ตอนที่แล้วตอนที่ 56 การบำรุงรักษาทาส
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 58 ฆ่า

ตอนที่ 57 การต่อสู้


อาจเพราะเขาเห็นว่าสินค้าเหล่านี้เป็นของตัวเอง ออร์มันโดจึงทำหน้าที่ของเขาด้วยความจริงจังอย่างไม่น่าเชื่อ เขาลาดตระเวนบนหลังม้าทุกวัน

เมื่อเห็นสิ่งนี้ เฉินเหิงก็เพียงแค่ยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้

พวกเขาเดินทางต่อไป

เส้นทางของโลกนี้ค่อนข้างยากลำบากต่อการเดินทาง ซึ่งเส้นทางแบบนี้มีอยู่โดยทั่วไป

ในสังคมสมัยใหม่ เส้นทางที่ดีเปรียบเหมือนเส้นเลือดที่สามารถเพิ่มความเร็วการขนส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ลดอุปสรรคทางการค้าและส่งเสริมเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ปกครองของโลกนี้ การสร้างเส้นทางที่ดีอาจไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย แต่กลับกันมันอาจเป็นการเพิ่มอันตรายที่พวกเขาต้องเผชิญหน้าแทนได้

เส้นทางที่ดีหมายความว่าเวลาที่ศัตรูมาถึงก็จะลดลงเหมือนกัน เป็นการเพิ่มอันตรายที่คน ๆ หนึ่งจะต้องเผชิญ

ผู้ปกครองเหล่านี้ไม่เข้าใจเศรษฐศาสตร์และการค้ามากนัก แต่พวกเขาอ่อนไหวต่อภัยคุกคามทางทหารมาก

ดังนั้นนับประสาอะไรกับการสร้างเส้นทาง ผู้ปกครองบางคนถึงกับทำลายเส้นทางเพื่อทำให้ศัตรูโจมตีได้ยาก

จากจุดนี้ก็สามารถจินตนาการได้ว่าเส้นทางในโลกนี้เป็นอย่างไร

แม้ว่าจะไม่ใช่เส้นทางที่ดีนัก แต่เฉินเหิงและคนอื่น ๆ ก็ใช้เวลาเดินทางแค่สามหรือสี่วันก่อนที่จะเข้าใกล้ที่หมายในที่สุด

“เราใกล้จะถึงแล้ว…”

บารอนไคเซ็นพูดขึ้นว่า “ฉันเดินทางบนเส้นทางสายนี้ตั้งแต่ยังเยาว์วัย อีกไม่นาน เราก็จะไปถึงดินแดนของบารอนไมเลอร์”

“ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น เราน่าจะไปถึงได้ภายในสองสามชั่วโมง” บารอนไคเซ็นกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“บารอนไมเลอร์ส่งข่าวมาบอกว่าเขาจะพาคนมารับเราและพาเราไปที่บ้านของเขา” ชายหนุ่มคนหนึ่งกล่าวขึ้น

“ดี” สายตาของเฉินเหิงสงบในขณะที่เขายิ้มและพยักหน้า

เขากำลังขี่ม้าและในขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เขาก็หยุดและมองไปในทิศทางหนึ่งตามสัญชาตญาณ

ด้วยประสาทสัมผัสที่เฉียบแหลมของเขา เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่างจากระยะไกล

‘พวกเขาอยู่ที่นั่นเหรอ’

เขาสัมผัสได้ว่ามีกลุ่มคนดักรออยู่ข้างหน้า แต่สีหน้าของเขาก็ยังคงไม่เปลี่ยน

ต่อจากนั้นขบวนก็เดินทางต่อไป

อาจเป็นเพราะพวกเขาใกล้ถึงที่หมายแล้ว ทุกคนจึงเริ่มเคลื่อนไหวเร็วขึ้น พวกเขาอยากจะไปให้ถึงเร็ว ๆ และจะได้พักผ่อนเร็ว ๆ ด้วย

อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการเห็นก็เกิดขึ้น

บนเส้นทางเล็ก ๆ มีเสียงตะโกนดังมาจากระยะไกลพร้อมกับห่าฝนลูกธนู

ขณะที่เฉินเหิงกำลังเฝ้าดูอยู่ คนจำนวนมากที่สวมชุดเกราะหนังก็ออกมาจากพุ่มไม้และรีบมุ่งหน้ามาที่พวกเขา

“นั่นคือ… โจร?”

เมื่อเห็นตัวเลขแล้ว สีหน้าของบารอนไคเซ็นเริ่มมืดมน “เยอะขนาดนี้เลยเหรอ?”

จำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อ ดูเหมือนว่าจะมีประมาณ 300-400 คน

แม้ว่า 300-400 จะไม่ได้นับว่าใหญ่มาก แต่ในความเป็นจริง ในพื้นที่อาณาเขตแถว ๆ นี้ จำนวนนี้ถือว่ามาก

จากสิ่งที่เฉินเหิงรู้ แม้ว่าผู้ปกครองโดยรอบจะมีกองกำลังของตนเอง แต่ก็มีคนไม่มากนัก

สำหรับผู้ปกครองที่มีคน 300-400 นี่ก็นับว่าค่อนข้างทรงพลังเลยทีเดียว

บารอนไคเซ็นเองก็มีทหารเพียง 200 นายเท่านั้น

แน่นอน ผู้พิทักษ์ของเขาส่วนใหญ่เป็นนักรบที่แข็งแกร่ง และพวกเขาก็ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเทียบได้

โจรเหล่านี้สวมชุดเกราะหนังและมีหน้าไม้ พวกมันดูไม่เหมือนโจรป่าทั่วไป

สำหรับการเดินทางครั้งนี้ บารอนไคเซ็นได้นำทหารของเขาครึ่งหนึ่งมาด้วย ซึ่งมีประมาณ 100 คน

แม้จะรวมเข้ากับแรงงานที่ช่วยขนส่งสินค้า พวกเขาก็ยังมีคนรวมกันไม่ถึง 200 คน

บวกกับความจริงที่ว่าพวกเขาเดินทางมาระยะหนึ่งแล้วและใช้เรี่ยวแรงไปจนหมด และศัตรูก็ดักรอพวกเขาอยู่ที่นี่ ช่องว่างระหว่างพวกเขาก็ยิ่งมากขึ้นไปอีก

ใบหน้าของบารอนไคเซ็นเริ่มซีดแล้ว เมื่อมาถึงจุดนี้ เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น

เขาชักดาบและขี่ม้านำทหารผู้พิทักษ์พุ่งไปข้างหน้า

หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองฝ่ายก็ปะทะกัน

กองกำลังทั้งสองฝ่ายที่ปะทะกัน ทำให้บริเวณนี้กลายเป็นสนามรบ

เสียงโห่ร้องและเสียงฆ่าฟันดังไปทั่วบริเวณ และมีเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นเป็นครั้งคราว

เมื่อมองดูฉากนี้ สายตาของเฉินเหิงยังคงสงบ เขามองไปด้านหน้าอย่างเงียบ ๆ

ที่ด้านหน้า ออร์มันโดก็ต่อสู้กับพวกโจรเหมือนกัน

แน่นอน ไม่ใช่เพราะว่าเขากล้าหาญแต่เป็นเพราะเขาถูกบังคับให้ต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้

ก่อนหน้านี้เขาขี่ม้าอยู่ด้านนอกของกลุ่ม และเมื่อโจรพวกนั้นบุกเข้ามา เขาก็อยากจะหันหลังวิ่งไปทันทีแต่มันก็สายเกินไปแล้ว

ตอนนี้เขากำลังขี่ม้าและเผชิญหน้ากับโจรบนหลังม้า

แม้ว่าออร์มันโดจะไม่ค่อยแข็งแกร่งนัก แต่เขาก็เคยฝึกกับทหารมาก่อนและพอมีรากฐานอยู่บ้าง นอกจากความสามารถในการขี่ม้าที่ดีของเขาแล้ว ตอนนี้เขาก็ยังคงยืนหยัดอยู่ได้

อย่างไรก็ตามมันก็แค่นั้น

สำหรับพวกโจร จากการสังเกตุของเฉินเหิง พวกมันก็ค่อนข้างธรรมดาเหมือนกัน

บางทีสำหรับผู้ปกครองธรรมดาอย่างบารอนไคเซ็น พวกมันอาจเป็นคนมีฝีมือ แต่สำหรับเฉินเหิงพวกมันไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อะไรเลย

เขาขี่ม้าไปข้าง ๆ บารอนไคเซ็น สายตาของเฉินเหิงสงบ เขายกมือขึ้นส่งสัญญาณอย่างเงียบ ๆ

ถัดจากเขา ลูกน้องของเขาเข้าใจทันทีและยกธงเล็ก ๆ ขึ้น

บนธงคือตราประจำตระกูลของเฉินเหิง

ทันใดนั้น ทาสเผ่าขนดำที่ซ่อนตัวอยู่หลังรถม้าก็รีบวิ่งไปที่รถม้าคันหนึ่งอย่างตื่นเต้นและหยิบอาวุธออกมา

เมื่อมีทหารคอยปิดกั้นกลุ่มโจรไว้ พวกเขาก็สามารถหยิบอาวุธออกมาได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย เสร็จแล้วพวกเขาก็รีบพุ่งไปที่ด้านหน้าเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้

เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์แบบนี้ เฉินเหิงจึงให้ทุกคนสวมชุดเกราะหนังไว้ก่อนหน้านี้แล้ว การทำแบบนี้จะช่วยประหยัดเวลาได้มาก

ผู้พิทักษ์ของบารอนไคเซ็นก็เหมือนกัน

ปัจจุบันมีเพียงสองคนที่ไม่ได้สวมชุดเกราะ คือบารอนไคเซ็นและออร์มันโด

สำหรับบารอนไคเซ็น นั่นเป็นเพราะร่างกายของเขาผอมและค่อนข้างอ่อนแอ เขาไม่สามารถแม้แต่จะสวมชุดเกราะเบาได้ ดังนั้นเขาจึงไม่สวมชุดป้องกันใด ๆ

สำหรับออร์มันโด มันเป็นเพราะเขาดูถูกเฉินเหิง

เขาไม่ชอบเฉินเหิงมาโดยตลอดและยังดูถูกเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ฟังคำแนะนำของเฉินเหิง

พวกเขากำลังจะไปถึงอาณาเขตของบารอนไมเลอร์ แล้วการสวมชุดเกราะที่ทั้งหนักและอึดอัดจะมีประโยชน์อะไร? นี่คือสิ่งที่เขาเคยพูดไว้

ในเมื่อเขาพูดแบบนี้ เฉินเหิงก็เพียงแค่ยิ้มและไม่ได้พูดอะไรอีก

เฉินเหิงสงสัยว่าตอนนี้เขาจะรู้สึกเสียใจไหม

ในขณะนี้ เขาก็เงยหน้าขึ้นและมองไปข้างหน้าก่อนที่จะชักดาบออกมา และพุ่งเข้าไปเข้าร่วมการต่อสู้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด