ตอนที่แล้ววันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0082
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปวันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0084

วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0083


บทที่ 28 เกิดในทะเลทราย… โจรสลัด? (1)

* * *

เปรี้ยะ—!

「อ๊ากกก!」

เสียงร้องของมันดังกว่าที่คิด นั่นทำให้ฉันกังวล เพราะหากปล่อยไว้อาจมีผู้คนมามุงดูจนวุ่นวาย

แต่บรรยากาศกลับเงียบจนผิดคาด ถึงจะบอกว่าเบสแคมป์มีการอพยพแล้วก็เถอะ แต่นี่เหมือนกับไม่มีใครอยู่ในเบสแคมป์เลย ไม่เข้าใจว่าทำไมยุนมินจีถึงยังเฝ้าโรงแรมอยู่

“เจ้านี่คืออะไรหรือคะ?”

「อ๊ากกก!」

ด้วยสายตางงงวย ยุนมินจียืนมอง ‘ภูต’ ที่พยายามกระโดดออกจากตะเกียง แต่สุดท้ายก็ถูกไฟฟ้าสีแดงแผดเผา

“จีนี่? ภูตตะเกียงหรือคะ”

“…ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นนะ… เฮ้อ สร่างเลย เถ้าแก่เนี้ย! ขอเบียร์อีกแก้ว!”

ดูเหมือนว่าชาโซฮีจะเคยชินกับสถานการณ์ทำนองนี้แล้ว

กลับกัน จองจีฮุนกับจินซอยอนที่เป็นพวกจิตแข็ง กลับพึมพำเป็นหมีกินผึ้ง

“…บริษัทเก็บของสำคัญไว้ในโกดังทั่วไปได้ยังไง”

“คุณซอนฮูได้ใช้เวทมนตร์กับมันรึเปล่า?”

ฉันส่ายหน้ากับคำถามของจินซอยอน

“แค่ถูเบาๆ เอง”

“ไม่มีใครในบริษัทเคยถูกมันมาก่อนเลยหรือ?”

ฉันไตร่ตรองสักพักก่อนจะเปิดปาก

“อาจมีผลเฉพาะในต่างโลกก็ได้… พูดตรงๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”

ถึงจะเป็นแค่การคาดเดา แต่ฉันคิดว่าภูตวิญญาณไม่น่าจะดำรงชีวิตในโลกมนุษย์

จินซอยอนเองก็พยักหน้ารับ คล้ายกับมองว่าสมมติฐานของฉันสมเหตุสมผล เรื่องนี้คงไม่ได้รับการยืนยันจนกว่าจะมีการทดลองที่เหมาะสม แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญในตอนนี้

「อ๊ากกก! สละเรือ! อ๊ากก!」

เป็นเช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมา ภูตตะเกียงโดนช็อตแล้วก็ล้มลงพร้อมกับแหกปาก

“บริษัทเก็บของแปลกๆ ไว้เต็มไปหมด”

นั่นคือความรู้สึกของจองจีฮุน

คงไม่ได้มีแบบนี้แค่อย่างสองอย่าง… แต่ก็ไม่ใช่ธุระของฉัน จึงไม่ได้ใส่ใจ

“นี่คือภูตวิญญาณ”

“ภูตวิญญาณ… หมายถึงอะไร?”

“เหมือนกับ AI ที่อยู่ในเครื่องปั่นไฟของฉัน พวกคุณเคยเห็นกันแล้วใช่ไหม”

“อ้อ… เคย”

จินซอยอนประสานมือ

“…ในตอนที่ฉันลองคุยด้วย ทางนั้นตอบสนองกลับมา แต่ฉันฟังภาษาไม่ออก จึงคุยกันไม่รู้เรื่อง”

“ก็ทำนองนั้น”

ภูตวิญญาณคือสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก

เจ้านี่ก็เช่นกัน

“มันแตกต่างจากภูตวิญญาณที่ผมเคยได้ยินมา”

จองจีฮุนพูดเสียงค่อย ฉันเข้าใจสิ่งที่เขาจะสื่อ

***

สำหรับตอนนี้ เป้าหมายถัดไปของฉันคือทะเลทรายตะวันออก พวกเราจึงปรึกษาหารือเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล

“…ข้ากังวลเกี่ยวกับอัศวินแห่งท้องฟ้า”

เป็นความเห็นของลิลี่ หากสมบัติทองคำชิ้นถัดไปอยู่ทางตะวันออก และถ้าอัศวินแห่งท้องฟ้าที่เป็นหนึ่งในผู้ปกครองมุ่งหน้าไปยังทิศทางดังกล่าว คงยากที่จะให้เชื่อว่าไม่เกี่ยวข้องกัน

ชาโซฮียืนฟังสักพักก่อนจะพูด

“ที่นั่นไม่เพียงจะมีอัศวินแห่งท้องฟ้า แต่ยังมีไอ้หมึกยักษ์ในวิดีโอนั่นอีก นายอยากชะตาขาดเหมือนโดรนหรือ?”

“เอ่อ… คุณซอนฮู”

ท้ายที่สุด จินซอยอนเปิดปาก

“ประกาศฉุกเฉินใกล้จะถูกยกเลิกแล้ว พวกเราต้องกลับโลกก่อน”

“พวกคุณจะทำยังไงกันต่อ”

“จีฮุนกับฉันจะกลับไปสืบข้อมูลในบริษัทต่อ… ทะเลทรายตะวันออกกับอัศวินแห่งท้องฟ้า… เน้นสองเรื่องนี้เป็นหลักใช่ไหมคะ?”

ฉันดีใจนะที่พวกเขากระตือรือร้น แต่ก็เป็นห่วงความปลอดภัยของสปายอยู่เหมือนกัน ไม่อยากให้ใครต้องตกอยู่ในอันตรายเพราะฉัน

จินซอยอนพูดขณะมองจองจีฮุน

“นายก็จะร่วมมือด้วยใช่ไหม”

จองจีฮุนพยักหน้า

“ผมก็จะช่วยสืบข้อมูลเหมือนกัน”

ในกรณีของจินซอยอน ฉันพอจะเข้าใจอยู่ แต่ผิดคาดที่จองจีฮุนยอมร่วมมือ

เคยคิดว่าเขาเป็นพวกจงรักภักดีต่อองค์กรเสียอีก ฉันดูคนผิดไปหรือ?

แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญ แบบนี้ก็ดีแล้ว

ทุกคนแยกย้ายกันตรงนี้ ส่วนฉันกลับไปที่กระท่อม แน่นอนว่าตะเกียงอยู่กับฉัน

กลับถึงกระท่อม ฉันวางตะเกียงไว้ในกลางลานหน้าบ้าน จากนั้นก็หันไปมองลิลี่

“ลิลี่”

“อื้อ”

“ในนี้มีภูตวิญญาณใช่ไหม”

“ใช่ แต่สิ่งที่ข้าอยากรู้มากกว่านั้นก็คือ มันเป็นภูตวิญญาณประเภทไหน”

ลิลี่รู้จักสปริกแกน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่รู้จักภูตตะเกียง

ฉันยังไม่ลืมช่วงเวลาที่เคยสู้กับภูตตะเกียง ในตอนนั้น มันปลุกศพขึ้นมาจากดินเพื่อขวางทางที่ฉันต้องผ่าน นั่นทำให้ชีวิตของฉันยากลำบากขึ้นหลายเท่า

เพิ่งจะรู้ในภายหลังว่า มันคือภูตวิญญาณที่อยู่ในตะเกียง

“หรือบางที…”

「ข้าคือภูตวิญญาณแห่งความปรารถนา! เกิดจากการรวมกันของความปรารถนาจำนวนมาก!」

เป็นอีกครั้งที่โจรสลัดผมกระเซิงโผล่ขึ้นมาพร้อมกับดาบโค้ง

“…ภูตแห่งความปรารถนา? ฉันขอพรได้ไหม?”

ในเวลาเดียวกัน เซลฟีที่ฟังบทสนทนาเงียบๆ มาสัก เปิดปากเป็นครั้งแรก

「เราคือภูตแห่งชีวิต ถือกำเนิดจากการรวมตัวของพลังงานชีวิต 」

ลิลี่พยักหน้า

「ในทำนองเดียวกัน ความปรารถนาของกลุ่มคนทำให้ข้าถือกำเนิด! 」

“อย่างนี้นี่เอง”

เซลฟีช่วยอธิบายเสริม

ภูตตะเกียงเกิดจากความปรารถนาที่สั่งสมอยู่ในตะเกียง หากเป็นบ้านที่กว้างเกินกว่าจะทำความสะอาดไหว จะเกิดเป็นภูตที่คอยช่วยทำความสะอาดบ้าน หรือถ้าเป็นบ้านของนักปราชญ์ ภูตทรงปัญญาจะถือกำเนิดเพื่อเป็นเพื่อนคุย สามารถพบได้ทั่วไปในเมืองใหญ่

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ประเภทของภูตวิญญาณจะขึ้นอยู่กับสถานที่เกิด

แต่ภูตวิญญาณตรงหน้าเรา…

「 มัวทำอะไรอยู่? ขึ้นเรือเร็วเข้า! ออกไปปล้น! 」

ดูเหมือนเจ้านี่จะเกิดบนเรือโจรสลัด

คงไม่มีประโยชน์กับฉันมากนัก แต่ดูแล้วชวนให้สนุกสนานเฮฮา ฉันจึงตัดสินใจไหลไปตามน้ำ

“แต่ฉันไม่มีเรือ พวกเราควรทำยังไงดี?”

「 ไม่มีเรือ? เจ้าหมายความว่ายังไงที่บอกว่าไม่มีเรือ? 」

แค่มองไปรอบๆ ก็น่าจะรู้แล้วไม่ใช่หรือ?

ฉันเตรียมอธิบายให้ภูตวิญญาณฟัง ว่าทำไมถึงขึ้นเรือไม่ได้

ทันใดนั้น

โครม!

เรือลำหนึ่งโผล่จากความว่างเปล่าและตกกระแทกพื้น

มีสองใบเรือ ปีนใหญ่ข้างละสี่กระบอก… เรือโจรสลัด

「 อยู่นี่แล้วไง! ขึ้นเรือ! อ๊ะ ทรายไปไหน? 」

“…”

ในสภาพอ้าปากค้าง พวกเราจ้องเรือที่จมลงไปในดินเล็กน้อย

และ

หว๋อ~ หว๋อ~ หว๋อ~

สัญญาณเตือนในหมู่บ้านดังขึ้นอีกครั้ง

* * *

————————

[รายงานวัตถุเหนือธรรมชาติพิเศษ]

ระดับความลับ – หมวดหมู่ ui 3 (มีโอกาสเพิ่มขึ้น)

ความเสี่ยง – ปลอดภัย (สามารถเปลี่ยนแปลงได้)

<นิยามของวัตถุ>

- เป็นมนุษย์ที่ชื่อ ‘คังซอนฮู’

- มีรูปลักษณ์ของชายหนุ่มชาวเอเชีย

<คุณสมบัติพิเศษ>

- ถูกดูดเข้าไปในรอยแยกที่ไม่เสถียร และกลับมายังโลกหลังจากเอาตัวรอดในต่างโลกอยู่ประมาณเจ็ดปี

<ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ>

- หลังจากกลับมา วิกฤติระดับสูงเกิดขึ้นรอบตัวเดือนละหนึ่งครั้ง (กรุณาอ่านเอกสารแนบ)

- สามารถคุยกับมังกร

- สามารถเสกเรือโจรสลัดยักษ์

- ขี่ม้าที่มีไฟลุก

- สันนิษฐานว่าสามารถใช้เวทมนตร์ของต่างโลก

- มีความรู้มากเกินไปหากเทียบกับระยะเวลาที่เคยเอาชีวิตรอด

- ตรวจพบว่าตกเป็นเป้าสักการบูชาของชาวต่างโลก

……

……

……

————————

หลังจากอ่านเอกสารที่จินซอยอนนำมาให้ดู ฉันเกือบหลุดขำ

“OWIC ไม่ได้มองผมเป็นมนุษย์อีกแล้วสินะ”

“ให้คิดว่าพวกเขากำลังมองคุณเป็นยอดมนุษย์ก็แล้วกัน แบบนี้ฟังดูดีกว่า”

ใช่ว่าฉันจะไม่เข้าใจ คำนึงจากสิ่งที่ฉันทำลงไป เป็นธรรมดาที่ชาวโลกจะมองแบบนั้น

นี่คงเป็นเหตุผลที่คนใหญ่คนโตระดับผู้อำนวยการ ยอมมาพบฉันด้วยตัวเอง ด้วยท่าทีสุดจะนอบน้อม

ฉันส่งเอกสารคืนจินซอยอน

จินซอยอนกล่าวพลางจ้องฉันสลับกับม้า

“…จะออกเดินทางแล้วหรือ? คุณกลับมายังไม่ครบเดือนเลย”

“ยัง ครั้งนี้แค่ออกไปดูลาดเลา”

“ดูลาดเลา?”

“ผมคิดว่าควรต้องศึกษาจุดหมายให้รอบคอบก่อนจะเดินทางจริง”

จากนั้น ฉันลูบไล้แผงขนเรลิกซิน่า

ดูเหมือนเด็กคนนี้จะยังงอน เรื่องที่ฉันทิ้งเขาไว้ตามลำพังและขี่มังกรกลับบ้าน

ต้องขอโทษด้วยจริงๆ แต่ใครจะอดใจไม่ขี่มังกรไหว?

ลิลี่ที่เก็บของเสร็จ กระโดดขึ้นเบาะหลังของอาน

จินซอยอนกล่าวด้วยสีหน้าครุ่นคิด

“แต่ว่า… กว่าจะไปถึงป่าตะวันออกต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสิบห้าวัน และกว่าจะถึงทะเลทรายก็อาจจะนานเป็นเดือน ฉันไม่คิดว่าการลงทุนไปดูลาดเลาเฉยๆ จะคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไป”

การกระทำเห็นภาพชัดเจนกว่าคำพูดเสมอ

ฉันกล่าวพร้อมกับลูบแผงขนเรลิกซิน่า

“เรลิกซิน่า”

“กรร…!”

“คราวก่อนที่แข่งกับมังกร แกเกือบชนะไม่ใช่หรือ”

เรลิกซิน่าพ่นลมหายใจฟืดฟาด ดวงตาสีแดงจ้องไปข้างหน้าด้วยความดุดัน

คล้ายกับรู้อยู่แล้วว่าฉันจะสั่งอะไร

“แสดงให้ฉันเห็นสักครั้ง”

ได้ยินแบบนั้น ลิลี่รีบปล่อยมือจากอานม้าและเปลี่ยนมากอดเอวของฉันแทน

“ช่วยอธิบายสิ่งที่คุณคิด…”

ยังไม่ทันที่จินซอยอนจะพูดจบ

บึ้ม!

เรลิกซิน่าพุ่งไปทางทิศตะวันออกพร้อมกับเสียงระเบิด ฟังดูเหมือนไม่ใช่แค่เสียงกระทืบเท้าเพียงอย่างเดียว

ไม่มีใครบอกได้ว่ามันกำลังบินหรือวิ่งไปบนพื้น

ขณะจ้องมองป่าเบอร์มิวด้าที่ขยับเข้าใกล้ในพริบตา ฉันคิดในใจ

…ทำบ่อยๆ คงไม่ดีแน่

แต่ครั้งนี้ ฉันจะปล่อยให้เรลิกซิน่าอาละวาดตามใจชอบ

พวกเราผ่านป่าเบอร์มิวด้าอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ข้ามหน้าผา ‘กำแพง’

แต่เมื่อมาถึงเอลซิน·โพเรียลี่ เราไม่มีทางเลือกนอกจากลดความเร็วลง เพราะต้นไม้เรียงตัวกันหนาทึบ

น่าทึ่งมากที่มาถึงตรงนี้ได้ภายในสองวัน ไม่ว่าเส้นทางจะขรุขระเพียงใด แต่ดูเหมือนจะไม่มีสิ่งใดหยุดเรลิกซิน่าได้

“…ภูตตะเกียงเกิดจากทะเลทรายตะวันออกสินะ”

เมื่อความเร็วลดลงจนมีช่องให้พูด ลิลี่เปิดปาก

“เป็นพวกกะลาสีหรือ? ข้าไม่เคยไปทะเลมาก่อน เคยเห็นแค่ในหนังสือ”

“ดูเหมือนจะเป็นโจรสลัดมากกว่า เจ้านั่นพูดว่าปล้นด้วย”

“ทำไมทะเลทรายถึงให้กำเนิดภูตวิญญาณแบบนี้”

เป็นคำถามที่ฉันเองก็คาใจ

แต่ก็พอจะอนุมานได้คร่าวๆ

“ที่นั่นอาจเคยเป็นทะเลมาก่อน”

“ทะเลต้องมีน้ำเยอะๆ ไม่ใช่หรือ”

“ใช่”

“แต่ตรงนั้นมีแต่ทราย”

“หากผ่านไปเป็นเวลานาน ทะเลก็กลายเป็นทะเลทรายได้เหมือนกัน”

นั่นคือสิ่งที่ฉันได้เรียนจากคาบวิทยาศาสตร์ ลิลี่ไตร่ตรองสักพักก่อนจะพูด

“…การเปลี่ยนแปลงแบบนั้น เกิดขึ้นในยุคแห่งความเสื่อมโทรมและเฉื่อยชา?”

ระหว่างกำลังพูด พวกเรามาถึงพื้นที่เปิดโล่งสักแห่งภายในป่าใหญ่

“ในป่าใหญ่แบบนี้ ไม่ปรกติเลยที่จะมีเขตปลอดต้นไม้”

ตามที่ลิลี่พูด แถวนี้ค่อนข้างแปลก ถึงจะแค่เป็นบริเวณเล็กๆ แต่ก็แปลกเกินไปที่ไม่มีต้นไม้หรือเถาวัลย์เลย

“ถ้าจำไม่ผิด ที่โบราณสถานทองคำก็ไม่มีต้นไม้เหมือนกัน”

ลิลี่พยักหน้าเป็นนัยเห็นด้วย โบราณสถานทองคำไม่มีต้นไม้เลย ราวกับผืนป่าคอยดูแลเอาใจใส่

ด้านหน้าพวกเราคือที่เปิดโล่งประมาณสวนเล็กๆ

ใจกลางสวนเล็กๆ มีประตูวงกลมที่ฉันเคยเห็นมาก่อน

ไบฟรอสต์ — ประตูที่คนโบราณสร้างขึ้น จุดประสงค์เพื่อเดินทางระยะไกลในพริบตา

และในมือของฉันมีกุญแจที่นักบุญหญิงมอบให้

“เรลิกซิน่า รออยู่ที่นี่ก่อนนะ”

ลงจากหลังม้า ฉันเดินเข้าหาไบฟรอสต์ด้วยท่าทีระมัดระวัง

คล้ายกับอันที่เคยเห็นก่อนหน้า โครงสร้างเป็นวงกลม ตรงกลางกลวง มองไกลๆ จะดูคล้ายเกือกม้า

แต่อักขระที่เขียนเรียงอยู่บนกรอบประตู แตกต่างจากอันก่อน

ตอนแรกฉันก็ไม่เข้าใจความหมาย เพราะมันไม่เหมือนกับรูนที่ฉันเคยเห็นเลย

แต่ตอนนี้พอจะเดาได้แล้ว

ฉันอาศัยสัญชาตญาณเพื่อเติมเต็มอักษรรูนที่ขาดหายไป เหมือนกับการต่อเลโก้

จนกระทั่ง

“คาห์สkaahz”

ทันทีที่คำกระตุ้นจบลง เสาลำแสงส่องขึ้นจากด้านบนไบฟรอสต์อย่างเงียบงัน

ปลายลำแสงเชื่อมต่อกับแสงบนยอดเขาไกลๆ ทางทิศตะวันออก

“…สัญลักษณ์บอกตำแหน่ง”

“ใช่ ไม่มีทางที่คนโบราณจะไม่สร้างระบบนี้”

อาจไกลเกินกว่าจะเห็นได้ชัด แต่ฉันสามารถบอกได้ว่า ปลายทางของไบฟรอสต์อยู่บนยอดเขาลูกนั้น

ภูเขาทางทิศตะวันออกซึ่งไกลจากตรงนี้ไปมาก

ใกล้กับจุดเริ่มต้นทะเลทรายที่เป็นเป้าหมาย

“จะมาด้วยกันไหม หรือให้ฉันไปคนเดียว”

“ไปด้วยกัน”

ฉันพยักหน้ารับ อันที่จริงก็รู้คำตอบอยู่แล้ว

มือข้างหนึ่งถูกวางลงบนไบฟรอสต์

แสงสีรุ้งพรั่งพรูและเกิดเป็นรอยแยก พวกเราเดินเข้าไปด้วยความระมัดระวัง

“…อึก”

ณ ยอดเขา

ยังไม่ทันจะได้เห็นทิวทัศน์ สัมผัสแรกของพวกเราคือสายลมที่พัดปะทะหน้า แม้จะไม่แรงเท่าบนเกาะท้องฟ้า แต่ก็ถาโถมไม่หยุดพัก

ฉันสัมผัสได้ว่ามีทรายปนมากับลม

“ลมร้อนสินะ”

ไม่ใช่ลมเย็นสบายที่พบได้บ่อยในต่างโลก

เป็นลมร้อนที่พัดมาจากทะเลในช่วงฤดูร้อน

พวกเราลืมตาขึ้น

ภาพแรกที่เห็นคือผืนป่าขนาดมหึมา เป็นป่าที่มีโบราณสถานทองคำ

“ป่าใหญ่จัง”

ป่าสีเขียวครามที่กล้องมุมสูงของโดรนจับภาพได้ไม่หมด สามารถมองเห็นได้ถ้วนทั่วจากมุมนี้

พวกเราเห็นโบราณสถานที่เคยไปสั่นระฆัง ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกถึงความลึกลับ

แมวหุ่นยนต์ยังอยู่ไหมนะ?

ในป่าที่คงอยู่ตลอดไป อารยธรรมโบราณก็คงอยู่ตลอดกาลเช่นกัน

ถ้ามีกล้องล่ะก็ ฉันคงถ่ายรูปไปแล้ว

“…คราวหน้าพกกล้องฟิล์มมาสักตัวดีไหม”

ขณะเดียวกัน ลิลี่กำลังมองตรง แม้ทะเลทรายจะยังอยู่ไกล แต่ตำแหน่งของพวกเราสูงจนสามารถมองเห็นลิบๆ

ยังไม่ทันที่ฉันจะหันหน้า ลิลี่จับชายเสื้อของฉัน

“เป็นทิวทัศน์ที่ประหลาดมาก”

“ประหลาด? เธอเพิ่งเคยมาทะเลทรายสินะ…”

ขณะกำลังถามว่าลิลี่เพิ่งเคยมาทะเลทรายใช่ไหม

อันที่จริง ฉันก็มีประสบการณ์กับทะเลทรายไม่มากนัก มันไม่ใช่จุดสำรวจที่ดี กว้างเกินไป และอันตรายเกินไป

สำหรับทะเลทราย สิ่งที่อันตรายที่สุดก็คือสภาพแวดล้อม

นั่นคือทะเลทรายที่ฉันรู้จัก

แต่ที่นี่คือต่างโลก ฉันละอายใจที่บังอาจใช้สามัญสำนึกของโลกมาตัดสินทะเลทราย

เนื่องจากสัญญาณของโดรนขาดหายในช่วงหลัง ภาพทะเลทรายที่เห็นจากในวิดีโอจึงค่อนข้างพร่ามัว

“พื้นกำลังสั่น…”

ภูเขาทรายยกตัวสูงและยุบตัวลง บางส่วนยุบจนเป็นหลุม บางส่วนเกิดเป็นเนินเขาลูกเล็ก

โดยทั่วไปแล้ว ทะเลทรายจะเปลี่ยนรูปทรงไปตามกระแสลม แต่ก็ไม่ได้เร็วขนาดนี้

นี่ไม่ใช่ฝีมือของลม

ทะเลทรายกำลังซัดสาดเหมือนกับคลื่น

ทราย ‘ไหล’ และปะทะกันกลางทะเลทราย

ไม่ใช่แค่นั้น…

ซ่า!

ลมที่พัดมาถึงพวกเรา มีเสียงคลื่นซัดสาดปะปนมาด้วย

เป็นเสียงแห้งๆ แหลมๆ ที่เกิดจากเม็ดทรายจำนวนมหาศาล

ภูตวิญญาณโผล่ออกจากตะเกียงในมือฉัน คราวนี้มันกำลังยิ้ม

「เจ้ากลับมายังบ้านเกิดแห่งหัวใจจนได้สินะ! เส้นขอบฟ้ากำลังรอพวกเราอยู่! สึนามิทราย! วังวนยักษ์ที่เต็มไปด้วยแมลงนรก! และฉลามหัวค้อนที่จ้องจะแทะท้องเรือเพื่อสูบวิญญาณของกะลาสีโสมม! จงจับพังงาไว้ให้แน่น! พวกเราจะออกปล้นแล้ว! 」

ห่างไกลออกไป จุดเริ่มต้นของทะเลทราย เชื่อมต่อกับแนวสันเขาที่ลาดลงอย่างนุ่มนวล

ภูตวิญญาณไม่ได้ถือกำเนิดในสมัยที่ทะเลทรายยังเป็นทะเล

แต่มันเกิดในมหาสมุทรแห่งทราย

______________________

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (4/4)

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด