บทที่ 17 ราชินีแห่งโลกธุรกิจ หลิวเยว่
เย่เฉิน: "โอ้ แน่นอน ฉันยังขายมันอยู่"
“ฉันสนใจกำไลข้อมืออันนี้ มันราคาเท่าไหร่หรอ?” สาวงามถาม
“มันราคา 6 แสนหยวน” เย่เฉินเริ่มพูดถึงราคาของกำไลข้อมือและกล่าวถึงประโยชน์ของมัน
“มันได้ผลจริงอย่างที่คุณพูดหรือเปล่า?” สาวสวยลังเลเล็กน้อยที่จะเชื่อคำพูดของเย่เฉิน
“แน่นอน ถ้าฉันโกหกขอให้ฟ้าผ่าฉันพันครั้ง” เย่เฉินสาบานเพื่อโน้มน้าวสาวสวยคนหนึ่งที่ต้องการซื้อกำไลข้อมือของเขา
“เอาล่ะ ฉันเอากำไลข้อมืออันนี้” จริงๆแล้วเธอยังลังเลที่จะซื้อ แต่อย่างไรก็ตาม สัญชาตญาณของเธอบอกว่าเธอควรซื้อกำไลข้อมือนี้ สัญชาตญาณของผู้หญิงนั้นแม่นยำเสมอมา นั่นเป็นเหตุผลที่เธอชอบที่จะเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง
“มันรักษาโรคได้หรือเปล่า?”
คุณย่าของเธอป่วยมาหลายปีแล้ว แพทย์บอกว่าตับของคุณย่าเสียหาย และสภาพร่างกายของคุณย่าแย่ลงทุกวัน
ต้องรู้ว่าตับทำหน้าที่ล้างพิษทั้งหมดในร่างกาย ถ้าตับได้รับความเสียหาย พิษต่างๆจะถูกสะสมอยู่ในร่างกายและคนๆนั้นอาจจะตายได้
แน่นอนว่ากำไลข้อมือจื่อเหลานี้สามารถรักษาตับของคุณย่าของสาวสวยคนนี้ได้ แม้ว่ากระบวนการอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นทันทีและต้องใช้เวลา
สาวสวยนำเงินออกมา 6 แสนหยวนจากกระเป๋าของเธอเพื่อซื้อกำไลข้อมือจื่อเหลา
เย่เฉินก็หยิบกำไลข้อมือและต้องการมอบมันให้กับสาวสวย แต่เมื่อกำลังจะส่งมอบ มือของเย่เฉินและสาวสวยก็ถูกขัดขวางไว้ในทันใด
จู่ๆชายหนุ่มในชุดสูทสีน้ำเงินคนหนึ่งก็มายืนอยู่ข้างหญิงสาวสวย “เยว่เอ๋อร์ คุณเชื่อไอนักต้มตุ๋นคนนี้ได้อย่างไร?” ชายหนุ่มในชุดสูทสีน้ำเงินขัดขวางหญิงสาวสวยเพื่อไม่ให้เธอซื้อกำไลข้อมือของเย่เฉิน
“นี่ไม่ใช่ธุระของคุณ และอย่ามาเรียกฉันด้วยชื่อนั้น มันน่าขยะแขยง คุณกับฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน” หญิงสาวสวยโกรธชายหนุ่มในชุดสูทสีน้ำเงิน
“เยว่เอ๋อร์ นี่ก็เพื่อตัวคุณเอง ผมจะปล่อยให้คุณถูกคนแบบนี้หลอกได้ยังไง?” ชายหนุ่มในชุดสูทสีน้ำเงินมองไปที่เย่เฉินด้วยท่าทางกวนบาทา
“คุณไป๋ ฉันขอเตือนคุณว่าอย่าเรียกชื่อฉันแบบนั้นอีก และนี่ไม่ใช่ธุระของคุณ ที่ฉันไม่ตำหนิคุณก่อนหน้านี้เพราะฉันเห็นแก่หน้าพ่อของคุณ แต่ถ้าคุณยังทำแบบนี้อีกก็อย่าโทษที่ฉันไม่ไว้หน้า” หลิวเยว่พูดพร้อมมองไปยังชายในชุดสูทสีน้ำเงิน
“ฉันเข้าใจแล้วหลิวเยว่ แต่ทำไมคุณถึงต้องการซื้อของปลอมนี้ คุณเป็นราชินีแห่งโลกธุรกิจที่ฉลาด แต่วันนี้คุณกลับโง่จนโดนนักต้มตุ๋นคนนี้หลอก” ไป๋ซานถาม
“เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ?! คุณบอกว่าฉันโง่งั้นหรอ?” สายตาของหลิวเยว่เริ่มเย็นชาและเต็มไปด้วยความโกรธ
‘ชิบหายละ เราพูดอะไรออกไปวะ’ ไป๋ซานพูดในใจ
ไป๋ซานเป็นหนึ่งในคนที่ตามจีบหลิวเยว่ พ่อของเขาเป็นรองประธานของหลิวกรุ๊ปซึ่งเป็นคนสนิทคุณย่าของหลิวเยว่ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไป๋ซานได้พยายามใช้วิธีการต่างๆเพื่อเอาใจหลิวเยว่ แต่น่าเสียดายที่หลิวเยว่ไม่แม้แต่จะเหลือบมองเขา
‘รอก่อนเถอะหลิวเยว่ ถ้าแผนของพ่อฉันสำเร็จเมื่อไหร่ ฉันจะทำให้เธอคลานอยู่ใต้ฝ่าเท้าของฉัน’ ไป่ซานพูดในใจ
ไป๋ซาน: "ขอโทษนะหลิวเยว่ ฉันผิดไปแล้ว ได้โปรดอย่าโกรธเลย"
เย่เฉินที่ได้ยินการสนทนาของทั้งสองคนก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร
หลิวเยว่ ประธานของหลิวกรุ๊ปซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจหลากหลายรูปแบบ แม้แต่เย่เฉินก็มักจะใช้สินค้าที่เป็นของหลิวกรุ๊ป ดังนั้นเย่เฉินจึงรู้ว่าหลิวกรุ๊ปทรงพลังเพียงใดในเมืองนี้
หลิวกรุ๊ปมีมูลค่าทางตลาดนับแสนล้านหยวน หากเย่เฉินรู้ก่อนหน้านี้ เย่เฉินคงจะขึ้นราคากำไลข้อมือนี้อีกหลายเท่า
สำหรับหลิวเยว่แล้ว หกแสนหยวนก็ไม่ต่างอะไรจากหกร้อยหยวน
หลิวเยว่มองออกไปและเพิกเฉยต่อไป๋ซาน ไป๋ซานโกรธมากแต่ไป๋ซานไม่สามารถระบายความโกรธกับหลิวเยว่ได้ เพราะหลิวเยว่ยังคงเป็นเจ้านายของพ่อเขา ถ้าไป๋ซานทำสิ่งที่ผิดกับหลิวเยว่แล้วล่ะก็ อาชีพของพ่อเขาและแผนการทั้งหมดคงจะถูกทำลาย
ไป๋ซานทำได้เพียงระบายใส่เย่เฉินเท่านั้น เขาดึงคอเสื้อของเย่เฉินที่นั่งอยู่บนพื้น “ไอ้นักต้มตุ๋น แกรู้ไหมว่าแกกำลังพยายามที่จะหลอกใคร? แม้แต่คุณหนูหลิวแกก็กล้าที่จะหลอกลวง”
“และเป็นเพราะแกที่ทำให้หลิวเยว่โกรธฉัน ถ้าแกยอมรับว่าแกเป็นคนหลอกลวงฉันก็จะปล่อยแกไป แต่ถ้าแกปฏิเสธล่ะก็ หึหึ ฉันจะทำให้แน่ใจว่าแกจะไม่สามารถอยู่ในเมืองนี้ได้อีกต่อไป” ไป๋ซานพูดกับเย่เฉินด้วยน้ำเสียงที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้ยิน
“เหอะ นายเรียกใครว่านักต้มตุ๋น? สินค้าที่ฉันขายทั้งหมดเป็นของจริง” เย่เฉินกล่าว
ไป๋ซาน: "ฮ่าๆๆๆ แกคิดว่าฉันไม่ได้ยินสิ่งที่แกพูดก่อนหน้านี้หรือไง? ไอของวิเศษแบบนั้นจะมีอยู่ในโลกนี้ได้ยังไง? สิ่งที่แกพูดมันมีแต่ในหนังเท่านั้นแหละ"
“ขึ้นอยู่กับนายว่าจะเชื่อหรือเปล่า นั่นไม่ใช่ปัญหาของฉัน” เย่เฉินพูดอย่างสบายๆ
“แกกล้าปฏิเสธฉันงั้นหรอ? ดี!” ไป๋ซานยกกำปั้นขึ้นเตรียมจะต่อยหน้าเย่เฉิน หลิวเยว่ที่ยืนอยู่ข้างหลังไป๋ซานพยายามจะหยุด แต่มันก็สายเกินไป
เย่เฉินไม่แม้แต่จะหลีกเลี่ยงและยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
ปัง!!
ได้ยินเสียงดังลั่น หลิวเยว่คิดว่าเย่เฉินจะได้รับบาดเจ็บ
แต่ในวินาทีต่อมา หลิวเยว่กลับเห็นว่าไป๋ซานกุมมือที่เขาใช้ต่อยเย่เฉินไว้ด้วยความเจ็บปวด
“ไอเวรเอ้ย ผิวแกทำมาจากหินหรือไงวะ?!” ไป๋ซานพูดด้วยความเจ็บปวด
แน่นอนว่าร่างกายของเย่เฉินนั้นแข็งแกร่งมากจนไป๋ซานไม่สามารถทำร้ายเขาได้เลย
แต่ปรากฎว่าไป๋ซานไม่ยอมแพ้ เขาใช้เท้าเตะเย่เฉินเต็มแรง
คราวนี้เย่เฉินลุกขึ้นยืน เขาคว้าคอเสื้อของไป๋ซานทันทีและยกเขาลอยขึ้นจากพื้นอย่างง่ายดาย
ไป๋ซานไม่คิดว่าเย่เฉินจะสูงขนาดนี้ ไป่ซานสูงเพียง 168 ซม. ในขณะที่เย่เฉินสูง 182 ซม. เนื่องจากก่อนหน้านี้เย่เฉินนั่งอยู่ตลอดเวลา ไป๋ซานจึงไม่ได้สังเกตเห็นมัน
เย่เฉิน: "ดูเหมือนว่านายจะยังไม่สำนึกผิดนะ"
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ! เสียงตบดังก้องอยู่ในหูของใครหลายคน
“แกกล้าตีฉัน! ฉันจะฆ่าแก...” ยังไม่ทันจบประโยคแต่เสียงตบก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!
“แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ฉันเป็นน้องชายของหัวหน้าแก๊งหมาป่าแดงที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ ถ้าฉันบอกเขาล่ะก็ แกจะไม่ได้อยู่ในเมืองนี้ต่อไป...”
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!
เสียงตบยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แต่ไป๋ซานไม่ยอมแพ้และยังคงข่มขู่เย่เฉินต่อไป
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!
ตอนนี้รอบข้างมีแต่เสียงตบเท่านั้น
“ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว ได้โปรดอภัยให้ฉันด้วย” ไป๋ซานอ้อนวอน แก้มทั้งสองข้างของเขาบวมเหมือนหมู
“ให้มันจริงล่ะ ถ้านายยังกล้ายั่วยุฉันอยู่ล่ะก็ ต่อไปมันจะไม่ใช่แค่หน้าของนายอย่างแน่นอน” เย่เฉินเตือนไป๋ซานและโยนเขาออกไปสองสามเมตร
ไป๋ซานไม่กล้าที่จะอยู่อีกต่อไป
‘แกรอก่อนเถอะ ฉันจะให้พี่ชายของฉันกำจัดแกออกไปจากโลกใบนี้’ ไป่ซานเพียงกล้าพูดในใจเพราะกลัวว่าเย่เฉินจะทุบตีเขาอีกครั้ง
เย่เฉินหันศีรษะและมองไปที่หลิวเยว่ซึ่งกำลังมองมาที่เขา
เย่เฉิน: "โอ้ คุณหลิว ฉันขอโทษที่ตีเพื่อนของคุณ"
หลิวเยว่: “เขาไม่ใช่เพื่อนของฉัน ฉันต้องขอบคุณคุณด้วยซ้ำ คนๆนั้นทำให้ฉันรำคาญ”
“ถ้าคุณไม่ชอบเขาแล้วทำไมไม่ไล่เขาไปตรงๆเลยล่ะ?” เย่เฉินถาม
“พ่อของเขาเป็นรองประธานบริษัทของฉัน จริงๆแล้วฉันต้องการขับไล่พ่อลูกคู่นี้ออกไปอยู่ตลอดเวลา แต่ดูเหมือนว่าพ่อของไป๋ซานจะมีความเชื่อมโยงกับผู้ถือหุ้นหลายคน ดังนั้นมันจึงยากที่จะกำจัดเขาออกไป”
“โอ้ ฉันเข้าใจแล้ว มาที่เรื่องของเรากันดีกว่า คุณยังต้องการซื้อมันอยู่ไหม?” เย่เฉินถาม
หลิวเยว่: “แน่นอน”
หลิวเยว่มอบเงินหกแสนหยวนให้เย่เฉิน หลังจากได้รับเงินและนับจำนวน เย่เฉินก็มอบกำไลข้อมือให้หลิวเยว่
เย่เฉิน: "ขอบคุณสำหรับการซื้อขาย"
“ยินดีเช่นกัน ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อน ฉันมีบางอย่างที่ต้องทำ” หลิวเยว่เดินจากไป แต่เพียงไม่กี่ก้าวเธอก็หันกลับมา
“โอ้ ใช่แล้ว ฉันยังไม่รู้ชื่อของคุณเลย?”
"ฉันชื่อเย่เฉิน" เย่เฉินไม่ได้ซ่อนชื่อจริงของเขาจากหลิวเยว่
“เย่เฉิน... ดีมาก ฉันจะจำมันไว้ ฉันชื่อหลิวเยว่ ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือก็อย่าลังเลที่จะมาหาฉัน ฉันเป็นเจ้าของหลิวกรุ๊ป คุณสามารถหาฉันได้ที่นั่น” หลังจากพูดจบ หลิวเยว่ก็จากไปและหายตัวไปท่ามกลางฝูงชน
เย่เฉินไม่เข้าใจความคิดของหลิวเยว่ เขาคิดว่าจิตใจของผู้หญิงคนนี้ซับซ้อนมาก เธอจะให้ความช่วยเหลือฟรีๆกับคนที่เธอเพิ่งพบได้อย่างไร?
เย่เฉินเองก็เตรียมที่จะจากไป
**********