ตอนที่แล้วตอนที่ 16 ข้าเพิ่งจะเริ่มเอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18 จุดจบของนิกายเลือดและกระดูก

ตอนที่ 17 ฆ่าล้างบาง


หลังจากหายใจทิ้งอยู่ครู่หนึ่ง พื้นที่ว่างเปล่าก็เต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวนของความทรมานและการอ้อนวอนขอความเมตตา เลือด และแขนขา

หัวใจของไมเคิลเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและเจตนาฆ่า ดวงตาแดงก่ำ ยิ่งเขาตัดขาของพวกมันมากเท่าไร เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น ในขณะที่ปลดปล่อยความโกรธที่สุมอยู่ในอกกับสาวกเหล่านี้ เขาเพิกเฉยต่อคำอ้อนวอนขอความเมตตาของพวกมันโดยสิ้นเชิง

เขารู้ว่าคนพวกนี้เป็นเหมือนสัตว์ที่สัญจรไปมาบนโลกใบนี้และสมควรที่จะตายทั้งหมด เขารู้ว่าเขาต้องทำให้พวกมันรู้สึกอย่างที่ชาวบ้านและเด็กๆ รู้สึกก่อนที่พวกมันจะตาย

ในเวลาเดียวกัน จิตใจของเขาเต็มไปด้วยเสียงและการเตือนอย่างต่อเนื่องของระบบ

“ข้าจะฆ่าเจ้า!!!”

รัฟฟี่ไม่สามารถระงับความโกรธของเขาได้อีกต่อไปหลังจากมองสาวกที่แขนขาขาดของเขานอนจมกองเลือดอยู่

กลุ่มผู้อาวุโสตกใจมากเมื่อเห็นคาถาและเทคนิคแปลกๆ ของเขา แต่พวกเขารู้ว่าถ้าพวกเขาไม่ลงมือตอนนี้ รัฟฟี่จะฆ่าพวกเขา

"เข้ามาสิ!"

เขาหัวเราะลั่นขณะจับขวานและพุ่งเข้าหากลุ่มผู้อาวุโสที่มีท่าทางหวาดกลัว  เมื่อมองไปที่ความเร็วของเขา พวกเขาก็หยุดเคลื่อนไหวด้วยความตกใจและไม่ขยับแม้แต่นิ้วเดียว

ในวินาทีสุดท้าย เหล่าผู้อาวุโสฟื้นความรู้สึกและเริ่มร่ายคาถาต่างๆ เพื่อป้องกันตัวเอง แต่ก็ยังกลัวอย่างมาก

ไม่ว่าพวกเขาจะร่ายคาถาหรือทักษะใดก็ตาม พวกมันก็ไม่สามารถทะลุผ่านโล่ของไมเคิลได้

หลังจากความพยายามที่จะฆ่าเขาไร้ผลอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาจ้องไปที่คมขวานสีทองด้วยความรู้สึกเจ็บปวดมหาศาล ในเวลาต่อมา ร่างของพวกเขาก็ล้มลงกับพื้น ซึ่งมีขาเปื้อนเลือดอยู่ตรงหน้า

คาถากระจอกๆของพวกเขาจะสร้างความเสียหายให้กับเขาได้ยังไง เขาใช้คะแนนสุดโกง 2,500 แต้มไปกับโล่ และท่ามกลางผู้บ่มเพาะระดับหลอมกายา เขาไร้เทียมทาน

กลุ่มของคลาร่าเบิกตากว้าง ประหลาดใจอย่างมาก และเริ่มรู้สึกกลัวเขา

“เขาแข็งแกร่งและเร็วเกินไป พวกผู้อาวุโสไม่มีโอกาสได้ร่ายเวทย์ป้องกันด้วยซ้ำ”

ผู้ชายคนหนึ่งกระซิบกับเพื่อนของเขา

“เขาแข็งแกร่งเกินไป เขาต้องปกปิดระดับการบ่มเพาะของเขาจากคนอื่นแน่ๆ!”

“เห็นเขาเลื่อนจากระดับรากฐานไประดับหลอมกายาทั้งอย่างนั้นไหม?”

“เขาต้องใช้คาถาปกปิดบางอย่างเพื่อซ่อนระดับการบ่มเพาะที่แท้จริงของเขา และใช้สิ่งนี้มาหลอกสาวกเลือดและกระดูก เขาเป็นผู้ฝึกบ่มเพาะระดับเสริมกายาหรือเปล่า?”

“จากพลังของเขา มันต้องใช่แน่ๆ !”

เขากำลังสับขาของสาวกที่เหลือ ขณะที่รัฟฟี่ดูเหมือนลังเลที่จะโจมตีเขา ระบบส่งเสียงติ๊ดในใจซ้ำๆ เพื่อแจ้งรางวัลที่เขาได้รับ

ในตอนท้าย ไมเคิลกระแทกขวานลงกับพื้นและยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าสาวกที่เกือบตายและขาขาด จากนั้นเขาก็ตะโกนใส่รัฟฟี่ "เจ้าจะโจมตีข้าอยู่ไหม?"

แม้ว่ารัฟฟี่จะโกรธ แต่สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่าคนๆ นี้มีพลังมหาศาล เขารู้สึกไม่ดีเมื่อจ้องมองเขาและถามว่า "เจ้าเป็นใคร?"

“เจ้าไม่มีสิทธิ์รู้ชื่อข้า”

เขายิ้ม แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า

“แกทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร?”

รัฟฟี่ชี้ไปที่เหล่าสาวกและกลุ่มชายชราที่กำลังคลานอยู่บนพื้น

" หมู่บ้านไม้กุหลาบ "

เขาพูดแค่สองคำ แต่น้ำเสียงของเขาต่ำและจริงจัง

“นั่นมันชื่อหมู่บ้านเล็กๆ แถวนี้ไม่ใช่หรอ?”

หญิงสาวที่อยู่ข้างหลังคลาร่าขมวดคิ้ว รัฟฟี่เองก็จำหมู่บ้านนี้ได้

“เพื่ออะไรงั้นเหรอ?”

คลาร่าและกลุ่มของนางเอียงคอและรอคำตอบ แต่แทนที่จะพูด เขากลับหัวเราะราวกับคนบ้าที่ชั่วร้าย

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาก็หยุดหัวเราะและจ้องไปที่รัฟฟี่

“เพื่ออะไร เพื่ออะไร ห๊ะ เจ้าใช้ชาวบ้าน เด็กน้อยเป็นหุ่นเพื่อฝึกคาถาของเจ้า แล้วเผาทั้งหมู่บ้านเพื่ออะไร?”

รัฟฟี่กำหมัดแน่นขณะที่เส้นเลือดหลายเส้นปูดขึ้นที่แขนของเขา เขายังคงหน้าซีดในขณะที่หัวเราะออกมาอย่างโกรธเคือง

“ดี ดี เจ้าทำอย่างนี้เพราะมดไร้ค่าเหล่านั้น นับตั้งแต่วันที่นิกายเลือดและกระดูกของข้าก่อตัง จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครกล้ามีปัญหากับเรา แกเป็นคนแรกและจะเป็นคนสุดท้าย”

วินาทีถัดมา เขาก็หยิบดาบออกมาแล้วพุ่งใส่ไมเคิล และโยนแผ่นจารึกสีทองทิ้งไป

“เขาทำอย่างนี้เพราะมนุษย์ธรรมดาไม่กี่คนอย่างงั้นเหรอ?”

ชายหนุ่มคนหนึ่งถามกลุ่มเหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย

“พี่คลาร่า เราควรทำยังไงดี”

คลาร่าถอนหายใจและหยิบแผ่นจารึกสีทองขึ้นจากพื้น

“มาดูกันว่าเรื่องนี้จะคลี่คลายยังไง ข้าไม่คิดว่าเขาจะฆ่าเจ้านิกายรัฟฟี่ได้”

รัฟฟี่เป็นผู้บ่มเพาะระดับเสริมกายา ความแตกต่างระหว่างระดับหลอมกายาและระดับการเสริมกายานั้นสูงมาก และไม่น่าเป็นไปได้มากที่ผู้บ่มเพาะระดับหลอมกายาจะสามารถฆ่าผู้บ่มเพาะระดับเสริมกายาในการต่อสู้โดยตรงได้

อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของนางหยุดนิ่งเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

มือและขาของรัฟฟี่กลายเป็นโลหะด้วยคาถาบางอย่าง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่สามารถสร้างรอยบุ๋มบนโล่สีฟ้ารอบๆ ชายหนุ่มได้

"เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่”

กายะประหลาดใจอย่างยิ่งเมื่อเห็นพลังของเขา นางคาดว่าจะมีการต่อสู้ระหว่างเขากับรัฟฟี่  แต่ตอนนี้ผู้บ่มเพาะระดับเสริมกายากลับกำลังหอบหายใจอยู่ต่อหน้ามนุษย์ผู้นี้

“ข้าจะทำให้เจ้าเห็นพวกมันทรมาน”

ตามที่เขาพูด เขาทิ้งขวานแล้วหยิบมีดออกมา กายะสังเกตเห็นสีเขียวบนพื้นผิวของใบมีด

"ปล่อย...ข้า...ไปเถอะ"

รัฟฟี่พยายามพูด ขณะที่ไมเคิลหัวเราะอย่างเย็นชา

"เราควรจะเริ่มกันเลยไหม?"

ไมเคิลแทงมีดเข้าไปในหน้าอกขวาของรัฟฟี่หลีกเลี่ยงหลอดเลือดแดงและเส้นเลือดใหญ่

เมื่อมีดแทงเข้าไปในร่างกายของเขา เขาก็รู้สึกถึงความเย็นที่วิ่งลงกระดูกสันหลัง ทั้งตัวของเขากลายเป็นชาด้านไร้ความรู้สึกยกเว้นที่ปาก หลังทำให้รัฟฟี่เป็นอัมพาต เขาก็จับรัฟฟี่นอน

"เจ้าจะทำอะไร?"

“เจ้ากังวลกับสิ่งที่ข้ากำลังจะทำเหรอ? ลองเดาดูสิ?”

เขาหัวเราะแล้วเตะใส่ท้องของรัฟฟี่

"เจ้าสารเลว"

“ข้าจะเผาสมาชิกนิกายของเจ้าทั้งเป็น”

นาทีที่คำพูดนั้นดังออกมาจากปาก ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ก็หยุดนิ่ง ตกตะลึง

สาวกบางคนและผู้อาวุโสทั้งหมดกำลังคลานโดยไม่มีขาและหวาดกลัวอย่างมาก แม้จะรู้สึกเจ็บปวดก็ตาม

สาวๆ ที่อยู่ข้างหลังคลาร่าตกใจและตะโกนออกมาอย่างกังวล

“พี่ชาย อย่าใจร้อนแบบนั้น!”

"ใจเย็นๆ มีเหตุผลหน่อยสิ!!"

“เจ้านองเลือดมามากพอแล้วและทำให้ฐานบ่มเพาะพวกเขาพิการ นั่นแย่ยิ่งกว่าความตายสำหรับผู้บ่มเพาะแล้ว”

“ถ้าเจ้าฆ่าและเผาพวกเขา เจ้าก็ไม่ต่างอะไรจากนิกายเลือดและกระดูก”

คลาร่าตะโกน

แต่เขาเปลี่ยนตัวเองเป็นสายฟ้าขณะที่พวกเขานำร่างของพวกสาวกมาซ้อนอยู่ตรงกลางพื้นดิน

“อย่าไปฟังนางตัวดีพวกนั้น มนุษย์ เจ้าพูดถูกแล้ว เราต้องย่างพวกมัน เหมือนที่พวกมันทำ”

"เจ้าผิดแล้ว"

เขาพูด และหยุดเคลื่อนไหว กลุ่มของคลาร่ารู้สึกไม่ดีเมื่อมองใบหน้าและเจตนาฆ่าในดวงตาของเขา

“ข้าแย่ยิ่งกว่าพวกมัน”

สีแดงปรากฏในมือของเขา สาวๆ ปิดจมูกเพราะกลิ่นเหม็นรุนแรงเมื่อเขาเริ่มเทของเหลวลงบนร่างของกลุ่มชายชราและเหล่าสาวกที่ส่งเสียงโหยหวน

"ไม่!!!"

รัฟฟี่กรีดร้องด้วยความหวาดกลัว ขณะที่สายฟ้าจากมือของไมเคิลก็พุ่งเข้าใส่กองมนุษย์

กลุ่มนิกายอรุณรุ่งทั้งหกตกใจมากจนสองสาวกรีดร้องออกมาด้วยความสยดสยอง ทุกคนตกตะลึง ไม่เชื่อในสิ่งที่พวกเขามอง

เปลวไฟสีแดงเข้มกำลังลุกไหม้สูงถึงต้นไม้ที่โตเต็มที่ ทั้งหกสามารถสัมผัสได้ถึงความร้อนอย่างชัดเจน

แม้แต่คลาร่าที่ผ่านการต่อสู้มาหลายครั้งและพวกผู้ชายก็ยังตกใจ พวกเขาใช้เวลานานกว่าเรียกคืนความสงบในตอนแรกกลับคืนมา

[ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับเจ้าของที่ประสบความสำเร็จในการเป็นคนเลว รางวัลคือ 200 คะแนนสุดโกง]

[ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับเจ้าของสำหรับการฆ่าผู้บ่มเพาะระดับหลอมกายาขั้น 6 รางวัลคือ 4500 คะแนนประสบการณ์และ 200 คะแนนสุดโกง]

[ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับเจ้าของสำหรับการฆ่าผู้บ่มเพาะระดับหลอมกายาขั้น 7 รางวัลคือ 5,000 คะแนนประสบการณ์และ 200 คะแนนสุดโกง]

[ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับเจ้าของสำหรับการฆ่าผู้บ่มเพาะระดับหลอมกายาขั้น 8 รางวัลคือ 6000 คะแนนประสบการณ์และ 200 คะแนนสุดโกง]

[ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับเจ้าของสำหรับการฆ่าผู้บ่มเพาะระดับหลอมกายาขั้น 10 รางวัลคือ 7000 คะแนนประสบการณ์และ 200 คะแนนสุดโกง]

...

เสียงติ๊งของระบบดังขึ้นหลายครั้งในหัวของเขาในขณะที่สายตาของเขาจับจ้องไปที่รัฟฟี่

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด