ตอนที่แล้วตอนที่ 69 หุบเขาลมกรด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 71 โจมตี

ตอนที่ 70 เข้าสู้


แต่

การมองผีเสื้อเทพสายลมเป็นสมบัติเคลื่อนที่นับว่าเป็นเรื่องหนึ่ง และสามารถเปิดมันได้หรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เพราะผู้เล่นที่เข้ามาที่นี่ได้ต้องมีเลเวลไม่เกิน30เท่านั้น

ทุกคนถอนหายใจอีกครั้งหลังจากส่งข้อมูลไปยังโลกภายนอกแล้ว

“สี่คนนั้นไม่ใช่ปัญหา จะลำบากเพราะเหยียนเทียนหยวนมากกว่า”

"ใช่ อันดับ17ของรายชื่อดาวรุ่ง ตัวฉันเองยังไม่ติด10,000อันดับแรกเลย...”

“ฉันติดหนึ่งใน8,000 แต่ความห่างชั้นก็ยังมีมากอยู่ดี...”

รายชื่อดาวรุ่งที่ทุกคนพูดคือรายชื่อสำหรับผู้เล่นเลเวล30หรือต่ำกว่า ซึ่งเป็นผู้เล่นที่ปรากฏตัวหลังจากเป็นผู้เล่นมือใหม่ได้เจ็ดวัน

ยิ่งอันดับสูงยิ่งแข็งแกร่ง

“อันดับ17...เฮ้อ มันเหมือนกับอยู่ที่30อันดับแรกของโลก ฉันไม่รู้ว่าคนของพันธมิตรเสินจะล้มมันได้หรือเปล่า...”

“ไม่ต้องห่วง พวกเขามาเป็นทีม!!”

“ใช่ใช่ใช่ ฉันลืมไปเลย”

ระหว่างที่พวกเขาคุยกันอยู่ จู่ๆก็มีใครบางคนตะโกนขึ้นด้วยความตื่นเต้น “ดูตรงนั้นให้เร็ว!!”

“มีคนวิ่งเข้ามา!! โว้ว! โคตรเร็ว!!”

เมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้นจึงหันขวับอย่างรวดเร็ว!

......

“หนึ่ง!”

“สอง!”

“สาม!”

หลิงอี้มีความว่องไวสูงถึง368 และความเร็วของเขายิ่งน่ากลัวเข้าไปอีกหลังจากได้รับ‘อวยพรเพิ่มความเร็ว’!

เขาถือธงรบที่ติดด้วยดาบธาตุในมือขวาและวิ่งไปหาคนทั้งห้า

เขาสะบัดมือหนึ่งครั้งเวลาวิ่งผ่านหนึ่งคน ในชั่วพริบตาเขาสามารถฆ่าได้สามคนแล้ว

“อะไรน่ะ!? เร็วมาก!”

หนึ่งในสองคนที่เหลือตะโกนด้วยความตกใจ แต่ในวินาทีต่อมาธงที่ลุกโชนราวกับดวงอาทิตย์ก็ได้กระทบกับศรีษะและทำให้เขาล้มลงด้วยการโจมตีแค่ครั้งเดียว!

ไฟที่โหมกระหน่ำอยู่บนตัวชายที่ล้มลงทำให้เขาไม่ลุกขึ้นมาได้อีก

“อะไร?!”

ดวงตาของชายคนสุดท้ายเบิกกว้างด้วยความสยดสยอง เท้าของเขาถอยหลังไปหลายก้าวด้วยความกลัว

เขาจ้องหลิงอี้ด้วยใบหน้าที่ตกตะลึง ใบหน้าดุร้ายของเขาแสดงความกลัวที่เห็นได้ชัด

เขาอยู่อันดับ17ของรายการดาวรุ่ง ผู้เล่นมืดที่มีรางวัลค่าหัว1ล้าน เหยียนเทียนหยวน!

“แกแกแกแกแก...แกเร็วขนาดนี้ได้ยังไง!?”

เหยียนเทียนหยวนชี้ร่างคลุมเครือด้วยความกลัว เขาคาดเดาในใจว่าคนคนนี้เป็นผู้เล่นสายความว่องไวระดับสูงที่เข้าดินแดนลับด้วยวิธีการบางอย่าง

ตัวเขาเองมีความว่องไว120 ซึ่งมันสูงมากในหมู่ผู้เล่นที่เลเวลต่ำกว่า30!

สุดท้ายแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเพิ่มคุณสมบัติความว่องไวอย่างเดียวโดยไม่เพิ่มคุณสมบัติอื่น

แต่ตอนนี้

เขาไม่เห็นการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายเลย!

'ความว่องไวของอีกฝ่ายสูงกว่าฉันมาก อย่างต่ำก็ต้อง200แต้ม! '

โดยปกติแล้วถ้าผู้เล่นมีคุณสมบัติสูงแค่ด้านเดียว คุณสมบัติด้านอื่นจะต่ำมาก

แต่เหยียนเทียนหยวนบังเอิญเห็นร่างพร่ามัวกำลังถือธงที่ลุกไหม้อยู่ในมือ

เขาไม่เคยเห็นอาวุธแบบนี้มาก่อน แต่เขานึกสกิลสนับสนุนเป็นที่รู้จักกันดี—ดาบธาตุ!

'อาวุธที่กำลังลุกไหม้คือดาบธาตุ?’

ทั้งสองต่างกันมากเกินไป

ก่อนหน้านี้เหยียนเทียนหยวนอาจจะพอมีหวังสู้กลับได้

แต่ตอนนี้...

ขณะที่เหยียนเทียนหยวนคิดเรื่องนี้อยู่ ร่างพร่ามัวก็พุ่งเข้าหาเขาอีกครั้ง ก่อนที่จะได้โต้ตอบอะไรธงไฟก็สะบัดมาหาเขาแล้ว

เมื่อเหยียนเทียนหยวนเห็นการโจมตีถึงตายนี้ ม่านแสงสีน้ำตาลก็ปรากฏขึ้นและป้องกันโจมตี!

“หืม!?”

เมื่อเห็นสิ่งนี้หลิงอี้ที่กำลังสะบัดธงอยู่ก็พูดด้วยแปลกใจว่า'โล่ดิน!?'

ชัดเลย

ชายหัวโล้นใบหน้าดุร้ายคนนี้มีสกิลสนับสนุนด้านป้องกัน[โล่ดิน]!

ตราบใดที่เขายืนอยู่บนพื้น เขาสามารถป้องกันการโจมตีได้อีกหลายสิบครั้ง

จำนวนครั้งที่เขาป้องกันได้ขึ้นอยู่กับระดับของ[โล่ดิน]ที่เขาครอบครอง

เมื่อเกิดบางสิ่งขึ้นกับการโตมตีของหลิงอี้ เหยียนเทียนหยวนก็ตอบสนองเช่นกัน

พอเห็นร่างพร่ามัวที่อยู่ข้างๆ  เขาจึงตะโกนด้วยเสียงต่ำ “ระเบิดวิญญาณชั่วร้าย!”

[ระเบิดวิญญาณชั่วร้าย(5 ดาว)]: ปลดปล่อยความชั่วร้ายจากร่างกาย ตกอยู่ในสภาวะไร้เรี่ยวแรงและสถานะติดลบเมื่อใช้งาน

ในวินาทีต่อมา

อากาศสีดำปะทุขึ้นจากผิวของเขาขึ้นไปในอากาศ  พื้นที่หลายสิบเมตรก็ถูกปกคลุมด้วยอากาศสีดำ

ไม่กี่วิต่อมาอากาศสีดำได้ลดลงอย่างรวดเร็ว

และกลับมาสดใสอีกครั้งในชั่วพริบตา

เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เหยียนเทียนหยวนรีบมองไปรอบๆ แต่สุดท้ายก็แสดงอาการผิดหวังเพราะไม่เห็นร่าพร่ามัวที่อยู่รอบตัวเขา

“เขาหายไปไหน!?”

ทันทีที่พูดจบ!

เสียง‘เก้ง’จากการปะทะด้านข้างก็ดังขึ้น ร่างพร่ามัวออกมาฟันเขาจากตรงไหนไม่รู้!

“บัดซบ ระเบิดวิญญาณชั่วร้าย!”

เหยียนเทียนหยวนรีบใช้สกิลนี้อีกครั้ง

เขาตั้งใจทำให้อีกฝ่ายถอยกลับไป

“ระเบิดวิญญาณชั่วร้าย ระเบิดวิญญาณชั่วร้าย ระเบิดวิญญาณชั่วร้าย!”

เขาใช้มันหลายครั้งติดต่อกันจนเขารู้สึกเสียแรงไปอย่างมาก

“จะให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ฉันต้องรีบออกไป”

เขาตัดสินใจวิ่งหนี

ถ้าทำแบบนี้ต่อไปเขาคงหมดแรงก่อน จากนั้นเขาจะถูกจับหรือไม่ก็ถูกฆ่า

มันไม่มีความเป็นไปได้อื่นอีก

เหยียนเทียนหยวนรู้สึกเสียใจมากเมื่อคิดแบบนี้

ในฐานะผู้เล่นประเภทนักฆ่าที่มองว่าความว่องไวเป็นข้อได้เปรียบ การถูกบดขยี้ด้วยความว่องไวทำให้เขารู้สึกอ่อนแอนมาก

สกิลหลายอย่างของเขาเป็นสกิลต่อสู้ระยะประชิด แต่ร่างพร่ามัวนี้เข้ามาและจากไปปอย่างไร้ร่องรอย เขาจึงสู้กับมันไม่ได้เพราะตามความเร็วของร่างพร่ามัวไม่ทัน

ระเบิดวิญญาณชั่วร้ายถ้าระเบิดวิญญาณชั่วร้ายโจมตีได้

แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะหลบได้แม้กระทั่งสิ่งนี้

เมื่อเป็นแบบนี้เขาจึงไร้ทางสู้จริงๆ

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เขาจึงใช้สกิลระเบิดวิญญาณชั่วร้ายอีกครั้งเพื่อให้อีกฝ่ายถอยกลับไป จากนั้นใช้สกิลหลบหนีอันไร้เทียมทานด้วยความรีบร้อน

[หลบหนีรวดเร็ว]: เคลื่อนย้ายตัวเองออกห่างจากทิศทางที่กำหนดทันที หากใช้ต่อเนื่องใน1นาทีจะยิ่งใช้แรงกายเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

นี่เป็นเหตุผลที่เขายังไม่โดนพันธมิตรเสินจับตัว

ความว่องไวของเขาเป็นเหตุผลหลักและ[หลบหนีรวดเร็ว]เป็นสกิลที่ใช้หลบหนีได้ทันที

ร่างของเขาหายวับไปในอากาศสีดำภายภายในเสี้ยววิ

และเมื่ออากาศสีดำหายไปหลังจากนั้นไม่กี่วินาที หลิงอี้ถอนหายใจเมื่อเห็นว่าใจกลางเป็นหุบกลายเป็นที่ว่างเปล่า

“ฉันกักตัวเขาไว้ไม่ได้...ช่างเถอะ”

เขาไม่มีสกิลควบคุมจึงทำให้คนสุเท้ายหนีไปได้

แต่การโจมตีห้าคนนี้เป็นแค่เรื่องบังเอิญท่านั้น

เป้าหมายหลักของวันนี้คือผีเสื้อเทพสายลม