ตอนที่แล้วบทที่ 24 ความร่วมมือและการเริ่มต้นของปัญหา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 26 ฝูงชนที่โกรธเคือง

บทที่ 25 แบล็กเมล์


บทที่ 25 แบล็กเมล์

.

ในตอนที่หลี่ซวนกำลังคุยกับอู๋ตานเกี่ยวกับฉากการขายอันร้อนแรงและการจัดหาพนักงานในคืนถัดไป แต่จู่ๆ ก็มีชายวัย 50 เดินฝ่าฝูงชนตรงมาที่เขา

อู๋ตานตาไวค้นพบเหตุการณ์นี้เป็นคนแรก แต่เธอไม่รู้จักสามีของเฉาฉิน เมื่อเห็นว่ามีคนเดินมาหาก็นึกว่าเป็นลูกค้า และด้วยนิสัยของเธอ เธอจึงตัดบทสนทนากับหลี่ซวนและทักทายอย่างอบอุ่น “คุณลูกค้าท่านนี้คะ! คืนนี้แผงของเราทำการทดลองขาย มีอาหารเตรียมไว้ไม่มาก เลยต้องต่อคิวซื้อในจำนวนจำกัด ถ้าต้องการซื้อกรุณาเข้าแถวด้วยนะคะ”

“เข้าแถว? แกสิเข้าแถว?” สามีของเฉาฉินที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ในขณะที่แผงของเขาไม่มีลูกค้าเลย แต่แผงคู่แข่งกลับบอกว่าขายในจำนวนจำกัด นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?

พูดจบเขาก็ชี้มาที่หลี่ซวน “ไอ้หนู! แกเป็นคนขายซุปใช่ไหม?” แม้นี่จะเป็นประโยคคำถาม แต่น้ำเสียงของเขามั่นใจมาก

สามีของเฉาฉินเกลียดไอ้เด็กขายซุปคนนี้มาก ไม่ต้องพูดถึงที่มารังแกเมียเขา ไอ้เด็กนี่ยังทำลายธุรกิจของเขาจนหมดสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ยินเรื่องการต่อแถวและจำกัดการขายจากอู๋ตาน เขาก็ยิ่งโกรธจัด! ฉากการขายอันร้อนแรงนี้ควรจะเป็นของเขา แต่ไอ้เด็กนี่กลับเลวมาก เอาของมาขายแต่ไม่ให้แม้แต่ลองชิม ปล่อยให้ครอบครัวของเขาสูญเสียโชคลาภเช่นนี้ไป

ทำไมนังแพศยานี่ถึงลองชิมได้? แม้ว่าสามีของเฉาฉินจะไม่เชื่อการคาดเดาของเมีย แต่เขาก็คาดเดาเกินไปกว่านั้นอีก ในสายตาของเขา หลี่ซวนเป็นคนที่มาเล่นรังแกคนอื่นด้วยเงินทุนเพียงน้อยนิด

“คุณคือ…” หลี่ซวนตกตะลึงไปชั่วครู่ แต่พอเห็นเฉาฉินที่ยืนอยู่ด้านหลัง เขาก็เข้าใจทันทีและตอบไปว่า “ใช่! ผมขายซุปนี่เอง! มีปัญหาอะไรไหม?”

หลังจากได้รับคำตอบจากหลี่ซวน สามีเฉาฉินก็มีสีหน้าโกรธจัด “ไอ้เด็กสารเลว! ข้าถามหน่อยเถอะ! ในเมื่อแกขายซุปทำไมไม่ให้คนซื้อชิมก่อน คนอื่นจะกล้าร่วมมือกับแกได้ยังไง? แล้วเมื่อคนอื่นปฏิเสธแกอย่างสุภาพ แกกลับไปเหยียบจมูกเขา นี่มันสมเหตุสมผลเรอะ? !”

ในเมื่อต้องการมาหาเรื่อง หากต้องการให้ประสบความสำเร็จ แน่นอนว่าต้องหา ‘เหตุผล’ มาปราบฝ่ายตรงข้าม ตราบใดที่มีเหตุผล เมื่อนั้นคดีก็จะพลิกกลับมาเข้าข้างตน! ยิ่งไปกว่านั้นสามีของเฉาฉินยังคิดที่จะให้หลี่ซวนชดใช้ด้วย อย่างเช่นจัดหาซุปให้เขาเป็นต้น

“ใครบอกว่าเขาไม่ยอมให้ชิม? ฉันลองชิมแล้ว! ถ้าไม่ให้ชิมใครจะโง่ไปซื้อซุปของเขา” อู๋ตานที่อยู่ด้านข้างมองเห็นเฉาฉินที่อยู่ด้านหลังก็เข้าใจแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น พอได้ยินชายคนนี้เข้ามาด่าคนอื่นแบบนี้ เธอผู้รู้ความจริงก็ย่อมไม่ยอมที่จะอยู่เฉย และชี้ไปที่เฉาฉินแล้วพูดว่า “เห็นได้ชัดว่าเธอ…”

ก่อนที่อู๋ตานจะทันได้พูดจบ เฉาฉินก็ขัดจังหวะด้วยเสียงอันดัง “เห็นได้ชัดว่าเขาเห็นแก่ความสวยของนังแพศยายังแกน่ะสิ ถึงได้ยอมให้แกชิม! ฮึ่ม! ไม่บอกก็รู้ว่า พวกแกสองคน คนหนึ่งชอบเล่นชู้เมียชาวบ้าน อีกคนก็เป็นนังโสเภณี!”

เฉาฉินอดทนต่อนังแพศยาคนนี้มานานแล้ว และในตอนนี้สามีของเธอก็เต็มใจที่จะช่วย ดังนั้นเธอจะไม่ยอมปล่อยให้โอกาสดีๆแบบนี้ผ่านไปอย่างแน่นอน

“คุณ…” อู๋ตานโกรธมากจนแทบพูดไม่ออก เมื่อถูกใส่ร้ายอย่างกะทันหัน กว่าจะบีบคำว่า ‘คุณ’ ออกมาจากปากได้ “นี่คุณ…พูดเรื่องไร้สาระอะไร!”

หลี่ซวนรู้สึกหดหู่มากเมื่อได้ยินแบบนั้น หญิงแก่คนนี้ช่างวิเศษจริงๆ สามารถแต่งเรื่องได้เป็นตุเป็นตะ เพื่อใส่ร้ายคนอื่น ส่วนชายแก่ตรงหน้าก็ยิ่งวิเศษขึ้นไปอีก นี่เขาเชื่อเรื่องโกหกแบบนี้จริงๆหรือ?

“เรื่องไร้สาระเรอะ? ไม่ยอมรับเรอะ นังหมาตัวเมีย! ฮึ่ม! แค่เห็นใครๆก็รู้ ว่าแกเป็นนังร่านที่อาศัยความสวยยั่วยวนคนอื่นไปทั่ว! ยังกะฉันไม่รู้ว่าแกพยายามหาเงินเล็กๆน้อยๆนั่น นี่นอนกับลูกค้าพวกนี้มากี่คนแล้วล่ะ? ไร้ยางอายจริงๆ!” นี่คือความในใจที่เฉาฉินอยากพูดมานานแล้ว

“คุณ…” อู๋ตานถูกใส่ร้ายอย่างร้ายกาจและรู้สึกอายมากจนแทบร้องไห้

“แล้วแก!” เฉาฉินที่มีสามีอยู่ข้างๆ มีความมั่นใจมาก เมื่อนึกถึงการต่อว่าของหลี่ซวนในตอนนั้น เธอก็โกรธจัดและชี้หน้าหลี่ซวนแล้วด่าว่า “ไอ้เด็กสารเลว! แกมาหาฉันเพื่อขายซุป ต่อให้ฉันจะไม่ซื้อ แต่แกก็ไม่ควรบอกว่าจะไม่มีวันยอมขายให้ฉัน! ฉันเข้าใจแล้วว่าที่จริงแกมาหาฉันเพื่อกลั่นแกล้งฉัน ไม่งั้นแกจะมาขายซุปให้ฉันแต่ไม่ยอมให้ลองชิมได้ยังไง? แกจงใจมายั่วให้ฉันอารมณ์เสียใช่ไหม?”

พอได้ยินคำพูดของเฉาฉิน หลี่ซวนก็รู้สึกถึงความคับข้องใจของอู๋ตาน หญิงแก่คนนี้สามารถหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองได้เก่งจริงๆ และระดับการสร้างเรื่องไร้สาระของเธอนั้นก็สูงชนิดไม่ธรรมดาเช่นกัน

ฉันปฏิเสธไม่ให้หล่อนลองชิมเรอะ? ตลกน่า!

ก่อนที่หลี่ซวนจะมีโอกาสได้พูด สามีของเฉาฉินก็ก้าวออกมาจ้องหน้าหลี่ซวนและถามอย่างดุดันว่า “ไอ้หนู! แกมีอะไรจะพูดอีกไหม?”

หลี่ซวนมองไปที่เฉาฉินที่อยู่ด้านหลังสามี แล้วขมวดคิ้ว สำหรับคำใส่ร้ายนี้ เขาตั้งใจที่จะไม่ใส่ใจ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ถ้าเขาไม่อธิบายก็เกรงว่าจะไม่ดี ดังนั้นเขาจึงตอบไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่สุภาพนักว่า “ใช่! ฉันจะขายซุปให้เธอ! ในตอนนั้น ฉันถึงกับ…”

“ผายลม!” คำพูดของหลี่ซวนถูกขัดจังหวะอีกครั้ง เฉาฉินร้องคำรามออกมาด้วยความโกรธ “จะขายซุป แล้วทำไมไม่ให้ชิม? เห็นได้ชัดว่าแกมากลั่นแกล้ง!”

คิ้วของหลี่ซวนขมวดลึกยิ่งขึ้น ในใจกำลังระเบิดไปด้วยความโกรธ! ก่อนหน้านี้ไม่ยอมให้เขาพูดเอง ตอนนี้จะเอาเรื่องนี้มาเถียงได้ไง? เห็นได้ชัดว่ามาหาเรื่อง!

เมื่อมาหาเรื่องก็ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว!

ดังนั้นหลี่ซวนจึงจ้องหน้าสามีของเฉาฉินอย่างเย็นชาและพูดช้าๆว่า “ถ้าพวกคุณไม่ได้มาซื้อของ ก็โปรดกลับไป! อย่ามากีดขวางธุรกิจของเรา! แต่ถ้าพวกคุณมาที่นี่เพื่อหาเรื่อง…” จากนั้นหลี่ซวนก็เหลือบมองเฉาฉินและสามีแล้วพูดออกมาทีละคำว่า “ผมก็จะเอาเรื่องกับพวกคุณให้ถึงที่สุดเหมือนกัน!”

เขาถูกบังคับให้ทำเช่นนี้ บุคคลก็มีจุดที่โมโหจนสุดทนเหมือนกัน แม้ว่าหลี่ซวนไม่คิดว่าเขาจะเอาชนะอีกฝ่ายได้ แต่อย่างน้อยเขาก็จะทำให้พวกที่มาระรานให้รู้ว่า เขาไม่ง่ายที่จะรังแกและพวกเขาเองจะต้องจ่ายไม่มากก็น้อย

หลังจากสามีของเฉาฉินเห็นว่าหลี่ซวนเปลี่ยนทัศนคติอย่างฉับพลัน ความโอหังแต่เดิมก็อ่อนลงเล็กน้อย เขาเป็นปรมาจารย์ในการรังแกคนอ่อน แต่กลัวคนแข็ง ตอนแรกเขาคิดว่าหลี่ซวนเป็นแค่คนขายซุปที่รังแกได้ง่าย นั่นเป็นเหตุผลที่เขาแสดงท่าทีที่โอหังมาก แต่สิ่งนี้กลับทำให้ทัศนคติของหลี่ซวนที่มีต่อเขาแข็งกระด้างมากขึ้น ซึ่งเขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปดี

ดังนั้นเขาจึงขมวดคิ้วและครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพูดกับหลี่ซวนว่า “ยังไง! แกก็ต้องชดเชยบางสิ่งให้เรา! ที่แกมารังแกเมียข้า!”

“ชดเชย?” อู๋ตานตกตะลึง ในขณะที่หลี่ซวนถึงกับส่ายหน้า

ตาแก่นี่! ไม่มีทางรักษาแล้ว…

“ไม่มีใครไปรังแกภรรยาของคุณ!” หลี่ซวนตอบอย่างมั่นใจ “ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ภรรยาของคุณรู้ดีกว่าใคร! ผมยังคงต้องบอกว่า ได้โปรดกลับไป อย่ามากีดขวางธุรกิจของเรา!”

สามีของเฉาฉินไม่ฟังสิ่งที่หลี่ซวนพูด เขายังคงพูดต่อไปว่า “ไม่เช่นนั้นแกก็ต้องเอาซุปมาให้ข้าสิบหม้อทุกวัน แล้วเราจะเลิกติดตามเรื่องนี้!”

“อะไรนะ?” อู๋ตานตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้น และพูดขึ้นอย่างติดตลกว่า “เข้าใจแล้ว! พวกคุณมารีดไถนี่เอง!”

“นังสารเลว หุบปากซะ!” สามีของเฉาฉินพูดกับอู๋ตานอย่างดุดัน “ไม่งั้นข้าจะเล่นงานแก!”

เขารำคาญนังแพศยาตัวนี้จริงๆ ที่คอยมายุยงจนเขาหาข้อได้เปรียบดีๆไม่ได้

อู๋ตานตกใจจนหัวหด ไม่กล้าพูดอีกต่อไป เธอทำได้เพียงยืนดูด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ

พูดจบ สามีของเฉาฉินก็หันไปหาหลี่ซวนอีกครั้งและถามว่า “จริงๆแล้ว! นี่เป็นความผิดของแก ดังนั้นก็ชดเชยให้เราหน่อย ซุปสิบหม้อก็แค่น้ำเปล่าไม่ใช่เหรอ? ข้าคิดว่าวัตถุดิบก็ไม่ใช่จะเป็นจำนวนเงินที่มากมายใช่ไหม? มิฉะนั้นมันจะคุ้มกับการที่แกมาด่าเมียข้าได้ยังไง?”

หลี่ซวนขมวดคิ้ว และพูดอย่างใจร้อนเล็กน้อย “ไม่ต้องพูดว่าฟรี ต่อให้พวกคุณเอาเงินมาซื้อ ฉันก็ไม่ขายให้สักหยด!”

“ไอ้หนู! อย่าให้มันมากไปนัก!” สามีของเฉาฉินโกรธจัด เขาก้าวเข้าไปคว้าคอเสื้อของหลี่ซวน และตะโกนใส่ดังลั่น

จู่ๆก็ถูกกระชากคอเสื้อ หลี่ซวนตกใจมาก หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ มันคงเป็นเรื่องโกหกที่จะบอกว่าเขาไม่กลัว ยังไงซะ ขนาดตัวของชายคนนี้ก็ใหญ่กว่าเขา หากต้องต่อสู้กันจริงๆ คนที่ต้องทนทุกข์ทรมานก็คงต้องเป็นเขา

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ให้ซุปไปแน่! ทั้งหมดก็แค่นั้นแหล่ะ! ไม้อ่อนไม่ได้จะเล่นไม้แข็งงั้นเรอะ! หลี่ซวนที่เท้าเปล่าย่อมไม่กลัวการสวมรองเท้า ไม่สำคัญว่าเขาจะสู้ได้หรือไม่ ตราบใดที่เขาสู้สุดชีวิตก็ย่อมต้องทิ้งรอยที่ลบไม่ออกไว้ให้ฝ่ายตรงข้ามได้บ้างล่ะ

“ปล่อย!” หลี่ซวนไม่ขยับ เขาแค่ปล่อยให้อีกฝ่ายจับเขาไว้ แต่เขาจ้องเขม็งไปที่ดวงตาดุร้ายของอีกฝ่ายและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันบอกให้ปล่อย!”

ในขณะนี้หลี่ซวนคิดจะอัพเกรดเพลนฟาร์มให้ได้โดยเร็วที่สุดเพื่อรับเหรียญทอง แล้วซื้อของดีๆที่กินแล้วเสริมสร้างร่างกายให้กับตัวเอง หรือไม่ก็สะสมทรัพย์สินในโลกความจริงให้เพียงพอโดยเร็วที่สุด เพื่อจ้างบอดี้การ์ดที่ทรงพลังสักสองสามคนสำหรับตัวเอง เพราะเขาไม่ต้องการที่จะพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้อีก

“ก็ได้! ไอ้หนู!” สามีของเฉาฉินปล่อยมือ เขายังคงเป็นคนเดิมที่รังแกคนอ่อน แต่เมื่อเจอกับคนแข็ง เขาก็จะชั่งน้ำหนัก ยังไงก็ตามเขาก็มีครอบครัวอยู่ข้างหลัง ในกรณีที่ถูกคนอื่นทำให้บาดเจ็บโดยบังเอิญ แม้ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง ก็ยังถือว่าขาดทุนมาก! ท้ายที่สุดแล้วการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อและกระดูกก็ต้องใช้เวลารักษาเป็นร้อยวัน ระหว่างที่ไม่สามารถทำงานได้ ใครจะคอยดูแลครอบครัวนี้?

แล้วเขาก็ถามขึ้นอย่างไม่เต็มใจอีกครั้งว่า “ไม่ชดเชยจริงๆงั้นเรอะ?”

อู๋ตานที่อยู่ข้างๆทนไม่ไหวแล้วจริงๆ มันไม่เป็นไรที่จะเข้าใจคนอื่นผิด แต่เมื่อรู้ว่าเข้าใจผิดทำไมยังทำอีก ดังนั้นเธอจึงออกมาปกป้อง “เป็นภรรยาของคุณที่ออกปากขับไล่ผู้คนก่อน จนเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะยกฝาหม้อ…”

“หุบปาก!” ในเวลานี้สามีของเฉาฉินรู้สึกอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออกและไม่มีทางระบายออก เมื่อเห็นอู๋ตานออกมาโต้เถียง เขาจึงตบหน้าเธอทันที “นังสารเลว!”

เสียงตบดังจนทุกคนตกใจ

สามีของเฉาฉินไม่กล้ากับคนแข็งอย่างหลี่ซวน แต่เขาไม่เกรงคนอ่อนแออย่างอู๋ตาน สำหรับภูมิหลังของอู๋ตานนั้นเขารู้ดีกว่าใคร มันไม่เป็นไรถ้าจะตบหน้าไปสักทีสองที

เมื่อเสียงตบดังขึ้น หัวใจของหลี่ซวนก็เต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง

พอเห็นว่าอีกฝ่ายรังแกผู้หญิง เขาก็ไม่คิดอะไรอีก และยกเท้าขึ้นถีบไปที่ท้องของสามีเฉาฉิน ลูกถีบนี้หลี่ซวนแทบใช้กำลังที่มีทั้งหมด จนชายแก่กระเด็นออกไปมากกว่าหนึ่งเมตรและล้มก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น

ลูกถีบนี้บรรจุไปด้วยความโกรธที่สะสมมานานของหลี่ซวน มันเป็นลูกถีบที่ไม่เบาเลยจริงๆ!

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสามีของเฉาฉินจะดูแก่ แต่เนื่องจากการทำงานหนักมาหลายปี สมรรถภาพทางร่างกายของเขาจึงดีมาก ดังนั้นแม้ว่าลูกถีบของหลี่ซวนจะใช้กำลังแทบทั้งหมด แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้เลย

“แก…” สามีของเฉาฉินที่นั่งอยู่บนพื้น ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาลุกขึ้นตะโกนลั่น จากการแสดงออกเห็นได้ชัดว่าเขาต้องการจะเข้าเล่นงานหลี่ซวน

เมื่อเห็นว่าชายแก่ที่ถูกตัวเองถีบเต็มแรงยังลุกขึ้นยืนได้ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลี่ซวนก็อารมณ์เสียมาก นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาผิดหวังกับสมรรถภาพทางร่างกายของตัวเอง เกรงว่าครั้งนี้ที่คิดว่าจะต้องทำให้อีกฝ่ายจ่ายราคาเล็กน้อยบ้างก็คงทำไม่ได้

งั้นก็ทำให้ดีที่สุด! หลี่ซวนคิดอย่างรวดเร็ว โจมตีศัตรูให้ได้มากที่สุด ในขณะที่ปกป้องตัวเองให้ได้มากที่สุด

.

********

ผู้แปล - ขอโทษที่หายไปนาน ยังหายใจได้ไม่เต็มปอด บทนี้ใช้เวลาหลายวันมากในการแปล แต่อยากแจ้งให้ทุกคนทราบ แต่ไม่อยากใช้การประกาศ จึงพยายามแปล…ดังนั้นรอหน่อยนะ จุ๊บ จุ๊บ ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด