ตอนที่แล้ววันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0080
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปวันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0082

วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0081


บทที่ 27 การพักผ่อน, คือส่วนหนึ่งของการเดินทาง (2)

* * *

ในต่างโลกมีเทพเก้าองค์ จากบรรดาทั้งหมด สองจันทร์และสองสุริยันสามารถพบเห็นได้เป็นประจำ

ได้ยินเรื่องเล่าของลิลี่ จินซอยอนตั้งคำถาม

“ถ้าในเทพนิยายมีพระอาทิตย์สามดวงจริง ทำไมพวกเราจึงเห็นแค่สอง”

“อีกหนึ่งคือพระอาทิตย์ดำ เทพผู้ละทิ้งหน้าที่ของดวงอาทิตย์”

“เทพมาร?”

ลิลี่ส่ายหน้า

“ในยามที่พระอาทิตย์ยังมีสามดวง แสงสว่างของทวยเทพรุนแรงเกินกว่าสิ่งชีวิตจะรับไหว พระองค์จึงสละแสง”

“สุดยอด~!”

เป็นเสียงอุทานของชาโซฮี ไม่รู้ว่าทึ่งในเรื่องที่ลิลี่เล่า หรือชื่นชมรสชาติของสุรากันแน่

ฉันก้มมองแก้วเหล้าออนเดอะร็อคหรูหราที่ยืมมาจากโรงแรม ภายในบรรจุของเหลวสีน้ำตาลเข้ม

ได้ยินว่าเป็นเหล้าที่บาร์ของโรงแรมกลั่นเอง ฉันถามว่าทำไมถึงราคาแพงนัก ทางนั้นบอกว่าต้องใช้ฮาวนด์ที่เก่งกาจไปนำรากพืชหายากทางจากทิศใต้มากสกัด อันที่จริงก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่รับรู้ได้ว่ารสชาติยอดเยี่ยมกว่าเหล้าทุกชนิดที่เคยดื่ม

แน่นอน ฉันดื่มไม่เก่ง ของเหลวสีน้ำตาลเข้มจึงไปได้ไม่ไกลกว่าริมฝีปาก แต่ลำพังการถือแก้วจ้องมองกองไฟก็ช่วยให้มีความสุขมากแล้ว

ฉันเงยหน้ามองฟ้า

สามารถกล่าวได้ว่า ท้องฟ้าในต่างโลกมีสีดำสนิทเป็นฉากหลัง และมีคลื่นสีม่วงเข้มกระเพื่อมแผ่วเบา

ท่ามกลางการสั่นไหวเล็กๆ บนนั้นเต็มไปด้วยหมู่ดาว

สองจากเก้าเทพกำลังปรากฏกาย

“พระองค์มีนามว่าอุนเดรากับลา·ชีมา”

“พระจันทร์ดวงใหญ่ที่เคลื่อนที่เร็วคือลา·ชีมา ส่วนดวงเล็กที่อยู่กับที่คืออุนเดรา”

“ไวลด์ฮันต์คือปรากฏการณ์ที่ลา·ชีมาบดบังอุนเดราใช่ไหม”

“ก็ใช่ แต่พวกเราไม่ได้เรียกด้วยชื่อนั้น”

อุนเดราคือเทพที่ปกป้องโลกวัตถุจากโลกวิญญาณ

กล่าวกันว่า เมื่อลา·ชีมาบดบังอุนเดรา การป้องกันจะอ่อนแอลง และการดำรงอยู่ในโลกวิญญาณจะรุกรานความจริง นั่นคือไวลด์ฮันต์

สาเหตุที่เรื่องนี้ถูกหยิบขึ้นมาเล่า เพราะว่าเรื่องสุดท้ายที่เพิ่งเล่าไปคือการบินขึ้นฟ้าของมังกร ทุกคนจึงกำลังแหงนไปด้านบน

“ถ้าอย่างนั้น มังกรก็…”

คิดไม่ถึงว่าจินซอยอนจะเป็นคนอ่อนไหวง่าย ส่วนชาโซฮีที่ฉันเคยคิดว่าเจ้าอารมณ์ กลับนั่งฟังเรื่องราวอย่างเงียบงัน

“เขาคอยปกป้องประตูบานนั้น… เพียงเพราะความทรงจำสุดท้ายคือคำขอร้องของเพื่อน?”

“ใช่”

ฮึก!

หรือจะเป็นเพราะเหล้ากันนะ

“ผ่านมานานแค่ไหน?”

“ตามความคิดของข้า ขั้นต่ำคือหนึ่งหมื่นปี แต่อาจจะสองหมื่นปีก็ได้ ไม่มีใครทราบข้อเท็จจริง”

“อย่างน้อยก็ยุคหิน…”

จินซอยอนยังคงแหงนหน้ามองท้องฟ้า เมื่อเที่ยงวัน มังกรเพิ่งพุ่งทะยานขึ้นไปประหนึ่งอุกกาบาตกลับด้าน

“ทำไมคุณถึงยอมยกลูกแก้ววิเศษให้เขา? ทำไมถึงยอมสละสมบัติล้ำค่าเช่นนั้น”

เป็นคำถามจากจินซอยอน ท่าทีราวกับต้องการคำตอบประเดี๋ยวนี้

ทว่า แม้แต่ฉันเองก็ยังติดอยู่ที่คำว่า ‘ทำไม?’

ฉันไม่เคยคิดหาเหตุผลมาก่อน แค่รู้สึกว่าหัวใจเอนเอียงไปทางนั้นมากกว่า

ลิลี่ที่ก้มหน้ามองแก้วเหล้า เป็นฝ่ายเปิดปากพูดแทน

“…เพราะเรื่องราวควรลงเอยแบบนั้น”

ทุกคน รวมถึงจินซอยอนและซอจีอา หันมามองลิลี่

“ผู้ที่รักษาความศรัทธาและชะตากรรมของตนจนถึงที่สุด สมควรได้รับสิ่งตอบแทนที่เหมาะสม”

“เป็นแนวคิดของชาวต่างโลกสินะ”

จองจีฮุนเสริม

“…ฟังดูเหมือนกับเซียนของโลกเรา แต่ผู้คนไม่ค่อยเห็นคุณค่า”

จินซอยอนช่วยเปรียบเปรย

ความศรัทธา ชะตากรรม

ชาวต่างโลกยินดีที่จะอุทิศชีวิตเพื่อสิ่งเหล่านี้ แต่ชาวโลกนั้นไม่

จินซอยอนหันไปมองท้องฟ้าอีกครั้งด้วยรอยยิ้ม คล้ายกับไม่ได้รังเกียจคำตอบของลิลี่

“มังกรจะตามหาพวกพ้องเจอไหมนะ”

“ข้าไม่ทราบ แม้แต่เขาก็ยังบอกว่าเป็นงานที่ยาก จึงไม่มีใครตอบได้ ส่วนข้าคิดว่า ต้องเป็นเส้นทางที่ยากลำบากแน่นอน”

“หวังว่าจะหาเจอนะ เพราะถ้าวันใดเหล่ามังกรหวนกลับมา ฉันอยากจะเห็นความสง่างามและยิ่งใหญ่ในวินาทีนั้น”

ฟังถึงตรงนี้ ในที่สุดลิลี่ก็ตัดสินใจกระดกแก้วในมือหลังจากลังเลมานาน

เมื่อลองมานึกดู ฉันไม่เคยเห็นลิลี่ดื่มมาก่อน แต่นั่นคงเป็นเพราะฉันไม่เคยหาเหล้ามาให้ดื่ม

จะชอบไหมนะ? ฉันขาดความใส่ใจไปรึเปล่า?

ฉันอดไม่ได้ที่จะกังวล

เมื่อลองมานึกดู ฉันแทบไม่รู้จักลิลี่เลย ทั้งที่เราใช้ชีวิตด้วยกันมาสักพักใหญ่แล้ว

ลิลี่เลียริมฝีปาก สายตายังคงจดจ่ออยู่กับแก้ว

“ทำไมเจ้าถึงไม่เล่าเรื่องนั้นล่ะ”

“เรื่องไหน”

“คำพูดที่มังกรบอกกับเจ้า”

“เห? จริงสิ! นายคุยกับมังกรด้วยนี่นา เขาบอกว่าอะไรหรือ?”

ชาโซฮีเริ่มล้งเล้ง

ทุกคนกำลังตั้งใจฟัง

ลิลี่หันหน้ามาทางฉัน ก่อนจะหลับตาลงและกล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆ

“นิรันดร์ชนจะจดจำเจ้าตลอดไป”

“…”

หลังจากได้ยิน ทุกคนต่างครุ่นคิด

นิรันดร์ชนจะจดจำเจ้าตลอดไป

จำเป็นต้องวิเคราะห์เล็กน้อยเพื่อให้เข้าใจความหมาย แต่ที่มั่นใจได้ก็คือ ประโยคดังกล่าวมีความหมายในเชิงบวก

“…ฟังดูโรแมนติกมาก การถูกนิรันดร์ชนจดจำไปตลอดกาลมีความหมายยังไง? เล่าให้ฟังหน่อยสิ ฉันล่ะอิจฉานายจริงๆ”

“คุณซอนฮู… คุณคือชาวโลกจริงๆ ใช่ไหม? ไม่ได้ล้อเล่นนะ แต่พวกเรามาถึงจุดที่อดคิดไม่ได้ว่าเป็นอีกอย่าง”

“ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ฉันมีความทรงจำสมัยโรงเรียนประถมอยู่นะ”

จินซอยอนยิ้ม สายตายังคงแหงนมองด้านบน

ในเวลาเดียวกัน ชาโซฮีและจินซอยอนหันไปคุยกันสองคน ส่วนลิลี่ก็ดูเหมือนจะเริ่มติดใจเหล้า ความถี่ในการนำแก้วจ่อปากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

“พระจันทร์…”

จินซอยอนที่นั่งมองฟ้ามาสักพัก เปิดปาก

แสงสีแดงจากกองไฟสะท้อนบนใบหน้าหญิงสาวที่หันมาทางฉัน ช่วยให้แว่นตาทรงโบราณที่สภาพค่อนข้างโทรมดูพิเศษกว่าปรกติ

“อยู่ห่างจากโลก 384,000 กิโลเมตรและมีรอบวงโคจร 27.3 วัน พื้นผิวปกคลุมด้วยออกซิเจน ซิลิคอน แมกนีเซียม เหล็ก และอะลูมิเนียม”

ทำไมจู่ๆ ถึงพูดเรื่องนี้?

ฉันนั่งฟังจินซอยอนอย่างตั้งใจ

“นั่นคือดวงจันทร์ที่เรารู้จัก”

“ก็ใช่”

“แต่ดวงจันทร์ที่นี่คือเทพผู้ปกป้องโลกจากปีศาจ”

ฉันพอเดาได้ว่าจินซอยอนจะพูดอะไรต่อ

“โลกของเราเคยมีจันทรเทพไหม?”

“เคยมี ประมาณห้าร้อยปีก่อน” (เทพธิดามยองวอล)

“…วันนี้ได้รู้อะไรใหม่ๆ เยอะเลย”

จินซอยอนเป็นนักวิจัย

ถึงฉันจะไม่รู้หัวข้อที่เธอกำลังศึกษา แต่นักวิทยาศาสตร์ก็คือนักวิทยาศาสตร์

“เด็กสายวิทย์พูดเรื่องขัดหลักวิทยาศาสตร์ได้ด้วยหรือ”

“คุณซอนฮูก็คงเหมือนกับจีฮุน คิดว่าเด็กสายวิทย์ต้องเป็นเนิร์ดคลั่งวิทยาศาสตร์ แต่นั่นเป็นการเหมารวม”

จากนั้น เธอแหงนมองฟ้าอีกครั้ง

“สำหรับโลกใบนี้ ดวงดาวไม่ใช่วัตถุนอกโลกที่อยู่ห่างไกล แต่เป็นดารากรขึ้นสวรรค์ และท้องฟ้าคือบ้านของพวกเขา ไม่ใช่ชั้นบรรยากาศที่กระจัดกระจาย และพระจันทร์กับพระอาทิตย์คือเทพ ไม่ใช่ระบบสุริยะ ป่าคือสิ่งมีชีวิต และแวมไพร์สามารถมองเห็นวิญญาณ”

“มังกรบินไปในอวกาศ และนักบุญหญิงละทิ้งการทำนาย”

“คิดถูกแล้วหรือที่พวกเราพยายามศึกษาโลกใบนี้? มนุษย์จะได้อะไรกลับมา?”

คล้ายกับเธอกำลังจมอยู่กับความคิด แต่สีหน้าไม่ได้เคร่งเครียดขนาดนั้น คงเป็นนิสัยติดตัวมาตั้งแต่เกิดของพวกนักวิจัย

“คุณซอนฮู”

จองจีฮุนที่นั่งฟังบทสนทนา เปิดปาก

“คุณจะทำอะไรต่อ”

“ไปทางตะวันออก อย่างน้อยก็รู้ว่าทางนั้นมีสมบัติ”

“มังกรตัวนั้นบอกว่า อัศวินแห่งท้องฟ้ามุ่งหน้าไปทางตะวันออกใช่ไหมครับ”

หงึก

สีหน้าจองจีฮุนแปลกไปทันที

“มีอะไรงั้นหรือ”

“อัศวินแห่งท้องฟ้า… ผมรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก อาจเพราะเคยได้ยินอะไรที่คล้ายกันมา หรือไม่ก็เคยอ่านจากในเอกสารลับของบริษัท”

ข้อเท็จจริงนี้ ฉันไม่ควรมองข้าม

จองจีฮุนเป็นอีกหนึ่งคนที่รู้ความลับสกปรกของ OWIC

“ผมจะช่วยค้นเอกสารให้”

หงึก

ฉันกะว่าจะพักสักนิดและออกเดินทางไปตะวันออกทันที แต่ถ้าต้องยืดเวลาออกไปเล็กน้อยเพื่อให้ได้ข้อมูลสำคัญ ฉันก็ยินดี

“…โอ๊ก!”

ทันใดนั้น เสียงประหลาดดังขึ้น

เป็นเสียงที่ฟังแล้วไม่สบายใจเลย ฉันกระสับกระส่ายอย่างไร้เหตุผล

“…ฮ๊า!”

เป็นเสียงที่ฝังอยู่ในยีนของฉัน ชวนให้นึกถึงอันตรายทุกครั้งที่ได้ยิน

นึกออกแล้ว

ขวดเหล้าข้างๆ ชาโซฮี ตอนนี้มันเหลือไม่ถึงครึ่ง

เหล้ายักษ์ขวดนั้น แต่ละคนเพิ่งกินกันไปไม่ถึงสองแก้ว

“ฮุฮุฮุ…!”

ฉันมองหน้านังเอลฟ์ตัวแสบที่กำลังหัวเราะอย่างสนุกสนานข้างๆ ชาโซฮี

“เธอมอมหล่อนทำไม?”

“หมายความว่ายังไง? ใครมอม? ที่รัก ข้าแค่รินให้ เหล้ามันวิ่งเข้าปากเองไม่ได้หรอกนะ”

ซอจีอายักไหล่ด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย

ขณะทั้งสองคุยกันเมื่อครู่ ซอจีอากับชาโซฮีพูดไปดื่มไป สนุกสนานจนเหล้าลดฮวบฮาบโดยไม่รู้ตัว

“ซอนู… ช้าน… มีอะไรจะขอร้อง…”

ให้ตายสิ เกร็งชะมัด

จินซอยอนมองไปทางอีกฝ่ายด้วยใบหน้าขบขัน

“เป็นพวกเมาแล้วทำตัวน่ารักสินะ”

“คุณซอยอน ช่วยพาเธอกลับบ้านได้ไหม”

“หืม… คุณลืมไปแล้วหรือว่าเมื่อตอนกลางวันเราคุยอะไรกัน? โซฮีอพยพไม่ได้ ก็เลยต้องอยู่ที่นี่”

“ซอนู… สัญญานะ… ว่าจาม่ายโกรธ…”

“เรื่องอะไร”

“ฉัน… อยากฟังเพลง… หม่ายๆ”

“…?”

“เพลงหม่ายๆ ของโลกเน้… เหมือนกับตำนานหม่ายๆ … ที่แม่หนูนั่นเล่า”

เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงตน ลิลี่หันไปมองชาโซฮี

“โอ้ส! ถึงเวลาของข้าแล้วสินะ! ถึงเจ้าไม่ขอ ข้าก็เตรียมจะร้องอยู่แล้ว! ทุกคนถือช้อนแล้วยกมือขึ้น! วู้ว!”

เคยกังวลว่าลิลี่จะตอบสนองอย่างไร แต่เมื่อเห็นเธอกำลังยิ้ม ฉันก็เบาใจ

จากนั้นก็ได้ตระหนักว่า ผิวพรรณขาวๆ ของแวมไพร์ สามารถแดงก่ำได้ถึงขนาดนี้เชียว

“…คนนี้ก็เมายับไม่ต่างกัน”

ลิลี่หลับตาลง หลังจากลังเลสักพัก ริมฝีปากของเธอเริ่มขยับ

พวกเรารอคอยอย่างใจเย็น ฉันคิดว่าเกือบทุกคนคงกำลังกลั้นขำ

เป็นเพลงที่ไม่มีเนื้อ ลิลี่เพียงฮัมทำนอง

ขอแค่ไม่ใช่เพลงของโลกมนุษย์ก็พอใจแล้ว

ฉันเคยเห็นมังกร นักบุญหญิง และดารากรด้วยตาตัวเอง แต่ยังไม่เคยฟังเพลงของต่างโลก

“…เฮะเฮะ!”

ชาโซฮีฉีกยิ้มกว้างพลางเฝ้ามองภาพดังกล่าว

ค่อนข้างผิดคาด เสียงของลิลี่ดีกว่าที่ฉันคิดไว้มาก

* * *

วันถัดมา

ฉันตื่นมาพร้อมกับอาการสมองสั่น

แค่สามจิบเองนะ เหล้าไม่แรงไปหน่อยหรือ?

ตับของฉันที่ทนได้แม้กระทั่งพิษในต่างโลก กลับยอมยกธงขาวเมื่อเจอกับแอลกอฮอล์

ฉันหันไปมองลิลี่ เธอกำลังนอนหมกผ้าห่ม เส้นผมบานออกประหนึ่งพัด

เมื่อฉันลุกจากเตียง ลิลี่เลิกผ้าห่มขึ้นมานั่ง พลางจ้องฉันด้วยดวงตาสีแดง

เธอดูตามบวมๆ นะ

“…ข้าปวดหัว”

“จำเรื่องเมื่อคืนได้ไหม”

ลิลี่กลอกตาเล็กน้อย

“ไม่เลย ข้าทำอะไรลงไปบ้าง”

“เธอร้องเพลง”

“…!?”

ลิลี่ขมวดคิ้วทันที ฉันอมยิ้มขณะเดินออกจากห้องนอนและเปิดไฟห้องนั่งเล่น

ถึงจะชื่อห้องนั่งเล่น แต่ก็ใกล้เคียงห้องทำงานมากกว่า เป็นห้องแคบๆ ที่มีโต๊ะทำงานและอุปกรณ์อีกหลายชนิด

เมื่อลองนึกดูให้ดี ผู้อำนวยการคนหนึ่งของ OWIC เคยรับปากเองว่า จะช่วยฉันขยายกระท่อม

“…คงถึงเวลาแล้วสินะ”

การเดินทางไปยังตะวันออกคราวนี้คงใช้เวลาสักพัก ควรฝากฝังงานใหญ่ไว้สักชิ้น

เมื่อกลับมาถึง กระท่อมก็คงต่อเติมเสร็จพอดี

คิดถึงตรงนี้ ฉันนั่งลงเพื่อจัดระเบียบสิ่งของที่เรียงไว้เมื่อวาน จนกระทั่งพบวัตถุที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

โทรศัพท์มือถือ

ฉันจำได้ในทันที มันคือโทรศัพท์มือถือที่ได้มาจากการสำรวจตะวันออกรอบก่อน

มือถือที่เคยฝากชาโซฮีกู้ข้อมูล

ฉันทดลองเปิดเครื่อง

ตีริ๊ง—

เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้น โทรศัพท์ทำงานในสภาพแบตเตอรี่เต็มและไม่ได้ล็อกหน้าจอ

ดูเหมือนว่า หลังจากจบวงเหล้าเมื่อคืน ชาโซฮีจะแอบนำโทรศัพท์ที่กู้เสร็จแล้วมาวางไว้

แล้วทำไมถึงไม่บอก?

ฉันชำเลืองไปทางชาโซฮีที่กำลังนอนอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้องนั่งเล่น ขดทั้งตัวอยู่ในถุงนอน ดูไม่ต่างอะไรกับดักแด้

ฉันสลัดทุกความคิดออกจากหัวชั่วขณะ

ข้อมูลใหม่อยู่ตรงหน้าแล้ว ไม่มีทางที่ฉันจะไม่อยากรู้อยากเห็น

OWIC พยายามซ่อนความจริงหลังกำแพง ไม่เว้นแม้แต่กับคนของตัวเอง

แถมยังแอบส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจ ตอนนี้ยังมีแค่ฉันที่รู้เรื่องนี้

พวกเขาแอบทำอะไรอยู่?

หลังจากไล่เปิดโฟลเดอร์ ฉันพบวิดีโอ

จากบรรดาทั้งหมด ฉันเลือกเล่นอันที่ดูน่าสนใจที่สุด

กล้องสั่นเล็กน้อยในตอนแรก ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่วิดีโอที่ถ่ายจากมือถือเครื่องนี้

กล้องกำลังลอยขึ้น

ลอยขึ้น และลอยขึ้น

“…?”

ฉันเพิ่งตระหนักว่า

นี่เป็นภาพถ่ายจากโดรน

โดรนกำลังบินบนฟ้าด้วยความเร็วสูง ผ่านป่าใหญ่ที่ล้อมรอบโบราณสถานตะวันออก

ไม่ใช่โดรนของเล่นหรือโดรนที่หาซื้อได้ทั่วไป แต่เป็นโดรนทางการทหารตัวใหญ่ที่สามารถบินเป็นระยะทางไกล

“…”

OWIC ถึงกับใช้อุปกรณ์แบบนี้ในต่างโลก?

ตรงข้ามกับนโยบายของตัวเองโดยสิ้นเชิง

ฉันกลับมาสนใจวิดีโออีกครั้ง

โดรนบินพ้นเขตป่ายักษ์ เข้าสู่เขตเทือกเขาใหม่

เมื่อระยะทางเพิ่มขึ้น คุณภาพก็วิดีโอเริ่มลดลง แต่ก็ยังพอดูออก

ภาพวิดีโอที่สั่นสะเทือนเล็กๆ ขณะบินผ่านเทือกเขา กลับเป็นปรกติอีกครั้งเมื่อพ้นเขตเทือกเขาและเข้าสู่ที่ราบ

ที่นี่คือ

“ทะเลทราย”

ชาโซฮีที่เดินเข้ามาใกล้โดยไม่รู้ตัว พูดขึ้นขณะมองมาที่หน้าจอ

“ภาพจากโดรน? พวก OWIC กล้าใช้โดรนในต่างโลกแล้วหรือ”

แต่ต้องขอบคุณโดรน ฉันจึงได้รู้ว่า ในทิศทางที่จะไปมีทะเลทรายรออยู่

เดาจากภาพ โดรนกำลังบินเร็วมาก เร็วจนอาจใกล้เคียงความเร็วเสียง

ถึงจุดที่การส่งสัญญาณระยะไกลเริ่มติดขัด แต่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว เมื่อคำนึงว่าที่นี่ไม่มีดาวเทียม

OWIC กำลังใช้เทคโนโลยีที่พวกเราไม่รู้จักแน่นอน

โดรนที่กำลังบินผ่านทะเลทราย จู่ๆ ก็หันกล้องลงพื้น

“…นี่มันอะไร”

ชาโซฮีลดเสียงลงขณะเห็นภาพอันน่าเหลือเชื่อ

ด้านล่างมีรอยแยก

บางที คำว่า ‘รอยแยก’ อาจอธิบายได้ไม่ชัดเจน

ด้วยความสูงระดับนี้ ต้องเป็นรอยแยกแบบไหนกัน ถึงต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะดูออก?

ต่อให้นำภูเขาทั้งลูกมาวางในแนวนอน ก็ดูเหมือนจะยังไม่พอสร้างสะพานข้ามรอยแยกนี้

รอยแยกกว้างมากจนกล้องมุมสูงถ่ายไม่เห็นสุดขอบซ้ายขวา

ชาโซฮีข้างๆ กลืนน้ำลายอึกใหญ่

โดรนค่อยๆ บินลงไป แต่มองเท่าไรก็ไม่เห็นก้นบึ้ง

ในวินาทีนี้ ฉันทราบได้ทันทีว่า มันคือ ‘ห้วงลึกไร้ก้น’ ที่กิโฮเต้พูดถึง

ฉันหยิบเข็มชี้สีทองออกมาวาง

เข็มเล็งไปยังทิศทางของรอยแยก

มีความแตกต่างเพียงเล็กน้อย ระหว่างทิศทางของเข็มขณะอยู่บนเกาะท้องฟ้า กับขณะอยู่ในกระท่อม

นั่นหมายความว่า ปลายทางอยู่ห่างออกไปไกลมาก

…คำนวณหยาบๆ ก็คงประมาณรอยแยกนี้พอดี

“ฉันคิดว่าสมบัติชิ้นถัดไปอยู่ที่นี่”

“นายคิดจะไปจริงๆ หรือ?”

ทันใดนั้น

ครืนนน!

รยางค์คล้ายหนวดปลาหมึกขนาดยักษ์ พุ่งขึ้นจากรอยแยก

ถ้าจะให้เทียบล่ะก็ คงประมาณหนวดของคราเค่น

…กลางทะเลทราย?

หนวดพุ่งชนโดรน

วิดีโอจบลงแค่นี้

“…นายคงไม่ได้คิดจะไปที่นั่นใช่ไหม? ทำไมไม่ตอบฉันล่ะ? ยิ้มทำไม?”

“ลิลี่! ออกมาหน่อย”

“…มีอะไร”

“ฉันจะแวะไปที่โบราณสถานตะวันออกสักครู่หนึ่ง”

“มันอยู่ไกลไม่ใช่หรือ? อย่างน้อยก็ต้องเดินทางเป็นเดือน”

“ฉันพอจะเดาได้แล้วว่าไบฟรอสต์อยู่ที่ไหน”

คำวิงวอนยังคงถูกสลักบนฝ่ามือของฉัน

ของขวัญจากนักบุญหญิง คำวิงวอนที่จะช่วยกระตุ้นการทำงานของประตูมิติ

เนื้อหาในวิดีโอเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ฉันอยากรู้พอดี

______________________

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (2/4)

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด