ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 57 เหยียบย่ำป้อมวายุทมิฬ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 59 ความสำเร็จขั้นแรก

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 58 ยันต์ราชันสงคราม


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 58 ยันต์ราชันสงคราม

แปลโดย iPAT  

หลี่ฉิงซานเตะศพที่อยู่ใกล้เท้าของเขาออกไปและเผยรอยยิ้ม “มันควรสะอาดเช่นนี้ มาเถอะ เจ้าป้อมซ่ง ข้าจะส่งเจ้าตามเขาไปอย่างรวดเร็ว!” เขาหันหน้าไปด้านข้างเล็กน้อย “และคนที่อยู่ด้านหลัง ข้าจะส่งพวกเจ้าไปพร้อมกัน!”

หัวหน้าลำดับที่สองของป้อมวายุทมิฬที่แต่งตัวเหมือนบัณฑิตไม่เหลือท่าทางสุภาพอ่อนโยนอีกต่อไป หมวกบัณฑิตของเขาหลุดออกจากศีรษะที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่ออันเย็นเยียบ เขารอดชีวิตมาได้เพราะโชค เขารู้สึกหวาดกลัวมาก เมื่อหลี่ฉิงซานชำเลืองมองเขา เขาก็เดินโซเซถอยหลังไปราวกับถูกฟ้าผ่า

“พี่ใหญ ข้าไม่อยากตายที่นี่ ข้าปล่อยให้สติปัญญาของข้าสูญเปล่าเช่นนี้ไม่ได้!” หลังกล่าวจบคำ หัวหน้าลำดับที่สองก็เร่งหลบหนี การเคลื่อนไหวของเขาพริ้วไหวและเบาเหมือนขนนก เขาไปถึงด้านหน้าป้อมในเวลาไม่กี่วินาที โจรคนอื่นๆก็หลบหนีกระจัดกระจายไปพร้อมกัน

“ขยะ!” ซ่งเซียงอู๋ก่นด่า หากไม่ใช่เพราะหลี่ฉิงซานอยู่ที่นี่ เขาจะฆ่าทุกคนที่หลบหนีด้วยตนเอง

อย่างไรก็ตามเพียงเมื่อหัวหน้าลำดับที่สองกำลังจะก้าวเท้าออกจากประตูป้อม มีดสั้นเล่มหนึ่งก็เคลื่อนผ่านลำคอของเขาไปอย่างเงียบเชียบ

ความหวาดกลัวครอบงำจิตใจของเขาขณะที่เขามีเพียงความคิดที่จะหลบหนี ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถป้องกันตัวจากมีดสั้นเล่มเล็กๆที่เคลื่อนผ่านความมืด เลือดพุ่งกระฉูดออกมาพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง เขาตายโดยไม่รู้ตัวและไม่รู้ว่าผู้ใดฆ่าเขา

โจรคนอื่นๆที่พยายามหลบหนีประสบชะตากรรมเดียวกันกับเขา ประตูป้อมที่มืดมิดกลายเป็นดินแดนแห่งความตาย

ซ่งเซียงอู๋มองไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นที่ประตูป้อม เขาได้ยินเพียงเสียงตุบอย่างต่อเนื่องเท่านั้น อย่างไรก็ตามเขายังตระหนักได้ว่าคนเหล่านั้นจบสิ้นแล้ว หัวใจของเขาสั่นสะท้านขึ้น เขาตะโกน “เจ้าทำสิ่งใด?”

หลี่ฉิงซานยิ้มและสารภาพ “แน่นอนว่าข้าฆ่าพวกเขา!” ตั้งแต่เสี่ยวอันฝึกเคล็ดวิชากระดูกขาวและความงามอันเป็นนิรันดร์ เขาไม่กลัวกลิ่นอายของผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งอีกต่อไป อย่างไรก็ตามเด็กน้อยยังไม่สามารถเข้าใกล้สนามรบที่เต็มไปด้วยจิตสังหารของผู้คนจำนวนมาก แต่นั่นก็เป็นโอกาสที่ดีในการซุ่มโจมตี

โจรที่หลบหนีไปในความมืดเป็นเหยื่อที่ดีที่สุด พวกเขาไม่สามารถต่อต้านคมมีดที่กรีดลำคอของพวกเขาและไม่แม้แต่จะมองเห็นเพชฌฆาต

ความโกรธของซ่งเซียงอู๋พุ่งขึ้นจนถึงขีดสุด ทุกสิ่งที่เขาสร้างขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาถูกทำลายลงในลักษณะนี้ มันถูกทำลายด้วยน้ำมือของเด็กน้อยผู้หนึ่ง ตอนนี้กองโจรที่เคยยิ่งใหญ่เหลือเพียงเขาเท่านั้น ป้อมขนาดมหึมากลายเป็นแดนมรณะของคนตาย

หลี่ฉิงซานจับหอกในท่าควบม้า “เข้ามา!”

ซ่งเซียงอู๋มองหลี่ฉิงซาน จากนั้นเขาก็ใช้มือที่สั่นเทาดึงกระดาษยันต์สีเหลืองจางๆออกมาจากหน้าอกอย่างระมัดระวัง เขาได้รับยันต์แผ่นนี้มาโดยบังเอิญ มันเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะช่วยชีวิตเขา แต่เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะต้องใช้มันในเวลานี้

หลี่ฉิงซานมองเห็นกระดาษยันต์อย่างชัดเจน เขารู้สึกกังวลเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้พลังทั้งหมดกับกระบวนท่าที่ทรงพลังที่สุดของหอกทรราช ‘ครองโลก!’ หอกพุ่งผ่านอากาศไปอย่างไม่หยุดยั้ง

ซ่งเซียงอู๋กัดปลายลิ้นและถ่มน้ำลายเลือดลงบนกระดาษยันต์ก่อนที่จะติดมันไว้บนหน้าอกของตน แสงสว่างส่องประกายขึ้นและห่อหุ้มร่างกายของเขาเอาไว้ทันที เขาคำราม “ข้าจะฆ่าเจ้า!”

“ปัง!” เสียงปะทะดังขึ้น ชั้นแสงสีทองปิดกั้นหอกทรราชที่ไม่มีผู้ใดเคยหยุดได้ มันไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้อีกแม้แต่นิ้วเดียว แรกเริ่ม เสี่ยวอันต้องการช่วยเหลือหลี่ฉิงซาน แต่ภายใต้แสงสีทอง เด็กน้อยไม่สามารถเข้าใกล้สนามรบ

ซ่งเซียงอู๋คว้าปลายหอกเอาไว้ขณะที่หลี่ฉิงซานรู้สึกถึงพละกำลังที่ไม่ด้อยไปกว่าตัวเขาเอง เขาเร่งกระทืบเท้าลงบนพื้นด้วยทักษะหมัดปีศาจวัวและปฏิเสธที่จะล่าถอย

ทั้งสองต่อสู้กันด้วยพละกำลัง หอกโลหะที่หนาพอๆกับข้อมือมนุษย์กลายเป็นโก่งงอจนน่าตกใจ

พวกเขาค่อยๆเคลื่อนที่เข้าใกล้กันมากขึ้น จากระยะห้าก้าวเป็นสามก้าวก่อนจะเหลือหนึ่งก้าว

ซ่งเซียงอู๋ยกมือขึ้นและส่งฝ่ามือไปที่ศีรษะของหลี่ฉิงซาน มือของเขาใหญ่เหมือนอุ้งเท้าหมี มันดูไม่สมส่วนกับร่างกายของเขาเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะเมื่อมันถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีทอง มันยิ่งดูใหญ่โตมากขึ้นไปอีก

เสียงตบดังขึ้น หลี่ฉิงซานปล่อยมือออกจากหอกทรราชและล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว เขาถูกโจมตี! เกราะเหล็กของเขาฉีกเป็นชิ้นๆเหมือนกระดาษ หน้าอกของเขาได้รับบาดเจ็บ มันรุนแรงยิ่งกว่าการถูกแทงด้วยดาบหรือลูกดอก

“บึม!” ราวกับซ่งเซียงอู๋ไม่สามารถควบคุมความแข็งแกร่งของตน เขาเหยียบพื้นจนแผ่นดินจมลงไป มันยังลึกกว่าตอนที่หลี่ฉิงซานใช้ท่าปีศาจวัวกระทืบจากก่อนหน้า

หลี่ฉิงซานถาม “นี่คือสิ่งใด?”

ซ่งเซียงอู๋ไม่อธิบาย เขาคำราม “นี่คือความตายของเจ้า!”

“นั่นคือยันต์ราชันสงคราม มันจะทำให้ผู้ใช้งานราวกับได้รับการคุ้มครองจากราชันสงครามและครอบครองพละกำลังที่ไร้ขีดจำกัด!” วัวดำโผล่มาจากไหนไม่มีใครรู้และอธิบายอย่างเฉยเมย

‘วัวพูดได้!’ ซ่งเซียงอู๋ประหลาดใจมาก

“พี่วัว สิ่งใดนำท่านมาที่นี่?”

วัวดำกล่าว “รีบฆ่ามัน เจ้ายังมีสิ่งที่ต้องทำ!”

“ตกลง!” หลี่ฉิงซานฉีกชุดเกราะและโยนทิ้งไปก่อนจะพุ่งเข้าหาซ่งเซียงอู๋ “ได้รับการคุ้มครองจากราชันสงครามงั้นหรือ? เพียงดูข้าทุบกระดองเต่าของเจ้าให้แตก!”

ซ่งเซียงอู๋ส่งฝ่ามือออกไปและลอบเย้ยหยัน ‘ผู้ใดจะคิดว่าเจ้าจะเดินเข้ามาหาความตายด้วยตนเอง!’

พลังปราณในร่างของหลี่ฉิงซานปะทุขึ้นเมื่อหมัดปีศาจวัวพุ่งออกไป

ฝ่ามือและหมัดชนกันทำให้เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง พื้นดินใต้เท้าหลี่ฉิงซานยุบตัวลง หินแตกเป็นเสี่ยงๆ กระดูกทั่วร่างของเขาส่งเสียงลั่น กล้ามเนื้อทุกส่วนกลายเป็นด้านชา แต่เขากลับเพิกเฉยต่อพวกมันและตะโกนออกไปว่า “อีกครั้ง!” เขาชกอีกหมัด

“ปัง!” หลี่ฉิงซานถูกมือยักษ์ตบลงไปเป็นครั้งที่สอง

ซ่งเซียงอู๋ต้องการบดขยี้หลี่ฉิงซานให้เละเป็นโจ๊ก แต่ร่างกายของหลี่ฉิงซานราวกับเหล็กกล้าที่ใช้การโจมตีของฝ่ายตรงข้ามหลอมให้แข็งแกร่งขึ้น

พวกเขาปะทะกันหลายสิบครั้ง เข่าของหลี่ฉิงซานจมลงไปใต้ดินแล้ว เลือดไหลออกมาจากปากและจมูกของเขาแต่ความมุ่งมั่นของเขากลับแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

ซ่งเซียงอู๋หยิบยืมพลังจากภายนอก เขาแข็งแกร่งมาก อย่างไรก็ตามความเร็วในการฟื้นตัวของเขาหลังจากการโจมตีแต่ละครั้งไม่เร็วเท่าหลี่ฉิงซาน ในที่สุดเขาก็เปิดช่องว่างและหลี่ฉิงซานไม่มีวันปล่อยโอกาสเช่นนี้ให้หลุดมือ เขาส่งหมัดออกไปแต่แสงสีทองทำให้มันไร้ผลอีกครั้ง

“ไร้ประโยชน์! เจ้าแตะต้องข้าไม่ได้!” ซ่งเซียงอู๋หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

“ข้าก็อยากรู้ว่าเจ้าจะป้องกันหมัดของข้าได้กี่ครั้ง!” หลี่ฉิงซานไม่ให้เวลาคู่ต่อสู้ของเขามีเวลาหายใจ เขารัวหมัดที่หนุนเสริมด้วยพลังปราณออกไปอย่างไม่หยุดยั้ง

ชั้นแสงสีทองสั่นสะเทือนทุกครั้งที่ถูกโจมตีและจางลงเรื่อยๆ ซ่งเซียงอู๋เดินโซเซถอยหลังกลับไป เลือดเริ่มไหลออกมาจากมุมปากของเขา เห็นได้ชัดว่าชั้นแสงไม่สามารถลบล้างพลังทั้งหมดของหมัด

ซ่งเซียงอู๋ทรุดตัวลงบนเข่าข้างหนึ่ง เขากรีดร้องด้วยความโกรธและปฏิเสธที่จะเชื่อ “เจ้า!”

“ตาย!” หลี่ฉิงซานชักดาบมังกรทะยานออกมาและเติมพลังปราณเข้าไป ดาบส่องประกายขึ้นจนดูเหมือนดาบแสง มันยังยาวขึ้นอีกหนึ่งฟุต เขาเหวี่ยงดาบแสงออกไปด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมด ชั้นแสงสีทองถูกตัดขาดพร้อมกับศีรษะของซ่งเซียงอู๋ที่หลุดออกจากบ่าและกลิ้งไปบนพื้น ใบหน้าของเขายังเต็มไปด้วยความตกใจและหวาดกลัวอย่างที่สุด

หลี่ฉิงซานยกดาบแสงขึ้นและกล่าว “เจ้าป้อมวายุทมิฬถูกตัดหัวที่นี่! ป้อมวายุทมิฬล่มสลายแล้ว!” หลังจากนั้นเขาก็สะบัดดาบและยกย่อง “ดาบที่ยอดเยี่ยม!” เขาไม่ได้ใช้ดาบเล่มนี้ตั้งแต่เริ่มต้น หากเขาใช้มันตั้งแต่แรก ไม่เพียงเขาจะล้มเหลวในการฆ่าซ่งเซียงอู๋ ดาบของเขายังจะถูกทำลายอีกด้วย

แม้วัวดำจะบอกว่ามันเป็นอาวุธจิตวิญญาณระดับต่ำ แต่อย่างน้อยมันก็มีประโยชน์และเหมาะสมกับเขาในเวลานี้ เขาถาม “พี่วัว ท่านต้องการให้ข้าทำสิ่งใด?”

วัวดำกล่าว “ช่วยผีน้อยบรรลุบางสิ่งบนเส้นทางแห่งกระดูกขาวและความงามอันเป็นนิรันดร์ ไปรวบรวมศพ อย่าปล่อยให้เสียของ”