ตอนที่แล้วยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 324 สงครามระหว่างดินแดน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 326 ภัยพิบัติของจักรพรรดิอมตะ

ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 325 สร้างพิภพของตัวเอง


สีหน้าของจักรพรรดิอมตะเฮ่ยยูเปลี่ยนสีไปในทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันเย็นยะเยือก และเต็มไปด้วยจิตสังหารที่เข้มข้น เขานั้นถูกแรงที่มองไม่เห็นกดทับร่างเอาไว้ไม่ให้เคลื่อนไหวได้!

“เดี๋ยวก่อนใต้เท้า!!  ใต้เท้าหวู่ตี๋โปรดเมตตา ยกโทษให้ข้าน้อยด้วย ท่านใต้เท้าหวู่ตี๋!!”

จักรพรรดิอมตะเฮ่ยยูร้องออกมาด้วยความกลัว

เขาไม่รู้ว่าไปพูดอะไรที่ทำให้ตัวตนนี้ไม่พอใจเข้า กลายเป็นว่าตอนนี้เขาไปยั่วยุโทสะของจักรพรรดิรู้แจ้งเข้าให้แล้ว  และรู้ดีว่าพูดแก้ตัวอะไรไปมากกว่านี้ก็ไม่อาจจะช่วยได้ มีเพียงต้องก้มหน้ายอมรับความผิดอย่างเดียวถึงจะพอเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ได้!

“เหตุผลที่พิภพยักษ์ต้องการให้เกิดสงครามคืออะไร”

เสียงของซู่เสี่ยวไป่ที่ถามออกมานั้นดังกังวาลไปทั่ว

ซู่เสี่ยวไป่เองยังรู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลอยู่

ไม่ว่าจะดินแดนบรรพกาล และดินแดนกว้างใหญ่ หรือดินแดนอมตะ ทั้งหมดล้วนเป็นดินแดนใต้การปกครองของพิภพราชันย์ แต่ทำไมจักรพรรดิอมตะเฮ่ยยูถึงได้รับภารกิจให้มาก่อสงครามภายในด้วย มันไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างดินแดนแล้ว แต่เป็นสงครามระหว่างพิภพ

คลื่นใต้น้ำกำลังก่อตัวขึ้น ซู่เสี่ยวไป่รู้สึกถึงรางร้าย

“สิ่งนั้น…..”

จักรพรรดิอมตะเฮ่ยยูนั้นแสดงท่าทีหนักใจอย่างมาก และน้ำเสียงเต็มไปด้วยความสั่นกลัว แม้จะอยู่ใต้การปกปิดของเสื้อคลุมดำแล้วก็ตาม แต่ก็ยังสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน

เขานั้นคิดผิด

จักรพรรดิหวู่ตี๋ผู้นี้ไม่ได้เป็นพวกเดียวกับเขาตั้งแต่แรก ตัวตนนี้แค่ผ่านมาเฉยๆ เขาไม่ได้ถูกส่งมาจากพิภพยักษ์!

“พิภพยักษ์ต้องการทำอะไร!!”

เสียงของซู่เสี่ยวไป่ดังขึ้นพร้อมกับกระชากร่างของจักรพรรดิอมตะเฮ่ยยูเข้ามาในมือ ก่อนที่จะใช้ดาบมิติตัดแขนของเขา!

“อ้าา!!!  ใต้เท้าหวู่ตี๋ได้โปรดเมตตา ข้าพูดไม่ได้ ข้าสาบานต่อวิถีสวรรค์ไปแล้ว !!!”

จักรพรรดิอมตะเฮ่ยยูร้องตอบกลับมาอย่างเจ็บปวด

“พูดก็ตาย ไม่พูดก็ตายอยู่ดี!”

เกิดประกายแสงสีแดงวาบขึ้นที่นัยน์ตาของซู่เสี่ยวไป่ ก่อนที่แสงนั้นจะเจาะเข้าไปในดวงตาของจักรพรรดิอมตะเฮ่ยยู พริบตาเดียวจิตวิญญาณของจักรพรรดิอมตะเฮ่ยยูก็แหลกสลายลงไปในพริบตา

กลิ่นไอและพลังชีวิตของจักรพรรดิอมตะเฮ่ยยูนั้นค่อยๆ จางหายไป ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะถูกดูดเข้าไปในพื้นที่หมุนเวียนในคลิกเดียวเพื่อแปลเปลี่ยนเป็นเงิน

คำสาบานต่อวิถีสวรรค์ไม่อาจจะฝ่าฝืนได้

ทำให้ซู่เสี่ยวไป่ไม่สามารถล้วงเอาข้อมูลสำคัญๆ อะไรออกมาจากปากของจักรพรรดิอมตะเฮ่ยยูได้เลย ทำให้การจัดการตัวตนนี้เลยดูท่าจะง่ายกว่า

“ใต้เท้าหวู่ตี๋ข้านั้นไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาด้วย โปรดเมตตา!”

จักรพรรดิอมตะซวนบูนั้นเมื่อเห็นฉากนี้เขาสั่นสะท้านไปทั้งตัวด้วยความกลัว จนวิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่าง

จักรพรรดิอมตะเฮ่ยยูนั้นเป็นถึงจักรพรรดิแห่งความกลัวชั้น 7 ที่ทรงพลัง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าจักรพรรดิรู้แจ้ง ก็ไม่ต่างจากมดหนอนแมลง ที่จะฆ่าเมื่อไหร่ก็ได้

มันเป็นช่องว่างระหว่างเขตแดนของจักรพรรดิแห่งความกลัวกับจักรพรรดิรู้แจ้ง

“นอกจากท่าน ที่เขามาเชิญชวนด้วยแล้ว ยังมีดินแดนไหนอีกที่เขาไปมา”

ซู่เสี่ยวไป่เหลือบมองไปยังจักรพรรดิอมตะซวนบู

“เรียนใต้เท้า มีดินแดนมัจฉา ดินแดนขวานเสี้ยว ดินแดนจ้าวผกาย…..และดินแดนอาภรมายาทั้งหมด 7 ดินแดน”

จักรพรรดิอมตะซวนบูนั้นกล่าวยังรวดเร็ว

“เจ็ดดินแดนที่รวมหัวกัน โจมตีสามดินแดน ทำไมถึงต้องใช้กำลังมากกว่าถึงขนาดนี้ ผมรู้ถึงความแข็งแกร่งของดินแดนบรรพกาล แต่ดินแดนอมตะนั้นทรงพลังขนาดไหน?”

ซู่เสี่ยวไป่ถามต่อด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“ใต้เท้าหวู่ตี๋ ที่ดินแดนอมตะนั้นมีกึ่งจักรพรรดิรู้แจ้งปกครองอยู่ และภายใต้การนำของกึ่งจักรพรรดิรู้แจ้งยังมีจักรพรรดิแห่งความกลัวอีกมากมาย เป็นดินแดนที่ทรงพลังอย่างมาก”

จักรพรรดิอมตะซวนบูรีบตอบกลับทันที

“ดินแดนอมตะนั้นถือว่าแข็งแกร่งมาก แต่ดินแดนกว้างใหญ่นั้นอ่อนแอที่สุดในสามดินแดน”

ซู่เสี่ยวไป่เมื่อได้ยินก็ถึงกับเลิกคิ้วขึ้น

เขารู้มาว่าดินแดนกว้างใหญ่นั้นอ่อนแอมาก เพราะไม่ว่าจะดินแดนไหน ก็ต่างมีตัวตนจักรพรรดิแห่งความกลัว มีเพียงดินแดนกว้างใหญ่ที่ไร้ตัวตนระดับจักรพรรดิแห่งความกลัว ที่ดินแดนนี้ยังรอดมาถึงทุกวันนี้ได้ก็เรียกว่าปาฏิหาริย์มากแล้ว

ตอนนี้ซู่เสี่ยวไป่เริ่มจะเข้าใจเรื่องของสิ่งต่างๆ มากขึ้นแล้ว

อย่างที่จักรพรรดิอมตะชิงบอก

พิภพเล็ก มีเพียง 30 ดินแดนในการปกครอง

พิภพใหญ่ มี 300 ดินแดน

พิภพพันภพ ปกครอง 3,000 ดินแดน

พิภพหมื่นภพ ปกครอง 30,000 ดินแดน

นอกจากความแตกต่างของขุมอำนาจและพลังของดินแดนแล้ว ยังมีความต่างของระหว่างพิภพอีก ดินแดนกว้างใหญ่นั้นห่างไกลกับพิภพอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นเศษเสี้ยวเล็กๆ ของพิภพหนึ่งเท่านั้น

หากว่าดินแดนอื่นไม่ได้ติดศึกของตัวเองปานี้ดินแดนกว้างใหญ่คงหายไปแล้ว

“พิภพยักษ์นั้นมีเจตนาจะยุแยงให้เกิดสงครามภายในพิภพราชันย์งั้นหรอ”

ซู่เสี่ยวไป่ยังถามต่อ

พิภพราชันย์ และพิภพยักษ์นั้นอยู่ในระดับเดียวกัน

เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นใต้จมูกพิภพราชันย์ได้อย่างไร ทั้งที่ทั้งสองพิภพดูแล้วไม่ได้กำลังเปิดศึกกัน?

“ใต้เท้าหวู่ตี๋ ท่านไม่ทราบจริงๆ งั้นหรอว่าพิภพราชันย์นั้นตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่มานานแล้ว จนไม่อาจจะปกครองดูแลตัวเองได้เลยด้วยซ้ำ ตอนนี้ไม่ใช่แค่พิภพยักษ์เพียงพิภพเดียวที่กำลังจ้องจะเล่นงานพิภพราชันย์ แต่ยังมีพิภพอื่นอีกที่อยู่รอบๆ ที่คิดจะบุกรุกพิภพแห่งนี้!”

จักรพรรดิอมตะซวนบูพูดขึ้นอย่างจริงจังด้วยน้ำเสียงขื่นขม

“ว่ากันว่าจักรพรรดินีหลิงทิงนั้นได้ต่อสู้ต้านทานกับกองกำลังจากนอกพิภพหลายต่อหลายคนด้วยตัวคนเดียว จนนางนั้นสูญเสียอย่างหนัก ทำให้จักรพรรดินีหลิงทิงนั้นถึงกับต้องออกตามหาจิตวิญญาณที่เหมาะสมไปทั่วพิภพ เพื่อให้กำเนิดบุตรจักรพรรดิจิตอมตะ เพื่อเป็นผู้สืบทอดของนาง”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ทำให้หัวใจของซู่เสี่ยวไป่รู้สึกถูกบีบคั้นอย่างบอกไม่ถูก

เขารู้ดีว่ามันคือผลของสายสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจากจิตวิญญาณของเขา ที่รู้สึกผูกพันกับบุตรจักรพรรดิจิตอมตะกับจักรพรรดินีหลิงทิง ทำให้เขารู้สึกราวกับถูกขยี้หัวใจเมื่อรู้เรื่องนี้เข้า

“เรื่องนี้เกิดขึ้นมาช้านานแล้ว และเป็นปัญหาใหญ่ของพิภพราชันย์”

ซู่เสี่ยวไป่ได้แค่คิดอยู่เงียบๆ

เขาคิดว่าพิภพราชันย์สงบสุข แต่แท้จริงแล้วมันเป็นเพียงแค่บรรกาศก่อนที่จะเกิดพายุโหมกระหน่ำเท่านั้น สงครามระหว่างพิภพนั้นเมื่อเกิดขึ้นจะกินเวลาเป็นพันๆ ปี และวัดกันด้วยกำลังทั้งหมดที่มี

เพราะงั้นในระยะเวลาเดือนสองเดือน หรือปีสองปีมันไม่อาจจะเห็นผลอะไรชัดเจน

อย่างเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้

ที่เห็นว่าพิภพยักษ์กำลังรวบรวมดินแดนอื่นจากพิภพราชันย์ให้เริ่มโจมตีดินแดนอมตะ ดินแดนบรรพกาล รวมไปถึงดินแดนกว้างใหญ่ด้วย เขาคิดว่ามันพึ่งจะเกิดขึ้นแต่แท้จริงแล้วสงครามมันเกิดขึ้นมานานเป็นพันๆ ปีแล้ว

แล้วสำหรับซู่เสี่ยวไป่ที่พึ่งมาถึง เขาจะไปรู้เรื่องได้อย่างไร

ต่างจากเหล่าจักรพรรดิอมตะคนอื่นๆ ที่อยู่มาเป็นล้านๆ ปี พวกเขานั้นรู้ว่ามันใกล้ถึงจุดเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้ว

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจักรพรรดินีหลิงทิงถึงรีบร้อนเดินทางไปทั่ว 33 ดินแดนเพื่อตามหาจิตวิญญาณที่เหมาะสมให้กำเนิดทายาทของตัวเอง

“นานแค่ไหนกว่าที่สงครามจะเริ่มเปิดฉากขึ้น”

ซู่เสี่ยวไป่ถามต่อ

“ใต้เท้าหวู่ตี๋ ข้านั้นไม่อาจจะรู้ได้ แต่หากดูจากการกระทำของพิภพยักษ์แล้ว ที่พยายามติดต่อรวบรวมดินแดนอื่นๆ เข้าด้วยกัน ข้าเกรงว่า คงอีกไม่นานสงครามก็จะเปิดฉากขึ้น”

เวลานั้นกระชั้นเข้ามาเรื่อยๆ ไม่ช้าพิภพราชันย์จะกลายเป็นสมรภูมิระหว่างหลายพิภพที่บุกเข้ามาพร้อมกัน!

“แต่ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีเหมือนกัน…”

ซู่เสี่ยวไป่พูดขึ้นเบาๆ พร้อมกับแสยะยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ แววตาเต็มไปด้วยความละโมบ

หากว่าเขาบอกเรื่องนี้กับจักรพรรดิอมตะหลงฟู่ เขาคงตกใจอย่างมาก และรีบกลับไปยังดินแดนกว้างใหญ่ทันที สงครามระหว่างพิภพนั้น เขตแดนจักรพรรดิโกลาหลนั้นไม่ต่างจากก้อนเนื้อบินได้เท่านั้น และเป็นอาหารให้กับผู้แข็งแกร่ง

เพราะในพิภพนั้นเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดที่ทรงพลัง แม้แต่จะป้องกันตัวเองยังเป็นเรื่องที่ยาก หากว่าพวกเขาคิดจะเข้าร่วมสงครามด้วยไม่ต่างจากเดินเข้าสู่ลานประหารด้วยตัวเอง

แต่สำหรับซู่เสี่ยวไป่แล้วถือว่าเป็นเรื่องดี

เพราะว่าเมื่อเกิดสงครามหมายถึงอะไร?

คนตาย ศพ วิชา ยุทธภัณฑ์ และสมบัติต่างๆ มากมายที่เหล่าจักรพรรดิอมตะถือครองอยู่ จะมารวมตัวกัน!

ตอนนี้เขานั้นมีกองกำลังร่างเงาที่ทรงพลังมากๆ

เรื่องแค่นี้ไม่ทำให้เขาสะเทือนหรอก

สงครามระดับดินแดนนั้นเขาไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เขาสนใจสงครามระหว่างพิภพมากกว่า!

ทั้งเขตแดนจักรพรรดิสะท้านภพ และเขตแดนบรรพชน จะก็ปรากฏตัวขึ้น

“เข้าใจแล้ว”

“เจ้าเจ็ด ออกมานี้”

ซู่เสี่ยวไป่เรียกร่างเงาออกมา

“ตะ–ใต้เท้าสองคน!”

สิ่งนี้ทำให้จักรพรรดิอมตะซวนบูตกตะลึง

เพราะอยู่ๆ ก็มีตัวตนที่มีกลิ่นไอและกระแสพลังแบบเดียวกับจักรพรรดิอมตะหวู่ตี๋ปรากฏขึ้นมาอีก

“จักรพรรดิอมตะซวนบู ท่านจงไปบอกกับดินแดนทั้งเจ็ดที่รวมหัวกันตามคำเชิญชวนของพิภพยักษ์ ว่าให้ทุกคนยอมจำนนต่อดินแดนกว้างใหญ่ซะ!”

“และรวมถึงดินแดนอาภรมายาของท่านด้วย ต่อไปนี้ดินแดนทั้ง 7 ดินแดนจะไม่ได้อยู่ใต้การปกครองของพิภพราชันย์อีกแล้ว แต่จะอยู่ใต้การปกครองของพิภพสุขาวดี!!”

(ที่จริงพระเอกมันตั้งชื่อว่าพิภพขาว มาจาก 1 ตัวอักษรของชื่อตัวเอง)

แววตาของซู่เสี่ยวไป่ส่องเป็นประกายและมุ่งมั่นอย่างมาก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด