ตอนที่แล้วEp.345 - พลสอดแนมจากเมืองทรายดำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.347 - สถานที่จัดพิธี

Ep.346 - ปฏิบัติการแฝงตัว


1/2

Ep.346 - ปฏิบัติการแฝงตัว

สองสามวันถัดมา หลายๆอย่างดำเนินไปตามขั้นตอน

ทุกครั้งที่ฮังอวี่กลับบ้าน เขาอุทิศเวลาส่วนใหญ่ไปกับการวิจัยสกิลการผลิต

นอกจากนี้ เขายังขอให้เจ้าอ้วนไห่ปรุงอาหารคุณภาพสีเขียวเพื่อเพิ่มแก่นแท้สีเขียวในตัว

และเมื่อเข้าสู่โลกวิญญาณ ส่วนใหญ่เขาจะนำผู้คนและกองกำลังไปฟาร์มมอนสเตอร์ในพื้นที่ที่มีมอนสเตอร์ชั้นยอดหนาแน่น ดรอปอุปกรณ์และหินคริสตัลเพื่อเพิ่มทรัพยากรขององค์กร

ระหว่างออกล่า หวังเอ๋อสามารถอัพเลเวล 10 ได้ในที่สุด

ฮังอวี่เองก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน เวลานี้แก่นแท้สีเขียวของเขาใกล้ถึง 60% แล้ว!

เขาใช้แต้มวิญญาณราวๆ 6000 แต้มเพื่ออัพเลเวลสกิลขั้น 3 ‘ชุบโลหิต’ จนเต็มเลเวล 3

ตอนนี้สิ่งเดียวที่ต้องทำคืออัพเลเวลปราณสงครามคลั่งเป็นเลเวล 3 จากนั้นสามารถสืบทอดมรดกขั้น 3 ได้อย่างเป็นทางการ

ส่วนการพัฒนาทีม

ฉูและจ้าวคอยช่วยเหลือเขาเป็นอย่างดี

สวนพืชวิญญาณคุณภาพสูงในเมืองหุบเขาเดียวดายเริ่มปลูกพืชวิญญาณ

นี่จะกลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญทางหนึ่งของดินแดนและทีม

นอกจากนี้ยังเริ่มมีการขุดเหมืองหลายแห่งเพื่อรวบรวมแร่ เพราะท้ายที่สุดแล้ว แร่ที่ขุดได้จากที่นี่เกือบทั้งหมดเป็นแร่คุณภาพเยี่ยมสีขาวเลเวล 10 และมีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อย

ขณะเดียวกัน ประชากรเมืองหุบเขาเดียวดายเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 100 คนต่อวัน

ชนชั้นยอดส่วนใหญ่ถูกดึงดูดเข้าสู่มังกรคราม

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นดินแดนเล็กๆ

ทำให้อาณาเขตที่มนุษย์สามารถออกล่าได้มีจำกัด

ทรัพยากรช่วงหลังๆมานี้ก็รีเฟรชไม่ทันเช่นกัน

ด้วยจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มอนสเตอร์ชั้นยอดและมอนสเตอร์เจ้าถิ่นจึงเริ่มไม่เพียงพอต่อความต้องการ

จากจุดนี้ จะเห็นได้ว่าการขยายตัวของเผ่าพันธุ์มนุษย์จะขยับไปถึงดินแดนอื่นเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลา

มังกรครามในโลกวิญญาณมีกระบี่และโล่อย่างจ้าวและฉูคอยดูแล

มังกรฟ้าในเจียงเฉิงมีสุนัขและหญิงงาม

ซูหยุนปิงกับหวังเอ๋อสามารถร่วมงานกันได้เป็นอย่างดี

สองมังกรภายใต้การควบคุมของฮังอวี่กำลังพัฒนาไปอย่างราบรื่น

กำไรสุทธิของกลุ่มทำลายสถิติใหม่ขึ้นเป็นวันละ 4500 หินคริสตัลเมื่อวานนี้

ในเวลานี้ ภายใต้การบริหารของซูหยุนปิง ร้านอุปกรณ์มังกรฟ้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตมังกรฟ้ากำลังจะเปิดทำการ

สมาชิกอย่างเป็นทางการของกลุ่มมังกรฟ้าทะลุ 1400 คนเข้าไปแล้ว และ ซูหยุนปิงยังคงรับสมัครสมามชิกอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเริ่มกลืนกินกองกำลังพลเรือนอื่นๆ ดึงดูดชนชั้นยอดจากทุกสายอาชีพ ตั้งใจว่าจะขยับขึ้นเป็น 3000 คนในเร็วๆนี้

แม้กล่าวว่าเร่งเพิ่มจำนวนสมาชิกกลุ่ม

แต่สมาชิกกลุ่มที่พวกเขาเร่งเพิ่มนั้นไม่เหมือนกับกองกำลังอื่นๆ

ทั้งซูหยุนปิงและฮังอวี่ไม่ได้มุ่งเน้นไปทางรับสมัครนักสู้

เพราะอย่างไรเสียกลุ่มมังกรฟ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลเจียงเฉิง , สกายเน็ตสาขาเจียงเฉิง , กองทัพ รวมไปถึงสมาคมโลกวิญญาณสาขาเจียงเฉิง

กองกำลังพลเรือนในเมืองเจียงเฉิงที่พอมีช่องทางในการรับข้อมูลจึงไม่โง่พอที่จะเข้ามายั่วยุกลุ่มมังกรฟ้า ดังนั้นซูหยุนปิงเลยสามารถมุ่งเน้นรับสมัครสมาชิกไปทางฝ่ายผลิตไม่น้อยกว่า 60% ของกลุ่ม นี่ก็เพื่อวิจัยและพัฒนาการผลิต จวบจนการค้าขาย กุมความได้เปรียบเชิงพาณิชย์

ที่ยังคงไว้ซึ่ง 60%

เพราะนักสู้เองก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน

โลกใบนี้กำลังวุ่นวาย ฉะนั้นจำเป็นต้องมีพลังรบไว้คอยปกป้อง

และตรงจุดนี้ก็แตกต่างจากกองกำลังอื่นๆเช่นกัน กองกำลังอื่นจะเน้นรับสมัครนักสู้เพื่อสร้างกองกำลัง

ขณะที่เกณฑ์การรับสมัครนักสู้ของกลุ่มมังกรฟ้าค่อนข้างสูงมาก พวกเขาจะคัดเลือกเฉพาะชนชั้นยอดที่แท้จริงเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ภารกิจสร้างโรงงานของชาลู่ในเมืองหยุนสุ่ยยังคงเป็นไปอย่างราบรื่น

อนาคตของกลุ่มมังกรฟ้านั้นไร้ขีดจำกัด

...

บ่ายวันนี้

เสี่ยวไป๋จัดเรียงวัสดุ

เธอพูดกับฮังอวี่ว่า “วัสดุอื่นๆถูกรวบรวมมาได้หมดแล้ว แต่ยังเหลือ ‘ผลึกอาคมเหล็กเย็น’ เลเวล 10 ที่ขาดหายไป มันคือวัสดุสีฟ้าราคาแพง เสี่ยวไป๋ไม่รู้ว่าจะหาได้จากที่ไหน ... ”

ในฐานะผู้ช่วยตัวน้อย

ในฐานะผู้อำนวยการผลิตของกลุ่ม

เมื่อได้ยินว่าฮังอวี่ต้องการสร้างอาวุธสีฟ้า ‘ขวานปีศาจแมงป่อง’

เสี่ยวไป๋ก็อาสารับงานหลอมรวมไปถึงการหาวัสดุทั้งหมดจากฮังอวี่ทันที

แต่อาวุธเลเวล 11 สีฟ้าไหนเลยจะสร้างได้ง่ายๆ ถึงวัสดุส่วนใหญ่จะรวบรวมจากหุบเขามันติคอร์มาได้อย่างราบรื่น และที่ขาดเหลืออีกเกือบทั้งหมดจะหาซื้อได้ด้วยเงินราวๆ 2000 หินคริสตัลขาวในช่วงสองวันที่ผ่านมา

แต่ยังขาดผลึกอาคมเหล็กเย็น

มันคือหนึ่งในแร่เหล็กเย็นที่หาได้ยาก

ในฐานะภูติมายา ฮังเสี่ยวไป๋เก่งด้านการผลิต จึงมีความเข้าใจในเรื่องวัสดุเป็นอย่างดี หากตอนนี้เธออยู่ในป่าภูติ เธออาจสามารถขอซื้อพวกมันจากขุนนางตนอื่นๆในราคาสูง แต่ตอนนี้ไม่ใช่ ถึงจะมีเงินก็หาซื้อมันไม่ได้

เรื่องนี้ทำให้เสี่ยวไป๋รู้สึกผิดมาก

หวังเอ๋อกับซูหยุนปิงได้ทำสิ่งต่างๆมากมายเพื่อช่วยพี่ชายของเธอ

แต่ตัวเธอแค่อยากสร้างอาวุธให้กลับทำไม่ได้

“เธอไม่ต้องโทษตัวเองหรอก เพราะต่อให้เป็นฉันก็คงหามันไม่ได้เหมือนกัน” ฮังอวี่ยกมือขึ้นลูบคางแล้วกล่าวว่า “ผลึกอาคมเหล็กเย็นไม่ใช่แค่มีราคาแพง แต่มันยังหายาก ไม่มีทางหาพบได้ในเวลาสั้นๆ ดูท่าพวกเราคงต้องรบกวนเหล่าฉู ฝากเขาไปสอบถามจากทางสกายเน็ตหรือพวกทหารซะแล้ว”

นี่ช่วยไม่ได้

อาวุธสีฟ้ามีค่ามากในการเพิ่มพูนพลังรบ

ฮังอวี่ใกล้สืบทอดมรดกขั้น 3 ได้แล้ว และหากเขาถืออาวุธขวานปีศาจแมงป่องคู่กับกระบี่คำสาปกระดูกสามานย์ ในเจียงเฉิงจะไม่มีใครสู้เขาแบบตัวต่อตัวได้อีก

แต่จะเอ่ยขอเหล่าฉูยังไงดี?

ระหว่างที่กำลังคิดหาวิธี

ฉูเทียนหัวก็โทรเข้ามาพอดี “เรื่องสมาคมฤาษีลี้ลับมีความคืบหน้าแล้ว!”

ฮังอวี่ไม่กล้าชักช้า เดินทางไปพบฉูเทียนหัวทันทีและรับฟังถึงสถานการณ์

จากข้อมูลที่รวบรวมมาได้ในช่วงไม่กี่วันก่อน แผนการของสมาคมฤาษีลี้ลับดำเนินการมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว พวกมันกำลังเริ่มพิธี

ฮังอวี่เอ่ยถาม “คุณพอจะระบุตำแหน่งทำพิธีของพวกมันได้ไหม?”

“เจ้าพวกนี้เจ้าเล่ห์มากกว่าที่คิดไว้ หวังจุนเหวินกับกลุ่มของเขาคอยส่งของทุกวัน แต่กระทั่งพวกเขาก็ยังไม่ทราบตำแหน่งที่แน่นอน แถมลูกเล่นซ่อนกลิ่นอายของพวกมันก็แปลกมาก ไม่ต้องพูดถึงคนของฉัน แม้แต่หวังเอ๋อก็ยังตรวจไม่พบ”

ฮังอวี่ถาม “แล้วแผนการรับมือของคุณ?”

“ถ้าคืนนี้พวกเรายังหาไม่เจอ คงทำได้แค่ปูพรมค้นหา!”

ฮังอวี่ส่ายหัว “เขาวงกตใต้ดินนับวันยิ่งซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ การปูพรมค้นหามีความเสี่ยงมาก โอกาสที่จะบาดเจ็บหรือตายสูง แต่เรื่องนี้คุณคงคิดได้อยู่แล้ว ยังมีวิธีอื่นอีก ถูกไหม?”

ฉูเทียนหัวพยักหน้า “มี โชคดีที่มีเหตุการณ์พลิกผันเกิดขึ้น หวังจุนเหวินได้ออกประกาศเรียกตัวสมาชิก 8 คนที่มีพลังจิตมากกว่า 80 หน่วยจากในกลุ่มและเข้าสู่เขาวงกตใต้ดินพร้อมกับเขาเย็นวันนี้”

ฮังอวี่เดา “แสดงว่าพิธีกรรมจำเป็นต้องใช้ค่าพลังจิตจำนวนมาก หน้าที่ของทั้ง 8 คนที่ถูกเรียกตัวน่าจะเป็นการคอยถ่ายโอนพลังจิตให้กับพิธี หมายความว่าพิธีจะเริ่มในคืนนี้ คุณจะรับมือยังไง?”

ฉูเทียนหัวตอบ “หูเจี้ยนได้เปิดเผยตำแหน่งของทั้ง 8 คนให้พวกเรารู้แล้ว ทีมปฏิบัติการพิเศษของสกายเน็ตกำลังเริ่มลงมือ พวกเราตั้งใจว่าจะสวมรอยเข้าไปแทนที่บางคนในนั้น และฉวยจังหวะดีๆทำลายพิธี”

ฮังอวี่ “สวมรอยเข้าแทรกซึม? แล้วคุณมีลูกเล่นปลอมตัวที่สมบูรณ์พอจะไม่ถูกจับได้รึยัง?”

ฉูเทียนหัวหยิบขวดโพชั่นออกมา

ฮังอวี่อ่านข้อมูล “โพชั่นมนตราคนสองหน้า? ผมไม่นึกเลยว่าคุณจะหาของแบบนี้ได้!”

โพชั่นมนตราคนสองหน้าคือโพชั่นเปลี่ยนร่างชนิดพิเศษ ผลการเปลี่ยนแปลงของมันมิได้ทำให้ผู้ดื่มกลายเป็นมอนสเตอร์สายพันธุ์อื่น แต่ใช้เปลี่ยนร่างเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน สามารถคัดลอกความสามารถของอีกฝ่ายได้เป็นการชั่วคราว ดังนั้นในแง่ของกลิ่นอายและบุคลิกจึงเหมือนกันแทบจะสมบูรณ์ ยากจะแยกแยะ

อย่างไรก็ตาม วิธีการกลั่นโพชั่นมนตราคนสองหน้านั่นค่อนข้างยาก

อย่างน้อยกลุ่มมังกรฟ้าของฮังอวี่ไม่สามารถผลิตได้

นอกจากนี้ กระบวนการกลั่นโพชั่นมนตราคนสองหน้าค่อนข้างโหดร้าย จำเป็นต้องบังคับดึงพลังจิตและพลังชีวิตของบุคคลที่ถูกลอกเลียนแบบออกมาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากเดาไม่ผิด บุคคลที่เป็นเป้าหมายในการเปลี่ยนร่างในโพชั่นขวดนี้น่าจะถูก ฉูเทียนหัวฆ่าตายแล้ว

ฮังอวี่เอ่ยถาม “มีใครเข้าร่วมปฏิบัติการครั้งนี้บ้าง?”

“ยังเลือกไม่ได้ แต่อย่างน้อยทุกคนเป็นยอดฝีมือระดับหัวหน้ากองขึ้นไปทั้งสิ้น”

ฮังอวี่ไม่เรื่องมาก รับโพชั่นมนตรามา “ครั้งนี้ผมจะช่วยคุณ”

ฉูเทียนหัวแสดงท่าทีซาบซึ้งใจ “ถ้านายเข้าร่วม นั่นคงเป็นการดีที่สุด สกายเน็ตสาขาเจียงเฉิงจะไม่มีวันลืมผลงานของนายอย่างแน่นอน”

“แม่มดซัคคิวบัสกับมือกระบี่ดาร์คเอลฟ์ค่อนข้างอันตราย แต่ด้วยความสามารถของพวกเราตอนนี้ น่าจะสามารถรับมือกับพวกมันได้” ฮังอวี่กล่าว “อย่าพึ่งดีใจไป ผมไม่ได้ช่วยฟรีๆ หลังจบเรื่องนี้ ผมหวังว่าคุณจะช่วยผมตามหาผลึกอาคมเหล็กเย็น”

ฉูเทียนหัวไม่เอ่ยถามถึงรายละเอียดของวัสดุ

เขาตอบรับทันที “ไม่มีปัญหา!”

ฮังอวี่แหงนมองฟ้าแล้วเอ่ยกับฉูเทียนหัว “ใกล้ดึกแล้ว กลับไปเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเถอะ”

“รับทราบ!”

ไม่นานมานี้ ในโลกวิญญาณ ฉูเทียนหัวฟังคำสั่งของฮังอวี่มาโดยตลอด ฟังซะจนบางครั้งรับคำสั่งของฮังอวี่จนเป็นนิสัย

บวกกับตอนนี้ เมื่อได้รับคำยืนยันว่าจะช่วยเหลือจากฮังอวี่ มันทำให้ฉูเทียนหัวยากจะระงับความดีใจ เขาเกิดความรู้สึกว่าวันนี้มีโอกาสสำเร็จ 9 ใน 10 ส่วน ดังนั้นลืมตัวตนในฐานะผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองสาขาเจียงเฉิงไปชั่วคราว