ตอนที่แล้วตอนที่ 9 - งานเลี้ยงปิ้งย่างและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเชฟหูแมว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11 - ท่าทีของจางเหลียง, ตกตะลึงพรึงเพริด!

ตอนที่ 10 – ข่าวกรอง, ซอมบี้อัจฉริยะเลเวล 3 ในชุดสูท


“ท่านลอร์ด นี่ของท่าน”

เชฟหูแมวนิโคลยื่นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเนื้อวัวและแฮมกับเนื้อหมูย่างไม้ใหญ่ให้หลินเย่ด้วยท่าทีประจบประแจง

“ท่านลอร์ด มีโต๊ะอยู่ตรงนี้ ท่านทานตรงนี้ได้” คนงานหมายเลขหนึ่งแบกโต๊ะไม้ซึ่งนั่งได้สองคนมาอย่างมีไหวพริบ

“ขอบใจมาก พวกเจ้าไปทานอาหารได้ ข้าไม่ใช่เด็กน้อย ไม่ต้องเป็นห่วงข้า”

หลินเย่ขอบคุณพวกเขาด้วยรอยยิ้ม หลังจากบอกให้นิโคลและคนงานหมายเลขหนึ่งจากไป เขาที่ถือชามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยกซดน้ำซุปข้นเข้าไปเต็มปากเต็มคำ

ดวงตาของเขาเป็นประกายทันที

อร่อยมาก!

ทักษะการทำอาหารของเชฟหูแมวนั้นยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง เธอสามารถทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแสนอร่อยได้ภายใต้เงื่อนไขธรรมดาเช่นนี้

เนื้อชิ้นหนา น้ำมันหมูที่มันวาว ผักที่มีกลิ่นหอม เครื่องปรุงรสอันไร้ที่ติ

พวกเขาสามารถดื่มซุปร้อนๆ กลางดึกในสุสานที่มืดมิดนี้ได้

แค่กๆ… วิเศษมาก!

หลังจากทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้สองสามคำ หลินเย่ก็เอาบันทึกอารยธรรมออกมา

เมื่อก่อนเขาเคยชินกับการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและดูโทรศัพท์ไปด้วย ตอนนี้เขาอยู่ในอีกโลกหนึ่ง เขาสามารถกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและใช้ระบบไฮเทคนี้ได้

สมบูรณ์แบบ!

เขาเปิดช่องสนทนาทันที

ช่องโลก (99999+)

ช่องภูมิภาค (99999999999+)

ช่องครอบครัว (99+)

เขาเปิดช่องครอบครัวเป็นอันดับแรก

ผู้รอดชีวิต [หลินเย่] เข้าสู่ช่องสนทนา

“โอ้ เป่ยเป่ยมาแล้ว” หลินเจี้ยนกั๋วหัวเราะอย่างมีความสุข

ขณะที่หลินเย่กำลังจะส่งคำทักทาย เขาก็ตระหนักว่าหลินเหว่ยกำลังกล่าวถึงเขาอย่างไม่อาจความคุมอารมณ์ได้

หลินเหว่ย: “เป่ยเป่ยงี่เง่า มาคุยกันสิ ดึกแล้วนะ อย่าทำเป็นเงียบ อย่าบอกว่าพี่รู้สึกสิ้นหวังจากการถูกซอมบี้ทำร้าย (ดูถูก.jpg)”

“เหว่ยเหว่ย ลูกพูดกับพี่แบบนั้นได้ยังไง?”

แม่ของเขายังคงเป็นคนที่ยุติธรรม เธอตำหนิหลินเหว่ยและเริ่มโหมดบ่นจนหูชาอีกครั้ง

“เป่ยเป่ย ไม่ใช่ว่าแม่อยากจะตำหนิลูกนะ แต่โลกซอมบี้แห่งนี้อันตรายมาก เราไม่ได้ยินอะไรจากลูกเลยตลอดทั้งวัน มันทำให้เรากังวลมาก หากลูกไม่มีอะไรทำ แค่พูดอะไรบ้างในช่องสนทนา มันคงไม่มากเกินไป แม่แค่อยากรู้ว่าลูกปลอดภัย เข้าใจไหม?”

“แล้วก็เหว่ยเหว่ย ลูกเป็นเด็กผู้หญิง และทั้งหมดที่ลูกรู้คือการต่อสู้และเข่นฆ่า ซอมบี้ข้างนอกนั้นอันตรายมาก ในช่วงกลางวันลูกก็ยังกล้าที่จะไล่ตามพวกมัน เป็นเพราะแม่ไม่ได้อยู่กับลูก ไม่อย่างนั้นแม่คงตีลูกไปแล้ว”

“ฟังคำแนะนำของแม่นะ ซ่อนตัวให้ดีในสุสานและใช้กลไกป้องกันเพื่อฆ่าซอมบี้ เราไม่ได้หวังให้ลูกเหนือกว่าคนอื่น ความปลอดภัยต้องเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของลูก”

“อย่าพูดแทรก แม่รู้ว่าลูกรู้ศิลปะการต่อสู้ ลูกคนเดียวสามารถต่อสู้กับพี่ชายของลูกสามถึงห้าคนได้ แต่ซอมบี้ไม่ใช่มนุษย์ พวกมันไม่รู้จักความเจ็บปวด พวกมันไม่สนใจศิลปะการต่อสู้เมื่อต่อสู้ ไม่ว่าศิลปะการต่อสู้ของลูกจะดีแค่ไหน หากพวกมันหลายสิบตัวโจมตีพร้อมกัน ลูกก็คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมัน”

“นี่ไม่ใช่การทะเลาะวิวาท มันคือการต่อสู้ถึงเป็นถึงตาย ลูกต้องไม่ปล่อยให้ซอมบี้กัด เนื่องจากที่นี่ไม่มีสถานพยาบาล พิษศพจึงเป็นปัญหาใหญ่ วันนี้แม่เห็นในช่องโลกว่ามีชาวต่างชาติสองสามคนเสียชีวิตอย่างเจ็บปวดเพราะพิษดังกล่าว…”

“…”

มุมปากของหลินเย่กระตุก เขารู้สึกไม่พอใจ

เธอหมายความว่าอย่างไรที่ว่าน้องสาวของเขาสามารถเอาชนะเขาสามถึงห้าคนได้?

เธอไม่พูดอย่างนั้นก็ได้ไม่ใช่เหรอ?

เธอทำเหมือนว่าฉันอ่อนแอ แต่ฉันแค่แสร้งทำเป็นเชื่อฟัง เธอไม่เคยเห็นตอนที่ฉันร้าย

ตอนที่เป็นแบบนั้น ฉันก็ยังกลัวตัวเองเลย

หลินเย่รู้สึกขุ่นเคืองในใจ แต่เขาก็ยังพูดขึ้น “แม่ไม่ต้องกังวล นับจากนี้ไป ผมจะรายงานให้ทราบทุกๆ ชั่วโมง น่าจะเพียงพอแล้วใช่ไหม?”

จางชุ่ยหลิง: “เยี่ยมมาก ลูกชายที่ดีของแม่ (หัวใจ.jpg)”

“แล้วพ่ออยู่ไหน?” หลินเย่ถาม

เมื่อดูบันทึกการสนทนา ส่วนใหญ่เป็นของน้องสาวและแม่ของเขา

หลินเจี้ยนกั๋ว: “พ่อมาแล้ว เมื่อครู่นี้พ่อกำลังก่อไฟกับคนงานพื้นถิ่น พ่อโชคดีที่สามารถสร้างที่หลบภัยได้ก่อนค่ำ และได้รางวัลเป็นคนงานพื้นถิ่นสี่คน ตอนนี้พ่อกำลังวางแผนก่อไฟเพื่อทำอาหารและทานข้าว ตอนกลางวันพ่อเก็บไข่นกได้ถุงหนึ่งและกำลังวางแผนปรุงมันเพื่อให้อิ่มท้อง”

หลินเจี้ยนกั๋ว: “แล้วพวกลูกๆ ล่ะ? ทานข้าวกันหรือยัง?”

หลินเหว่ย: “หนูกำลังทานเลย หนูเปิดหีบสมบัติใบหนึ่งและได้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาหนึ่งกล่อง หนูทานมันได้สองสามวัน (ภาคภูมิใจ.jpg)”

ขณะที่พูด เธอก็อัปโหลดรูปภาพ

ฟังก์ชันถ่ายภาพและจับภาพหน้าจอ

นี่เป็นความสามารถใหม่ที่จะปรากฏขึ้นในช่องสนทนาหลังจากสร้างที่หลบภัยแล้วเท่านั้น

ภาพถ่ายแสดงให้เห็นหลายสิ่งหลายอย่าง

มีที่หลบภัย คนงานพื้นถิ่น เต็นท์ โรงเก็บไม้ และเหมืองหิน…

ตรงกลางเป็นเด็กสาวร่างสูงในชุดวอร์มสีดำ

ในขณะนี้ เธอกำลังถือขนมปังในมือซ้ายและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในมือขวา แม้จะมีหลุมศพที่น่าสะพรึงกลัวอยู่ข้างหลัง เธอก็ยังทานอย่างมีความสุข สุดท้ายเธอยังยกมือขึ้นจับส้อมเป็นเครื่องหมายสันติภาพใส่กล้องเพื่อส่งสัญญาณถึงชัยชนะของเธอ

หลินเจี้ยนกั๋ว: “เหว่ยเหว่ยยังคงแข็งแกร่งที่สุด การพัฒนาสุสานของลูกรวดเร็วมาก และอาหารที่มีก็ไม่เลวเลย แม้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ก็อิ่มท้อง แล้วแม่ของลูกๆ ทานข้าวหรือยัง?”

จางชุ่ยหลิง: “ฉันทานแล้ว กัปตันหวังฮุ่ยและสมาชิกในทีมของเขามีความสามารถมาก ในตอนกลางวันพวกเขาฆ่าซอมบี้ไปมากกว่าสามสิบตัวและพบหีบสมบัติสามใบ สำหรับอาหารค่ำ เรามีขนมปังเก่ากับไข่ตุ๋น เป่ยเป่ย แล้วลูกล่ะ?”

หลินเหว่ยกล่าว “เป่ยเป่ยตัวเหม็นก็ต้องกินขนมปังจากแพคของขวัญมือใหม่อยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลและรอ ถ้าเร็ว ฉันจะไปถึงที่นั่นในอีกสามถึงห้าวัน ถ้าช้า ฉันจะใช้เวลาประมาณเจ็ดหรือแปดวัน เมื่อฉันแข็งแกร่งพอ พี่จะเป็นคนแรกที่ฉันช่วยชีวิต ฉันจะพาพี่ไปด้วยและแสร้งทำเป็นว่า… แค่ก แค่ก พาพี่ไปทานอาหารอร่อยๆ…”

ก่อนจะพูดจบ จู่ๆ เธอก็หยุดชะงักไป

เพราะรูปภาพใหม่ได้ปรากฏขึ้นในสายตาเธอ

มันเป็นชามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเหมือนกัน แต่มีเนื้อเยอะมากในชามของอีกฝ่าย มือที่น่ารังเกียจคู่นั้นถึงกับจับไม้เสียบไว้เต็มกำมือ เรื่องที่น่าขุ่นเคืองที่สุดก็คือเขามีเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นกระทิงแดงที่เธอโปรดปราน

ในเวลานี้ เมื่อเปรียบเทียบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเธอกับของเขา เธอก็รู้สึกทันทีว่าของเธอนั้นจืดชืด

หลินเจี้ยนกั๋ว: “อ่า ลูกชายที่ว่านอนสอนง่ายของฉันมีความสามารถ ดูเหมือนว่าในครอบครัวของเรา ลูกกำลังมีช่วงเวลาที่ดีที่สุด สถานการณ์เป็นยังไง? ลูกพบช่องโหว่เหรอ? บอกพ่อเร็วเข้า พ่อเป็นห่วงแทบตาย จะมีคลื่นซอมบี้ในเจ็ดวัน มันอันตรายเกินไป”

หลินเย่: “ผมพบปืน (ยักไหล่.jpg)”

หลังจากพูดจบ เขาก็ถ่ายรูปปืนพกเหยี่ยวทะเลทรายอีกรูปแล้วอัปโหลด

หลินเหว่ย: “บ้าไปแล้ว เสียงปืนที่พูดถึงกันในช่องภูมิภาคนั้นเป็นความจริง และพี่คือคนที่ได้รับมัน พระเจ้าไม่มีเหตุผลเลย! ทำไมจึงไม่ใช่ฉัน หญิงสาวผู้งดงามแห่งจักรวาลที่รู้ศิลปะการต่อสู้ มีพรสวรรค์มากมายที่ไม่มีใครเทียบได้ ไร้เทียมทาน ไร้พ่าย? ฉันไม่ยอมรับเรื่องนี้!!!! (ค้อนทุบหัว.jpg)”

จางชุ่ยหลิงกล่าว "เป่ยเป่ย แม้ว่าลูกจะมีปืนพก แต่ก็ประมาทไม่ได้ วันนี้ตอนที่กัปตันหวังฮุ่ยและคนอื่นๆ คุยกัน พวกเขาพูดถึงอะไรบางอย่าง”

“พูดกันว่าตอนนี้ซอมบี้ถูกแบ่งออกเป็นหลายเลเวล ที่เห็นได้ทั่วไปคือ ซอมบี้งุ่มง่ามเลเวล 1 ความสามารถในการเคลื่อนไหวช้ากว่าคนทั่วไป แต่เหนือกว่าในเรื่องจำนวน เลเวล 2 คือซอมบี้ปราดเปรียว ความเร็วและความแข็งแกร่งของพวกมันเหนือกว่าคนทั่วไป คนงานพื้นถิ่นเจ็ดหรือแปดคนยังสู้พวกมันไม่ได้”

“ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีซอมบี้อัจฉริยะสวมชุดสูทสีดำ ซึ่งอยู่ที่เลเวล 3 พวกมันเจ้าเล่ห์ ร้ายกาจ และเก่งในการลอบโจมตี ถ้ากัปตันหวังฮุ่ยไม่เปิดหีบสมบัติและได้รับเกราะสีน้ำเงิน เขาคงถูกพวกมันฆ่าตายไปแล้ว”

“ในท้ายที่สุด เขาได้สูญเสียคนงานพื้นถิ่นไปมากกว่าครึ่งก่อนจะหนีไปได้”

หลินเย่: “แม่ครับ ที่นั่นอันตรายมากไหมที่ต้องเผชิญหน้ากับซอมบี้เลเวล 3?”

เขาค่อนข้างตกใจ

ถ้ามีระบบจัดอันดับ เขาคงอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลกแน่นอน

อย่างไรก็ตาม แม้แต่เขาก็ไม่เคยพบซอมบี้เลเวล 3 เรื่องนี้ไม่สมเหตุสมผล!

—จบตอน—

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด