ตอนที่แล้วบทที่ 309 บรรลุราชันเซียนนิรันดร์!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 311 วิธีการหยุดเกมของฉินมู่

(ฟรีปกติ) บทที่ 310 ปาฏิหาริย์ที่ไม่อาจลอกเลียนได้!


PS: นางอลังการจริงๆ นะครับจากบทก่อนหน้านี้

จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญยืนนิ่งบนเก้าสวรรค์ รับรู้การเปลี่ยนแปลงในร่างกายของตัวเองอย่างเงียบๆ

จากจุดสูงสุดของเซียนนิรันดร์ ก้าวข้ามไปสู่เขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ แม้ว่าจะไม่ยากเท่ากับจากก้าวข้ามจากผู้ที่ได้มาทีหลังเป็นผู้กุมชะตาโดยกำเนิด ไม่ถึงกับถือกำเนิดใหม่ผลัดกระดูกเปลี่ยนกล้ามเนื้อเช่นนั้น

แต่ในแง่ของผู้ที่ได้มาภายหลัง เขตแดนเซียนนิรันดร์และเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ ก็นับได้ว่าเป็นช่องว่างระหว่างฟ้าดินอย่างแท้จริงเช่นกัน

เซียนนิรันดร์และราชันเซียนนิรันดร์ ก็เปรียบเหมือนกับผู้ที่ได้รับมาภายหลังและผู้ที่ได้มาโดยกำเนิด

นี่คือการก้าวกระโดดที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นช่องว่างระหว่างฟ้าดิน

แดนนิรันดร์นั้นกว้างใหญ่ไร้ที่สุด แต่ตั้งแต่วันเดือนปีที่ไม่รู้จบ มีราชันเซียนนิรันดร์ปรากฏขึ้นมากี่คนกัน?

เกรงว่าจะนับได้ด้วยมือเดียว

แล้วเซียนนิรันดร์ล่ะ?

หลังจากหลายแสนปีผ่านไป โดยเฉลี่ยจะมีเซียนนิรันดร์ปรากฏตัวขึ้นหนึ่งคน

จากสิ่งนี้ สามารถเห็นได้ว่า การก้าวข้ามจากเซียนนิรันดร์ไปเป็นราชันเซียนนิรันดร์นั้นยากเพียงไหน

ตอนนี้ จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญประสบความสำเร็จบรรลุเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ ก้าวข้ามจากบรรดาสิ่งมีชีวิตที่ได้รับมาภายหลัง และกลายเป็นผู้มีความสามารถที่แท้จริง

เพียงพอที่จะกลายเป็นตัวตนอันครอบงำฟ้าดิน

ในอดีตก่อนหน้านี้ในพิภพเบื้องล่าง นางก็ทรงอำนาจเช่นกัน แต่ก็สามารถครอบครองได้เพียงเฉพาะพื้นที่หนึ่งในพิภพเท่านั้น

แต่หลังจากเลื่อนเขตแดนเป็นราชันเซียนนิรันดร์แล้ว นางก็สามารถที่จะมองไปยังทุกดินแดนในโลกอันไร้ที่สุด สามารถไปได้ในทุกที่!

"นี่คือเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์งั้นรึ"

จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญยกมือขึ้นเบาๆ มองไปยังฝ่ามือที่เหมือนกับผลึกอันกระจ่างใสประดุจหยกคู่หนึ่ง

ผิวเรียบเนียนประดุจหยกที่สวยที่สุดในพิภพ เปี่ยมไปด้วยความงดงาม

แต่ในสายตาของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ นางกลับมองเห็นอนุภาคหลายร้อยล้านอนุภาค

นั่นคือหน่วยพื้นฐานที่ประกอบขึ้นเป็นร่างของสิ่งมีชีวิต ทุกอนุภาคล้วนเปล่งประกาย และทุกอนุภาคเปี่ยมไปด้วยความยิ่งใหญ่

ด้วยพลังอันมากมายเหลือล้น

จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่เขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ ซึ่งแตกต่างจากราชันเซียนนิรันดร์คนอื่นอย่างมาก

ราชันเซียนนิรันดร์คนอื่นนั้น ตรึงวิญญาณพำนักไว้ระหว่างฟ้าดิน สะสมความแข็งแกร่งเพืีอทำลายพันธนาการของฟ้าดิน

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เนื่องจากวิญญาณพำนักได้เกาะเกี่ยวอยู่ระหว่างฟ้าดิน จึงมีการเชื่อมต่อที่แยกไม่ออกกับฟ้าดินตามธรรมชาติ แม้ว่าวิญญาณพำนักจะแยกตัวจากฟ้าดิน แต่ก็ไม่ได้ตัดการเชื่อมต่อกับฟ้าดินได้อย่างสมบูรณ์

แต่จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่วิญญาณพำนักจะอยู่ในร่างกายเท่านั้น ยังย่อยสลายวิญญาณพำนักอย่างสมบูรณ์ รวมเข้ากับอนุภาคเซลล์หลายพันล้านตัวในร่างของนางเองด้วย

อาจกล่าวได้ว่าการก้าวข้ามไปของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญนั้น เป็นก้าวข้ามไปที่สมบูรณ์ซึ่งขจัดการเชื่อมโยงกับฟ้าดินออกไปอย่างแท้จริง ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างมากต่อการก้าวข้ามไปยังเขตแดนที่สูงกว่าของนางในอนาคต

เนื่องจากผู้ที่ได้มาภายหลังนั้น จุดที่สำคัญที่สุดในการก้าวข้ามไปสู่ผู้กุมชะตาก็คือการตัดการเชื่อมโยงกับฟ้าดินทั้งหมดอย่างสมบูรณ์

เคารพเพียงตัวเองเท่านั้น!

ผู้กุมชะตาคือใครกัน?

แม้แต่ฟ้าดินผู้ให้กำเนิด ก็ไม่สามารถควบคุมเขาได้ และไม่ปนเปื้อนอะไรเลยแม้แต่น้อย

ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น จะเรียกว่าก้าวพ้นจากกรรมทั้งหมด สุขชั่วนิรันดร์ได้อย่างไร?

และตอนนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญก็ได้ตัดพันธนาการและความเชื่อมโยงกับฟ้าดินไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งเอื้อต่อการก้าวข้ามไปในอนาคตของนางโดยธรรมชาติ

## อ่านจอมบงการเทพยุทธ์ ติดตามล่าสุดที่ thai-novel.com หรือที่ mynovel.co นะครับ

ซึ่งมันมีผลกระทบที่ลึกล้ำเป็นอย่างมาก

ไม่ว่าอย่างไร ยิ่งพลังยุทธ์นั้นลึกล้ำเท่าไหร่ การเชื่อมโยงกับฟ้าดินนั้นก็จะยิ่งลึกเข้าไปเท่านั้น และกรรมก็จะลึกล้ำยิ่งเช่นเดียวกัน

ทรัพยากรในการฝึกฝนพลังยุทธ์มาจากไหน แน่นอนว่ามันต้องมาจากฟ้าดิน

ยิ่งเขตแดนสูงล้ำเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องใช้ทรัพยากรมากยิ่งขึ้น ความผูกพันระหว่างฟ้าดินก็ยิ่งมากขึ้น และการก้าวข้ามไปก็ยิ่งยากขึ้น

นี่เป็นวัฏจักรที่เกือบจะไร้ที่สุด เป็นพันธนาการที่รัดคอของผู้ที่ได้มาภายหลังทั้งหมด

และถ้าไม่ต้องการที่จะเพิ่มความผูกพันกับฟ้าดิน ก็ต้องไม่ฝึกฝน

แต่ในกรณีนั้น การก้าวข้ามไปสู่ผู้กุมชะตาย่อมเป็นเรื่องสิ้นหวังตามธรรมชาติ

ดังนั้น เพ่ือที่จะทำลายวัฏจักรอันไร้ที่สุดนี้ ผู้ฝึกยุทธ์ต่างก็พยายามด้วยวิธีการอันน่าอัศจรรย์มากมาย

บางคนใช้ความปรารถนาดี ใช้ความเมตตาต่อโลก สร้างอิสระให้กับสรรพชีวิต ปลดพันธนาการระหว่างพวกเขากับฟ้าดิน และบรรลุผู้กุมชะตา

บางคนต้องการลบล้างตัวตน แสวงหาความว่างเปล่า ถ่ายโอนกรรมของตนเองกับฟ้าดินไปยังสิ่งมีชีวิตอื่นอย่างสมบูรณ์ผ่านการเตรียมการมากมาย

บางคนแบ่งร่างออกเป็นหลายตัวตน ยกพันธนาการระหว่างฟ้าดินและกรรมไปยังร่างแยก จะรอจนถึงวันที่ไดัทำลายบ่วงกรรมของร่างแยกไปอย่างสมบูรณ์ ก็จะเป็นเวลาที่ได้บรรลุผู้กุมชะตา……

ทะเลพหุภพอันไร้ที่สิ้นสุด ไม่รู้ว่ามีผู้ที่ได้มาภายหลังที่น่าอัศจรรย์มากแค่ไหน ต่างใช้ทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ เพื่อที่จะกำจัดโซ่ตรวนแห่งกรรม บรรลุเขตแดนผู้กุมชะตา

แต่ถึงแม้จะมองไปยังทะเลพหุภพอันนับไม่ถ้วน ก็ยังหาได้ยากมากที่จะมีสิ่งมีชีวิตที่จะสามารถทำลายกำแพงนี้และได้รับตำแหน่งผู้กุมชะตา

และหากบุคคลเหล่านี้ที่มีเจตนาที่จะบรรลุเขตแดนของผู้กุมชะตารับรู้ว่าจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญผู้อยู่ในเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์

ได้ตัดความสัมพันธ์กับฟ้าดินไปเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้ว่าพวกเขาจะอิจฉามากมายแค่ไหน

ไม่ว่าอย่างไร นี่คือผลลัพธ์สุดท้ายที่พวกเขาแสวงหามาตลอดชีวิต แต่ไม่อาจบรรลุได้

แน่นอน นอกจากความพยายามของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญเองแล้ว ฉินมู่เองก็นับได้ว่าเป็นผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ทั้งหมด

หากเขาไม่ได้ก้าวข้ามไปสู่เขตแดนผู้กุมชะตา จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญก็คงจะไม่ก้าวข้ามเขตแดนไปได้เร็วเช่นนี้

หากเขาไม่เปลี่ยนประวัติศาสตร์ว่าได้ให้คำแนะนำกับจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญก็ยากที่จะคิดหาวิธีทำลายพันธนาการได้อย่างสมบูรณ์ แน่นอน สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นก็คือ จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญคือตัวตนที่ฉินมู่สร้างขึ้นมาจากความว่างเปล่าโดยใช้แต้มตกใจ

นางไม่ได้เป็นคนของโลกนี้ ความผูกพันระหว่างฟ้าดินและกรรมนั้นตามปกติแล้วไม่ลึกเท่าสิ่งมีชีวิตอื่น

มิฉะนั้น แม้ว่านางจะคิดวิธีไม่ล้มก็ไม่ลุกก็ตาม ก็จะไม่ง่ายดายและเรียบง่ายเช่นนี้ในการก้าวข้ามไปสู่เขตแดนราชันเซียนนิรันดร์

ด้วยความช่วยเหลือของหลายสาเหตุ จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญจึงสามารถประสบความสำเร็จในการก้าวข้ามไปสู่เขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างฟ้าดินและห่วงกรรม เรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่ยากจะลอกเลียน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด