ตอนที่แล้วตอนที่ 57 แผงข้อมูลจักรพรรดิน้ำแข็ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 59 หน้าผาหินแช่แข็ง

ตอนที่ 58 ทีมชั่วคราว2,000คน


จากนั้นไม่นาน

เมื่อร่างกายของหลิงอี้ปรับตัวเข้ากับพลังได้ เขาก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

ก่อนหน้านี้เขาไม่สามารถควบคุมแรงหนักเบาได้ แต่ตอนนี้เขาควบคุมแรงได้อย่างง่ายดาย

ความรู้สึกต่างกันโดยสิ้นเชิง!

“เอาล่ะ ในเมื่อปรับตัวเข้ากับความแข็งแกร่งได้แล้ว งั้นลองคัดลอกคุณสมบัติอื่นดูบ้าง”

ต่อจากนั้นเขาก็คัดลอกพลังเวท ความว่องไว ความทนทาน และร่างกาย

เขาทำแบบนี้เพื่อดูว่าต้องปรับตัวเหมือนตอนคัดลอกคุณสมบัติความแข็งแกร่งหรือเปล่า

ถ้าเขาต้องคัดลอกคุณสมบัติในสถานการณ์ฉุกเฉิน มันได้ไม่เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น

โชคดีที่คุณสมบัติที่เหลือไม่จำเป็นต้องปรับตัว หลังจากคัดลอกคุณสมบัติแล้วเขาสามารถใช้มันได้อย่างอิสระ

“ถ้าคัดลอกคุณสมบัติได้ฉันก็วางใจแล้ว ฉันจะคัดลอกคุณสมบัติทุกอย่างจากจักรพรรดิน้ำแข็ง”

หลิงอี้ละสายตาจากจักรพรรดิน้ำแข็ง เขาแสดงสีหน้าแปลกๆออกมาเมื่อมองพื้นน้ำแข็งใต้เท้าที่ถูกเขาทำลาย

เขาไม่ได้คิดอะไรมากตอนชก

แค่รู้สึกว่ามีพลังมหาศาลในร่างกายจึงปล่อยมันออกมา

เมื่อคิดกลับไปเขาก็เริ่มรู้สึกกลัว

ถ้าไม่มีพลังของสมบัติและคุณสมบัติร่างกายมีแค่เลขหลักเดียว หลังจากปล่อยหมัดออกไปแขนของเขาคงกลายเป็นแอ่งเลือด

มันยากที่จะบอกว่าทำลายน้ำแข็งได้!

——ต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะใช้แรงสุดกำลังได้โดยไม่ทำร้ายร่างกาย

ยิ่งใช้มือและเท้าหรือส่วนต่างๆมากเท่าไหร่ ร่างกายก็จะยิ่งสูงขึ้น

[คุณฆ่าผีเสื้อไฟ(เลเวล17), ค่าประสบการณ์ +1]

[คุณฆ่าผีเสื้อไฟ(เลเวล20), ค่าประสบการณ์ +4]

[…]

สติของเขากลับมาหลังจากข้อมูลการฆ่าปรากฏขึ้น

งานของเขาในวันนี้คือไปที่หน้าผาหินโกลาหลเพื่อฟาร์มมอนสเตอร์จนถึงเลเวล20 เพื่อให้ฟาร์มได้เร็วขึ้นเขาจึงคัดลอกคุณสมบัติของจักรพรรดิน้ำแข็ง

“ไปกันเถอะ! ไปที่หน้าผาหินโกลาหล!”

เขาเรียกให้จักรพรรดิน้ำแข็งตามมา จากนั้นทั้งสองก็มุ่งหน้าไปทางตะวันตกด้วยกัน

......

พระอาทิตย์ส่องแสงบนทุ่งหญ้าในสวนผลไม้คริมสัน

ตอนนี้มีผู้เล่นประมาณ2,000คนมารวมตัวกันที่นี่

คนเหล่านี้มาเพื่อ‘ค้นหาผู้เล่นใหม่ลึกลับ’ พวกเขาได้ยินว่ามีคนเห็นดาวตกขนาดใหญ่บนท้องฟ้าด้านตะวันตกของแผ่นดินแผดเผา พวกเขาจึงมารวมตัวและหารือกันที่นี่

“ทางทิศตะวันตกของแผ่นดินแผดเผา? เขาคงไม่ได้ไปหน้าผาหินโกลาหลใช่ไหม!?”

“ที่นั่นมีแต่มอนสเตอร์เลเวล20ขึ้นไปทั้งนั้น แล้วแบบนี้พวกเราจะไม่ตายกันเหรอ?”

“อย่าพูดว่าเรื่องหน้าผาหินโกลาหลเลย แค่แผ่นดินแผดเผาเราก็ผ่านไปไม่ได้แล้ว”

“…”

ผู้เล่นกลุ่มนี้กำลังพูดคุยกันในขณะที่สู้กับผลไม้คริมสันที่อยู่รอบๆ พวกเขาเดินหน้าไปอย่างมีระเบียบ

วันนี้เป็นวันที่สี่ของเดือนเสินลู่เปิดให้เข้า ผู้เล่นส่วนใหญ่จึงมาถึงเลเวล3กันแล้ว ถ้าเร็วกว่านี้ก็ไปถึงเลเวล4และเลเวล5!

เมื่อผู้คนขำนวนมากรวมตัวกัน มันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะผ่านสวนผลไม้คริมสัน

คนที่เดินนำหน้าเป็นผู้เล่นมีชื่อเสียงของเขต66ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้เล่นข่ายเจ๋อที่มาจากไป๋อิง

วันแรกที่เข้าเสินลู่ ผู้คนจำนวนมากรีบไปจุดที่หีบสมบัติมีโอกาสปรากฏขึ้นบนแผนที่เริ่มต้น

ด้วยการฝึกฝนมาหลายปี ข่ายเจ๋อจึงได้รีบหีบสมบัติอย่างง่ายดาย

และโชคดีที่เขาเปิดได้สกิลเกี่ยวกับชีวิตระดับหนึ่งดาว!

[แปลงร่างมอนสเตอร์หมา(1 ดาว)]: แปลงร่างเป็นมอนสเตอร์หมานรก ช่วงเวลาแปลงร่างจะลดพลังชีวิต1%ทุกนาที สามารถแปลงร่างและเปลี่ยนกลับได้ตลอดเวลา]

ด้วยสกิลนี้ข่ายเจ๋อจึงโดดเด่นในหมู่ผู้เล่นใหม่อย่างรวดเร็ว

และเมื่อสิ้นวันของเมื่อวาน เขาขึ้นเป็นเลเวล5ได้สำเร็จ!

ด้วยเลเวลและความแข็งแกร่งที่สูงกว่าคนอื่น 2,000คนที่เหลือจึงปล่อยให้เขาเดินนำหน้าโดยไม่มีข้อโต้แย้ง

“เราจะผ่านแผ่นดินแผดเผาได้ยังไง!?”

อาเอ่อร์นักธุรกิจผู้ร่ำรวยจากประเทศไป๋เซี่ยง เขาเดินอยู่ข้างข่ายเจ๋อและถามเขาด้วยหน้าตาคิ้วขมวด

อาเอ่อร์อายุประมาณสี่สิบปี อ้วนเล็กน้อย และมีทรงผมหัวล้านตรงกลาง เขาสวมแว่นตาสี่เหลี่ยม สวมเสื้อแขนสั้นสีเข้มและกางเกงขายาวหลวมสีเทา

เขาดูเหมือนคนแก่ในหมู่บ้านที่ออกมาวิ่งตอนเช้า

เขาสนใจผู้เล่นใหม่ลึกลับในเขตมากจึงใช้เงินจำนวนมากสร้างทีมสำรวจชั่วคราว

ในทีมนั้นมีห้าคนและพวกเขากำลังติดตามเขาอยู่

“เรื่องนี้...”

ข่ายเจ๋ออายุ25ปีสูง1.65เมตรซึ่งสูงกว่าช่วงหัวของอาเอ่อร์ เมื่อเขาได้ยินคำถามของอีกฝ่าย เขาก็เหลือบมองอาเอ่อร์ แล้วครุ่นคิด “มอนสเตอร์ทั้งหมดในแผ่นดินแผดเผาเลเวล10ขึ้นไป”

“พวกเรามีกัน2,000คน ถ้าพยายามฝ่าเข้าไปคงมีประมาณสิบคนที่ผ่านเข้าไปได้”

ความหมายของเขาชัดเจน

เสียสละส่วนใหญ่เพื่อให้คนส่วนน้อยได้ผ่านไป

“ถึงยังไงพวกเราทุกคนก็มีเป้าหมายเดียวกัน ถ้าพวกเราคนหนึ่งเจอขา นั่นแสดงว่าทุกคนเจอเขาเหมือนกัน”

“และตอนนี้พวกเรายังไม่ได้บทลงโทษหลังจากตาย ฉันคิดว่าเรื่องนี้สามารถทำได้”

เมื่ออาเอ่อร์ได้ยินแบบนั้นเขาจึงพยักหน้าราวกับเข้าใจ

และนี่เป็นความคิดของคนส่วนใหญ่ใน2,000คนด้วย

อย่างไรก็ตาม.

เมื่อกองทัพขนาดใหญ่เดินผ่านสวนผลไม้คริมสันจนมาถึงแผ่นดินแผดเผา คนกลุ่มใหญ่หลายพันคนก็ได้กระจายตัวกันออกไป

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ขอบคุณที่พาฉันมาที่นี่นะ ฉันไปดูก่อนล่ะว่าใครเป็นผู้เล่นลึกลับ!”

มีคนกระโดดออกมาจากฝูงชนด้วยเสียงหัวเราะป่าเถื่อนแล้วหายตัวไปภายใต้สายตาของทุกคน

เขาเป็นผู้เล่นที่มีสกิลซ่อนตัว

เขาไม่สามารถซ่อนตัวตั้งแต่สวนผลไม้คริมสันไปจนถึงหน้าผาหินโกลาหลด้วยแรงกายในตอนนี้ แต่หลังจากมาถึงแผ่นดินแผดเผาอย่างปลอดภัย เขาก็มั่นใจว่าสามารถใช้สกิลซ่อนตัวตั้งแต่แผ่นดินแผดเผาไปจนถึงหน้าผาหินโกลาหลเพื่อหาผู้เล่นลึกลับได้!

“ใครอยากเสียสละให้พวกนายล่ะ! ฉันจะนำหน้าพวกนายหนึ่งก้าว!”

มีอีกคนในกลุ่มคนตะโกนขึ้น เมื่อทุกคนได้ยินเสียงนั้น เขาก็แปลงร่างเป็นนกอินทรีตัวใหญ่และกระพือปีกบินไปบนฟ้าอย่างรวดเร็ว

จากนั้นบินไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วสูง

นอกจากสองคนนี้แล้ว ผู้เล่นคนอื่นที่โชคดีได้สกิลมาก็เริ่มแสดงสกิลเหมือนกัน

บางคนใช้สกิลเทเลพอร์ต บางคนอัญเชิญมอนสเตอร์บินได้ และบางคนใช้สกิลตรวจสอบอย่างเช่นตาทิพย์

เมื่อเห็นแบบนั้น ผู้เล่นที่เหลือจึงมองหน้ากันด้วยความซับซ้อน

เดิมทีกลุ่มนี้เป็นแค่ทีมชั่วคราวอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติที่จะจากไปตามความต้องการ แต่การทำแบบนี้มันทำให้ผู้เล่นที่เหลือดูเหมือนคนโงไปหน่อย

'คนอื่นมีสกิลค้นหาที่ดี แต่ฉันไม่มีสกิลแบบนั้น แล้วฉันตามพวกเขามาทำไม?’

หลายคนตั้งคำถามนี้กับตัวเอง ตอนนี้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนคนโง่