ตอนที่แล้วEp.326 - ความสำคัญของดินแดน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.328 - ข้ารับใช้

Ep.327 - กำเนิดทหารมนุษย์


3/3

Ep.327 - กำเนิดทหารมนุษย์

แม้อาณาเขตของเมืองหุบเขาเดียวดายจะไม่ใหญโตนัก แต่อย่างน้อยก็ครอบคลุมรัศมีกว่า 100 กิโลเมตร และสถานที่แห่งใดก็ตามที่มีเมืองในโลกวิญญาณ ทรัพยากรในบริเวณใกล้เคียงส่วนใหญ่จะอุดมสมบูรณ์ แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับทีมของฮังอวี่ที่จะพัฒนาและทำความเข้าใจพวกมันอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาสั้นๆ

การสร้างทหารก็เช่นเดียวกัน

แม้จะมีการรับประกันว่าทหารที่รับสมัคร สิทธิ์ในการใช้งานจะเป็นของผู้สร้าง 100% ก็ตาม

แต่วัสดุที่จำเป็นในการสร้างทหารนั้นมากเกินไป สำหรับช่วงนี้ ความต้องการในการใช้งานมันราวกับหลุมลึกที่ไร้ก้นบึ้ง!

หากให้ฮังอวี่แบกรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดด้วยตัวเองเขาคงทำไม่ได้ ต่อให้ใช้งบในส่วนของทีม ก็ยังสร้างแรงกดดันมหาศาล

เมืองหุบเขาเดียวดายจากนี้ไม่รู้ว่าจะต้องพบเจอกับสถานการณ์หรือความท้าทายแบบใด แทนที่จะเก็บงำสิทธิ์ในการสร้างทหารไว้แค่กับตัวเอง สู้แบ่งโควตาการสร้างทหารแก่ทุกคนจะดีกว่า มอบสิทธิ์ประโยชน์แก่กองกำลังหรือบุคคลจากทีมอื่น แบบนี้จะเป็นการสั่งสมกำลังพลของเมืองได้เร็วกว่า

ด้วยประการฉะนี้

จำนวนทหารในเมืองหุบเขาเดียวดายก็จะเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น

ทุกคนมีสิทธิอำนาจในการควบคุมและใช้ประโยชน์จากทหารที่พวกเขาสร้าง ทุกคนสามารถนำทหารของตัวเองไปอัพเลเวลหรือต่อสู้กับ BOSS ได้ แต่ไม่มีทางนำทหารออกจากดินแดนแห่งนี้

เพราะทหารเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นในเมืองหุบเขาเดียวดาย

ดังนั้นพวกมันจึงเป็นของเมืองหุบเขาเดียวดายเท่านั้น!

ไม่ว่าบุคลใดก็ไม่มีสิทธินำทหารออกไป!

แต่ก็มีบางกรณีที่ขุนนางสามารถเคลื่อนย้ายกำลังทหารออกนอกดินแดนได้

ตัวอย่างเช่น ในกรณีเกิดสงครามระหว่างดินแดนหรืออะไรทำนองนั้น ขุนนางจะสามารถนำทหารออกจากดินแดนของตัวเองได้

ซึ่งภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว ไม่ว่าทหารเหล่านั้นขุนนางจะเป็นผู้สร้างเองหรือคนอื่นสร้าง หนึ่งในเอกสิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของขุนนางก็คือสามารถสั่งระดมทหารรักษาดินแดนในอาณาเขตของตัวเองได้ เขาสามารถเรียกทหารทั้งหมดกลับมาเพื่อปกป้องเมืองและดินแดนของตน

ฮังอวี่แจกจ่ายพื้นที่ล่าสัตว์ ทุ่งทรัพยากร และสิทธิในการสร้างทหารแก่ทุกคน

วิธีนี้เป็นการยื้อให้พวกเขาอยู่ในเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพราะยิ่งคุณมีสินทรัพย์ในเมืองหุบเขาเดียวดายมากขึ้นเท่าไหร่

มันก็ยิ่งยากสำหรับคุณเมื่อคิดออกจากเมืองหุบเขาเดียวดายไปหักร้างถางพง เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

แต่หากวันใดวันหนึ่งมีความจำเป็นหรือวางแผนจะออกไปจริงๆ

นั่นเท่ากับคุณกำลังละทิ้งพื้นที่ล่าสัตว์ ทุ่งทรัพยากร และกองกำลังภายใต้ชื่อของตัวเอง

แน่นอน

ในฐานะขุนนาง

ฮังอวี่สามารถมอบส่วนลดให้ผู้ตัดสินใจลาจากได้เช่นกัน

ตัวอย่างเช่น เมื่ออีกฝ่ายตัดสินใจออกไป เขายินดีรับซื้อกรรมสิทธิ์ต่างๆที่อีกฝ่ายเป็นเจ้าของในราคาครึ่งหนึ่ง เพื่อให้ผู้คนสามารถรับค่าใช้จ่ายบางส่วนคืนได้ก่อนออกจากดินแดน นี่จะช่วยให้คนมากมายเต็มใจที่จะพัฒนาเมืองหุบเขาเดียวดาย และมีส่วนร่วมในการช่วยสร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่เมือง

แม้จะทำถึงขนาดนี้

แต่เห็นได้ชัด

ว่าผลประโยชน์ส่วนใหญ่ก็ยังตกอยู่กับฮังอวี่อยู่ดี

แต่ถึงยังงั้นก็ไม่มีทางที่คนเหล่านี้ในเมืงอจะปฏิเสธได้

อย่างแรกเลย ผลประโยชน์และทรัพยากรที่ฮังอวี่มอบให้นั้นถือว่าใจกว้างมาก

อย่างที่สอง เมืองหุบเขาเดียวดายถือว่าเป็นค่ายใหญ่ที่สามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ มันไม่เพียงมีสภาพแวดล้อมที่สะดวกและปลอดภัยทางภูมิศาสตร์ แต่ยังมีแผ่นศิลาโลกวิญญาณมากกว่า 20 ชนิด

หากเลือกไม่อยู่ในเมือง

ถ้างั้นจะให้พวกเขากลับไปยังฐานที่มั่นในถ้ำหรือ?

ดังนั้น ทุกทีมจึงพอใจกับการแบ่งสรรปันส่วนของฮังอวี่ และสำหรับเรื่องที่ฮังอวี่นั่งตำแหน่งขุนนาง คนส่วนใหญ่ก็ยอมรับได้เช่นกัน

ฮังอวี่เอ่ยถาม “ครั้งนี้มีวัสดุที่ใช้สร้างทหารทั้งหมดกี่ชิ้น?”

ฉูเทียนหัวตอบว่า “ผลึกวิญญาณขุ่นกับผลึกมรดกขุ่นมีน้อยกว่า 200 ก้อน แต่ถ้ารวมกับพวกผลึกที่เราได้จากตอนสู้ในถ้ำครั้งก่อน ยอดรวมก็เกือบ 300 ก้อน”

ทหารที่สร้างขึ้นในดินแดนเหล่านี้ล้วนมีโอกาสสูงที่จะดรอปผลึกวิญญาณและผลึกมรดก

และพวกมันยังดรอปอุปกรณ์หนึ่งหรือสองชิ้นเป็นครั้งคราว

นอกจากนี้ วัสดุบางชนิดยังสามารถกู้คืนได้ผ่านการย่อยสลายวัตถุดิบ

และส่วนที่เหลือ

ที่น่ากล่าวถึงเป็นอย่างยิ่งก็คือ

แผ่นศิลาเก็บของประจำเมืองหุบเขาเดียวดายซึ่งเป็นโกดังของพวกมนุษย์จิ้งจอก

เนื่องจากเมืองถูกมนุษย์เข้ายึดครอง ดังนั้นสิ่งที่ถูกเก็บไว้ข้างในแผ่นศิลาจึงตกเป็นของมนุษย์ทั้งหมด

ยังไงก็ตาม ด้วยขนาดของเมืองที่เล็ก

ด้วยจำนวนมนุษย์จิ้งจอกระดับสูงที่มีไม่มาก

บวกกับเรื่องที่พวกมันตั้งหลักปักฐานได้ไม่นาน

ทำให้จำนวนสมบัติที่สั่งสมไว้มีไม่มากนัก ประมาณหนึ่งถึงสองร้อยผลึกวิญญาณและผลึกมรดก ที่เหลือก็เป็นวัสดุต่างๆอีกหลายร้อยชนิด  อุปกรณ์ที่ยังไม่ได้รับการแปรรูป วัสดุสีเขียวอีกจำนวนเล็กน้อย และหินสกิลอีกไม่กี่ก้อนเท่านั้น

และวัสดุที่กล่าวมาข้างต้น

ฮังอวี่ตัดสินใจมอบบางส่วนให้แก่ทีมอื่น

และเก็บมากกว่าครึ่งเป็นของทีมตัวเอง

ฮังอวี่ขอให้เหล่าจ้าวนับสินสงครามทั้งหมดที่ทีมของเขาได้รับ ซึ่งได้แก่ : ผลึกวิญญาณขาวขุ่น 287 ก้อน , ผลึกมรดกขาวขุ่น 243 ก้อน , แร่เหล็กเย็นมากกว่า 1,100 ก้อน, และแร่ทองแดงไฟมากกว่า 900 ก้อน, มากกว่า แร่ไม้เหล็กดำ 800 ก้อน , แร่มิธริลมากกว่า 450 ก้อน , แร่ทองคำเนื้อดีมากกว่า 220 ก้อน , หินคริสตัลขาวกว่า  4,500 ก้อน , อุปกรณ์ทหารมนุษย์จิ้งจอกประมาณ 200 ชิ้น และหินสกิลขั้น 1 กับ 2 นับหลายสิบก้อน

“ผมจะลองสร้างทหารซักกลุ่มนึง”

ฮังอวี่เอ่ยอย่างนั้น

คนอื่นๆเริ่มสนใจขึ้นมาทันที

เจียงหนานอดเอ่ยขึ้นไม่ได้ “ในโลกวิญญาณ ไม่น่าจะมีเผ่ามนุษย์ที่เป็นชาวพื้นเมืองมาก่อน การสร้างทหารจะไม่เท่ากับเป็นการสร้างมนุษย์หรอ? งั้นต่อไปจะมีมนุษย์ที่เกิดการตื่นรู้จากในบรรดาทหารพวกนี้ด้วยไหม?”

ฮังอวี่กล่าว “ทหารสายพันธุ์รองที่สร้างขึ้นนั้นแตกต่างจากพวกสายพันธุ์รองที่เกิดจากการล่มสลายของเผ่าพันธุ์ระดับสูง พวกเขาไม่สามารถปลุกจิตสำนึกของตัวเอง เป็นได้แค่เครื่องจักรไร้ชีวิตที่ทำตามคำสั่งเท่านั้น”

เจียงหนานพยักหน้า “งั้นหมายความว่าพวกเขาเป็นกึ่งมนุษย์น่ะสิ สงสัยจังว่าทหารกึ่งมนุษย์จะแข็งแกร่งแค่ไหน!”

ฮังอวี่กล่าวด้วยรอยยิ้มบาง “เดี๋ยวเธอก็รู้!”

ฮังอวี่ครุ่นคิดพักหนึ่ง ตอนนี้เมืองหุบเขาเดียวดายสามารถสร้างทหารได้สูงสุด 2000 นายเท่านั้น ถึงมีการอัพเกรดอาคารที่พักอาศัยในเมือง ทำให้สามารถเพิ่มประชากรและจำนวนทหารได้ แต่ก็ยังมีจำนวนจำกัด

แล้วอีกเรื่องที่เป็นปัญหาก็คือ

จะจัดแจงประเภทของทหารยังไง!

ในแง่ประโยชน์ส่วนบุคคล ทหารจอมเวทย์และทหารรักษามีค่ามากที่สุด

แต่เขาไม่สามารถปล่อยให้ทั้งเมืองหุบเขาเดียวดายเต็มไปด้วยจอมเวทย์และผู้รักษาได้ถูกไหม? เพราะนั่นจะทำให้เมืองอ่อนแอมากเวลาถูกโจมตี!

ฮังอวี่จำเป็นต้องจำกัดอัตราส่วนในการสร้างทหารในแต่ประเภทให้กระจายๆเท่าเทียมกัน จากนั้นจัดสรรให้คนอื่นๆสามารถสร้างทหารตามอัตราส่วนนี้อย่างเคร่งคัด เพื่อให้แน่ใจว่าทหารแต่ละประเภทจะมีจำนวนที่สมดุล

พิจารณาจากวัสดุที่มีอยู่ในมือตอนนี้

ขั้นแรกเอาเป็นสร้างทหารราบกับทหารธนู 20 นาย แล้วก็ทหารจอมเวทย์กับทหารรักษาซัก 10 นายก็แล้วกัน!

ฮังอวี่จ่ายวัสดุที่ต้องใช้เบื้องหน้าแผ่นศิลารับสมัครทหาร และวินาทีต่อมา ฉากอันน่าตกใจก็ปรากฏขึ้น เห็นแค่เพียงแผ่นศิลาโลกวิญญาณสว่างไสว และรอประมาณ 10 นาที ทหารคนแรกก็ถูกสร้างขึ้น

ดวงตาของฝูงชนเบิกกว้างเมื่อเห็นการปรากฏตัวของทหารสายพันธุ์รองคนแรกของเผ่าพันธุ์มนุษย์!

เพราะมองยังไงนี่มันก็เป็นมนุษย์ชัดๆ!

รูปลักษณ์ที่ปรากฏคือมนุษย์อย่างแท้จริง!

ทหารนายนี้ดูแข็งแรงและกำยำ สูงประมาณ 1.9 เมตร สวมชุดเกราะทหารทั้งตัว มือโล่ทหารในมือซ้ายและกระบี่ในมือขวา

อาจเป็นเพราะมีความเกี่ยวของกับฮังอวี่ในฐานะผู้สร้าง

ดังนั้นผมและดวงตาของเขาจึงมีสีดำ มองแล้วให้ความรู้สึกคล้ายคลึงกับฮังอวี่ถึงสามสี่ส่วน

มันเหมือนกับว่า ... อีกฝ่ายคือพี่น้องของฮังอวี่ที่พลัดพรากจากกันหลายปี!

หลังจากที่ทหารมนุษย์ถูกสร้างขึ้น เขาก้าวออกมาข้างหน้าทันที จากนั้นคุกเข่าลงข้างหนึ่ง อ้าปากเอ่ยด้วยภาษามนุษย์ และกล่าวว่า “น้อมเคารพท่านขุนนาง!”

จางเสี่ยวเฉียงผงะ “เฮ้ เฮ้ นี่นายพูดภาษามนุษย์ได้ด้วยหรอ?”

อย่างไรก็ตาม

ทหารราบที่เป็นมนุษย์กลับลุกขึ้นยืนโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ

แล้วเดินมาหยุดยืนอย่างเป็นระเบียบเบื้องหลังฮังอวี่

เพิกเฉยต่อจางเสี่ยวเฉียง

ไม่ใช่ว่าทหารผู้นี้เย็นชา แต่เขาคือสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์รองที่มีสติปัญญาต่ำ เขาก็เหมือนกับ NPC ที่คุณพบตอนเล่นเกม การกระทำและคำพูดทั้งหมดเป็นไปตามรูปแบบที่กำหนดเอาไว้อย่างง่ายๆ

ไม่มีการปรับตัว

ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง

สั่งให้ทำอะไรก็ทำ

พวกเขามีความจงรักภักดีอย่างแท้จริงโดยปราศจากความรู้สึกใดๆ

ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถเข้าใจคำสั่งที่ซับซ้อนเกินไป และไม่สามารถทำงานที่ซับซ้อนเกินไปได้

เจียงหนานเดินเข้าไปใกล้ๆอย่างสนอกสนใจ ยื่นนิ่วจิ้มๆแก้มของทหาร แต่แล้วเธอก็ขมวดคิ้วทันที “หือ? ให้สัมผัสค่อนข้างแข็งกระด้าง เหมือนหุ่นไม้ที่หุ้มหนังมนุษย์เลย”

ฮังอวี่ยิ้ม “เธอจะเข้าใจแบบนั้นก็ได้ นี่ไม่ใช่ร่างกายมนุษย์จริงๆ หรือในอีกแง่หนึ่งมันไม่ต่างจากหุ่นเชิดหรือหุ่นไม้มากนัก”

“แล้วทหารคนอื่นๆอยู่ที่ไหน?” เจียงหนานมองไปรอบๆอย่างสงสัย

“นี่เธอไม่เคยเล่นเกม Warcraft หริอ Red alert หรอ? เวลาสร้างทหารน่ะเขาสร้างได้ทีละคน ทหารราบหรือทหารธนูปกติแล้วจะสร้างได้ภายใน 10 นาที ส่วนทหารจอมเวทย์กับทหารผู้รักษาจะใช้เวลานานกว่านั้นนิดหน่อย”

ไดอาน่าเอ่ยถามอย่างสงสัย “ฮัง นายช่วยแสดงค่าคุณสมบัติของทหารคนนี้ให้พวกเราดูได้ไหม?”

ฮังอวี่กล่าว “ได้อยู่แล้ว ผมจะส่งให้คุณดูเดี๋ยวนี้”

[ทหารราบมนุษย์

เลเวล 10 ชั้นยอดขั้นบรอนซ์

ฐานค่าคุณสมบัติ: ค่าพลังชีวิต 230 , ค่าพลังจิต 120 , พละกำลัง 14 , ความว่องไว 12 , ศักดิ์สิทธิ์ 8 ,  เจตจำนง 8 ......

อุปกรณ์พื้นฐาน : กระบี่ทหารเผ่ามนุษย์ , หมวกเกราะทหารเผ่ามนุษย์ , ชุดเกราะทหารเผ่ามนุษย์ , โล่ทหารเผ่ามนุษย์ (อุปกรณ์ผูกมัด ไม่สามารถถอดออกหรือสับเปลี่ยนได้)

สกิลมรดก : มรดกทหาร (สกิลมรดกขั้น 1 อันได้แก่ ทหารพุ่งปะทะเลเวล 3 , ทหารป้องกันเลเวล 3 และทหารฟาดฟันเลเวล 3 )

...

คริสกล่าวว่า “ค่าคุณสมบัติของเขาค่อนข้างดีทีเดียว มันเหมือนกับมอนสเตอร์ระดับชั้นยอดขั้นบรอนซ์เลเลว 10 เลย แถมยังใส่อุปกรณ์สีขาวขุ่นเลเวล 10 ทั้งตัว และมีมรดกขั้น 1 ที่สมบูรณ์ หรือถ้าให้พูดตรงๆ เขาไม่ได้อ่อนแอไปกว่าคนส่วนใหญ่ในทีมของพวกเราเลย”

ลุคพยักหน้าเห็นด้วย “แต่เสียดายที่ไม่มีสติปัญญา!”

ถูกต้อง พลังรบของชายผู้นี้เทียบเท่าได้เลยกับมอนสเตอร์ป่าชั้นยอด!

และหากเทียบกันในแง่ค่าคุณสมบัติล้วนๆ เขาย่อมแข็งแกร่งกว่าคนส่วนใหญ่ในที่นี้

แต่แน่นอน

อาศัยเพียงการเปรียบเทียบแค่เลเวลและค่าคุณสมบัติอย่างเดียวมันไม่สามารถแสดงให้เห็นถึงพลังรบที่แท้จริงในเวลาต่อสู้ได้!

เพราะมนุษย์ไม่เพียงมีสติปัญญา แต่ยังสามารถพึ่งพาวัตถุภายนอกได้ ขณะนี้สมุนทหารเหล่านี้ไม่อาจทำ

สมุนทหารเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์รอง

อีกทั้งเขาไม่ใช่เครื่องจักรที่เคลื่อนไหวได้อย่างถาวร

เขายังคงต้องการพลังงานเหมือนมนุษย์

มนุษย์ส่วนใหญ่เติมพลังงานผ่านอาหารวิญญาณ ขณะที่สมุนทหารสายพันธุ์รอง นอกเหนือจากอาหารวิญญาณแล้ว พวกเขายังสามารถกินหินคริสตัลจากโลกวิญญาณได้โดยตรงเพื่อเติมเต็มพลังงานให้ร่างกายสามารถเคลื่อนไหว

โดยทหารหนึ่งนาย

ในสภาะวปกติจำเป็นต้องบริโภคหินคริสตัลขาว 1 เม็ดต่อวัน

มิฉะนั้นพวกเขาจะอ่อนแอลง และเมื่อเวลาผ่านไป หากไม่มีการเติมพลังงาน เป็นไปได้ว่าอาจเกิดการอดตาย

หินคริสตัลขาววันละก้อนฟังดูไม่ได้มากมายอะไรใช่ไหม?

แต่ถ้าลองคำนวณจากทหารหลักพันล่ะ นั่นไม่ใช่จำนวนน้อยๆแน่นอน!

ทว่าประโยชน์ที่เห็นได้ชัดก็คือ คุณสามารถพาทหารสายพันธุ์รองออกไปช่วยล่ามอนสเตอร์ได้ ไม่เพียงช่วยปกป้องตัวเองได้ดีขึ้น แต่ยังสามารถนำพวกเขาไปพิชิตเมืองหรือดินแดนอื่นได้เช่นกัน ขณะเดียวกัน หากปราศจากกองทหารที่เข้มแข็ง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะปกป้องรักษาเมืองหุบเขาเดียวดาย

จะดินแดนใดก็ไม่สมควรปราศจากกองทัพด้วยประการทั้งปวง!

นอกจากจะมีความหมายที่สำคัญมากต่อขุนนางแล้ว

ทหารสายพันธุ์รองก็ยังมีประโยชน์คุ้มค่าแก่คนอื่นๆในที่นี้เช่นกัน!

ในช่วงนี้ หากนำทีมที่สร้างจากทหารสายพันธุ์รองจำนวนหนึ่งออกไป การล่า BOSS ย่อมง่ายกว่าเดิมมาก และถึงแม้ทหารเหล่านี้จะไม่สามารถนำกลับไปยังโลกจริง แต่เมื่อคุณออฟไลน์ คุณสามารถสั่งการพวกเขาทิ้งไว้ได้ เช่นไปยังพื้นที่ที่กำหนดเพื่อฟาร์มมอนสเตอร์ ซึ่งช่วยให้สามารถสร้างรายได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง!