ตอนที่แล้วตอนที่ 86 สัญญาของแพลตฟอร์มปลามังกร!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 88 ทัศนคติที่เปลี่ยนไป?

ตอนที่ 87 (ตอนฟรี)


ตอนที่ 87 (ตอนฟรี)

  หวังเหยาเจียว อ่านสัญญาอีกครั้งอย่างละเอียด เขาพบว่าไม่มีข้อกำหนดใดๆ ที่สร้างเงื่อนไขจำกัดความอิสระของกงหมิงเฟย เพียงแต่มีข้อเสนอให้กงหมิงเฟยช่วยโฆษณาแพลตฟอร์มปลามังกรของพวกเขาในบางช่วงเวลา!

อย่างที่หวังเหยาเจียวกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า หลังจากที่กงหมิงเฟยไปถึงเมืองเหิงเตี้ยนแล้ว เขาจะต้องยุ่งวุ่นวายเกี่ยวกับการเรียนรู้และข้อตกลงในการแสดงภาพยนตร์ มันเป็นการยากที่จะบอกว่าเขาจะมีเวลาถ่ายทอดสดในเวลานั้นหรือไม่ ฉะนั้นเงื่อนไขสัญญานี้ก็ไม่ต่างจากการมอบเงิน 10 ล้านหยวนให้โดยเปล่า!

มันเป็นเหมือนกับว่าเป็นการป้องกันไม่ให้กงหมิงเฟยเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มการถ่ายทอดสดของบริษัทอื่นเท่านั้นเอง

ไม่ต้องพูดถึง แพลตฟอร์มปลามังกรที่ไม่ต้องการผลกำไรใดๆเลย และรายได้จากของขวัญทั้งหมดจะตกเป็นของกงหมิงเฟยโดยไม่ถูกหักส่วนแบ่ง ยกเว้นการหักภาษีรายรับส่วนบุคคล

เมื่อมองดูท่าทางที่แสดงออกถึงความพึงพอใจของหวังเหยาเจียว จางซิงก็ยิ้มแล้วพูดออกมาว่า "นี่เป็นความจริงใจของบริษัทของเรา ส่วนสัญญารายได้ 10 ล้านหยวนนี้เทียบเท่ากับการลงทุนในการโฆษณา แม้ว่าเราจะไม่ได้รับส่วนแบ่งจากของขวัญจากผู้ชมในห้องถ่ายทอดสด แต่เนื่องจากคุณกงหมิงเฟยได้ช่วยดึงดูดจำนวนผู้ชมเข้ามาในแพลตฟอร์มของบริษัทเรา ฉะนั้นนี่ก็เท่ากับว่าเป็นการสร้างรายได้ให้กับบริษัทในอีกรูปแบบหนึ่ง!"

หวังเหยาเจียวพยักหน้าอย่างเข้าใจ ด้วยความนิยมในปัจจุบันของกงหมิงเฟย ต่อให้เขาไม่ได้ทำการถ่ายทอดสดตลอดเวลาเหมือนเดิม แต่ในนามของไอดอลที่อยู่ภายใต้แพลตฟอร์มปลามังกร ย่อมต้องดึงดูดกลุ่มผู้ชมจำนวนมากเข้ามาได้อีกหลายเท่าตัวอย่างแน่นอน ซึ่งบางครั้งหากกงหมิงเฟยต้องการถ่ายทอดสดก็จะต้องถ่ายทอดสดผ่านแพลตฟอร์มปลามังกรของพวกเขาเท่านั้น บริษัทของพวกเขาก็จะได้รับค่าโฆษณาในส่วนนี้ซึ่งเป็นสถานการณ์แบบวิน-วิน ทั้งสองฝ่าย

หลังจากพิจารณาเงื่อนไขในสัญญาทั้งหมดแล้ว หวังเหยาเจียวก็พูดขึ้นว่า "ผมพอใจกับสัญญาฉบับนี้มาก แต่ก่อนจะตอบตกลง ผมคงต้องพูดคุยกับศิลปินของผมให้เป็นที่เรียบร้อยก่อน!"

"ขอบคุณครับคุณหวัง! เชิญคุณหวังตามสบายนะครับ!"

จางซิงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

หวังเหยาเจียวหยิบโทรศัพท์และเดินออกไปข้างนอกเพื่อโทรหากงหมิงเฟย

เมื่อกงหมิงเฟย ได้ยินว่าเขาจะได้รับเงิน 10 ล้านหยวนและเงื่อนไขที่ค่อนข้างจะเป็นอิสระ เขาก็พยักหน้าตอบตกลงเหมือนไก่จิกเมล็ดข้าวในทันที!

ด้วยความยินยอมของ กงหมิงเฟย เมื่อวางสายโทรศัพท์ หวังเหยาเจียวจึงเดินกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง

หลังจากเจรจารายละเอียดบางอย่างกับจางซิงแล้ว สัญญาใหม่ก็ถูกสร้างขึ้น ตราบใดที่กงหมิงเฟย ลงนามในสัญญาด้วยตนเอง เงินจำนวน 10 ล้านหยวนก็จะเข้าสู่บัญชีของเขาในทันที!

หลังออกจากบริษัทปลามังกรแล้ว หวังเหยาเจียว ก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตอนนี้พวกเขามีทุนในการสร้างสตูดิโอแล้ว!

ตัวของกงหมิงเฟย ยังไม่รู้ว่าก่อนที่เงิน 10 ล้านหยวนจะมาอยู่ในมือ หวังเหยาเจียวได้ช่วยเขาคิดวิธีการใช้จ่ายไปเรียบร้อยแล้ว!

ในขณะนี้กงหมิงเฟยกำลังเดินลากรถเข็นของเขาไปตามทางด้วยรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดี

เมื่อกลุ่มแฟนๆ สายฮาร์ดคอร์ในห้องถ่ายทอดสดเห็นรอยยิ้มอันโง่เง่าของกงหมิงเฟย พวกเขาก็ส่งข้อความปั่นเพื่อเยาะเย้ยออกมาในทันที

[โหลๆ! คุณหมอครับ! ช่วยส่งรถมารับผู้ประกาศของผมด้วยครับคุณหมอ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะสติไม่ค่อยจะดี!]

[เฮ้ๆ! ดูหน้าเขาสิ ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ทำไมถึงได้ยิ้มและหัวเราะออกมาเหมือนคนบ้าแบบนี้!]

[ฤดูหนาวจบลงแล้วและฤดูใบไม้ผลิกำลังเข้ามาเยือน มันเป็นธรรมดาที่จะถึงฤดูกาลที่สิ่งมีชีวิตต่างๆจะเข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์]

[ชั้นบนดูเหมือนว่านายจะเป็นนักวิชาการที่มีความรู้สูง! นั่นก็แสดงว่าเหลากงกำลังมีอารมณ์แห่งความต้องการที่เคลิบเคลิ้มอยู่ใช่หรือไม่?]

[อะแฮ่ม~ สามีขา~ ฉันง่วงนอนจังเลย~ สามีรีบกลับมาพาฉันเข้านอนหน่อยสิคะ~]

กงหมิงเฟย เหลือบมองดูข้อความที่ส่งออกมาทางหน้าจอโดยไม่ได้ตั้งใจ ในทันทีนั้นเส้นสีดำก็ผุดขึ้นจนเต็มหน้าผากของเขา! บ้าจัง! ทำไมถึงคิดว่าฉันกำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูผสมพันธุ์ได้ล่ะ?!

เมื่อเห็นใบหน้าที่บิดเบี้ยวของกงหมิงเฟย กลุ่มแฟนคลับสายฮาร์ดคอร์ในห้องถ่ายทอดสดก็มีความสุขกันมากขึ้น

[ดูหน้าและใบหูเขาสิ แดงก่ำเลย! ไม่รู้ว่าโกรธหรืออายกันแน่ ฮ่าฮ่า!]

[พี่ชายหมิงเฟยขา~ ฉันยินดีสละความเยาว์วัยของตัวเองเพื่อช่วยพี่ชายเองค่ะ~]

[ไม่ได้!! นี่สามีของฉันนะ เมื่อสามีต้องการ ฉันที่เป็นภรรยาก็ควรจะต้องรับใช้เขา!]

[ไม่ต้องแย่งกัน! ฉันจัดที่นั่งไว้รอดูแล้ว หากสาวๆข้างบนพร้อมกันเมื่อไหร่ก็ทำงานกันได้เลย]

กงหมิงเฟย มองดูมุกตลกในหน้าจอที่แฟนคลับของเขาตอบโต้กัน เขาก็หน้าแดงเล็กน้อย! สาวๆ ในห้องนี้ใจดีกันมาก! แต่ช่วยเบาๆ หน่อยได้มั้ย มันน่าอายเกินไป!

อันที่จริง กงหมิงเฟยก็ปรารถนาที่จะมีความรักอันแสนหวานและโรแมนติกในหัวใจของเขาเช่นกัน ในชีวิตที่แล้ว เขามีแฟนที่คบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมเพียงคนเดียวเท่านั้น

ต่อมาเมื่ออีกฝ่ายรู้ว่าเขาได้รับอุบัติเหตุจนไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ฝ่ายหญิงก็ค่อยๆเงียบหายและเลิกติดต่อกับเขาไป

แต่เขาไม่คิดว่าสิ่งที่เธอทำนั้นเป็นเรื่องที่ผิดและเขาก็ไม่ได้เคยคิดที่จะโกรธเธอเลยแม้แต่น้อย หากเป็นตัวเขาเองก็คงจะคิดหนักมากเช่นเดียวกัน การที่จะต้องมีภาระดูแลอีกฝ่ายไปตลอดชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นนี้เป็นเรื่องที่ตัดสินใจได้ยากมาก

ฉะนั้นครั้งสุดท้ายที่เธอมาเยี่ยมเขา เขาจึงบอกลาเธอ เพื่อให้เธอตัดใจจากเขาด้วยรอยยิ้ม

ตัวฉันได้รับอุบัติเหตุจนกลายเป็นอัมพาตนอนติดเตียง แล้วทำไมจะต้องลากถ่วงดึงรั้งผู้หญิงดีๆ คนหนึ่งให้จมลงไปกับฉันด้วย?

นั่นเป็นความเสียใจในชาติก่อนของเขา ซึ่งเขาค่อนข้างจะต่อต้านความรัก หรืออาจกล่าวได้ว่าเขาปิดกั้นหัวใจของตัวเองโดยไม่รู้ตัว เพราะกลัวการสูญเสีย เขากังวลว่าตัวเขาจะทนกับความเจ็บปวดนั้นไม่ได้เมื่อถึงเวลานั้น

เช่นเดียวกับในเนื้อเพลง "Under Mount Fuji" ของ easond ถ้าคุณต้องการมีความรักหรือความสัมพันธ์ที่ดี คุณก็จะต้องเข้าใจและเตรียมพร้อมที่จะยอมรับว่าคุณมีโอกาสที่จะต้องสูญเสียมันไป

แต่สุดท้ายกงหมิงเฟย เป็นเพียงแค่ชายหนุ่มอายุ 20 ปี ใครไม่อยากมีความรักที่ดีๆ ในช่วงวัยนี้บ้าง?

ในชีวิตที่แล้ว เพราะร่างกายที่เป็นอัมพาตของฉัน ฉันจึงไม่สามารถลากผู้หญิงคนที่ฉันรัก ทำให้อนาคตของเธอต้องจมลงไปกับฉันได้

เมื่อฉันมีโอกาสได้ใช้ชีวิตใหม่ในชาตินี้ ฉันจึงตั้งความหวังและปณิธานว่าฉันจะใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง และแน่นอนว่าเรื่องของความรัก ฉันก็จะต้องทำให้ดีที่สุดอีกด้วย

แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะต้องคิดถึงเรื่องความรัก ควรจะต้องรีบทำงานตามภารกิจของระบบให้เสร็จโดยเร็วที่สุด

ขณะเดียวกันบนเครื่องบิน ไป๋ชิงชิงแสดงสีหน้าที่ไม่มีความสุขขณะที่ชำเลืองมองไปยังไป๋ฉีห้าวด้วยสายตาที่เย็นชา!

"นายจะมาด้วยทำไม?"

"เอ่อ… อะแฮ่ม! คือยังงี้นะพี่ จริงๆแล้วผมตั้งใจจะมาช่วยพี่นะ พี่คิดว่าคนดีๆ ที่ซื่อตรงแบบพี่จะสามารถโกหกแม่ได้ยังงั้นเหรอ? แต่หากว่ามีผมคอยช่วยเหลือและให้ความร่วมมือด้วย ผมเชื่อว่าแน่ว่า แม่จะต้องไม่สงสัยอย่างแน่นอน!"

"ไร้สาระ! แม่รักฉันมากที่สุด แม่เคยบอกว่าฉันเป็นเหมือนเสื้อแจ็คเก็ตตัวน้อยๆ ที่คอยทำให้หัวใจของแม่อบอุ่นอยู่เสมอ!"

"แม่ก็พูดอย่างนั้นกับลูกๆ ทุกคนนั่นแหละ! พี่เคยเห็นแม่ใส่เสื้อแจ็คบ้างมั้ยล่ะ?"

ไป๋ชิงชิงเบิกตากว้างตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกว่าสิ่งที่น้องชายของเธอพูดนั้นค่อนข้างจะสมเหตุสมผล ถึงแม้จะเอะใจอยู่บ้างเล็กน้อยคล้ายกับว่ามีบางอย่างที่มันผิดปกติ แต่เธอก็ไม่สามารถนึกออกได้ว่ามันคืออะไร?

ไป๋ฉีห้าวพูดต่อว่า "พี่ชิงชิง พี่กำลังไล่ตามหาความรักเพื่อความสุขในอนาคตของพี่ เพราะฉะนั้นพี่ต้องพาผมไปเป็นพยานด้วย!"

ถึงแม้ว่าไป๋ชิงชิงจะรู้สึกว่ามันค่อนข้างจะสมเหตุสมผลแต่ก็ยังรู้สึกแปลกๆอยู่ในใจ แต่ก็ไม่สามารถหาเหตุผลออกมาโต้แย้งได้

หลังจากที่เครื่องบินลงจอด ทั้งสองพี่น้องก็ขึ้นแท็กซี่และรีบตรงไปที่โรงพยาบาล

นี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไปหาหมอ แต่แม่ของพวกเขานั้นเป็นรองประธานผู้บริหารโรงพยาบาลเขต เจียงหนานมิลิตาลี่รีเจ้น!

หลังจากที่ทั้งคู่มาถึงโรงพยาบาลก็ค่ำแล้ว สองพี่น้องจึงรีบตรงไปยังห้องทำงานของแม่พวกเขา

หลังจากที่เปิดประตูเข้าไป ผู้หญิงที่สง่างามก็นั่งอยู่ที่โต๊ะกำลังเขียนอะไรบางอย่างอยู่

ผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย ใบหน้าของเธอนั้นสวยใสอ่อนกว่าวัยมาก ผมสีดำเป็นมันเงาของเธอถูกมัดรวบไว้ทางด้านหลัง คิ้วโก่งและสายตาที่เฉียบคมของดวงตาฟีนิกซ์ ทำให้เธอดูเป็นผู้หญิงทำงานที่มั่นใจและมีความกล้าหาญมาก

"แม่! หนูคิดถึงแม่จัง!"

เมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้นเงยหน้า ไป่ชิงชิงก็วิ่งเข้าไปหาพร้อมตะโกนออกมาอย่างร่าเริง หญิงสาวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นลูกทั้งสองคนของเธอ

ผู้หญิงคนนี้เป็นมารดาโดยกำเนิดของพี่น้องตระกูลไป๋ หวงจิงเหม่ย

ไป๋ชิงชิงและหวงจิงเหม่ย เรียกได้ว่าแกะสลักออกมาจากพิมพ์เดียวกัน เมื่อแม่และลูกสาวกอดกันทั้งคู่จึงดูเหมือนกับคู่ฝาแฝดที่ต่างวัยกันเพียงเล็กน้อย

"ชิงเอ๋อ เสี่ยวห้าว ทำไมลูกถึงได้มาหาแม่ที่นี่ล่ะ?"

ก่อนที่ไป๋ชิงชิงจะตอบ ไป๋ฉีห้าวก็พูดมาจากทางด้านหลัง

"ผมกับพี่ชิงชิงคิดถึงแม่ และอีกอย่างในตอนนี้กำลังจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว เราจึงตกลงกันว่าจะมาหาแม่และมาเที่ยวเล่นกันด้วย!"

หวงจิงเหม่ยหรี่ตาลงเล็กน้อย! เธอจะไม่รู้จักนิสัยลูกชายและลูกสาวของเธอได้อย่างไร?

และเมื่อดูอาการการแสดงออกของไป๋ชิงชิง เธอก็แน่ใจว่าลูกๆ ของเธอนั้นกำลังซ่อนอะไรบางอยู่

"พ่อของลูกรู้แล้วรึยัง?" หวงจิงเหม่ยถามด้วยรอยยิ้ม

"พ่อรู้แล้วค่ะแม่! พวกเรามากันหลังจากที่พ่ออนุญาต!"

ไป๋ชิงชิงตอบด้วยรอยยิ้มที่สดใส เธอยังคงทำตัวเหมือนเด็กนิสัยเสียในอ้อมแขนของหวงจิงเหม่ย และไม่ยอมแยกออกจากแม่เธอ

"แล้วทำไมพวกลูกไม่โทรมาบอกแม่ก่อน แม่จะได้จัดเตรียมอาหารไว้รอ!"

ไป๋ฉีห้าวพูดด้วยรอยยิ้ม "ไม่เป็นไรหรอกครับแม่ พวกเรารู้ว่าแม่ค่อนข้างจะยุ่ง คืนนี้พวกเราไปกินข้าวนอกบ้านกันเถอะ!"

…………

จบบท

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด