ตอนที่แล้วตอนที่ 6 อาณาจักรแก่นทองคำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8 ยานั้นขม ส่วนหัวหน้าจ้านนั้นหวาน

ตอนที่ 7 ป้อน


จ้านชิงเฉิงไร้ประสบการณ์ความรัก แต่ไม่ได้หมายความว่านางโง่

ต่อให้ความรู้สึกของซูสือต่อนางจะจริงใจ นางก็ไม่อาจยอมรับความสัมพันธ์ได้ง่ายๆ

นางจึงระดมอำนาจของสำนักและสืบภูมิหลังของซูสือ

[ซูสือ บุตรคนแรกของตระกูลซูในเมืองหนานลี่ ตอนอายุเจ็ดขวบ เขาเข้าร่วมสำนักยักษ์มารขุมนรก และตอนอายุ 12 เขาก้าวสู่อาณาจักรก่อตั้งรากฐานขั้นปลายและกลายเป็นขุนพลมารภายใต้จักรพรรดินีมารขุมนรก รับผิดชอบดูแลเมืองเฟิงซาในเขตตะวันตกเฉียงใต้]

ดวงตาของนางเป็นประกาย

ตระกูลซู

เมืองหนานลี่ในตะวันตกเฉียงใต้เชื่อมต่อกับที่ราบกลาง

ในทางกลับกัน ตระกูลซูเป็นตระกูลใหญ่ในหนานลี่ และอำนาจก็หยั่งรากลึก

ในฐานะบุตรชายคนแรกของตระกูล ซูสือเกิดมาพร้อมช้อนทองในปาก

แต่ระดับบ่มเพาะของซูสือที่ระดับก่อตั้งรากฐานนั้น เขาไม่มีทางรั้งตำแหน่งขุนพลมารได้

ไม่ต้องพูดถึงการปกครองเมือง

เหตุผลว่าทำไมจักรพรรดินีมารถึงเตรียมการเช่นนี้เพราะเขามีตระกูลซูหนุนนี่เอง

ถ้าพวกเขาเข้าเมืองหนานลี่ได้ มันจะสำคัญมากต่อสำนักมาร และพวกเขาจะฉวยโอกาสนี้ยึดครองที่ราบกลางได้

“เป็นการคำนวณที่ดี”

จ้านชิงเฉิงแค่นเสียงเย็น

[เพื่อพิสูจน์ตัวเอง ซูสือได้บุกโจมตีผู้บ่มเพาะฝ่ายธรรมะหลายคนในเขตตะวันตกเฉียงใต้ แต่ทั้งหมดล้วนล้มเหลว และมันก็ยังทำให้สำนักมารในเมืองเฟิงซาอ่อนแอลงแทน”

[ลือกันว่าจักรพรรดินีมารได้ติเขาหลายครั้งและตำแหน่งเขาในสำนักยักษ์มารขุมนรกก็ย่ำแย่]

“ไม่เคยสำเร็จสักครั้ง?’

จ้านชิงเฉิงตัวแข็ง

บนผิวเผิน เขตตะวันตกเฉียงใต้เป็นของราชวงศ์ แต่จริงๆแล้วมันถูกแทรกซึมด้วยอำนาจของสำนักมาร มันสมเหตุสมผลที่ซูสือควรจะได้เปรียบในฐานะเจ้าบ้านและการบุกผู้บ่มเพาะฝ่ายธรรมะก็ควรราบรื่น

แต่ทุกครั้ง เขาเผยจุดบอดและถูกผู้บ่มเพาะฝ่ายธรรมะเล่นงานแทน

“หนึ่งหรือสองครั้งยังพอเข้าใจได้ แต่ถ้าเป็นทุกครั้ง งั้นก็มีแค่คำอธิบายเดียว”

“ซูสือจงใจ!”

จ้านชิงเฉิงคิดได้อย่างรวดเร็ว

“ซูสือต้องถูกบังคับให้เข้าร่วมสำนักมาร แต่เขาไม่ได้จำนนต่ออำนาจของจักรพรรดินีมารและคอยบ่อนทำลายสำนักมารอยู่ลับๆ!เขายังเสี่ยงชีวิตเพื่อหยุดสำนักมารจากการยื่นมือเข้าเมืองหนานลี่!”

พอคิดถึงทุกอย่างที่เคยเกิด นางก็ยิ่งมั่นใจในความคิดนาง

ถ้าซูสือเป็นคนชั่ว เขาจะเต็มใจตายได้ไง?

ตอนนางคิดถึงการจูบของเขา รอยยิ้มบนหน้าของเขตอนเขาอยู่ใต้คมกระบี่นางและแววตาอ่อนโยนของเขา

ดวงตาของจ้านชิงเฉิงก็เริ่มแดง

นางถูตาและกระซิบ“คนโง่!เขาไม่คิดถึงตัวเองเลยหรือไง?”

ถ้าซูสือรู้ว่านางคิดอะไร สมองของเขาคงหยุดทำงาน

จงใจเผยจุดบอด?

ไม่ใช่อยู่แล้ว!มันเพราะบทเรื่องโง่ๆต่างหาก!

ถ้าไม่ใช่เพราะระบบ ข้าคงฆ่าผู้บ่มเพาะเหล่านั้นตายไปนานแล้ว!

..

บางทีคงเพราะได้’เกิดใหม่’ ทั้งตัวของซูสือจึงผ่อนคลาย

เขาหลับอย่างสบายใจ

ตอนเขาลืมตา มันก็รุ่งสางแล้วและดวงอาทิตย์ก็กำลังขึ้น

“ฮ้าววว”

เขากำลังจะยืดเส้นสายแต่ก็พลันจับภาพร่างสีขาวได้

“หัวหน้าจ้าน?”

ซูสือแปลกใจ“ท่านมาตอนไหน?”

จ้านชิงเฉิงอายเล็กน้อยและอธิบาย“ข้าเอาอาหารเช้ามาให้เจ้า และพอเห็นว่าเจ้าหลับสบายใจ ข้าเลยไม่เรียก”

จากนั้นซูสือถึงตระหนักว่ามีกล่องข้าววางข้างเขา

“ไม่เห็นต้องรบกวนหัวหน้าจ้านเลย ข้าไปกินข้าวที่ห้องอาหารเองได้”

“เจ้าจะไปทำได้ไง?”

จ้านชิงเฉิงพูด“เจ้ายังไม่สามารถลุกเดินได้ปกติเพราะบาดแผลเจ้ายังไม่หายดี นอกจากนี้ ข้าคือคนที่แทงเจ้า มันถูกแล้วที่ข้าต้องดูแลเจ้า”

ซูสือส่ายหัว”หัวหน้าจ้านใจดีเกินไป’

พอมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา จ้านชิงเฉิงก็ลังเลและกระซิบ“เจ้า..ไม่เกลียดข้าเลยเหรอ?”

กระบี่ของนางรุนแรงมาก

ถ้าไม่ใช่เพราะใบทองคำ ต่อให้ราชาเม็ดยามาเอง มันก็ช่วยไม่ได้

“ข้าย่อมไม่เกลียดท่าน”

ซูสือยิ้ม“ข้าคือคนของสำนักมาร หัวหน้าจ้านย่อมมีสิทธิ์ฆ่าข้า มันเป็นข้าที่ควรขอบคุณท่านที่ช่วยชีวิตข้า”

นี่มาจากใจจริงของซูสือ

จ้านชิงเฉิงฆ่าเขาคือโครงเรื่องที่เตรียมไว้

แม้เขาจะเกือบโดนฆ่าตาย มันก็เปิดภารกิจใหม่ให้โดนบังเอิญ

จ้านชิงเฉิงลดหัว

ยิ่งน้ำเสียงของซูสือดูสบายๆ นางยิ่งรู้สึกผิด

“ก่อนหน้านี้ ข้าไม่เข้าใจอะไร ข้าจึงฉวยโอกาสแทงเจ้า ข้าประมาทไป”

“ซูสือ ข้าขอโทษ”

จ้านชิงเฉิงขอโทษเขา

“เอ่อ..ไม่เป็นอะไร”

ซูสือเกาหัว

นี่ยังเป็นเทพธิดาชิงเฉิงที่มักเย็นชาหรือ?

“เพื่อชดเชยความผิดของข้า ข้าจะดูแลเจ้าให้ดี”

จ้านชิงเฉิงนั่งบนขอบเตียงพร้อมกล่องอาหารในมือ

“นี่เป็นสูตรที่ราชาเม็ดยาทิ้งไว้ ข้าต้มมันเองเช้านี้ มันจะช่วยให้เจ้าฟื้นตัวได้ดี”

นางตักมันด้วยช้อน เป่ามันให้เย็นและยื่นไปจ่อปากซูสือ

“หัวหน้าจ้าน นี่…”

ซูสืออึ้ง

แก้มของจ้านชิงเฉิงแดงเล็กน้อย“เจ้าบาดเจ็บหนักและไม่สะดวกที่จะกินเอง ให้ข้าป้อนจะดีกว่า”

“เอ่อ?นั่นคงไม่เหมาะสม!”

“ไม่เหมาะสมอะไร?ไม่ใช่ว่าเราคบกันหรือ?”

ตอนนางพูด เสียงของจ้านชิงเฉิงก็เบาเหมือนแมลงตัวน้อย ซูสือถึงกับพูดไม่ออก

“...”

พอมองแก้มแดงของนาง หัวใจของซูสือก็เต้นเร็วและอดพูดไม่ได้“หัวหน้าจ้าน ท่านช่างงามเสียเหลือเกิน”

ข้อมือของจ้านชิงเฉิงกระตุกและข้าวต้มก็เกือบหก

สีแดงไล่จากแก้มไปคอนาง

นางกัดริมฝีปากและพูด“คนบ้า เจ้าจะกินหรือไม่?”

“กิน!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด