ตอนที่แล้วตอนที่ 9 ประมุขเจียงหลงใหล?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11 นายน้อยท่านนี้

ตอนที่ 10 ประมุขเจียงคือผู้ที่หล่อเหลาที่สุดในแดนชางหลิง


เจียงมู่เคลียร์คอของเขาและพูดอย่างจริงจังและรอบคอบ“ประมุขเจียงเป็นคนอ่อนโยนและสง่างาม เขาเป็นคนที่มีความสามารถ กตัญญูต่อบิดามารดาและใจดีต่อผู้อื่น เขาทุ่มเทกับการพัฒนานิกายและอุทิศตนให้กับความสัมพันธ์ของตัวเอง แม้ว่าเขาจะหล่อจนไม่มีสหาย แต่เขาก็ไม่เจ้าชู้ เขาเป็นคนมีศีลธรรมสูง มักตอบแทนความแค้นด้วยคุณธรรม เป็นคนมีจิตใจบริสุทธิ์ ไม่เคยรังแกผู้อื่น เขาปฏิบัติต่อผู้หญิงอย่างใส่ใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ดูแลส่วนตัวของเขา ยกเว้นความรัก เขาชี้ไปที่เก้ารัฐ สั่งสอนเทือกเขาชางซาน ทำลายอสูร มอบสันติภาพสู่โลกมนุษย์ เจียงมู่ ประมุขเจียงก็เป็นชายรูปงามและหน้าตาดีที่สุดอันดับหนึ่งในรัฐหลี่ ในทวีปเก้ารัฐ ในแดนชางหลิง ผู้ชายที่ดีทึ่สุดตั้งแต่ยุคโบราณถึงยุคปัจจุบัน หรือแม้แต่ทั้งจักรวาล!”

เป้ง!

กระบี่เล่มหนึ่งล้มลงกับพื้น

ศิษย์ชายล้วนตกตะลึง

ศิษย์น้องคนนี้ … บ้าไปแล้ว!

นี่มันไร้สาระสิ้นดี!

อย่างไรก็ตาม ศิษย์หญิงต่างตื่นเต้น

“ศิษย์น้องกล่าวได้ถูกต้อง!”

"ใช่ ๆ! ประมุขเจียงเป็นชายรูปงามอันดับหนึ่งในแดนชางหลิง!”

“ศิษย์น้องจงเจริญ! ประมุขเจียงจงเจริญ!”

“ทำไมยังไม่ขอโทษ!”

“ขอโทษเดี๋ยวนี้!”

“ถ้าคุณเจ้าไม่ขอโทษ เจ้าจะไม่มีวันได้ลงจากภูเขา!”

"ใช่! ขอโทษ!"

"ขอโทษ!"

"ขอโทษ!"

“ขอโทษมารดาเจ้าสิ! ไปให้พ้น!”

หนึ่งในศิษย์ชายที่ดูก้าวร้าว ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว หยิบกระบี่ขึ้นมาจากบนพื้นแล้วฟันไปที่ศิษย์หญิงผู้น่ารัก

“ว้าว~!”

ศิษย์หญิงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว นางไม่สามารถหลบได้ทันเวลา

ในชั่วพริบตา ร่างที่สง่างามก็ได้มายืนอยู่เบื้องหน้าของนาง

กระบี่ฟาดเข้าที่ไหล่ของร่างนั้นอย่างรุนแรงจนเกิดเสียง เป้ง'

"อา!"

ศิษย์ชายคนนั้นก็กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาจับไปที่ไหล่ของตัวเองก่อนจะล้มลง

ฟู่!

ฝูงชนสูดหายใจเข้า

พวกเขาตกใจเมื่อพบว่าไหล่ของศิษย์ผู้นั้นปรากฏรอยเลือดในลักษณะที่แปลกประหลาด!

มันเป็นรอยที่ราวกับถูกกระบี่ฟัน!

ศิษย์น้องคนนี้…. เขาทำได้ยังไง!?

ฝูงชนมองไปที่เจียงมู่ที่ไม่ได้รับอันตรายใดๆ และทุกคนต่างรู้สึกไม่เชื่อ

เจียงมู่มองศิษย์ที่ก้าวร้าวบนพื้นอย่างเฉยเมย

แม้ว่าภายนอกจะดูสลบ

อันที่จริงเขากำลังมีความสุขอยู่ข้างใน

ป้องกันความเสียหาย 50% และคืนค่าความเสียหาย 100%

ดีมาก!

ในอนาคต ถ้าเขาถูกโจมตี เขาอาจจะสามารถสังหารอีกฝั่งได้ แม้เขาจะยืนเฉยๆ สุดยอดมาก!

อันที่จริงเหตุผลที่ เจียงมู่ก้าวออกไปโดนฟัน

ส่วนใหญ่เป็นการทดสอบผลลัพธ์ป้องกันความเสียหาย 100% ของ กายาบุรุษเหล็ก

ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ยงคงกระบันในขอบเขตเดียวกัน

ท้ายที่สุด คู่ต่อสู้ล้มลงก่อนที่เขาจะขยับตัวด้วยซ้ำ

“ศิษย์น้อง เจ้าทำอะไรกับศิษย์พี่หลี่…. เจ้าทำอะไรลงไป?”

ศิษย์อีกคนถาม เจียงมู่ด้วยความหวาดกลัว

พวกเขาไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเขามองไม่เห็นว่าเจียงมู่โจมตีและทำให้ศิษย์พี่หลี่บาดเจ็บได้อย่างไร!

สิ่งเดียวที่พวกเขาคิดได้คือ เจียงมู่ใช้ทักษะวิญญาณที่ลึกลับและทรงพลังหรือซ่อนการฝึกฝนของเขา

“ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย บางทีเขาอาจจะเผลอกัดตัวเองก็ได้”

เจียงมู่ตอบอย่างไม่เต็มใจแล้วพูดอย่างเฉยเมย

“พูดตามหลักเหตุผลแล้ว พวกเจ้าทุกคนไม่ได้เป็นศิษย์ของนิกายหวู่โหยว อกต่อไป

“และพี่ชายหลี่คนนนี้ต้องการโจมตีและฆ่าศิษย์ของนิกายหวู่โหยว ตามกฎของนิกาย เขามีโทษตาย”

“นฐานะสหายของเขา เจ้าถือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด”

“ดังนั้น พวกเจ้าจึงถือเป็นศัตรูตัวฉกาจของนิกายหวู่โหย่ว”

ตาย…. ศัตรูตัวฉกาจ?!

ศิษย์ชายตื่นตระหนกทันที

จากนั้นพวกเขาก็จำได้ว่า นิกายหวู่โหยว มีกฎดังกล่าว

ดังนั้นพวกเขาจึงวิ่งไปขอโทษอย่างหมดท่า

"ข้าเสียใจ!"

“เราผิดไปแล้ว!”

“พวกเราเลียสุนัขเลียถังขยะ!”

“ประมุขเป็นอัจฉริยะที่กำลังหลงใหลในความรัก!”

“ประมุขเจียงเป็นชายหนุ่มรูปงามอันดับหนึ่งในแดนชางหลิง!”

“เราจะรักประมุขเจียงตลอดไป!”

“ก็ได้ ไม่เป็นไร พวกเจ้าไปได้แล้ว”

เจียงมู่รู้สึกลำบากใจและโบกมือให้พวกเขาออกไป

หลังจากนั้น พวกเขาก็วิ่งหนีออกไปด้วยความกลัว

ศิษย์หญิงหลายคนรู้สึกตื่นเต้น พวกเขาอยากรู้จักกับเจียงมู่

โดยเฉพาะศิษย์หญิงที่ได้ถูกช่วยไว้ ใบหน้าของนางแดงก่ำ มือเล็กๆ ของนางจับขอบกระโปรงขณะที่นางมองไปที่เจียงมู่อย่างเขินอาย นางบอกเขาอย่างลับๆว่าอยากไปเยี่ยมบ้านส่วนตัวของเจียงมู่

“ข้าขอโทษ ข้ามีเรื่องต้องทำ ลาก่อน”

เจียงมู่ไม่ต้องการเข้าไปวุ่นวายมากเกินไป และหลังจากก่าวจบ เขาก็เดินไปที่ประตูภูเขาโดยไม่หันกลับไปมอง

ไม่สนใจกับความเสียใจของกลุ่มศิษย์สาวเหล่านั้นเลย

***

เมืองเสวี่ย บนถนน

“เมิ่งหาน เจ้าดูไม่ค่อยมีความสุขเลย มีอะไรหรือเปล่า?”

หลิงอ่าวเทียนติดตามเสวี่ยเมิ่งหาน และมุ่งหน้าไปยัง ตำหนักเดือนมืดด้วยกัน

แต่ระหว่างทาง เขาสังเกตเห็นว่า เสวี่ยเมิ่งหาน ดูไม่มีความสุขอย่างมาก

“ไม่ ข้ามีความสุขมากเจ้าคะ”

เสวี่ยเมิ่งหานตอบอย่างสงบแต่ภายในใจนางกลับหดหู่

มีความสุข ตูดข้าสิ!

ในตอนแรก นางวางแผนที่จะไปที่ศาลาหลี่ฮวาและหยุดเจียงมู่

จุดประสงค์คือเพื่อทำลายเรื่องดีๆของเจียงมู่และแก้แค้นที่เขาเรียกนางว่าหมาโง่ในบันทึกของเขา

ที่สำคัญกว่านั้น เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องพาหลิงอ่าวเทียนไปที่ตำหนักเดือนมืดตามที่เขียนไว้ในบันทึกประจำวัน เพราะ นางเกลียดความรู้สึกที่ทุกๆอย่างถูกกำหนดขึ้นโดยโชคชะตา

ใครจะรู้

ก่อนที่นางจะก้าวออกจากประตูบ้าน นางถูกบิดาของนางหยุดไว้

เขาบอกว่า หลิงอ่าวเทีย ต้องการทราบข้อมูลบางอย่าง ดังนั้นเขาจึงขอให้นางพาหลิงอ่าวเทียนไปที่ตำหนักเดือนมืด

เนื่องจากความสามารถของตำหนักเดือนมืดในการรวบรวมข้อมูลและข่าวกรองถือเป็นระดับแนวหน้า คฤหาสน์ของเจ้าเมืองจึงมักจะซื้อข่าวทุกประเภทจากตำหนักเดือนมืด เช่น ข่าวสัตว์อสูร

ก่อนที่นางจะจากไป พ่อของนางกระซิบกับนางว่า หลิงอ่าวเทียน เก่งมาก มีศักยภาพและบุคลิกที่ยอดเยี่ยม และความสำเร็จในอนาคตของเขาย่อมไม่ธรรมดา

นางรู้สึกหดหู่ใจจนอยากจะฆ่าตัวตายด้วยการเอาหัวโขกเต้าหู้

“ศักยภาพของเขา ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า”

“ถ้าเขาต้องการไป ตำหนักเดือนมืด เขาควรบอกให้คนใช้พาเขาไป”

“ทำไมต้องเป็นข้า”

“ข้าไม่รู้วื่ท่านพ่อคิดอะไรอยู่”

"ฮึ."

เสวี่ยเมิ่งหาน พึมพำอย่างโกรธจัด ไม่พอใจอย่างมากกับการเตรียมการของพ่อของนาง

“เมิ่งหาน เจ้าเป็นอะไรเหรอ?”

หลิงอ่าวเทียน ได้ยินสิ่งที่นางพูดอย่างคลุมเครือ ดังนั้นเขาจึงเข้ามาถามด้วยความสงสัย

“ไม่มีอะไรเจ้าคะ เราเกือบถึงตำหนักเดือนมืดแล้ว”

เสวี่ยเมิ่งหาน ไม่ต้องการพูด จึงเร่งฝีเท้าของนาง

ผู้คนที่เดินขวั่กไขว่ไปมาบนท้องถนน

หลายคนมีท่าทีชื่นชมเมื่อพวกเขาเห็นเสวี่ยเมิ่งหาน

พวกเขายังกระซิบ

“เฮ้ เจ้าได้ยินไหม เมื่อคืนนี้เสวี่ยเฉียนจินถอนหมั้นกับประมุขเจียง!”

(千金 เฉียนจิน แปลว่า ธิดาแห่งทองคำ เป็นคำเรียกอย่างให้เกียรติแก่ลูกสาวคนอื่น)

“ใช่ สมควรแล้ว เสวี่ยเฉียนจิน นางยังคงดื้อรั้นเช่นเคย”

“แน่นอนอยู่แล้ว ประมุขเจียงไร้ประโยชน์ เขาไม่คู่ควรกับสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองเสวี่ยของเรา!”

“ตามที่ข้าบอก แม้ว่านางจะไม่ถอนหมั้น เมื่อนิกายหวู่โหย่วล่มสลาย ประมุขเจียงจะเป็นสุนัขเลียขยะที่ไม่มีอะไรเหลือ และหนังสือถอนหมั้นใบนั้นก็จะไร้ความหมาย”

“แท้จริงแล้ว สุนัขเลียขยะที่ไม่มีศักยภาพจะจะเลียอะไรได้นอกจากความว่างเปล่า”

“เมื่อพูดถึงศักยภาพ ข้าคิดว่าเด็กที่ชื่อ หลิงอ่าวเทียน นั้นค่อนข้างดี”

“หลิง อ่าวเทียน?”

“ใช่ เขาเป็นคนที่อยู่ข้างหลัง เสวี่ยเฉียนจิน ชายหนุ่มที่สวมชุดดำ”

สายตาของฝูงชนหันไปทาง หลิงอ่าวเทียน ที่อยู่เบื้องหลัง เสวี่ยเมิ่งหาน

พวกเขาเห็นว่าเขามีใบหน้าที่เคร่งขรึม ดวงตาที่ดูชั่วร้ายแต่มีเสน่ห์ ร่างกายที่แข็งแกร่งและให้อารมณ์หยิ่งผยอง

การก้าวเท้าอย่างมั่นคงและทรงพลังนั้นแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของเขา

“เขาดูหล่อมาก เขาเกือบจะหล่อเท่าประมุขเจียง”

“ความหล่อไร้ประโยชน์ ความแข็งแกร่งต่างหากคือราชา”

“เห็นด้วย หลิงอ่าวเทียนคนนี้ดูเหมือนประมุขเจียง เขาอายุแค่ยี่สิบต้นๆ ถึงแม้ว่าระดับการฝึกตนของเขาจะอยู่ที่ขอบเขตรวบรวมวิญญาณเท่านั้น พลังที่เขาแสดงออกมาใกล้เคียงกับขอบเขตทะเลปราณ เขาทุบตีประมุขเจียงจนอาเจียนเป็นเลือดและหมดสติไป!”

“เฮ่อ ผู้ที่สามารถเข้าถึงขอบเขตทะเลฉีส่วนใหญ่จะอายุเลย30ไปแล้ว หลิงอ่าวเทียนผู้นี้แข็งแกร่งจริงๆ”

***

หูของ หลิงอ่าวเทียน ไม่ได้อ่อนแอ และในขณะที่เขาฟังคำพูดของผู้คนรอบตัวเขา หัวใจของเขาก็พองโต ขณะที่เขาดื่มด่ำกับการฟังคำสรรเสริญ เขาก็ได้ยินเสียงของเสวี่ยเมิ่งหานที่อยู่ข้างหน้าเขา

“เรามาถึงตำหนักเดือนมืดแล้วเจ้าคะ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด