ตอนที่แล้วDual Cultivation บทที่ 979 เพิกเฉยต่อความพยายาม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDual Cultivation บทที่ 981 ผู้ร้ายตัวจริง

(ฟรีตามปกติ) Dual Cultivation บทที่ 980 ทำไมเขาถึงล้มเหลวในการเป็นนักวิชาการ


หลังจากใช้เวลาสองสามนาทีในการเทของเหลวติดไฟได้ไปทั่วร้านนวดของซูหยางแล้ว กลุ่มบุคคลเหล่านั้นก็ก้าวถอยหลังเตรียมจะเผาทั้งอาคาร

ในขณะเดียวกัน ผู้พบเห็นก็ทำได้เพียงรวมตัวกันข้างนอกและเฝ้าดูอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ สำหรับบรรดาเจ้าของร้านบนถนนสายนั้น พวกเขาล้วนมีความสุขและแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นไฟ

“เรามากำจัดสถานที่แห่งนี้และออกไปจากที่นี่กันเถอะ” อันธพาลคนหนึ่งกล่าว

"ใช่" อีกคนหยิบไม้ขีดออกมาและเตรียมจุดไฟ

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขาจุดไม้ขีด เขาก็พลันรู้สึกได้ถึงตัวตนที่น่าหวาดกลัวปรากฏขึ้นข้างหลังเขา ทำให้เขาหันกลับไปด้วยหน้าผากที่มีเหงื่อไหลโดยไม่รู้ตัว

“เอ๋” อันธพาลเลิกคิ้วเมื่อไม่เห็นมีใครยืนอยู่ข้างหลังเขา ยกเว้นผู้ชมที่อยู่ห่างไกล

'หรือว่าข้ากำลังจินตนาการไป' เขาแอบสงสัยในใจ

“ด-ดูนั่นสิ นั่นคือเซี่ยวหยาง”

ใครบางคนที่นั่นพลันตะโกนออกมาดังๆ ทำให้ทุกคนหันมามอง และที่น่าแปลกใจคือ ชายหนุ่มธรรมดาสวมชุดคลุมสีขาวเรียบๆ ซึ่งมองเห็นได้ว่ากำลังตรงเข้าไปใกล้ตำแหน่งของพวกเขาด้วยใบหน้าที่สงบ

อันที่จริง แม้กระทั่งการก้าวของเขาก็ยังผ่อนคลายและมั่นคงอย่างผิดปกติ ซึ่งทำให้ผู้ชมงุนงงอย่างมาก

ใครกันจะเยือกเย็นได้ขนาดนี้เมื่อพวกเขากำลังจะเห็นธุรกิจของตัวเองลุกเป็นไฟ เขาทำตัวเหมือนกับว่าธุรกิจที่กำลังจะถูกเผาไม่ใช่ของเขาด้วยซ้ำไป เขาเป็นเจ้าของร้านแบบไหนกัน

“ห-หยุดอยู่ตรงนั้นถ้าเจ้าไม่ต้องการให้ข้าเผาอาคาร” อันธพาลที่ถือไม้ขีดพูดกับเขาอย่างรวดเร็วด้วยน้ำเสียงขู่เข็ญ กระทั่งแสดงให้เขาเห็นไฟดวงเล็กๆ ที่ปลายไม้ขีด

ซูหยางหยุดห่างจากพวกเขาเพียงสองสามเมตรแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า “ข้าไม่รู้จักพวกเจ้าเลย ทำไมพวกเจ้าถึงทำแบบนี้”

“เราทำเช่นนี้แน่นอนว่าเพราะเจ้าได้ทำให้ใครสักคนขุ่นเคือง” หนึ่งในพวกเขาหัวเราะ

ซูหยางเลิกคิ้วและพูดว่า “ทำไมเจ้าไม่บอกข้าว่าคนที่บอกเจ้าให้ทำเช่นนี้เป็นใคร เพื่อที่ข้าจะแก้ไขข้อผิดพลาดได้ เรายังต่อรองกันได้”

ซูหยางรู้ว่าพวกอันธพาลเหล่านี้ได้รับการว่าจ้างให้ทำลายร้านของเขาโดยไม่ต้องถาม

พวกอันธพาลแปลกใจมากที่ซูหยางรู้ว่าพวกเขาถูกว่าจ้าง และพวกเขาก็สงสัยว่าเขารู้ได้อย่างไร

'บางทีเขาอาจจะแค่เดา'

“ฮึ่ม ใครบอกว่าเราถูกจ้างมา” หนึ่งในพวกเขาพลันกล่าวขึ้น

“โอ เช่นนั้นเจ้ากำลังทำสิ่งเหล่านี้ด้วยความต้องการของตัวเองงั้นสินะ บอกข้าที ข้าทำอะไรให้เจ้าขุ่นเคือง”

“ข้าปฏิเสธ” หนึ่งในพวกนั้นตอบอย่างรวดเร็ว

“อย่างงั้นรึ… ถ้าเช่นนั้นให้ข้าเดา…”

ซูหยางทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะพูด “พวกเจ้าอิจฉาที่ข้าให้บริการแต่ผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชายใช่หรือไม่ โชคร้าย ไม่มีอะไรที่ข้าสามารถทำได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ หากเจ้าไม่พอใจกับผลลัพธ์นี้ เจ้าเผาตึกต่อไปได้เลย”

“จ-เจ้าบ้า ใครจะอิจฉากัน”

“ใครบอกว่าเราต้องการนวดบ้าบอนี้จากเจ้า ข้ายอมตายดีกว่าปล่อยให้เจ้าแตะต้องตัวข้า”

พวกอันธพาลปฏิเสธข้ออ้างที่ว่าพวกเขากำลังทำลายทรัพย์สินของเขาด้วยความอิจฉาริษยา…

“ข้าเดาว่าเราคิดเหมือนกัน เพราะข้าก็ยอมตายดีกว่าที่จะนวดตัวให้กับผู้ชาย” ซูหยางพูด กระทั่งทำตัวสั่นในขณะที่เขาพูดประโยคนั้น

จากนั้นเขาก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ในเมื่อเนื่องจากเจ้าจะไม่บอกข้าว่าทำไมเจ้าถึงทำลายร้านข้า ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะทำให้พวกเจ้าทั้งหมดมีชีวิตอยู่อีกต่อไป”

“อะ—”

พวกอันธพาลตกตะลึงกับคำพูดของเขา แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ตอบสนอง ซูหยางก็หยิบกระบี่ธรรมดาขึ้นมาจากความว่างเปล่าแล้วก็เหวี่ยงมัน สังหารอันธพาลคนหนึ่งก่อนที่พวกเขาจะทันได้รู้ตัว

ส่วนที่ว่าเขาตัดสินใจฆ่าใครก่อนนั้น ย่อมเป็นอันธพาลที่ถือไม้ขีดไฟ และเขาก็ได้ดับไฟจากไม้ขีดควบคู่ไปกับชีวิตของชายผู้นั้น

อันธพาลคนอื่นๆ ยังไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งหัวของเพื่อนของพวกเขาตกลงบนพื้น และทำให้เกิดเสียงแปลกๆ

“อ-ไอ้สารเลว”

อีกสี่คนรีบนำอาวุธออกมาทันทีเมื่อพวกเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ในเมื่อซูหยางได้ฆ่าอีกคนไปอย่างง่ายดายด้วยการเหวี่ยงกระบี่ของเขา

พวกอันธพาลทั้งหมดล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ แต่พวกเขาอยู่ในระดับแรกของเขตราชันวิญญาณเท่านั้น

พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อกรกับซูหยางถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมดของเขาก็ตาม

และก่อนที่พวกเขาจะทันได้รู้ตัว ซูหยางก็ได้ลดจำนวนของพวกเขาลงกว่าครึ่ง

อย่างไรก็ตาม ซูหยางหยุดฆ่าพวกเขาเมื่อเหลือเพียงแค่สองคน และเขามองดูพวกเขาด้วยสีหน้าเยือกเย็น “คนแรกที่บอกข้าเกี่ยวกับผู้จ้างจะรอดชีวิต”

“พ-พล่าม เจ้าคงจะฆ่าพวกเราหลังจากนี้” หนึ่งในพวกนั้นกล่าว

ซูหยางส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ข้าเป็นนักวิชาการ ข้าจะไม่ทำสิ่งที่น่าอับอายเช่นการกลับคำพูดของตัวเอง”

ได้ยินคำพูดของเขา หนึ่งในพวกนั้นก็พูดอย่างรวดเร็ว “ข-ข้าจะบอกเจ้า ข้าจะบอกเจ้าทุกอย่าง ได้โปรด แค่ปล่อยข้า”

อันธพาลอีกคนหันมามองเพื่อนที่อยู่ด้วยกันมาหลายปีด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ

“ก-กล้าดีอย่างไรเจ้าคนทรยศ—”

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่อันธพาลคนนั้นจะทันได้พูดจบประโยค ซูหยางก็สะบัดข้อมืออย่างไม่ตั้งใจ ฆ่าอันธพาลนั้นในทันที

ฝูงชนตกใจกับการเข่นฆ่าอย่างโหดเหี้ยมของซูหยางในที่สาธารณะ

แม้ว่าพวกอันธพาลจะทำผิดสำหรับการกระทำของพวกเขา แต่เขาต้องเข่นฆ่าพวกเขาในลักษณะนี้จริงๆ ดัวยงั้นหรือ และทำที่ด้านนอกอาคารที่เขาประกอบธุรกิจอีกด้วย

พวกเขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงล้มเหลวในการเป็นนักวิชาการ บางทีเหตุผลที่เขาล้มเหลวอาจไม่ใช่เพราะเขาขาดความรู้ แต่เป็นเพราะบุคลิกที่ไม่เหมาะสมของเขา

ผู้คนที่นั่นรู้สึกเหมือนว่าพวกเขาเข้าใจซูหยางมากขึ้นหลังจากที่ได้เห็นการกระทำของเขาในวันนี้ และพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะดูถูกเขาอีกต่อไป

หลังจากฆ่าอันธพาลแล้ว ซูหยางก็เก็บกระบี่กลับเข้าไปในแหวนมิติของเขาก่อนจะหันไปมองยังอันธพาลคนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่

“ถ้าเจ้ายังไม่เริ่มพูด ข้าจะพิจารณาถึงการปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่อีกครั้ง” เขาพูด

“ด-ได้เดี๋ยวนี้” อันธพาลรีบพูด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด