดขึ้น "เหยียนเหยียน เป็นแฟนกันไหม?"
เมื่อเห็นเย่เฉินแสดงความรู้สึกของเขาออกมา จ้าวเหยียนเหยียนก็หน้าแดง จ้าวเหยียนเหยียนเองก็ชอบเย่เฉินตั้งแต่ที่เขาช่วยเธอไว้ แต่ในฐานะผู้หญิง จ้าวเหยียนเหยียนจะแสดงความรู้สึกก่อนได้อย่างไร?
“อื้อ ได้สิ” จ้าวเหยียนเหยียนตอบอย่างมีความสุข
“จริงเหรอ?” เย่เฉินถามอย่างไม่เชื่อ
"ใช่ ฉันก็ชอบนายเหมือนกัน ฉันดีใจมากเลยที่ได้รู้ว่านายก็ชอบฉันด้วย"
“เยสส” เย่เฉินกระโดดด้วยความดีใจ
มองไปที่เย่เฉินซึ่งตอนนี้ดูเหมือนเด็กน้อย จ้าวเหยียนเหยียนก็หัวเราะ
เย่เฉินกอดจ้าวเหยียนเหยียน และดวงตาทั้งสองข้างของพวกเขาก็เผชิญหน้ากัน
“เหยียนเหยียน”
“หือ?” จ้าวเหยียนเหยียนมองเข้าไปในดวงตาของเย่เฉิน
ทันใดนั้นเย่เฉินก็ถามอย่างกล้าหาญ "ฉันขอจูบเธอได้ไหม?"
จ้าวเหยียนเหยียนไม่ได้พูด เธอเพียงแค่พยักหน้าและหลับตาลง จริงๆแล้วจ้าวเหยียนเหยียนเองก็ไม่เคยทำสิ่งเหล่านี้มาก่อน เธอเพียงเคยอ่านจากหนังสือและรู้ว่าการจูบนั้นรู้สึกดีมาก จ้าวเหยียนเหยียนเองก็อยากลองทำกับคนที่เธอชอบมาโดยตลอด
ตอนนี้จ้าวเหยียนเหยียนมีคนที่เธอชอบแล้ว เธอย่อมไม่ปฏิเสธคำขอของเขาโดยธรรมชาติ
เย่เฉินต้องการจูบจ้าวเหยียนเหยียนทันที แต่เขานึกได้ว่าตอนนี้เขายังคงสวมหน้ากากหนังมนุษย์อยู่ เย่เฉินจึงถอดมันออกก่อน
ใบหน้าหล่อเหลาของเย่เฉินปรากฎขึ้น ถ้าจ้าวเหยียนเหยียนเห็นเย่เฉินตอนนี้ จ้าวเหยียนเหยียนคงจะประหลาดใจมาก
จ้าวเหยียนเหยียนรอการจูบจากเย่เฉินอยู่ครู่หนึ่ง แต่ผ่านไปนานแล้วเย่เฉินก็ยังไม่เคลื่อนไหว จ้าวเหยียนเหยียนจึงลืมตาขึ้นและเห็นชายหนุ่มรูปงามอยู่ตรงหน้าเธอ
จ้าวเหยียนเหยียนตกตะลึงทันที "คุณเป็นใคร?"
เย่เฉินสับสนกับปฏิกิริยาปัจจุบันของจ้าวเหยียนเหยียน "เหยียนเหยียน ฉันเย่เฉินเอง"
“เอ๊ะ? คุณคือเย่เฉินจริงๆเหรอ?” จ้าวเหยียนเหยียนถามด้วยความไม่เชื่อ
“ใช่ เหยียนเหยียน นี่คือใบหน้าที่แท้จริงของฉัน จริงๆแล้วฉันสวมหน้ากากหนังมนุษย์ไว้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ” เย่เฉินชี้ไปที่หน้ากากหนังมนุษย์บนโต๊ะ
จากนั้นเย่เฉินก็จูบเธอทันที ซึ่งทำให้จ้าวเหยียนเหยียนต่อต้านเล็กน้อย แต่เพราะการจูบนั้นน่ายินดีและพิเศษมาก ในที่สุดจ้าวเหยียนเหยียนก็หลับตาลงและเริ่มเพลิดเพลินกับมัน
เย่เฉินกล้าหาญมากขึ้นเรื่อยๆ เย่เฉินสอดลิ้นของเขาเข้าไปในปากของจ้าวเหยียนเหยียน ลิ้นของทั้งสองพัวพันกันโดยไม่ได้ตั้งใจ จ้าวเหยียนเหยียนที่เฉยเมยตอนนี้กลับมีความกระตือรือร้นอย่างมาก
การจูบของเย่เฉินและจ้าวเหยียนเหยียนดำเนินไปเป็นเวลาหลายนาทีก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มขาดอากาศและแยกออกจากกัน
จากนั้นจ้าวเหยียนเหยียนก็มองดูหน้ากากที่เย่เฉินถอดมันออกมาด้วยความสงสัย
"เย่เฉิน ทำไมนายถึงสวมหน้ากากล่ะ? ฉันคิดว่าใบหน้าจริงของนายดูดีสุดๆเลย" จ้าวเหยียนเหยียนกล่าว
“ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะใช้มันหรอก แต่ปฏิกิริยาของผู้หญิงที่เห็นฉันมันทำให้ฉันลำบากนิดหน่อย” เย่เฉินกล่าวอย่างช่วยไม่ได้
“นายหมายความว่ายังไง?” จ้าวเหยียนเหยียนถาม
ขณะที่เย่เฉินกำลังจะอธิบายเพิ่มเติม ประตูก็เปิดออกเสียก่อน และพนักงานหญิงก็เข้ามาพร้อมกับจานอาหารในมือ
เมื่อพนักงานหญิงเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของเย่เฉิน เธอก็กลายเป็นตื่นเต้นอย่างมาก
พนักงานหญิงเข้ามาแล้วเสิร์ฟอาหารลงบนโต๊ะ แต่สายตาของเธอไม่เคยละออกไปจากเย่เฉิน และบางครั้งเธอก็หยอกล้อเย่เฉินด้วยการส่ายก้นของเธอต่อหน้าเขา
ท่าทางของพนักงานหญิงล้วนอยู่ในสายตาของจ้าวเหยียนเหยียน หลังจากที่พนักงานหญิงเสิร์ฟอาหารบนโต๊ะเสร็จแล้ว จ้าวเหยียนเหยียนก็ไล่เธอออกไปทันที
เมื่อเห็นจ้าวเหยียนเหยียนโกรธ เย่เฉินก็หัวเราะและพูดว่า “เหยียนเหยียน เธอโกรธกับเรื่องไร้สาระแบบนี้ด้วยหรอ?”
“ฉันแค่ไม่ชอบวิธีที่พนักงานหญิงหยอกล้อนาย” จ้าวเหยียนเหยียนกล่าว
“มากินกันก่อนเถอะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นเสียก่อน” เย่เฉินเปลี่ยนเรื่องและเริ่มกินทันที
ตอนที่กำลังกิน จ้าวเหยียนเหยียนมักจะมองไปที่เย่เฉิน จ้าวเหยียนเหยียนมีความสุขมากที่มีแฟนหนุ่มที่หล่อเหลาและสามารถปกป้องเธอได้ จ้าวเหยียนเหยียนรู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก
**********
*พึ่งเจอกันวันแรก - จับมือ>ขอเป็นแฟน>กอด>จูบ ปกติแหละ? ปกติใช่มั้ยนะ?
*พอสนิทกันก็เปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียก ‘คุณ’ เป็น ‘นาย/เธอ’