ตอนที่แล้วยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 348 กลียุค
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 350 ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว

ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 349 จ้าวพิภพทั้ง 7


(วันนี้ตอนเดียวนะครับ ที่ทำงานวันนี้งานยุ่งมากไม่มีสามารถนั่งแปลได้ ตอนนี้คือกลับมานั่งแปลที่บ้านต้อนเย็นแบบสดๆ เลย ต้องขอภัยด้วย)

พิภพยักษ์นั้นมีดินแดนอยู่ 30 ดินแดน เสียให้กับพิภพสุขาวดีไปแล้ว 3 ดินแดน จะหมายความว่าอะไรได้อีก?

มันคือการหยามหน้าพิภพยักษ์ และพิภพยักษ์เองก็ถูกพิภพสุขาวดีรุกคืบมาเรื่อยๆ ทุกวัน!

หากปล่อยไว้แบบนี้ต่อไป มันจะยิ่งลุกลามมากขึ้นเรื่อยๆ จนยากที่จะแก้ไข

“ไม่ต้องสนใจ….หลังจากพิชิตพิภพราชันย์ได้แล้ว ค่อยผนวกกำลังพันธมิตรทั้งหมดเพื่อบดขยี้มันก็ไม่สายเกินไป”

จ้าวพิภพยักษ์กล่าวขึ้น

“ขอรับใต้เท้า”

เหล่าจ้าวจักรพรรดิรับคำสั่ง

ก่อนที่จ้าวพิภพยักษ์จะลุกขึ้นจากบัลลังก์

“พิภพสุขาวดี….”

น้ำเสียงของจ้าวพิภพยักษ์นั้นดูขุ่นเคืองอย่างมาก

พิภพสุขาวดีอยู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมาเมื่อครึ่งเดือนก่อน

และบุกรุกเข้ามาในพิภพยักษ์ พร้อมกับบุกยึดดินแดนอย่างบ้าคลั่ง

ไม่ใช่พิภพยักษ์เพียงพิภพเดียว แต่ทั้งพิภพราชันย์ พิภพอัคคี พิภพทองคำ และพิภพสรรพสิ่ง มีอีกหลายพิภพที่ถูกพิภพสุขาวดีบุกรุก

เพราะแบบนั้น ทำให้จ้าวพิภพยักษ์ถึงกับลงมือจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง และตั้งใจจะกวาดล้างกองทัพของพิภพสุขาวดีไปให้หมด แต่อย่างไรก็ตาม ยิ่งเขาฆ่าพวกกองทัพจากพิภพสุขาวดีไปมากเท่าไหร่ พวกมันก็ฟื้นคืนชีพกลับมาอยู่ดี

จ้าวพิภพยักษ์นั้นพยายามกำจัดกองกำลังหน้ากากขาวที่มาจากพิภพสุขาวดีนี้อยู่สามวันสามคืน แต่ก็ไม่สามารถฆ่าตัวตนพวกนี้ได้อย่างหมดจดสักที

แล้วตัวตนพวกนี้ไม่สามารถสืบหาเส้นทางตรรกะได้ หรือไม่ได้แสดงผลของค่าบาปที่ควรจะแผ่ออกมาจากร่าง เพราะพวกมันได้ฆ่าผู้คนไปมากมายเช่นเดียวกัน แม้แต่วิถีสวรรค์ที่กดทับพลังของตัวตนนี้เอาไว้แล้วก็ตาม ก็ยังไม่เห็นผลมากนัก

และไม่ได้พูดเกินจริงเลยว่า ยิ่งเวลาผ่านไปกองกำลังหน้ากากขาวพวกนี้ เริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จากตอนแรกที่เขาเพียงโบกมือเบาๆ ก็จัดการได้แล้ว กลายเป็นว่าพอนานไป เขาต้องเริ่มใช้วิชาต่างๆ เพื่อจัดการพวกมัน!

จ้าวพิภพเริ่มจะอ่อนล้ากับการกำจัดเหล่ากองกำลังหน้ากากขาวพวกนี้ ที่เข้ามาเรื่อยๆ อย่างไม่จบไม่สิ้น

โชคดีที่มีข้อมูลหนึ่งหลุดมาจากสายที่อยู่ภายในพิภพราชันย์ ทำให้จ้าวพิภพยอมว่างมือไปจากกองกำลังหน้ากากขาวพวกนี้

เขารู้มาว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังพิภพสุขาวดีนั้นทรงพลังมาก

และถึงจะมีกองกำลังจักรพรรดิอมตะที่สวมหน้ากากขาวที่แข็งแกร่งมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่มีท่าทีที่จะรีบร้อนบุกคืบเข้ามา กองกำลังนี้เอาแต่ยึดดินแดนรอบนอกของพิภพเท่านั้น พอกองกำลังนี้ยึดได้ก็จะบุกไปยังดินแดนต่อไป

ทำให้พิภพยักษ์นั้นสูญเสียดินแดนไปถึง 3 ดินแดนให้กับพิภพสุขาวดี ภายในเวลาเดือนกว่าๆ หากว่าพิภพสุขาวดีตั้งใจจะบุกจริงๆ ปานี้ทั่วทั้งพิภพยักษ์คงเต็มไปด้วยกองกำลังหน้ากากขาวแล้ว

ทำให้จ้าวพิภพยักษ์ไม่รู้สึกตื่นตระหนกกับสถานการณ์ของพิภพสุขาวดีมากนัก

ตราบใดที่ยึดครองพิภพราชันย์ได้ เขาจะรวบรวมพันธมิตรทั้งหมด บดขยี้เนื้อร้ายก้อนนี้ให้สิ้นซาก

…..

ภายในตำหนักจักรพรรดินีหลิงทิง

“ใต้เท้า!!!”

จักรพรรดิอมตะหงฉือรุดเข้ามาในตำหนักด้วยความร้อนรน

“ตอนนี้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นในพิภพราชันย์อย่างมาก มีกองกำลังหลายแห่งลุกฮือขึ้นก่อกบฏ ทำให้เมืองและพื้นที่ส่วนใหญ่เสียหายอย่างหนัก!!”

“มีหนึ่งในจ้าวจักรพรรดิ ได้แปรพรรคตั้งตนเป็นกบฏ และชี้นำกองทัพจากพิภพทองคำ พิภพเมฆา พิภพใต้หล้า เข้าบุกรุกพิภพราชันย์ในเวลานี้!! และตอนนี้กองกำลังพวกนั้นกำลังเดินทางมาด้วยความเร็วสูง!”

“กึ่งบรรพชน 7 คน จากพิภพรอบๆ ก็กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ด้วย!!”

กึ่งบรรพชน 7 คนบุกเข้ามาพร้อมกัน!

เห็นได้ชัดเลยว่าทั้งหมดร่วมมือกัน และรอเวลานี้ที่จะรุมทึ้งพิภพราชันย์ ราวกับฝูงแร้งที่หิวโหย และแบ่งชิ้นเนื้อกัน!

“ออกคำสั่งออกไปให้จัดการมันทุกคนที่คิดกบฏ ข้าจะเป็นคนลงไปจัดการด้วยตัวของข้าเอง”

“เปิดอาคมสร้างม่านพลังทั้งหมด และใช้อาคมพิทักบรรพกาลด้วย”

จักรพรรดินีหลิงทิงเวลานี้ดูเคร่งเครียดอย่างมาก และรีบออกคำสั่งไปในทันที

“ขอรับ ใต้เท้า!”

จักรพรรดิอมตะหงฉือรับคำสั่งแล้วรีบออกไปในทันที

ก่อนที่เขาจะไปนั้น เขาได้มองไปยังซู่เสี่ยวไป่ ด้วยสายตาที่ซับซ้อน…แต่ก็ไม่พูดสิ่งใดออกมา และหันหลังกลับไป โดยไม่หันกลับมามองอีก

จักรพรรดินีหลิงทิงนั้น สร้างเส้นด้ายสีทองออกมาหลายเส้น และเขียนข้อความลงไป ก่อนที่จะส่งไปหาจ้าวจักรพรรดิคนอื่นๆ และกองกำลังองครักษ์ของนาง

“7 พิภพลงมือพร้อมกัน?”

“ท่านไปก่อเรื่องอะไรไว้เนี่ย?”

ซู่เสี่ยวไป่ถามขึ้น

เขารู้อยู่แล้วว่าสถานการณ์รอบๆ พิภพราชันย์นั้นเป็นเช่นไร แต่ไม่คิดว่าเมื่อวิถีสวรรค์หายไปมันจะรุนแรงแบบนี้

ต้องเผชิญหน้ากับกึ่งบรรพชนถึง 7 คน

หากต่อสู้กันขึ้นมาลูกหลงที่เกิดจากการปะทะกันคงกวาดล้างทั้งพิภพแห่งนี้แน่

แล้วยิ่งไปกว่านั้นจักรพรรดินีหลิงทิงยังอยู่ในเขตแดนจักรพรรดิสะท้านภพเท่านั้น

ปกติแล้วทุกพิภพนั้นไม่มีทางสมัครสามัคคีกันได้แบบนี้ และไม่มีใครไว้ใจใครเด็ดขาด

แต่อยู่ๆ ทั้ง 7 พิภพกลับจับมือกันลืมความเกลียดชังที่มีต่อกัน และมีเป้าหมายเดียวกันได้แบบนี้ได้ ต้นเหตุของเรื่องนี้ย่อมไม่ธรรมดา!

ซู่เสี่ยวไป่ไม่คิดเลยว่าเมื่อวิถีสวรรค์หายไปจะเกิดเรื่องน่าสลดเช่นนี้ขึ้น

“นั้นก็เพราะว่าข้ามีเขตแดนจักรพรรดิสะท้านภพ ไม่ใช่กึ่งบรรพชน”

“พวกนั้นกลัวว่า วันหนึ่งข้าจะแข็งแกร่งขึ้นมากกว่านี้หากบรรลุเขตแดนกึ่งบรรพชนได้แล้ว”

“เพราะงั้นข้าคือตัวอันตรายที่ต้องรีบกำจัดให้เร็วที่สุด”

“ข้อตกลงที่เราคุยกันก่อนหน้านี้ ยังเป็นไปตามนั้น เจ้าควรสั่งให้คนของเจ้าถอยออกไปจากพิภพราชันย์ได้แล้ว”

จักรพรรดินีหลิงทิงเหลือบมองซู่เสี่ยวไป่อีกครั้ง

“ตอนนี้หมดธุระกับเจ้าแล้ว เจ้าควรไปเสีย”

“ไม่ต้องไล่ก็ได้ท่าน…แล้วก็ไม่ต้องกังวลเรื่องพิภพสุขาวดี ข้าจะสั่งให้พวกเขาถอนตัวออกจากพิภพราชันย์เดียวนี้….แต่ยังไงข้ายังไม่ตกลงเรื่องลูกไป่ เราค่อยหาเวลาที่เหมาะสมคุยกันอีกครั้ง”

“เราจะต้องคุยเรื่องเงื่อนไข และขอบเขตกันให้ชัดเจน!”

ซู่เสี่ยวไป่ตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้ม

เขาลุกขึ้นก้าวออกไปจากตำหนักของจักรพรรดินีหลิงทิงทันที

จักรพรรดินีหลิงทิงเมื่อเห็นซู่เสี่ยวไป่ออกไปแล้วนางก็เก็บมิติโลกส่วนตัวเข้าไปในร่างทันที

ตูม!! ตูม!! ตูม!!

-เกิดเสียงระเบิดกึกก้องกัมปนาลไปทั่ว ที่พื้นดินเบื้องล่างของพระราชวังจักรพรรพดินีหลิงทิง

เกิดการต่อสู้กันขึ้นหลายจุด และการปะทะกันอย่างรุนแรงหลายแห่ง

จักรพรรดินีหลิงทิงนั้นประมาทเกินไป

นางคิดว่ามีศัตรูเพียงคนเดียวคือพิภพยักษ์

นั้นก็เพราะจ้าวพิภพยักษ์นั้นเคยพ่ายแพ้ให้กับนางเมื่อนานมาแล้ว จนทำให้ชื่อเสียงของจักรพรรดินีหลิงทิงโด่งดังไปทั่ว ว่าเป็นจักรพรรดิสะท้านภพที่สามารถไล่ต้อนกึ่งบรรพชนได้

…..

แต่จักรพรรดินีหลิงทิงนั้นไม่คิดเลยว่าจะกลายเป็นทำให้ 7 พิภพที่อยู่รอบๆ เพ่งเล็งพิภพราชันย์ และต้องการจะปลิดชีพของนาง

จักรพรรดินีหลิงทิงนั้นเคยกล่าวคำสาบานกับจ้าวพิภพยักษ์ว่าจะไม่บุกรุกกัน

และจะแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์กับจ้าวพิภพยักษ์เป็นเวลา 300 ปี

และได้มีการจัดงานเลี้ยงฉลองขึ้นระหว่างพิภพ

แต่เมื่อจักรพรรดินีหลิงทิงอ่อนแอลง พวกมันกลับแวงกัดในทันทีที่วิถีสวรรค์หายไป

เหตุผลในการบุกครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรมากมายเลย

เพียงแค่พรสวรรค์ของจักรพรรดินีหลิงทิงนั้นสุงส่งเกินไป

แม้จะอยู่ในเขตแดนจักรพรรดิสะท้านภพชั้น 9 แต่สามารถขับไล่จ้าวพิภพยักษ์ ที่เป็นถึงกึ่งบรรพชนได้ เหตุการณ์นี้มันได้ทำลายสมดุลพลังระหว่างพิภพทันทีร ทำให้จ้าวพิภพที่อยู่รอบๆ ต่างเริ่มไม่สบายใจอย่างมาก

เพราะหากว่าจักรพรรดินีหลิงทิงเติบโตมากกว่านี้ นั้นไม่ได้หมายความว่าพิภพราชันย์ และจักรพรรดินีหลิงทิงจะไม่มีอำนาจเหนือพวกเขางั้นหรอ!

อีกอย่างพวกเขาเองก็อยากยึดครองพิภพราชันย์อยู่แล้ว เมื่อยึดมาได้เมื่อไหร่ พวกเขาจะแบ่งผลประโยชน์กัน และอาจจะได้รับทรัพยากรณ์จำนวนมาก ทำให้ความเร็วในการฝึกฝนของพวกเขาเพิ่มมากขึ้น!

….

หากว่าทรัพย์สมบัติจากพิภพราชันย์จะทำให้พวกเขาสามารถทะลวงผ่าด่านไปถึงกึ่งบรรพชนชะตาชีวิตที่ 9 หรือ หนึ่งก้าวสู่บรรพชน อำนาจพิภพของพวกเขาจะเพิ่มมากขึ้น และกลายเป็นพิภพพันภพได้!

“ท่านจ้าวพิภพ!!”

ในความว่างเปล่าก็ปรากฏร่างหนึ่งพุ่งทะลุออกมาจากมิติ เป็นจักรพรรดิสะท้านภพที่สวมชุดเกราะเต็มยศ เขาคุกเข่าลงต่อหน้าจักรพรรดินีหลิงทิง

“ไปเปิดอาคมผสานป้องกันดินแดนกับข้า!”

“หากมีคนนอกหลุดรอดเข้ามา ฆ่าให้หมดไม่ต้องถาม!”

น้ำเสียงของจักรพรรดินีหลิงทิงนั้นดุดันและเฉียบขาด

เวลานี้นางได้กลับไปเป็นจักรพรรดินีที่น่าเกรงขามอีกครั้ง และเตรียมตัวรับมือกับภัยคุกคามที่กำลังรุมล้อมเข้ามา นางนั้นจะไม่แสดงความอ่อนแอออกมาเด็ดขาด

แล้วจักรพรรดินีหลิงทิงก็เริ่มร่ายมนส์เปิดใช้งานอาคมทันที ก่อนที่นางจะเงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า ปรากฏดาวสีทองขึ้น

ดาวสีทองนี้คือ วิถีสวรรค์ของพิภพราชันย์

วิถีสวรรค์ของดินแดน และพิภพล้วนมีต้นกำเนิดมาจากที่เดียวกัน

ภพสวรรค์นั้นเป็นดวงดาวที่อยู่บนฟากฟ้า การคงอยู่ของมันนั้นเหมือนกับธรรมชาติ

เพียงแต่ดาวสีทองนี้มีขนาดใหญ่กว่า มันคือดวงดาววิถีสวรรค์ของดินแดน

ดวงดาววิถีสวรรค์นั้นแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายได้ หากว่าดวงดาววิถีสวรรค์ถูกหลอมกลั่น ผู้ที่หลอมกลั่นมันจะสามารถควบคุมวิถีสวรรค์ได้ดั่งอย่างใจ หรือควบคุมความเป็นไปของดินแดนได้

ตอนนี้ดวงดาววิถีสวรรค์ของพิภพราชันย์นั้นไม่เจิดจ้าดังเก่า และไร้ซึ่งพลังกดขี่ใดๆ ทั้งสิ้น ราวกับดาวที่ตายไปแล้ว ที่ลอยเคว้งคว้างอยู่กลางจักรวาลอันกว้างใหญ่

จักรพรรดินีหลิงทิงนั้นได้เรียกมันมาจากที่ไกลแสนไกล และนำมาลอยอยู่เหนือพิภพราชันน์

เอาจริงๆ แล้ว หากพูดกันให้เห็นภาพง่ายๆ

สงครามระหว่างพิภพก็เหมือนสงครามระหว่างดวงดาว เพื่อแย่งชิงดวงดาววิถีสวรรค์

หากต้องการยึดพิภพจำเป็นต้องฆ่าจักรพรรดินีหลิงทิง เพราะดวงดาววิถีสวรรค์นั้นผูกติดกับจิตวิญญาณของผู้หลอมกลั่นมัน

หากต้องการช่วงชิงดวงดาวมาก็ต้องฆ่าจักรพรรดินีหลิงทิง และหลอมกลั่นดวงดาวนี้ใหม่ ให้เป็นของเขาซะ

“พวกมันอยู่ที่นี่!”

ตอนนี้จักรพรรดินีหลิงทิงสัมผัสได้ว่าที่ภายนอกพิภพราชันย์ มีกึ่งบรรพชน 7 คนกำลังมุ่งหน้าเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง พวกเขาแผ่กลิ่นไอที่น่ากลัวออกมาปกคลุมไปทั่วอวกาศ!

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด