บทที่ 11 มองหาทางออก
เย่เฉิน: "โอ้ ใช่แล้ว คุณถูกคนเหล่านั้นลักพาตัวได้อย่างไร?"
ซูเมิ่งซินเริ่มนึก "ฉันจำได้ว่าฉันกำลังเข้าร่วมงานปาร์ตี้ แต่เนื่องจากมีคนจำนวนมากพยายามเข้ามาพูดคุยด้วยมันเลยทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด ฉันก็เลยออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอก แต่มีคนเอายานอนหลับใส่ผ้าเช็ดหน้ามาปิดปากฉัน ตอนที่ฉันตื่นก็พบว่าตัวเองอยู่บนรถบรรทุกของคนติดอาวุธพวกนั้นแล้ว”
“โอ้ ฉันเข้าใจแล้ว คุณรู้หรือเปล่าว่าจุดประสงค์ในการลักพาตัวคุณคืออะไร?”
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน พวกเขาอาจจะต้องการเงินหรืออะไรบางอย่าง" ซูเมิ่งซินตอบอย่างไม่แน่ใจ
“โอเค คุณคงหิวแล้ว กินไก่ย่างนี่สิ” เย่เฉินยื่นเนื้อไก่อีกชิ้นหนึ่งให้ซูเมิ่งซิน
ซูเมิ่งซินรับไก่ย่างจากมือของเย่เฉิน แต่เธอยังคงสงสัยว่ามันกินได้หรือไม่
เมื่อเห็นซูเมิ่งซินลังเลที่จะกิน เย่เฉินจึงพยายามเกลี้ยกล่อมเธอและกินมันให้ดูอย่างเอร็ดอร่อย
"อุ๊ฟ" ซูเมิ่งซินหัวเราะเมื่อเห็นวิธีที่เย่เฉินกิน เธอได้กลิ่นหอมของไก่ย่าง ดังนั้นเธอจึงลองกัดมันเล็กน้อย
ซูเมิ่งซินรู้สึกว่าไก่ย่างนี้อร่อยมาก ดังนั้นเธอจึงกัดอีกคำหนึ่ง
เย่เฉินเห็นซู่เมิ่งซินกินอย่างสง่างาม แม้ไม่มีใครนอกจากเขาอยู่รอบๆแต่เธอก็ยังคงรักษาภาพลักษณ์ของเธอไว้
หลังจากกินจนเสร็จ พวกเขาก็แลกเปลี่ยนคำพูดกันมากมาย และเย่เฉินก็เล่าเรื่องตลกต่างๆให้ซูเมิ่งซินฟัง ทั้งสองไม่ได้คาดหวังว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะใกล้ชิดกันมากขนาดนี้
เย่เฉินไม่ปล่อยโอกาสนี้ไปและเริ่มดูดซับปราณหยินของซูเมิ่งซิน
“ลงไปข้างล่างและหาทางออกจากป่านี้กันเถอะ” เย่เฉินลุกขึ้นจากที่นั่งของเขา ซูเมิ่งซินเองก็จำได้ว่าตอนนี้พวกเขายังอยู่บนต้นไม้
ซูเมิ่งซินลุกขึ้นจากที่นั่งและยืนอยู่ข้างเย่เฉิน เธอมองลงไปและเห็นว่าต้นไม้ต้นนี้สูงจากพื้นประมาณ 15 เมตร ซูเมิ่งซินเริ่มคิดว่าเย่เฉินพาเธอขึ้นมาได้อย่างไรตอนที่เธอหมดสติ
เย่เฉินอุ้มซูเมิ่งซินราวกับเจ้าหญิง ซูเมิ่งซินไม่ได้คาดหวังว่าเย่เฉินจะปฏิบัติต่อเธอเช่นนี้ เธอค่อนข้างมีความสุข
แต่ทันใดนั้นซูเมิ่งซินก็เริ่มกลัว
“อ๊าาา” เย่เฉินพาเธอกระโดดลงไปโดยตรง ซูเมิ่งซินเพียงหลับตาและฝังใบหน้าของเธอไว้ในอกของเย่เฉิน
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เสียงของสายลมก็หยุดลง ซูเมิ่งซินรู้สึกโล่งใจที่ทั้งสองคนยังมีชีวิตอยู่ เธอไม่ได้คาดหวังว่าเย่เฉินจะกระโดดลงมาโดยตรง ต้องรู้ก่อนว่าต้นไม้นี้สูงถึง 15 เมตร
“เย่เฉิน คุณทำฉันกลัวแทบตาย” ซูเมิ่งซินพยายามประท้วงเย่เฉิน
“ฮ่าๆๆ พวกเราก็ยังมีชีวิตอยู่ไม่ใช่หรือไง? ไม่เป็นไรหรอก” เย่เฉินเดินนำไปก่อน ตามด้วยซูเมิ่งซินข้างหลังเขา
พวกเขาเดินตามรอยเท้าของพวกทหารรับจ้างเพื่อออกจากป่า แม้ว่าจริงๆแล้วเย่เฉินจะสามารถบินออกจากป่านี้ได้อย่างง่ายดาย แต่เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น เนื่องจากยังมีซูเมิ่งซินอยู่ใกล้ๆ เย่เฉินจึงไม่ต้องการเปิดเผยความแข็งแกร่งของเขา เขาทำได้เพียงเดินไปกับซูเมิ่งซินเท่านั้น
ซูเมิ่งซินยังคงสวมผ้าห่มเพื่อปกปิดร่างกายของเธอ
หลังจากเดินไปไม่กี่นาที เย่เฉินและซูเมิ่งซินก็มาถึงสถานที่ที่พวกเขาเจอกันก่อนหน้านี้ ซูเมิ่งซินเห็นศพจำนวนมากนอนอยู่บนพื้น
ด้วยความอยากรู้ ซูเมิ่งซินจึงถามเย่เฉิน "เย่เฉิน นี่เป็นฝีมือของคุณหรือเปล่า?"
“ฉันเพียงแค่ทุบตีพวกมันและจากไปสองถึงสามนาที แต่เมื่อฉันกลับมา พวกมันทั้งหมดก็ตายแล้ว ฉันเดาว่าพวกมันคงถูกเพื่อนร่วมทีมฆ่าปิดปาก” เย่เฉินแปลกใจที่ซูเมิ่งซินไม่กลัวเมื่อต้องเห็นศพมากมายเหล่านี้
“ฉันเข้าใจแล้ว” ซูเมิ่งซินไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม และแม้ว่าเย่เฉินจะฆ่าพวกเขา เธอก็จะไม่โทษเขา ท้ายที่สุดแล้วชีวิตของเย่เฉินถูกคุกคามเพราะเขาช่วยเธอไว้
“ไปตามทางนี้กันเถอะ บางทีเราอาจจะหาทางออกได้” ทั้งคู่ก็เดินผ่านป่าไปด้วยกัน
“อ๊ะ” จู่ๆซูเมิ่งซินก็ล้มลง
เห็นดังนั้นเย่เฉินก็เดินเข้าไปใกล้ทันทีและถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
“ข้อเท้าแพลงน่ะ” ซู่เมิ่งซินสวมรองเท้าที่ค่อนข้างหรูหราและไม่เหมาะกับการเดินในป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้และก้อนหินแบบนี้
“แปปนึงนะ ฉันจะช่วยคุณเอง” เย่เฉินจับข้อเท้าของซูเมิ่งซินเบาๆและนวดให้เธอ ทันใดนั้นซูเมิ่งซินก็ครวญครางด้วยความปิติยินดี ซูเมิ่งซินปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคนิคการนวดของเย่เฉินนั้นดีมาก
“เสร็จแล้ว” เย่เฉินเห็นซูเมิ่งซินหลับตาและเพลิดเพลินกับการนวดของเขาอย่างมาก
“คุณลองยืนดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง”
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เฉิน ซูเมิ่งซินก็ตื่นจากฝันและพยายามลุกขึ้น แต่เมื่อเธอต้องการยืน เธอก็รู้สึกว่าเท้าของเธออ่อนยวบและกำลังจะล้มลง
เย่เฉินตอบสนองทันทีและพยุงซูเมิ่งซินไว้
“ซูเมิ่งซิน คุณเป็นยังไงบ้าง?” เย่เฉินถามด้วยความเป็นห่วง
“ฉันรู้สึกไม่มีแรงนิดหน่อยน่ะ” ซูเมิ่งซินพูดขณะที่จับเย่เฉิน
“งั้นให้ฉันแบกคุณไหม?” เย่เฉินถามซูเมิ่งซิน
“มันจะไม่เป็นการรบกวนคุณเกินไปหน่อยหรอ?” ซูเมิ่งซินตอบอย่างเขินอาย
“ไม่เลย มาเถอะ ไม่อย่างนั้นวันนี้เราอาจจะไม่ได้ออกจากป่า” เย่เฉินนั่งยองๆและรอให้ซูเมิ่งซินขึ้นหลังเขา
**********