ตอนที่แล้วEp.325 - ทหารเผ่ามนุษย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.327 - กำเนิดทหารมนุษย์

Ep.326 - ความสำคัญของดินแดน


2/3

Ep.326 - ความสำคัญของดินแดน

ทุกคนต่างอ้าปากค้าง

เป็นการค้นพบที่น่าตกใจจริงๆ!

ปรากกฏเผ่าพันธุ์มนุษย์ในฐานะนักผจญภัยสามารถสร้างทหารสายพันธุ์รองได้จริง!

เมืองหุบเขาเดียวดายไม่เหมือนกับฐานที่มั่นใดๆที่พวกเขาเคยสัมผัสมาก่อน

มันสามารถอัพเกรดสิ่งปลูกสร้าง กำแพงเมือง ค่ายกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสร้างกองทหารประจำการ ... นี่ไม่ใช่แค่ฐานที่มั่นธรรมดาหรือค่ายชั่วคราวอีกต่อไป แต่เป็นดินแดนอย่างแท้จริง!

และในวันนี้

ขุนนางคนใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้น!

และขุนนางมีอำนาจเบ็ดเสร็จในเมืองของตัวเอง!

ตัวอย่างเช่น ขุนนางสามารถอนุญาตให้ผู้อื่นมีสิทธิพิเศษอยย่างการสร้างทหารของตัวเองได้

หากคนอื่นต้องการเพิ่มกองกำลังในเมืองหุบเขาเดียวดาย เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลีกเลี่ยงการพบเจอฮังอวี่

และถึงแม้จะได้รับสิทธิ์ในการสร้างทหารก็ตาม

แต่สุดท้ายคุณก็ต้องจ่ายเงินค่าสร้างจากกระเป๋าตัวเองอยู่ดี

แล้วอีกอย่าง ถึงคุณจะสามารถเอาทหารที่สร้างออกไปสู้กับมอนสเตอร์ได้

แต่ทหารจากเมืองหุบเขาเดียวดายจะยังเป็นของเมืองหุบเขาเดียวดายเท่านั้น!

คนอื่นๆสามารถสั่งการหรือใช้งานทหารที่ตัวเองสร้างได้ดั่งใจนึก แต่พวกเขาไม่อาจนำทหารออกนอกรัศมีดินแดนได้ กิจกรรมทุกอย่างจะถูกจำกัดอยู่ใน 100 กิโลเมตร

นอกจากนี้ ขุนนางยังมีสิทธิ์เกณฑ์ทหารเหล่านั้นเมื่อจำเป็น และใช้พวกเขาเพื่อปกป้องดินแดน เข้าร่วมศึกสงคราม

ในแง่ของความรู้สึก

มันเทียบเท่ากับการเพิ่มกองกำลังในดินแดนด้วยค่าใช้จ่ายของตัวเอง

เว้นแต่คุณจะเป็นหุ้นส่วนกับขุนนางเมือง มีความสัมพันธ์ร่วมกัน มิฉะนั้นด้วยข้อจำกัดที่มี คงยากที่จะทำใจสร้างทหารที่สุดท้ายต้องตกเป็นของคนอื่นได้

ต้องรู้นะว่า

ราคาของทหารเหล่านี้ไม่ใช่น้อยๆ!

ผลึกวิญญาณแทบไม่มีโอกาสดรอปจากมอนสเตอร์ระดับสามัญ

ไอเท็มนี้ต้องทำจากวัสดุหายากและกระบวนการผลิตอันซับซ้อน

ราคาของผลึกมรดกเองก็มีค่ามากเช่นกัน ส่วนใหญ่ได้มาจากการย่อยสลายหินสกิลมรดกเป็นหลัก ยิ่งหินสกกิลมรดกมีขั้นสูง เวลาย่อยสลายก็จะยิ่งได้รับผลึกมรดกคุณสูงขึ้น

ก็แล้วใครกันจะยินดีย่อยสลายหินสกิล!

เวลานี้ ความต้องการในหินสกิลของมนุษย์ไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด!

แม้แต่หินสกิลขั้น 1 หรือหินสกิลระดับต่ำสุดที่ไม่สามารถสืบทอดมรดกได้ก็ยังถูกขายในราคาที่สูงมาก!

แม้ว่าวัสดุเช่นแร่เหล็กเย็น แร่ทองแดงไฟ แร่มิธริล และแร่ทองคำเนื้อดีจะเป็นวัสดุการผลิตที่ค่อนข้างธรรมดา แต่เมื่อพิจารณาว่าเลเวลวัสดุต้องเป็น 10 และต้องใช้ในปริมาณมาก ราคาของมันก็ไม่ใช่น้อยๆ

เอาเป็นว่า

ทหารทุกคนที่สร้างขึ้น

ต้นทุนและค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง!

หากมันง่ายที่จะสร้างทหาร กองทัพมนุษย์จิ้งจอกคงมีครบทั้ง 2000 ตัวไปตั้งนานแล้ว แต่นี่พวกมันยึดเมืองได้มาเกือบปี กลับมีสมุนทหารรวมๆแล้วเพียงเกือบพันตัวเท่านั้น

เจียงหนานจ้องเขม็ง เอ่ยถามว่า “พวกเราสามารถสร้างทหารได้จริงๆ? นี่หมายความว่ายังไงกันแน่?”

“เฮ้ มันไม่น่าเข้าใจยากนะ” จางเสี่ยวเฉียงชิงตอบ “ตอนแรกพวกเราเหมือนกำลังเล่นเกมผจญภัยสวมบทบาท แต่ตอนนี้มีแนวโน้มว่ากำลังจะเปลี่ยนเป็นเกมแนวกลยุทธ์การทำฟาร์ม การก่อสร้าง และสะสมกำลังพลแทน”

ฮังอวี่กล่าวว่า “คำพูดของเสี่ยวเฉียงไม่ถูกต้องทั้งหมด แต่ฉันเห็นด้วยว่าบางส่วน มันตรงกับสถานการณ์นี้จริงๆ ถึงการพัฒนาพลังรบส่วนบุคคลจะยังคงมีความสำคัญ แต่นับจากนี้ไปการมีกำลังพลและดินแดนในครอบครองคือสิ่งสำคัญมาก มันคือกุญแจสำคัญสำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่จะยืนหยัดอย่างมั่นคงในโลกวิญญาณ”

มีอารยธรรมไม่กี่แห่งในโลกวิญญาณที่อยู่ในรูปแบบของอาณาจักร

โลกวิญญาณส่วนใหญ่คล้ายกับระบอบศักดินา

ตัวอย่างเช่น ผู้ปกครองสูงสุดแห่งอาณาจักรมังกรโลกาคือมังกรคลั่งเฮสการ์จากสันเขามังกรสาบสูญ ถัดลงมาเป็นผู้ครองแคว้นที่มีขุนนางใหญ่เป็นลูกน้องหลายคน

และในบรรดาขุนนางใหญ่ทั้งหลาย

แต่ละคนยังมีขุนนางเล็กจำนวนหนึ่งอยู่ภายใต้การเขตอำนาจของตัวเอง

ตอนนี้ฮังอวี่คือขุนนางเล็กในโลกวิญญาณ

การยึดครองเมืองหุบเขาเดียวดายจึงถือเป็นการตั้งหลักอย่างเป็นทางการในโลกวิญญาณ

ลุค คริส รวมไปถึงสมาชิกหลายคนของสำนักกระบี่วิญญาณได้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นของขุนนาง ร่องรอยของความเสียดายปรากฏขึ้นบนใบหน้าพวกเขา พลาดจริงๆที่ตนมองข้ามผลประโยชน์เหล่านี้ไป

ให้ตายเหอะ!

ถ้ารู้ว่าการได้ขึ้นเป็นขุนนางในโลกวิญญาณจะมีความสำคัญถึงขนาดนี้

พวกเขามีหรือจะปล่อยให้อีกฝ่ายได้มันไปง่ายๆ?

ถึงสุดท้ายจะรู้ว่าสู้ไม่ได้ แต่ยังไงก็ต้องพยายามแย่งชิง!

อย่างน้อยที่สุด ต่อให้ไม่ได้รับตำแหน่งขุนนาง พวกเขาก็ต้องขอสัมปทานเพิ่มเติมจากกลุ่มของฮังอวี่ จะได้มีอะไรติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง!

ช้าไปแล้ว!

พวกเขารู้สึกตัวช้าไป!

ฮังอวี่จะไม่เห็นท่าทีเสียดายของชาวอเมริกาเหล่านี้ได้อย่างไร? แต่ของแบบนี้ไม่ควรประนีประนอมไม่ว่าจะในที่สาธารณะหรือที่ส่วนตัว ตอนนี้เรือที่ชื่อว่าเมืองหุบเขาเดียวดายตกเป็นของเขาแล้ว ไม่มีใครเปลี่ยนมันได้ เว้นแต่คนพวกนี้จะก่อกบฏ นอกเหนือจากนั้นไม่มีทางช่วงชิงตำแหน่งขุนนาง

และนั่นก็ต้องมาว่ากันอีกทีว่าสำนักกระบี่วิญญาณแห่งนิวยอร์กจะสามารถเอาชนะกลุ่มของฮังอวี่ได้หรือไม่

และยังไม่นับรวมเรื่องที่ว่าการสำรวจโลกวิญญาณของเผ่าพันธุ์มนุษย์พึ่งจะเริ่มต้น มันยังไม่ถึงเวลาที่พวกเขาต้องหันหน้ามาสู้กันเอง

ดังนั้น ตราบใดที่ยังมีสมอง

พวกเขาไม่มีทางฉีกหน้าคนกันเองเพราะเรื่องนี้

เมืองหุบเขาเดียวดายในฐานะดินแดนเพียงหนึ่งเดียวของมนุษย์ในตอนนี้ มันมีความสำคัญมาก คนจากสำนักกระบี่วิญญาณไม่ควรหันตูดหนี ถึงยังไงพวกเขาก็ต้องผูกสัมพันธ์ที่ดีกับฮังอวี่

เพราะยังไงซะ

ยังมีเมืองเล็กๆแบบนี้อีกมากมาย

ที่ฮังอวี่เข้ายึดเมืองหุบเขาเดียวดายได้เพราะความช่วยเหลือของพวกเขา!

นั่นหมายความว่าหากคนของสำนักกระบี่วิญญาณต้องการยึดเมืองอื่นเป็นของตัวเอง ถึงเวลานั้น ฮังอวี่ย่อมต้องช่วยเหลือพวกเขาเช่นกัน!

ตอนนี้มีหลายอย่างที่ฮังอวี่จำเป็นต้องทำความเข้าใจ แต่หลังเสร็จสิ้นสงครามใหญ่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการแบ่งปันสินสงครามให้แก่ทุกคน

เนื่องจากเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสงครามครั้งนี้

ฮังอวี่ไม่ต้องการรางวัลอะไรมาก

เขามอบหินสกิลสีฟ้า ‘ดูดซับเจตนาฆ่า’ ให้แก่จ้าวหมิง

นอกจากอาวุธสีฟ้า กระบี่คำสาปกระดูกสามานย์ และอุปกรณ์บางอย่างที่เสี่ยวไป๋สามารถใช้งานได้แล้ว ฮังอวี่ต้องการเพียงเกราะอกสีเขียวเท่านั้น

[เกราะอกหมาป่าหินลาวา] อุปกรณ์เลเวล 10 , สีเขียวคุณภาพกลาง , พละกำลัง +5 , ร่างกาย +5 , ว่องไว +5 , พลังป้องกันทางกายภาพ +15 , ป้องกันเวทย์ +15 หนึ่งในชุดเซ็ทหมาป่าหินลาวา

ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้

เหตุผลที่ฮังอวี่เลือกอุปกรณ์ชิ้นนี้

ก็เพราะมันคืออุปกรณ์ชิ้นสุดท้ายที่ยังขาดหายของชุดเซ็ทหมาป่าหินลาวา!

เมื่อชุดเซ็ทสีขาวถูกสับเปลี่ยนเป็นชุดเซ็ทสีเขียว เอฟเฟกต์ของมันจึงได้รับคุณสมบัติเพิ่มเติม

จากเดิมชุดเซ็ทหมาป่าหินที่มีเอฟเฟกต์ : พละกำลัง +4 , ร่างกาย +4 , ค่าพลังชีวิต +15 , สกิลเสริม :ผิวศิลา

ตอนนี้ได้กลายเป็นชุดเซ็ทหมาป่าหินลาวาที่มีเอฟเฟกต์ : พละกำลัง +5 , ร่างกาย +5 , ว่องไว +5 , ค่าพลังชีวิต +20 , สกลเสริม:ผิวลาวา

ความว่องไวเพิ่มมา 5 หน่วย!

พลังชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 20 หน่วย!

เอฟเฟกต์ของชุดเซ็ทสีเขียวยอดเยี่ยมมาก!

ส่วนสกิลเสริมจากชุดเซ็ท ‘ผิวลาวา’ มันคือสกิลเดียวกับที่ลูกันใช้ในการต่อสู้ เจ้าสิ่งนี้ไม่เพียงช่วยเสริมการป้องกันเท่านั้น แต่ยังสร้างดาเมจจากการเผาไหม้อย่างต่อเนื่องแก่ศัตรูในระยะประชิด

เป็นสกิลที่ดีมาก!

หลังจากฮังอวี่สวมใส่อุปกรณ์ครบเซ็ท ความว่องไวในตอนนี้เลยขยับขึ้นมา ไม่ได้ด้อยไปกว่าในตอนสวมชุดเซ็ทการ์กอยล์หิน

คนอื่นๆก็ได้รับสินสงครามที่น่าพอใจเช่นกัน

เพราะสุดท้ายแล้ว ในสงครามครั้งนี้ มีมนุษย์จิ้งจอกระดับสูงที่นำโดยลูกันถูกสังหารไปทั้งสิ้น 12 ตัว พวกมันทั้งหมดต่างดรอปของดีมากมาย นอกจากนี้มนุษย์ยังกำจัดทหารมนุษย์จิ้งจอกได้มากกว่า 600 นาย และส่วนใหญ่พวกมันดรอปชุดเซ็ทมนุษย์จิ้งจอก  แม้คุณภาพของอุปกรณ์พวกนี้จัดอยู่ในระดับปานกลาง แต่ก็มีคุณภาพสีขาว

แจกจ่ายสินสงครามเสร็จ

ประเด็นต่อมาก็คือเรื่องดินแดน

ฮังอวี่ประกาศอย่างตรงไปตรงมา “อย่างที่ทุกคนเห็น ตอนนี้ผมได้กลายเป็นขุนนางของเมืองหุบเขาเดียวดายแล้ว มีอาณาเขตปกครองเป็นของตัวเอง แต่ผมไม่มีทางลืมว่าพวกคุณก็มีส่วนช่วยเหลือเช่นกัน”

ระหว่างกล่าว

เขาเดินไปที่แผ่นศิลาแผนที่ของเมืองหุบเขาเดียวดาย

ท่ามกลางสายตาทุกคน เขาเปิดใช้งานแผนที่ดินแดนของเมืองหุบเขาเดียวดาย

“เมืองหุบเขาเดียวดายตั้งอยู่ระหว่างภูเขา มันสันโดษ ง่ายต่อการป้องกันและยากต่อการโจมตี เหมาะสำหรับการพัฒนาที่ยังเชื่องช้าของพวกเราในตอนนี้ ดังนั้นผมหวังว่าทุกคนจะยังรั้งอยู่ในเมืองหุบเขาเดียวดาย และค่อยๆพัฒนาไปด้วยกันอย่างสบายใจ”

“ภายในอาณาเขตของเมืองหุบเขาเดียวดาย มีหลายหุบเขาที่เป็นพื้นที่ล่าสัตว์ แต่ละหุบเขาประกอบไปด้วยมอนสเตอร์หลายประเภท รวมไปถึงถ้ำลับ ซึ่งข้างในน่าจะมีระดับเจ้าถิ่นอย่างน้อยหนึ่งตัว และเลเวลของมอนสเตอร์จะอยู่ที่ 8 - 13”

“มีถ้ำเหมืองแร่อยู่สามแห่งทางด้านตะวันออกของเมืองหุบเขาเดียวดาย พวกคุณสามารถรวบรวมทรัพยากรแร่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแร่เหล็กเย็น แร่ทองแดงไฟ ฯลฯ และทุ่งทางตะวันตกจะมีพืชวิญญาณเกิดขึ้นเป็นประจำ สุดท้ายหลังตัวเมืองมีสวนพืชวิญญาณคุณภาพสูงกว่า 12 แห่ง พวกคุณสามารถปลูกพืชวิญญาณทุกชนิดได้ที่นั่น”

“...”

“ผมยินดีที่จะมอบทรัพยากรในดินแดนครึ่งหนึ่ง แบ่งปันให้แก่พี่น้องที่อาศัยอยู่ในเมืองหุบเขาเดียวดาย!”

ฮังอวี่ตัดสินใจยกพื้นที่ล่า เหมือง ทุ่งการผลิต สวนพืชวิญญาณ และแม้แต่สิทธิ์ในการสร้างทหารให้แก่บุคคลอื่นนอกจากทีมของเขาเป็นการชั่วคราว เพื่อให้คนส่วนใหญ่ยินดีรั้งอยู่ในเมืองหุบเขาเดียวดาย

เหตุผลก็ง่ายๆ

เมืองหุบเขาเดียวดายขณะนี้ยังคงอ่อนแอ

บรรดาขุนนางที่อยู่ใกล้เคียง ไม่นานคงทราบข่าวการยึดครองของมนุษย์ และไม่ช้าก็จะถูกส่งต่อไปถึงหูของขุนนางใหญ่ที่ปกครองพื้นที่นี้

ยิ่งมีคนอยู่ในเมืองเยอะเท่าไหร่

พลังรบของเมืองหุบเขาเดียวดายก็จะยิ่งแก่กล้าขึ้นเท่านั้น

ความเร็วในการพัฒนาก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น!