ตอนที่แล้วตอนที่ 606 การเปลี่ยนแปลงระดับขั้นที่ 9 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 608 เหล่าเทียนเจียวแห่งสามสำนักอมตะ!

ตอนที่ 607 (ตอนฟรี)


ตอนที่ 607 (ตอนฟรี)

"จะมีการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งที่ว่างเข้าสู่เจดีย์หย่งชางในวันพรุ่งนี้อย่างนั้นรึ?"

เมื่อหวังเสียนได้ยินคำพูดของสาวกที่อยู่ตรงหน้าเขาก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยขณะที่ถาม

"ใช่แล้วขอรับท่านผู้อาวุโส! ระยะเวลาการคัดเลือกจะใช้เวลานานประมาณครึ่งเดือน!" สาวกหนุ่มตอบด้วยความเคารพ

"ใช้เวลาคัดเลือกเพื่อชิงตำแหน่งนานขนาดนั้นเลยรึ?"

"สาวกจากทั้งสามสำนักใหญ่จะแข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งที่ว่างทั้ง 10 ที่ในเจดีย์หย่งชาง ย่อมต้องมีคนมากมายเข้ามาร่วมสมัคร และทั้งสามสำนักยังต้องการกระตุ้นให้เหล่าสาวกของตัวเองพัฒนาความแข็งแกร่งให้มากขึ้น ฉะนั้น 30 อับดับแรกจะได้รับอาวุธวิญญาณและเม็ดยาจิตวิญญาณอีกด้วย!"

สาวกชายอธิบายกับหวังเสียน

หวังเสียนพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงรับรู้ "เจ้าช่วยไปเอาวัตถุดิบสำหรับการปรับแต่งเม็ดยามาให้ข้า ข้าจะทำการปรับแต่งเม็ดยาอีกสักรอบ!"

"ขอรับ!"

สาวกชายตอบรับด้วยความเคารพและรีบออกไปทำตามคำสั่งในทันที

ในการแข่งขันที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ หวังเสียนไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก

ตอนนี้ระดับของเขาได้เพิ่มขึ้นแล้ว มันยังไม่จำเป็นสำหรับเขาที่จะต้องเร่งรีบเพิ่มความแข็งแกร่งในตอนนี้ เขาเพียงแค่ต้องการจัดเตรียมทรัพยากรสำหรับอ๋าวเจี้ยนและแม่ทัพแห่งวังมังกรคนอื่นๆ

หลังจากนั้นหวังเสียนก็ทำการปรับแต่งเม็ดยาจิตวิญญาณตลอดทั้งคืน และหลังจากที่ระดับความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น ความเร็วในการหลอมกลั่นและปรับแต่งเม็ดยาของเขาก็ดีขึ้นอย่างมาก

นอกจากนี้อีก 10 วันต่อมา วัตถุดิบและพืชสมุนไพรทั้งหมดในสำนักต้าหงได้ถูกหวังเสียนปรับแต่งให้กลายเป็นเม็ดยาจนหมด เขาจึงสั่งให้สาวกรับใช้ไปแจ้งกลุ่มผู้อาวุโสทั้งห้าคน ว่าเขานั้นต้องการจะทำการปรับแต่งเม็ดยาระดับ 7

เมื่อผู้อาวุโสห้าคนได้รับข่าวนี้ ต่างก็แสดงความตกใจออกมา

เม็ดยาจิตวิญญาณระดับ 7 นี่คือการปรับแต่งเม็ดยาระดับ 7 ที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของผู้ฝึกตนในระดับจิตวิญญาณเซียนได้เป็นอย่างมาก

ในอดีตเม็ดยาระดับนี้จะถูกปรับแต่งโดยผู้ฝึกตนที่อยู่ในอาณาจักรเทพเจ้าอมตะมาโดยตลอด

และสุดยอดปรมาจารย์นักปรุงยานั้นมีไม่เกินสามคนในโลกหย่งชาง ที่สามารถปรับแต่งเม็ดยาระดับ 7 ได้

สองคนนั้นเป็นนักปรุงยาลึกลับที่ซ่อนเร้น มีน้อยคนมากที่จะรู้ว่าพวกเขานั้นเป็นใคร ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นเป็นนักปรุงยาจากสำนักหย่งฉาง

แต่ทั้งนี้ไม่ใช่ด้วยความสามารถของตัวปรมาจารย์นักปรุงยาเองทั้งหมด แต่พวกเขามีเตาปรุงยาระดับ 13 ที่สามารถช่วยเพิ่มความสำเร็จในการปรับแต่งเม็ดยา

ผู้อาวุโสทั้งห้าไม่ปฏิเสธคำขอของหวังเสียนและมอบวัตถุดิบให้กับเขาสิบส่วน

วัตถุดิบทั้งสิบส่วนนี้ ผู้อาวุโสทั้งห้าคนให้หวังเสียนลองทดสอบปรับแต่งดูก่อน และหากว่าเขาสามารถประสบความสำเร็จสองส่วน พวกเขาก็ยินดีที่จะให้หวังเสียน ทำการปรับแต่งเม็ดยาได้ต่อไป

ไม่ใช่ว่าพวกเขาขี้เหนียวมากเกินไป  แต่เป็นเพราะมีวัตถุดิบในการปรับแต่งเม็ดยาไม่มากนักในสำนักต้าหง

ในการปรับแต่งเม็ดยาระดับ 7 ต้องใช้พืชสมุนไพรมากถึง 49 ชนิด และหากปรับแต่งไม่สำเร็จก็จะถือได้ว่ามันเป็นการสูญเสียที่ค่อนข้างมาก

หวังเสียนยินดีรับวัตถุดิบทั้งสิบส่วนจากพวกเขา และใช้เวลาประมาณ 2 วันเพื่อทำการปรับแต่งวัตถุดิบเหล่านี้ให้เป็นเม็ดยาระดับ 7

เวลาที่ใช้สำหรับการปรับแต่งเม็ดยาระดับ 7 นั้นค่อนข้างจะเกินความคาดหมายของหวังเสียนเป็นอย่างมาก

หลังจากนั้นเขาก็ได้มอบเม็ดยาระดับ 7 สิบสองเม็ดให้กับผู้อาวุโสทั้งห้าคน ที่ยังคงอยู่ในความตกตะลึง

พวกเขาจ้องมองไปที่หวังเสียนด้วยสายตาที่ร้อนแรง ราวกับว่ากำลังจ้องมองไปยังสมบัติที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก

หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็นำวัตถุดิบยี่สิบส่วนไปให้หวังเสียน และขอร้องให้เขาทำการปรับแต่งเม็ดยาระดับ 7 ต่อไป

หวังเสียนรับวัตถุดิบเหล่านั้นมาอย่างมีความสุข เมื่อทำการปรับแต่งเม็ดยาเสร็จเรียบร้อยเขาก็มอบเม็ดยาระดับ 7 ให้กับผู้อาวุโสทั้งห้าคน สามสิบหกเม็ด

สิ่งนี้ทำให้กลุ่มผู้อาวุโสทั้งห้าคนตื่นเต้นและดีใจเป็นกันอย่างมาก พวกเขาต่างแน่ใจแล้วว่าความสามารถในการปรับแต่งเม็ดยาระดับ 7 ของหวังเสียน น่าจะอยู่ประมาณที่ 30% เป็นอย่างน้อย

แต่พวกเขาไม่เคยรู้ความจริงมาก่อนเลยว่าอัตราความสำเร็จในการปรับแต่งเม็ดยาของหวังเสียนคือ 100% และตัวของหวังเสียนเอง ยังมีเม็ดยาระดับ 7 อยู่ในมือมากถึงแปดสิบสี่เม็ด และเม็ดยาระดับ 7 หนึ่งเม็ดจะให้พลังงานมังกรมากกว่า 80 ล้านหน่วย!

หวังเสียนจ้องมองดูเม็ดยาในมือด้วยรอยยิ้ม

ถึงแม้ว่าจะต้องใช้พลังงานมังกรมากถึงหนึ่งพันล้านหน่วย ในการเปลี่ยนขั้นระดับใหญ่จากมังกรแรกเกิดไปเป็นมังกรวัยเยาว์ ซึ่งกว่าจะสะสมพลังงานได้ถึงระดับนั้นก็คงจะนานมาก แต่หากใช้พลังงานมังกรจากเม็ดยาเหล่านี้เพื่อเพิ่มระดับความสามารถของอ๋าวเจี้ยนให้เป็นระดับที่ 13 ก็มากเกินพอ

นอกจากนี้เม็ดยาจิตวิญญาณที่เหลือยังเพียงพอที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเหล่าแม่ทัพและสาวกระดับสูงแห่งวังมังกรได้อีกด้วย

"หากดูดซับพลังงานจากลูกปัดจิตวิญญาณแดงธาตุน้ำทั้งห้าลูก หลอมรวมเข้ากับผลึกแก้วมังกรแห่งธาตุน้ำได้ ความสามารถในการใช้ธาตุน้ำของข้าก็จะเพิ่มขึ้นอีกมากอย่างแน่นอน!"

"ส่วนเม็ดยาที่ต่ำกว่าระดับ 7 ที่เหลืออยู่เป็นจำนวนมากในมือของข้า คงจะไม่จำเป็นที่จะนำไปเปลี่ยนเป็นพลังงานมังกรอีกต่อไป!"

หวังเสียนใช้จิตสัมผัสสำรวจดูในแหวนของเขา ซึ่งมีเม็ดยาจิตวิญญาณกว่าสองพันเม็ด มีเม็ดยาระดับที่ 5 และระดับที่ 6 อย่างละสี่ร้อยเม็ด ส่วนที่เหลือคือเม็ดยาจิตวิญญาณระดับ 4 ซึ่งในกลุ่มเม็ดยาเหล่านี้นั้นเม็ดยาระดับ 7 อีกแปดสิบสี่เม็ดถูกแยกไว้ยังที่ว่างทางด้านหนึ่งของแหวนเก็บของ

นอกจากเม็ดยาที่ได้รับจากสำนักต้าหงแล้ว เขายังมีวัสดุแร่โลหะสำหรับการหลอมสร้างเครื่องมือทางจิตวิญญาณและวัตถุดิบสำหรับการปรับแต่งเม็ดยาเหลืออยู่ในแหวนอีกมากมาย สิ่งเหล่านี้นั้นเป็นส่วนต่างที่เข้าได้รับจากธุรกิจในร้านค้าเล็กๆ ของเขาในเมืองหย่งชาง

"เม็ดยาจิตวิญญาณและพืชสมุนไพรเหล่านี้ก็มากเกินพอที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับเหล่าสาวกแห่งวังมังกร ถึงแม้ว่าประตูมิติแห่งโลกที่ซ่อนเร้นทั้งสามโลกจะเปิดออกพร้อมกัน ก็คงไม่มีอะไรที่จะต้องหวาดกลัว และคงไม่ยากเกินไปที่จะรับมือกับคนเหล่านั้น!"

หลังจากสำรวจทรัพยากรส่วนตัวของเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว หวังเสียนก็หันไปสั่งงานกับเหล่าสาวกรับใช้ทั้งห้าคน

"พวกเจ้าช่วยไปนำแร่โลหะและวัสดุสำหรับการหลอมสร้างเครื่องมือจิตวิญญาณมาให้กับข้า!"

หลังจากที่ได้รับวัสดุสำหรับการหลอมสร้าง หวังเสียนก็สร้างอาวุธจิตวิญญาณหนึ่งชิ้นออกมาได้อย่างรวดเร็ว และภายในเวลา 10 วันตัวเขาก็สามารถสร้างเครื่องมือจิตวิญญาณได้นับพันชิ้น

และส่วนต่างของวัสดุที่เหลือ ที่อยู่ในแหวนของเขาก็น่าจะสามารถสร้างเครื่องมือจิตวิญญาณได้ 300-400 ชิ้น

"ต่อไปคือการหลอมสร้างอาวุธวิญญาณระดับ 12 !"

หวังเสียนใช้นิ้วมือเคาะที่โต๊ะเบาๆขณะที่นั่งจิบชาเพื่อพักผ่อนอยู่ใจกลางห้องโถง

คราวนี้ผู้อาวุโสทั้งห้า ไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะมอบวัสดุทั้งหมดให้กับเขาในครั้งนี้

เวลาเดียวกัน ในขณะที่หวังเสียนอยู่ในห้องหลอมกลั่น คนทั่วทั้งเมืองหย่งชางต่างมีชีวิตชีวากันมาก เนื่องจากการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งที่ว่างของเจดีย์หย่งชาง

ในบรรดาผู้ฝึกตนทั้งหมดของโลกหย่งชาง ผู้ที่ชนะ 10 อันดับแรกจะสามารถเข้าสู่เจดีย์หย่งชางเพื่อทำการฝึกฝน

ทุกคนต่างตื่นเต้นและคลั่งไคล้เมื่อได้ยินข่าว

สำหรับทุกคนในโลกหย่งชาง พวกเขารู้ดีว่าเจดีย์หย่งชางเป็นสิ่งประดิษฐ์ระดับเทพ นอกจากนี้ยังมีบันทึกเอาไว้ว่าผู้ฝึกตนที่ได้รับโอกาสเข้าสู่เจดีย์หย่งชางจะมีโอกาสก้าวเข้าสู่ระดับอาณาจักรเทพเจ้าอมตะได้มากกว่าเดิม

พลังงานจิตวิญญาณที่อยู่ในนั้นหนาแน่นเป็นอย่างมากจนเกือบจะก่อตัวขึ้นเป็นของเหลว การฝึกฝนข้างในนั้นจะเพิ่มโอกาสมากกว่า 10 เท่าจากการฝึกฝนโดยปกติในโลกหย่งชาง ฉะนั้นเจดีย์หย่งชางจึงถือได้ว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในหัวใจของเหล่าผู้ฝึกตน

ฉะนั้นจึงไม่แปลกอะไร ที่เหล่าผู้ฝึกตนจำนวนมากต้องการจะต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่งเพื่อชิงตำแหน่งที่ว่างทั้ง 10 ตำแหน่งนี้

นอกจากนี้แล้ว ผู้แข่งขันที่อยู่ใน 30 อันดับแรกก็ยังจะได้รับรางวัลที่มากมาย

เช่นเดียวกัน

เครื่องมือจิตวิญญาณระดับ 11 เม็ดยาจิตวิญญาณระดับ 6 และหินจิตวิญญาณ 5,000 ก้อน

สถานที่สำหรับการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ จะจัดขึ้นที่สำนักหย่งฉาง ซึ่งสนามประลองของสำนักหย่งฉาง เป็นสนามประลองที่ดีและใหญ่ที่สุดในสามสำนัก

ภายในสนามประลองแห่งนี้นั้นมีสนามประลองย่อยอยู่หลายสนาม ที่นั่งสำหรับผู้ชมนั้นครอบคลุมหลายกิโลเมตร มันสามารถรองรับผู้คนได้หลายแสนที่นั่ง

"เพลงดาบไร้สำเนียง!"

"ดาบทะลวงหินผา!"

"คลื่นเงาไร้ขอบเขต!"

"ดาบสัจจะแห่งทุกข์!"

ในเวลานี้บนเวทีประลอง ชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าเย็นชา ถือดาบยาวในมือของเขาและเดินผ่านชายวัยกลางคนที่เป็นคู่ต่อสู้ของเขา

"มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน แม้แต่ หวงหลินก็ยังพ่ายแพ้ ก่อนหน้านี้ชายคนนั้นยังเอาชนะสาวกสามคนของสำนักหย่งฉางได้อย่างง่ายดายอีกด้วย!"

"วิชาดาบที่เข้าแสดงออกมานั้น ล้วนแล้วแต่เป็นทักษะวิชาดาบระดับสูงทั้งสิ้น ความสามารถในวิถีแห่งเพลงดาบของเขาช่างน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก!"

"สาวกของสำนักจางเซียนผู้นี้เป็นใครกัน? ทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยินชื่อเขามาก่อน?"

"ชายผู้นี้มีนามว่า อ๋าวเจี้ยน ว่ากันว่าเขาเพิ่งจะเข้าร่วมเป็นศิษย์ของสำนักจางเซียนได้ไม่นานมานี้ ความแข็งแกร่งของเขานั้นน่ากลัวมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในด้านเพลงดาบของเขา ว่ากันว่าจิตวิญญาณของเขานั้นเป็นจิตวิญญาณแห่งวิถีเพลงดาบ แม้แต่เจ้าสำนักจางเซียนก็ยังชื่นชมเขาเป็นอย่างมาก ถึงกับเคยประกาศเอาไว้ว่าหลังจากการแข่งขันในครั้งนี้เขาจะยกตำแหน่งโอรสสวรรค์ของสำนักให้กับอ๋าวเจียน!"

……….

จบบท

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด