ตอนที่แล้วEp.360 - สร้างโชคในสงคราม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.362 - ปฏิบัติการลอบสังหาร

Ep.361 - กองทัพพันธมิตรสามเมือง


2/3

Ep.361 - กองทัพพันธมิตรสามเมือง

ณ เมืองทรายดำ

เนลูฟื้นคืนชีพ

หลังจากเหล่าก็อบลินหมีระดับสูงตัวอื่นๆที่ยังคงประจำการอยู่ในเมืองทรายดำได้รู้ถึงความพ่ายแพ้ของกองทัพ พวกมันต่างมองหน้ากันอย่างไม่เชื่อสายตา

ก่อนหน้านี้เมืองหุบเขาเดียวดายยังอาศัยการคุ้มครองจากขุนนางใหญ่เพื่อความอยู่รอดอยู่เลย

มันคือหนึ่งในดินแดนเล็กที่อ่อนแอที่สุดภายในอาณาเขตของเมืองธารทะเลทราย

เช่นนั้นแล้วไฉนจู่ๆถึงมีพลังขึ้นมาได้?

ถึงขั้นสามารถโค่นกองทัพของท่านขุนนาง

รู้อะไรไหมว่า

แม้เนลูจะดูแคลนเมืองหุบเขาเดียวดายมาก แต่มันไม่ได้ประมาทเสียทีเดียว

ครั้งนี้ยกกองทัพทหารไปมากถึง 1,600 นาย!

และกองทัพเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นชนชั้นยอด!

เอาจริงๆแค่นี้ก็ให้ความรู้สึกเหมือนเอามีดฆ่าวัวไปเชือดไก่แล้ว

แต่ทำไมถึงลงเอยด้วยการสูญเสียทหารทั้งหมด?

เนลูรู้สึกโกรธตัวเองอย่างเห็นได้ชัดกับความพ่ายแพ้ครั้งนี้

แม้เขาจะใช้กริชแห่งการถือกำเนิดใหม่ เพื่อลดทอนการสูญเสียให้น้อยที่สุดก็ตาม

แต่หลังสิ้นสงคราม

กองกำลังของเมืองทรายดำเสียหายไปเกือบครึ่ง

จำเป็นต้องใช้เวลาในการสร้างทหารใหม่

ซึ่งปริมาณของวัสดุที่ใช้สร้างทหารน่ะเป็นอะไรที่สิ้นเปลืองมาก และนี่เท่ากับว่าเมืองทรายดำอาจต้องสูญเสียรายได้ตลอดทั้งปี จึงเป็นธรรมดาที่เนลูจะโกรธเกรี้ยว!

รองขุนนางกล่าวขึ้น “พลังรบของเมืองหุบเขาเดียวดายแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก พวกเราควรบอกต่อข่าวนี้หรือไม่?”

“เจ้าโง่! บอกต่อ? ทำไมพวกเราต้องบอกต่อด้วย!” เนลูถลึงมองรองขุนนาง “ไม่ใช่แค่ไม่ปล่อยข่าว แต่พวกเราจะยังเก็บมันเป็นความลับไม่ให้เมืองอื่นรู้!”

ก็อบลินหมีสมองไม่ค่อยดี

แม้บางตัวจะสามารถเปิดภูมิปัญญาได้แล้ว แต่เรื่องไหวพริบบางครั้งก็ยังไม่มี

รองขุนนางใช้เวลาคิดอยู่นาน ในที่สุดก็เข้าใจความต้องการของเนลู

หากเรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกไป ขุนนางตนอื่นๆจะรู้ว่าเมืองทรายดำสูญเสียกองกำลัง แบบนั้นไม่เท่ากับทำให้พวกตนตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายหรือ?

ความสัมพันธ์ระหว่างขุนนางเล็กเดิมทีก็ไม่ดีอยู่แล้ว

แม้แต่ขุนนางเผ่าเดียวกันก็ยังมีความแคลงใจซึ่งกันและกัน

เมืองทรายดำใช่ว่าจะไม่มีศัตรูเลย เช่นนั้นจะเกิดอะไรขึ้นหากมีคนฉวยโอกาสจากเชื้อไฟที่กำลังปะทุขึ้นในตอนนี้?

เนลูกล่าว “ระหว่างปิดข่าว พวกเราจะกระจายข้อมูลปลอมออกไปยังเมืองเตาหลอมศิลากับเมืองขุนเขาเหล็ก พูดไปว่าพวกเราประมาท ทำให้เมืองทรายดำสูญเสียทหารไป 500 นาย และสมาชิกระดับสูง 5 คนโดยไม่ตั้งใจ แต่ก็ทำให้พลังรบของเมืองหุบเขาเดียวดายบาดเจ็บล้มตายไปมากเช่นกัน และตอนนี้เมืองหุบเขาเดียวดายกำลังพักฟื้นจากความสญูเสีย”

รองขุนนางกล่าวทันทีว่า “ท่านต้องการยั่วยุเมืองเตาหลอมศิลากับเมืองขุนเขาเหล็กให้โจมตีเมืองหุบเขาเดียวดายอย่างงั้นหรือ?”

เนลูพยักหน้า “ทั้งสองเมืองนี้ไม่ได้มีพลังรบมากไปกว่าพวกเรา ถ้าบุกโจมตีเมืองหุบเขาเดียวดาย ผลลัพธ์ไม่น่าจะดีไปกว่าพวกเรา”

รองขุนนางเริ่มงงอีกครั้ง “แต่ทำแบบนั้นจะมีประโยชน์อะไรกับพวกเรา? ถึงการที่พลังรบของเมืองเตาหลอมศิลากับเมืองขุนเขาเหล็กลดลงจะช่วยลดแรงกดดันของขุนนางเล็กในดินแดนรอบๆพวกเราได้ แต่มันก็จะช่วยให้เมืองหุบเขาเดียวดายทำกำไรจากสงครามเช่นกัน”

เนลูกล่าว “ข้าไม่เชื่อใจขุนนางตนอื่น ในเมื่อใครๆก็อยากยึดเมืองหุบเขาเดียวดาย เช่นนั้นต้องให้พวกมันรู้ว่าอีกฝ่ายกระดูกแข็งเสียก่อน แบบนี้พวกมันถึงจะยอมร่วมมือกับข้าจริงๆ”

“สำหรับทรัพยากรที่เมืองหุบเขาเดียวดายกินเข้าไป? ถึงเวลาพอพวกเรายึดได้มันก็คายออกมาเอง!”

รองขุนนางพยักหน้าซ้ำๆ

พลังรบของเมืองหุบเขาเดียวดายน่าจะอยู่ที่กำลังทหารประมาณ 3000 - 4000 นาย

เมืองเช่นนี้

เว้นเสียแต่จะช่วยกันรุม มิฉะนั้นอย่าหวังว่าจะทะลวงได้

เมืองเตาหลอมศิลากับเมืองขุนเขาเหล็กยังไงก็พ่ายแพ้แน่นอน

หลังจากนั้นพวกมันจะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากมานั่งคุยกันดีๆ แล้วตกลงแบ่งผลประโยชน์กัน

ขุนนางแห่งเมืองหุบเขาเดียวดายไม่เหมือนกับเมืองอื่นๆ เขาเป็นเผ่าพันธุ์ใหม่ที่มาจากภายนอก ยังไม่มีการติดต่อสื่อสารจากพื้นที่ใกล้เคียง

ดังนั้นเนื้อชิ้นนี้ปลอดภัยที่จะกิน กินแล้วไม่ส่งผลข้างเคียงใดๆ

หากเผ่าพันธุ์เดียวกินไม่ไหว

ถ้างั้นก็เรียกอีกสองเผ่าพันธุ์มากินด้วยกัน!

...

และผลปรากฏว่า

การคาดเดาของเนลูถูกต้องจริงๆ

ในช่วงสองวันถัดมา เมืองหุบเขาเดียวดายก็ถูกโจมตี

กองทัพแรกคือคนแคระเทาแห่งเมืองเตาหลอมศิลา

ต่อมาเป็นมนุษย์หมูป่าแห่งเมืองขุนเขาเหล็ก

กองทหารที่พวกมันส่งมานั้นมีจำนวนพอๆกับเมืองทรายดำ และผลลัพธ์ก็คล้ายกัน พวกมันสูญเสียสมุนทหารทั้งหมด และระดับสูงเกือบทั้งหมดถูกล้างบาง

พลังรบของเมืองหุบเขาเดียวดาย กลายเป็นที่ประจักษ์อีกครั้ง

เผ่าพันธุ์ใหม่ที่พึ่งมาถึง สามารถลุกขึ้นยืนหยัดได้ในช่วงเวลาสั้นๆ

ทั้งยังมีพลังรบและกำลังพลที่แก่กล้า

นี่แสดงว่าพวกเขาคือเผ่าพันธุ์ที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!

การปรากฏตัวของพวกเขาได้กลายเป็นศัตรูของขุนนางรอบด้านทันที

รองขุนนางก็อบลินหมีก้าวเข้ามาและพูดว่า “เป็นอย่างที่ท่านขุนนางคิดจริงๆ เมืองเตาหลอมศิลากับเมืองขุนเขาเหล็กได้รับความสูญเสียอย่างหนัก ตอนนี้ใช้ทูตส่งสารมาหาพวกเราเพื่อหารือเกี่ยวกับสงครามร่วมมือยึดเมืองหุบเขาเดียวดาย”

เนลูพยักหน้า “บอกผู้ส่งสารให้รายงานกลับไปว่า ตราบใดที่ขุนนางทั้งสองเต็มใจส่งกำลังพลเต็มจำนวนไปพร้อมกัน แล้วบุกโจมตีเมืองหุบเขาเดียวดาย พวกเราเมืองทรายดำยินดีร่วมมือ”

ไม่นาน

ขุนนางเล็กทั้งสามก็บรรลุข้อตกลง

เมืองหุบเขาเดียวดายและเผ่าพันธุ์ใหม่ข้างในทำให้พวกมันประสบความพ่ายแพ้ที่น่าอับอาย ยิ่งไปกว่านั้นยังสร้างแรงกดดันในการดำเนินชีวิต

ในโลกวิญญาณ ผู้อ่อนแอจำต้องก้มหัวให้ผู้เข้มแข็ง

เป็นการยากที่จะบอกว่าเมืองหุบเขาเดียวดายจะแก่กล้าเพียงใดในอนาคต

และด้วยพลังรบที่พวกเขาแสดงออกมาตอนนี้ มันไม่ด้อยไปกว่าสามเมืองเลย หากยังสามารถพัฒนาต่อไปอีกสักสามสี่ปีจะเกิดอะไรขึ้น?

เผ่าพันธุ์ใหม่นี้มิอาจอยู่ต่อไป ต้องรีบกำจัดให้เร็วที่สุด!

เพื่อการนี้

สามขุนนางเล็กมาพบกัน

และลงนามสัญญาอย่างรวดเร็ว

ก่อตั้งพันธมิตร ร่วมกันโจมตีเมืองหุบเขาเดียวดาย!

...

ณ เจียงเฉิง

ฮังอวี่เปิดกระทู้

และพบว่ากระทู้ร้อนแรงที่สุดในรอบ 2 วันที่ผ่านมา เป็นการเสวนาเกี่ยวกับการต่อสู้ปกป้องเมืองหุบเขาเดียวดาย

เนื่องจากก็อบลินหมีล้มเหลวในการบุกยึด จากนั้นเมืองหุบเขาเดียวดายถูกบุกโจมตีอีกสองครั้งติดต่อกัน

ทว่า

ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม

เมืองหุบเขาเดียวดายบดขยี้คู่ต่อสู้และกุมความได้เปรียบได้อย่างแท้จริง

แม้การสูญเสียของพวกคนแคระเทาจากเมืองเตาหลอมศิลากับพวกมนุษย์หมูป่าในเมืองขุนเขาเหล็กจะไม่ร้ายแรงเท่าเมืองทรายดำ

แต่พวกมันก็ยังสูญเสียทหารหลักพันนายและสมาชิกระดับสูงไปหลายตน

ชัยชนะสามครั้งติด!

ขวัญกำลังใจของเมืองหุบเขาเดียวดายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ทุกวันนี้ทุกคนเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้!

ในครั้งแรกที่ทำสงครามกับก็อบลินหมี เหล่าทีมอื่นๆที่ไม่ใช่มังกรครามยังระวงอยู่บ้างและไม่กล้าที่จะออกไป

แต่เมื่อศึกครั้งที่สองมาถึง เหล่าผู้คนที่ครั้งแรกเหนียมกลัว แต่ละคนราวกับสุนัขบ้า ตะเกียกตะกายออกไปฆ่าศัตรูทุกตนที่ขวางหน้า

ทรัพยากรและอุปกรณ์ทั้งหมดจะถูกแจกจ่ายตามผลงาน

ตราบใดที่ฆ่าศัตรู คุณก็จะได้รับรางวัล

ปัจจุบันทุกคนต่างเฝ้ารอที่จะเผชิญหน้ากับเหล่าขุนนางเล็ก ไม่เพียงเมืองหุบเขาเดียวดายไม่กลัว ตรงกันข้าม พวกเขาพร้อมอ้าแขนต้อนรับศัตรูทุกตนด้วยความยินดี

และเนื่องจากเมืองหุบเขาเดียวดายคือดินแดนมนุษย์แห่งแรกในโลกวิญญาณ ดังนั้นการต่อสู้ที่เกิดขึ้นจึงได้รับความสนใจจากทั่วโลก

และชัยชันทั้งสามครั้งของเมืองหุบเขาเดียวดาย มีผลจูงใจมหาศาลต่อมนุษย์ทั้งหมดทั้งมวล

ทุกวันนี้หากเปิดกระทู้ โดยทั่วไปก็จะพบกับพาดหัวข่าวประมาณว่า

《ชัยชนะสามครั้งติด มังกรครามช่างยอดเยี่ยม!》

《บอสฮังทรงพลัง ทหารของเขาก็ทรงพลังไม่แพ้กัน!》

《นี่มันจะน่าตื่นเต้นเกินไปแล้ว! บอสฮังสู้สู้! ไอ้เจ้าพวกต่างถิ่น อย่าคิดว่าจะได้ช่วงชิงดินแดนใหม่ของพวกเรา!》

《ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่มีชื่อเสียงในด้านการวิจัยโลกวิญญาณกล่าวว่า “การตั้งอาณานิคมในโลกวิญญาณไม่ควรเร่งรีบ วิธีการของเมืองหุบเขาเดียวดายก้าวร้าวเกินไป อาจดึงดูดความสนใจจากขุนนางใหญ่ได้ ความพ่ายแพ้ของพวกเขาใกล้มาถึงแล้ว》

《ฟิ้ว~ เมืองหุบเขาเดียวดายล่วงเกินขุนนางมากเกินไป ในฐานะต้นไม้ต้นเดียวในแคว้นเดียวดาย จะยืนอยู่ได้สักกี่น้ำกัน?》

...

มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

ในเน็ตมีทั้งความคิดเห็นเชิงบวกและเชิงลบเกี่ยวกับฮังอวี่และเมืองหุบเขาเดียวดาย

แน่นอน

ฮังอวี่ยังเป็นที่นิยมมาก ตำแหน่งยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงที่สุดในจีนยังคงเป็นของเขา   และเมืองหุบเขาเดียวดายนับแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ ยังคงได้รับชัยชนะยิ่งใหญ่มาตลอดทาง ข้อความในเน็ตจึงล้นหลามไปด้วยคำสรรเสริญซะส่วนใหญ่

สำหรับคนที่มองต่าง และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญบางคน

ฮังอวี่ไม่แม้จะกดเข้าไปดู

เขามีกลยุทธ์ของตัวเองสำหรับโลกวิญญาณ

แล้วอีกอย่าง นับตั้งแต่วินาทีที่เข้าสู่อาณาจักรมังกรโลกา เขาไม่มีตัวเลือกมากนัก

เนื่องจากประชากรมนุษย์ในเมืองหุบเขาเดียวดายมีมากทุกวัน

ดังนั้นเรื่องขัดแย้งกับขุนนางใหญ่ยังไงก็ต้องเกิดขึ้น

ขุนนางใหญ่ไม่มีวันยอมให้เผ่าพันธุ์ไหนลุกขึ้นมามีอำนาจในดินแดนของตน ความขัดแย้งระหว่างฮังอวี่กับคาลิมัวไม่ใช่สิ่งที่อาจประนีประนอมได้

ฮังอวี่ต้องเข้ายึดครองดินแดนหลายแห่งติดต่อกันในเวลาที่สั้นที่สุด

ในขณะที่เมืองธารทะเลทรายยังไม่รู้ตัว เขาจะยึดหลายเมืองรวดเดียวเพื่อแบ่งแยกอาณาเขตและตั้งเมืองหุบเขาเดียวดายเป็นศูนย์กลาง

ความท้าทายต่อไปเป็นเรื่องจริงจังมาก!