ตอนที่แล้วตอนที่ 26 ยืนเชิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 28 ยืนเชิด

ตอนที่ 27 ยืนเชิด-2


ทุกคนต่างก็ปีนขึ้นไปอย่างสุดกำลัง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ติด1 ใน 40 อันดับแรก แต่พวกเขาก็ไม่ต้องการที่จะกลายเป็นตัวตลกที่อยู่ที่โหล่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่ศิษย์ทุกคนจากนิกายใหญ่และครอบครัวของพวกเขาอยู่ที่นี่

ในการแข่งขันอันทรงเกียรติแบบนี้ การแพ้ให้กับศิษย์ในนิกายเดียวกันนั้นไม่ใช่เรื่องน่าละอาย แต่การแพ้ให้กับคนจากนิกายอื่นคือความอัปยศ

“ดูสภาพน่าสมเพชของพวกมันสิ พวกมันควรจะอยู่แค่ในหอพัก”

สาวกจากนิกายดาวอรุณรุ่งที่ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันตะโกนใส่สาวกหุบเขาทองคำ ขณะที่สาวกของหุบเขาทองคำหัวเราะลั่นและเยาะเย้ยพวกเขา

“อย่างน้อยเราก็อยู่ในการแข่งขันครั้งนี้ ไม่เหมือนพวกขี้ขลาดที่ไม่มีความกล้าเข้าร่วม”

สาวกหุบเขาทองคำตะโกนกลับ

“พวกเราอยากอยู่เฉยๆมากกว่าเข้าร่วมและนำความอับอายมาสู่นิกาย ไม่เหมือนขยะอย่างพวกเจ้า”

"บัดซบ!"

"เฮ้ สาวน้อย ใช่เจ้ามาจากจันทร์เงิน อย่าไปคุยกับพวกขยะดาวอรุณรุ่ง พวกมันเป็นล้วนแต่เป็นตัวน่ารังเกียจ"

บนบันไดเต็มไปด้วยความโกลาหลและมีความบันเทิงให้ฝูงชนได้เพลิดเพลิน สาวกหลายคนก่นด่ากัน

โชคดีที่มีการห้ามต่อสู้ ไม่เช่นนั้นที่นี่จะกลายเป็นสมรภูมิไปแล้ว แต่นั่นไม่ได้หยุดพวกเขาจากการดูถูกกันโดยใช้คำพูดและบางคนก็นำเริ่มก่นด่าบรรพบุรุษที่ตายไปแล้วของอีกฝ่าย

อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งหมดหยุดนิ่งและหุบปากเมื่อสังเกตเห็นคนชุดดำเดินผ่านพวกเขาไปอย่าง

"เขาเป็นใคร?”

“เขามาจากนิกายของเราอย่างงั้นหรอ?”

“ไม่ ดูเสื้อคลุมสีดำของเขาสิ เขาไม่ใช่คนของนิกายไหนทั้งนั้น”

ภายในหัวของไมเคิล ระบบให้รางวัลแก่เขาด้วยคะแนนสุดโกงและแปลงแรงกดดันวิญญาณเป็นค่าประสบการณ์ เขามีความสุขมากในขณะที่เขาพยายามอย่างดีที่สุดที่จะไม่หัวเราะออกมาด้วยความดีใจ

"โอ้ พระเจ้า! เขาอยู่ห่างจากอีวานและวิคตอเรียแค่สิบห้าก้าว"

สาวกของนิกายอรุณรุ่งรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงและสวดอ้อนวอนต่อพระเจ้า พวกเขาสงสัยว่าไรอัน ศิษย์ที่เก่งที่สุดของพวกเขาจะไปถึงระดับนี้ได้อย่างสบายๆ แบบนั้นไหม

“มนุษย์ พักสักหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอกน่า”

“พักหรอ? สำหรับข้านี่เหมือนเดินเล่นในสวนสาธารณะ”

“เจ้ามันหยิ่งจองหอง รู้ตัวไหม?”

ขณะที่ไมเคิลกำลังเดินไปด้านบนอย่างใจเย็น

อีวาน คลาร์ก,วิตอเรีย พาร์คเคน, ฮานนา เบอร์รี่และไนล่า รีดไปถึงขั้นที่ 45 แล้ว และเมื่อถึงขั้นที่ 50 ความสงบบนใบหน้าและท่าทางก่อนหน้านี้ของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป ความเร็วในการปีนลดลงอย่างมากเนื่องจากแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น

“ดูสิ นั่นคือผี!”

เมื่อไมเคิลก้าวขึ้นไปบนขั้นที่ 40 และยืนอยู่คนเดียว ใครบางคนจากฝูงชนก็ตะโกนขึ้น

“เจ้าหมายถึงผีที่ทำลายล้างนิกายเลือดและกระดูกเหรอ!”

“ใช่ เขาคือผีจากเมืองแม่น้ำ!”

ทันทีที่ฝูงชนได้ยินสิ่งนี้ สายตาทั้งหมดของพวกเขาก็ละจากสาวกผู้มีชื่อเสียงและมองไปที่ไมเคิล ขณะที่ระบบให้คะแนนสุดโกงแก่เขาอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแค่ฝูงชนเท่านั้น แต่เหล่าสาวกผู้มีชื่อเสียงก็หยุดการสนทนาของพวกเขาและมองไปยังคนที่ฝูงชนตะโกนเรียกผี

ใบหน้าของเขายังคงมีรอยยิ้มอบอุ่น ในขณะที่เขาเดินขึ้นไปบนยอดราวกับแรงกดดันวิญญาณที่พวกเขาสร้างขึ้นนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากสายลมที่แผ่วเบา

“นั่นมันไอ้บ้านั่น”

เซลิน่ากัดฟันเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่น้ำตก

"ระดับการบ่มเพาะของเขาฆ่าทั้งนิกายได้ยังไง?"

“เจ้าโง่! ระดับหลอมกายาขั้น 1 ปกติจะสามารถไปถึงขั้นที่ 45 ได้หรือไง?”

ผู้คนที่เยาะเย้ยเขาในตอนแรกโดยไม่มีเหตุผลรู้สึกหนาวสั่น

"ข่าวนี่มันกระจายเร็วจริงๆ"

เขาดีใจที่มีคนจากเมืองแม่น้ำมาที่นี่และจำเขาได้ บนโลกเขาต้องทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครจำเขาได้ แต่ที่นี่ ยิ่งมีคนจำเขาได้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งได้รับคะแนนสุดโกงจากระบบมากขึ้นเท่านั้น

“ข้าไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มคนนี้จะเป็นผีที่มีชื่อเสียงจากเมืองแม่น้ำ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่ชายหนุ่มธรรมดา”

ผู้อาวุโสมาร์คยิ้มและถอนหายใจ

เมื่อมองชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าพวกเขาปีนสูงขึ้นและสูงขึ้น ขณะที่ศิษย์ส่วนใหญ่เริ่มคลานโดยใช้มือและเท้าทั้งสองเหมือนเด็กทารก พวกเขาต่างก็ดีใจ

“เขาเป็นใคร? เขามาจากไหน?”

ฮานนากับไนล่าจ้องมอง ขณะที่พวกนางพยายามปีนไปข้างหน้าโดยใช้พละกำลังทั้งหมด

"เป็นไปไม่ได้"

หัวใจของเซลิน่าสั่นสะท้านด้วยความโกรธ แต่นางไม่สามารถแสดงให้อเล็กซ์เห็นได้ ถ้าอเล็กซ์ทำอะไรเขาเพราะนาง ทั้งสองคนจะถูกลงโทษโดยนิกายโทษฐานไม่เคารพการแข่งขัน ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงกลืนความโกรธของนางและจับตามองเขา

อัจฉริยะทั้งสี่คนรวมถึงอีวาน คลาร์กพยายามอย่างเต็มที่เพื่อก้าวไปข้างหน้า พวกเขาแต่ละคนภาคภูมิใจที่ได้เป็นคนที่เก่งที่สุดและไม่อยากแพ้ให้กับคนนอก น่าเสียดายสำหรับพวกเขา แรงกดดันบนขั้นที่ 60 นั้นรุนแรงเกินไป และพวกเขารู้ว่าพวกเขามาถึงขีดจำกัดแล้ว ดังนั้น ณ จุดนี้ พวกเขาเลยหันกลับไปมองเขาอย่างสงบ

“มนุษย์ แรงกดดันบนขั้นที่สูงกว่านี้จะรุนแรงเกินไป หยุดตรงนี้เถอะ เจ้ามาถึง 10 อันดับแรกแล้ว”

ไมเคิลสัมผัสได้ถึงความประหม่าในน้ำเสียงของนาง แต่เขาไม่คิดจะล้มเลิกในตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อค่าประสบการณ์และคะแนนสุดโกงของเขาเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

"เขาจะไปถึงขั้นที่ 60 ไหม?"

“ถ้าเขาทำได้ พวกนิกายใหญ่คงอยากได้ตัวเขากันมาก”

“ผู้อาวุโสมาร์ค ท่านคิดว่าเขาจะยังต้องการเข้าร่วมนิกายของเราอยู่ไหม?”

แคลร์รู้ว่า ณ จุดนี้ สามนิกายใหญ่จะเสนอทรัพยากรมากมายแก่เขาและขอให้เขาเข้าร่วมนิกายของพวกเขา

“ชาวเมืองแม่น้ำบอกว่าเขาทำลายนิกายเลือดและกระดูกเพราะพวกเขาสังหารหมู่หมู่บ้านที่เต็มไปด้วยสามัญชน มันอาจฟังดูไร้เหตุผล แต่ข้ามีความรู้สึกว่าเขาจะเคารพคำพูดของเขา”

“งั้นดวงอาทิตย์ก็คงขึ้นในนิกายของเราแล้วจริงๆ”

“เจ้าคิดว่าเขาโสดหรือเปล่า?”

“ดูเขาสิ หนุ่มหล่ออย่างเขาไม่น่าจะโสด”

“ข้าว่าเขามีแฟนแล้วนะ”

สาวกหญิงรวมทั้งคนในสามนิกายใหญ่อดไม่ได้ที่จะชื่นชมเขา สาวกจันทร์เงินมองเขาราวกับว่าจะกินเขาทั้งเป็นในขณะที่เขาไปถึงขั้นที่ 59 และยืนห่างจากสาวกคนดังทั้งสี่

ด้วยพลังเฮือกสุดท้ายอีวาน คลาร์กและวิตอเรีย พาร์คเคน ก้าวไปอีกขั้นและไปถึงขั้นที่ 61 โดยทิ้งฮานนากับไนล่าไว้ข้างหลัง

“เขาทำได้แล้ว”

"โอ้พระเจ้า!"

ฝูงชนเริ่มกระสับกระส่ายเมื่อเห็นเขายืนอยู่ข้างๆ ฮานนาและไนล่าในชั่วพริบตา ทว่า โดยไม่หยุดพัก เขาก็ก้าวไปอีกก้าวหนึ่งและไปอยู่ข้างอีวาน คลาร์กกับวิตอเรีย พาร์คเคน

"เจ้าเป็นใคร?"

อีวาน คลาร์กหมดแรงและหายใจติดขัดขณะถาม ส่วนไมเคิลยังคงดูสงบราวกับว่าเขามีภูมิคุ้มกันต่อแรงกดดัน นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่อีวานรู้สึกด้อยกว่าคนที่อายุเท่าเขา ในตอนแรกเมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับความพินาศของนิกายเลือดและกระดูก เขาไม่ได้ให้ความสนใจมากนักเพราะด้วยแผนการและคาถาที่ถูกต้อง ใครๆ ก็สามารถทำสำเร็จได้

อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยคิดว่าคนๆ นั้นจะทรงพลังและมีความสามารถขนาดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงระดับการบ่มเพาะของเขา และเมื่อมองใบหน้าที่สงบของเขา เขาก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมและเคารพ

“ไม่ได้ยินหรอ? ข้าชื่อผี”

เขาตบไหล่อีวานเบาๆ และก้าวค่อไป

“มันจะเป็นไปได้ยังไง”

ดวงตาของวิตอเรียและอีวานเบิกกว้าง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

“เขาอยู่แค่ระดับหลอมกายาขั้น 1 เท่านั้น เขาต้านทานแรงกดดันขนาดนั้นได้ยังไง?”

“เขาไม่ได้อยู่ในนิกายใดๆ แต่เขาสามารถเอาชนะเราได้”

สามสาวสะดุ้งและมองเขาที่กำลังก้าวขึ้นไปด้านบน

“เขาคงใช้ยาบางอย่างเพื่อต้านทานแรงกดดันวิญญาณ ด้วยระดับการบ่มเพาะที่อ่อนแอแบบนั้น ข้าจะสามารถระเบิดเขาได้ด้วยคาถาเดียวถ้าเจอกันในสนามรบ”

วิคตอเรียพูดอย่างใจเย็นขณะที่ทั้งสามคนสัมผัสได้ถึงความเย่อหยิ่งในน้ำเสียงของนาง แต่พวกเขาก็เห็นด้วยกับนางเช่นกันพวกเขาคือผู้บ่มเพาะระดับหลอมกายาขั้น 8 ส่วนผีเป็นเพียงผู้บ่มเพาะหลอมกายาขั้น1เท่านั้น พวกเขาทั้งหมดคิดว่าเขาคงใช้กลอุบายบางอย่างเพื่อฆ่ารัฟฟี่และปฏิเสธที่จะเชื่อว่าเขาสามารถเอาชนะรัฟฟี่อย่างยุติธรรมและตรงไปตรงมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด