ตอนที่แล้วEp.403 - ยื่นมีดให้บอสฮัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.405 - บดขยี้! ทำลายเกลี้ยง!

Ep.404 - สมาคมเหนี่ยวนำมนตรา


1/2

Ep.404 - สมาคมเหนี่ยวนำมนตรา

ภายในรถคันใหญ่ บรรทุกเชลยทั้ง 14 ตน เวลานี้ทุกตนอ่อนแรง ไร้ความสามารถที่จะขัดขืน เป็นเหมือนลูกไก่ในกำมือ

ถึงจะเป็นแบบนั้น

ก็ยังประมาทไม่ได้

ไอ้พวกนี้มันอันตราย ถ้ามีโอกาสเพียงหนึ่งในหมื่นที่สามารถหลุดรอดไปได้ ก็จำเป็นต้องตัดสินใจฆ่าพวกมันให้หมด เพราะหากหลุดรอดไป พวกมันจะกลับมาก่อหายนะครั้งใหญ่ต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์

ไป๋เสวียนเอ่ยขึ้น “ฉันได้ยินมาว่าบอสฮังที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็เข้าร่วมภารกิจครั้งนี้เช่นกัน”

เหลียงตงชะงักไปครู่หนึ่ง “เอ่อ ... ทำไมคุณถึงถามเรื่องนี้?”

ดวงตาของไป๋เสวียนเปล่งประกายด้วยแสงแวววาว “ทุกคนต่างบอกว่าเขาแข็งแกร่งมาก แต่มันจะยอดเยี่ยมขนาดนั้นเชียวหรือ? คุณเคยเห็นเขาสู้ไหม?”

ฮังอวี่กำลังขับรถอยู่ข้างหน้า ด้วยพลังรบของเขา ทำให้ได้ยินการสนทนานี้ทุกประโยค

เหลียงตงกล่าวอย่างกระอักกระอ่วน “ก็เคยเห็น ชื่อเสียงและฝีมือของเขาไม่ใช่เรื่องโกหก ฮังอวี่เป็นที่นับถือของผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะด้านพลังรบ หรือแผนการ ฉันกับเขา ... อืม พวกเราเคยปฏิบัติการร่วมกันมาหลายครั้งแล้ว”

ไป๋เสวียนส่งเสียงหืมเบาๆ “ฉันไม่ใช่พวกเชื่อคำคุยโม้ในเน็ต การที่ทุกคนยกย่องเขาว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของจีน ฉันคิดว่ามันเว่อร์เกินไป คุณพอจะช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหม ฉันอยากประมือกับเขา”

เหลียงตงแทบสำลัก

“อะแฮ่ม เธอไม่ควรพูดอย่างนั้น พลังรบของเขาเป็นที่ประจักษ์ของทุกคน ถึงฉันจะไม่กล้ายืนยันว่าเขาคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งหรือเปล่า แต่คิดท้าประลองเขาด้วยพลังรบของเธอ ฉันคิดว่าบางที ...”

เหล่าเหลียงเป็นคนตรงไปตรงมาและไม่พูดโกหก

เขาสามารถเห็นได้ ว่าพลังรบของไป๋เสวียนแข็งแกร่งมาก เธอสามารถขึ้นเป็นหัวหน้ากองของสกายเน็ตที่อายุน้อยที่สุดในลู่เฉิง แสดงว่ามีพลังรบสูงกว่าตัวเองมาก ได้ตำแหน่งสูงตั้งแต่ยังอายุน้อยเช่นนี้ คาดว่าคงรู้สึกภูมิใจไม่น้อย ดังนั้นเรื่องมั่นใจในฝีมือตัวเองเลยเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่ถึงจะพูดแบบนั้น เธอกลับกล้าบอกว่าอยากประมือกับฮังอวี่?

นั่นช่างเป็นเรื่องตลกสิ้นดี!

เธอเป็นแค่หัวหน้ากอง! มากสุดที่สามารถสู้ได้ทัดเทียมคือระดับลั่วหยวนเจิ้งเท่านั้น!

หากคิดท้าชนคนที่ตำแหน่งใหญ่กว่าอย่างฉูเทียนหัว เล่ยหยิง หรือฮังอวี่ไม่มีทางเอาชนะได้แน่นอน!

“พลรบของเราในลู่เฉิง ล้วนถูกหล่อหลอมขัดเกลาขึ้นจากการต่อสู้เสี่ยงตาย อย่าคิดว่ายอดฝีมือทุกคนมีแค่ในเจียงเฉิง พวกเจียงเฉิงก็แค่ได้แสงไฟส่องเท่านั้นเลยเป็นที่รู้จัก ขณะที่พวกเราแค่ไม่เป็นข่าว” ไป๋เสวียนกล่าวด้วยใบหน้ามั่นใจ “รอก่อนเถอะ ไม่ช้าก็เร็ว วันหนึ่งฉันจะโค่นบอสฮังอะไรนั่นให้ดู ให้ทุกคนได้รู้ซึ่งถึงพลังรบของเมืองลู่เฉิงเรา!”

‘ถ้าพูดแบบนี้แล้วจะทำให้เธอมีความสุข งั้นก็ปล่อยผ่านไปก็แล้วกัน!’

เหลียงตงไม่เปลืองน้ำลายอีกต่อไป

คนที่มีชื่อเสียงมากก็เป็นแบบนี้ มักมีปัญหาตามมาเสมอ ตอนนี้มีแฟนคลับของบอสฮังเป็นล้านๆคน ในเมื่อหลายคนเลื่อมใสฮังอวี่ ก็ย่อมมีบางคนที่คิดท้าทายเขาเช่นกัน

เหลียงตงกำลังคิดเปลี่ยนเรื่อง เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์น่าอึดอัดใจ แต่ในเวลานั้นเอง จู่ๆก็มีเสียงบรึ้ม! ดังขึ้น

วินาทีถัดมา เหลียงตงรู้สึกราวกับตัวเขาไร้น้ำหนัก ทุกอย่างในรถเหมือนถูกเหวี่ยง กระเด็นกระดอน รถทั้งคันเหมือนขวดโหลที่ถูกเขย่าในมือเด็ก

“ศัตรูลอบโจมตี!”

ไป๋เสวียนปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก ถึงช่วงแรกๆเธอจะปรับสมดุลไม่ได้ แต่หลังจากรถหยุดเหวี่ยง เธอไม่สนใจเหลียงตงผู้น่าสงสารที่อยู่ข้างๆ ใช้ขายาวถีบประตู วิ่งออกไปพร้อมธนูและลูกธนูในมือ

ในอากาศเต็มไปด้วยกลิ่นควัน

ฝุ่นและควันปกคลุมท้องฟ้า

ไป๋เสวียนมองเห็นหลุมบ่อขนาดใหญ่หลายหลุม น่าจะเกิดจากการระเบิดอันรุนแรง รถยนต์ทั้ง 5 คันพลิกคว่ำ มีสามคันถูกทำลายไม่สามารถใช้งานได้อย่างสิ้นเชิง

“ไอ้ทุเรศเอ๊ย!”

“ศัตรูอยู่ที่ไหน!”

“พวกมันคิดชิงตัวนักโทษ เร็วเข้า รีบปกป้องพวกเชลย!”

พลรบจากลู่เฉิงและเจียงเฉิงคลานออกมาจากซากปรักหักพัง พวกเขาทั้งหมดเป็นชนชั้นยอดเลเวลไม่น้อยกว่า 10 การระเบิดและผลกระทบธรรมดาไม่สามารถสร้างความเสียหายได้ อย่างมากแค่ทำให้ตกอยู่ในสภาพน่าสังเวชพักหนึ่ง

ฮังอวี่เปิดประตูรถที่งอผิดรูปและเดินออกมา

เมื่อเห็นความวุ่นวายภายนอก ก็พบว่าเป็นอย่างที่เขาคิด ถูกโจมตีจริงๆ

ยังไม่ทราบจำนวนศัตรู

พลังรบของศัตรูยังไม่ปรากฏ

ฮังอวี่ยังไม่ลงมือ ถอยกลับไปด้านข้างของรถโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ

ยังไม่ควรเปิดเผยตัวตอนนี้ ต้องสังเกตสถานการณ์ไปก่อน

ระหว่างที่คนอื่นๆกำลังคลานออกมา ไม่รอให้พวกเขาตั้งตัว ปรากฏเสียงหวีดบาดหู วัตถุลักษณะคล้ายขีปนาวุธชิ้นหนึ่งถูกยิงข้ามฟ้า พุ่งลงมาด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง ตกลงเบื้องหน้าและเบื้องหลังฝูงชน เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง

ทุกคนที่อยู่ตรงกลางกระเด็นกระดอน และจากการระเบิด พิษร้ายแรงจำนวนมากแพร่กระจายออกมาจากตำแหน่งที่มันตกลง

ควันพิษเหล่านี้มีผลทำให้เกิดเอฟเฟกต์ตาบอด อัมพาต และประสาทหลอน ทั่วบริเวณถูกปกคลุมไปด้วยควันพิษอย่างสมบูรณ์ ไม่เปิดช่องว่างให้ผู้คนได้หลบเลี่ยง

“อย่าพึ่งตื่นตระหนก”

ไป๋เสวียนเปิดใช้งานสกิลสอดแนม รีบหาตัวคนร้ายที่ซุ่มโจมตีอยู่ใกล้ๆ

และพบกับศัตรูประมาณ 20 ในชุดหุ่นรบเหนี่ยวนำมนตรา ขณะนี้พวกมันกำลังยิงกระสุนปืนใหญ่มายังตำแหน่งของพวกเธอ

“บัดซบ!”

พวกมันเป็นสมาชิกของสมาคมเหนี่ยวนำมนตรา!”

ขุมกำลังที่ทุกวันนี้กำลังรุกรานเมืองลู่เฉิง เป็นเผ่าโนมส์ชั้นสูงที่มีพลังรบแก่กล้าที่สุด ในบรรดาเชลยที่ถูกจับกุม มีถึง 5 ตนที่เป็นโนมส์ชั้นสูง

โนมส์ชั้นสูงไม่มีรูปร่างเหมือนก็อบลินหมี พรสวรรค์ในการต่อสู้ของพวกมันอ่อนแอมาก

แต่ในด้านการผลิต โนมส์ที่แหละถือเป็นอันดับหนึ่ง!

พวโนมส์อาจไม่ค่อยเก่งเรื่องการเพาะปลูกหรือทำฟาร์ม แต่หลักๆแล้วพวกมันเชี่ยวชาญในทุกด้านของพื้นฐานการผลิต ไม่ว่าจะกลั่นยา , เล่นแร่แปรธาตุ , หลอมอาวุธ , ตีบวก จะอันไหนก็ทำได้ แต่ในบรรดาทั้งหมด สิ่งที่พวกมันประสบความสำเร็จสูงสุดคือศาสตร์เหนี่ยวนำมนตรา

นี่อาจเกี่ยวข้องกับพรสวรรค์โดยกำเนิด พวกโนมส์ชั้นสูงนั้นเก่งในด้านการสร้างไอเท็มที่เกิดจากการเหนี่ยวนำมนตราเป็นที่สุด

นอกจากนี้พวกโนมส์ยังไม่เหมือนกับเผ่าพันธุ์อื่นๆ พวกมันฉลาดในการทำธุรกิจและมีไหวพริบดี มีความสามารถในการปรับตัวและเรียนรู้ที่ทรงพลัง

โนมส์กลุ่มนี้ที่รุกรานบริเวณใกล้เคียงเมืองลู่เฉิงนั้นมีภูมิหลังไม่ธรรมดา

เมื่อพวกมันมาถึงลู่เฉิง ก็ทำการก่อตั้งฐานที่มั่นหลายแห่งในเมืองทันที ทำกระทั่งแอบดึงตัวคนทรยศเผ่ามนุษย์ และก่อตั้งสมาคมที่ชื่อว่า ‘สมาคมเหนี่ยวนำมนตรา’ ขึ้นมา

และองค์กรนี้

สร้างความหายนะตลอดทั้งวันคืน ปัจจุบันเป็นองค์กรก่อการร้ายอันดับหนึ่งในลู่เฉิง

ไป๋เสวียนไม่เสียเวลฃาคิดมากความ ง้างธนูยาวในมือ บังเกิดประกายแสงระยับหลายดวงโหมกระหน่ำออกมา พยายามทำลายหุ่นรบเหนี่ยวนำมนตราที่กำลังเข้าใกล้

พลังรบของเธอแก่กล้ามาก

ไป๋เสวียนมีสกิลขั้น 3 ของ ‘มือยิงสายฟ้า’ ครบชุด สิ่งที่ขาดหายไปคือแต้มวิญญาณและค่าความชำนาญที่ยังไม่เต็ม หากพวกมันครบถ้วน ก็จะสามารถสืบทอดมรดกได้ทันที

เธอพึ่งเลเวล 11

อุปกรณ์บนร่างกายก็ดีมาก

นี่เป็นเหตุผลี่ทำให้เธอเป็นยอดฝีมือชั้นหนึ่งอย่างแท้จริงในช่วงนี้

อย่างไรก็ตาม กลไกที่ใช้สร้างหุ่นรบของพวกโนมส์นั้นแข็งแกร่งเกินไป การโจมตีของเธอเมื่อกระทบลงบนหุ่นรบ จึงสร้างดาเมจได้จำกัดมาก

“แย่แล้ว!”

“พวกมันคือหน่วยหุ่นพิฆาตชั้นยอดของสมาคมเหนี่ยวนำมนตรา!”

ใบหน้าของไป๋เสวียนเปลี่ยนเป็นสีซีด เธอจำหุ่นรบพวกนี้ได้ หุ่นรบแต่ละตัว ทรงพลังที่สุดในสมาคม นอกจากนี้ยังเป็นหุ่นพิฆาตรุ่นล่าสุดที่พึ่งถูกสร้างขึ้นอีกด้วย

หากได้ขับหุ่นรบเช่นนี้ ต่อให้ผู้ขับจะอ่อนแอแค่ไหน ก็สามารถมีพลังรบในระดับเจ้าถิ่นขั้นโกลด์เลเวล 10 ได้!

แม้แต่ในสมาคมเหนี่ยวนำมนตรา หุ่นรบดังกล่าว ยังเป็นอะไรที่หาได้ยาก แต่ใครจะคิดกัน ว่าเพื่อช่วยชีวิตสหายของพวกตน เจ้าพวกนี้จะทุ่มหมดหน้าตัก เรียกได้ว่าเต็มใจกรีดเลือดเพื่อการนี้!

บนหัวและตามตัวของพลรบลู่เฉิงคนหนึ่งมีเลือดไหล เขาคลานมาทางไป๋เสวียน “หัวหน้ากอง! พวกเราต้านไม่ไหว! ไม่ใช่คู่มือของอีกฝ่ายเลย!”

“นี่เท่ากับมอนสเตอร์เจ้าถิ่นขั้นโกลด์เลเวล 10 มากกว่า 20 ตัว!”

“สมาคมเหนี่ยวนำมนตราทุ่มหมดหน้าตักครั้งนี้!”

“มันสายเกินไปแล้วถ้าคิดขอความช่วยเหลือ”

“พวกเราต้องถอย!”

ไป๋เสวียนกัดฟัน ยิงธนูอีกหลายดอกติดต่อกัน แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม

แม้เธอจะเปิดใช้งานสกิลขั้น 3 อันทรงพลัง แต่บนตัวหุ่นรบมีโล่พลังงานที่ไม่สามารถทำลายได้ในระยะเวลาอันสั้น

และในเวลานี้

หุ่นรบขนาดใหญ่โต พลันตกลงจากฟ้า ทิ้งตัวลงบนพื้น

เมื่อไป๋เสวียนเห็นผู้มาเยือน ม่านตาเธอหดลีบลงทันที ใบหน้าซีดเผือด ในแววตาสะท้อนถึงความหวดากลัว

เธอรู้ดี ว่าถ้าเจ้าหมอนี่ปรากฏตัวขึ้น

วันนี้คงเป็นเรื่องยากที่จะรอดชีวิต

“อย่าปล่อยให้รอด! ฆ่าเชลยให้หมด! เร็วเข้า!” เธอตะโกนเสียงดัง “ถึงต้องตาย พวกเราก็ห้ามปล่อยให้เชลยหลุดมือไป!”